พิมพ์หน้านี้ - ระวังโรค มือ เท้า ปาก ระบาด ครึ่งปี 2560..ป่วย 2 หมื่น ตายแล้ว 1 ราย

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

นานาสาระ => เตือนภัย => ข้อความที่เริ่มโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 27, 2017, 08:12:04 AM



หัวข้อ: ระวังโรค มือ เท้า ปาก ระบาด ครึ่งปี 2560..ป่วย 2 หมื่น ตายแล้ว 1 ราย
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 27, 2017, 08:12:04 AM
หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง>www.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> https://www.pohchae.com     


    กรมควบคุมโรค เตือนเฝ้าระวังโรค มือ เท้า ปาก ระบาด ครึ่งปีแรกป่วยกว่า 2 หมื่น เสียชีวิตแล้ว 1 ราย แนะนำผู้ปกครองหมั่นสังเกตอาการของเด็กเล็ก หากพบมีไข้ร่วมกับแผลในปาก ให้พบแพทย์ด่วน วันที่ 26 มิถุนายน 2560 กรมควบคุมโรค ได้เผยสถานการณ์โรค มือ เท้า ปาก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ป่วย 4-7 หมื่นคนต่อปี เสียชีวิต 2-3 คนต่อปี ส่วนในปี 2560 พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-19 มิถุนายน มีผู้ป่วยแล้ว 24,005 คน เสียชีวิต 1 คน ช่วงอายุที่พบมากที่สุด คือ อายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 4 ปี คิดเป็น ร้อยละ 86.49 ส่วนพื้นที่ที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร รองลงมา คือ จังหวัดในภาคกลางตอนบน และภาคใต้ตอนบน
ด้าน น.พ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค ในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนผู้ป่วยสูงกว่าปกติ เมื่อเทียบกับข้อมูล 5 ปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกัน และคาดว่า จะพบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปากเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังคงเป็นช่วงเปิดภาคเรียนของนักเรียน ซึ่งมักพบการระบาดในช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม โดยจะเริ่มพบผู้ป่วยสูงขึ้นในช่วงเดือน มิถุนายน และพบสูงสุดในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมของทุกปี ส่วนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังโรค มือ เท้า ปาก นั้น ได้แก่ ศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานศึกษาต่าง ๆ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการอยู่รวมกัน อาจใช้ภาชนะหรือสิ่งของร่วมกัน ดังนั้น ควรมีมาตรการการดูแลและป้องกันโรค เช่น การคัดกรองเด็กทุกวัน ทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ในห้องเรียน ห้องครัว ภาชนะใส่อาหาร และแนะนำให้นักเรียนล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ก่อนรับประทานอาหารและหลังจากเข้าห้องน้ำ ผู้ปกครอง ครู ต้องหมั่นสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีไข้ร่วมกับแผลในปาก อาจมีหรือไม่มีตุ่มน้ำที่มือหรือเท้าก็ได้ เพราะในบางรายอาจมีเฉพาะไข้ ควรรีบพาพบแพทย์และให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายเป็นปกติ และไม่ควรคลุกคลีกับคนอื่น ๆ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 ภาพและข้อมูลจาก