พิมพ์หน้านี้ - รวมวิธีดูแลภายในรถให้ใหม่อยู่เสมอ

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

สารพัดช่าง-แนวทางอาชีพ => ●รถ-ยานพาหนะ => ข้อความที่เริ่มโดย: nongtop ที่ เมษายน 15, 2017, 10:01:49 AM



หัวข้อ: รวมวิธีดูแลภายในรถให้ใหม่อยู่เสมอ
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ เมษายน 15, 2017, 10:01:49 AM
หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง>www.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >>
     https://goo.gl/dT9msa


(https://www.pohchae.com/wp-content/uploads/2017/04/car2.jpg)
หลังจากออกเดินทางท่องเที่ยว ผ่านการใช้รถยนต์อย่างหนักหน่วงย่อมมีคราบสกปรกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การใช้บริการทำความสะอาดรถบางครั้งก็ทำไม่ได้ดั่งใจ แถมกลัวภายในรถเสียหาย ส่วนจะไปที่ร้านมาตรฐานสูงก็ราคาแพงหูฉี่

วันนี้เราจึงนำวิธีทำความสะอาดภายในรถ มาบอกต่อทั้งได้ใช้เวลาว่างและยังได้ความสะอาดตามใจเราด้วย


ชิ้นส่วนภายใน

พวกชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในรถที่เป็นพลาสติก ไวนิลหรือหนังเทียม ผ้าบุหลังคา กระจกของไฟ กระจกปิดแผงหน้าปัด ตลอดจะชิ้นส่วนที่มีการพ่นหรือเคลือบเอาไว้ด้วยสีดำด้าน ควรได้รับการดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ โดยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดถู และหากเป็นไปได้ควรใช้พวกผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาพลาสติก และสำหรับส่วนที่เป็นช่องเป่าลมแอร์ หากมีฝุ่นเกาะตามซอกเล็ก ๆ ซึ่งยากต่อการทำความสะอาด จะสามารถกำจัดเจ้าฝุ่นละอองเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น โดยการใช้พวกแปรงไฟฟ้าสถิตที่สามารถดูดฝุ่นละอองได้

ห้ามใช้น้ำกับบริเวณเบาะนั่งหรือส่วนที่เป็นผ้าบุหลังคาจนเปียกชุ่มควรใช้ เฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ตลอดจนห้ามใช้สารที่มีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายกับชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในรถ เช่น พวกไนโตรทินเนอร์ แอลกอฮอล์ น้ำมันเบ็นซิน หรือน้ำมันดีเซล เป็นต้น ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้กับชิ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็นการละลายสีหรือแล็กเกอร์ที่เคลือบไว้ ทำให้เกิดเป็นรอยด่าง ซีดจาง หรือหลุดลอก และอาจทำให้ชิ้นส่วนนั้น ๆ ละลาย บิดเบี้ยว เสียรูปทรงได้ หากพบว่ามีร่องรอยสกปรก ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด หรือใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดวัสดุนั้น ๆ โดยเฉพาะ อาจจะต้องลงทุนกันหน่อยแต่ก็คุ้ม

บรรดาอุปกรณ์วัสดุที่เป็นยาง นอกจากใช้น้ำในการทำความสะอาดแล้ว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายาง และพวกสเปรย์ซิลิโคนเท่านั้น ซึ่งนอกจากทำความสะอาดแล้วยังช่วยรักษายางให้คงสภาพไว้

แผงลายไม้ส่วนที่เป็นไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้จริง หรือทำจากพวกเรชิ่นก็ตาม ควรเช็ดถูทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ จากนั้นให้เช็ดแห้งด้วยผ้านุ่มอีกผืน

ผ้ายางปูพื้น หรือพรมสกปรกมาก สามารถทำความสะอาดได้ จากการใช้น้ำยาทำความสะอาดโดยไม่ต้องถอดรื้อออกมา ถึงกระนั้นถ้าการถอดยางปูพื้นหรือพรมออกมาจากรถสามารถกระทำได้ไม่ยุ่งยาก แล้ว ก็ควรรื้อออกมาทำความสะอาดนอกรถ เพื่อให้ทำความสะอาดได้ทั่วถึงมากขึ้น และควรนำผ้ายางปูพื้นออกมาสลัดฝุ่นทิ้ง และดูดฝุ่นที่พรมปูพื้นเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณฝุ่นในรถมีน้อยลง ทั้งยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของคอยล์เย็นเครื่องปรับอากาศ ไม่ให้เกิดการอุดตันเร็วนัก ยืดระยะเวลาในการล้างตู้แอร์ให้ยาวนานออกไป


เข็มขัดนิรภัย

เข็มขัดนิรภัยเมื่อผ่านการใช้งานไประยะหนึ่งย่อมเกิดการสกปรก ซึ่งเกิดจากฝุ่นหรือขี้มือของนั่นแหละ บางทีก็เกิดจากช่างที่ขับรถเราแล้วใช้มือเลอะน้ำมัน ไปจับถูกสายเข็มขัดนิรภัยพอเราคาดเข็มขัดนิรภัย ก็เลยทำให้เอเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วย ยิ่งเป็นเสื้อสีขาวหรือสีอ่อนจะเห็นร่องรอยคราบเปื้อนได้ชัดเจน เราจึงควรทำความสะอาดเข็มขัดนิรภัยกันบ้าง

สำหรับวิธีทำความสะอาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกต้อง ให้ใช้เพียงแค่น้ำสบู่อ่อนเท่านั้นเอง แล้วหลังจากทำความสะอาดก็ไม่ต้องล้างออกด้วย แค่เช็ดให้แห้งก็พอ ห้ามใช้พวกน้ำยาซักแห้งหรือพวกน้ำยาเคมีต่าง ๆ เพราะจะทำให้ใยของสายเข็มขัดนิรภัยเปื่อยยุ่ยได้ และเมื่อทำความสะอาดเรียบร้อย อย่าเพิ่งปล่อยให้รอกม้วนกลับของสายเข็ดขัดนิรภัยดึงกลับ จนกว่าจะแน่ใจว่าสายเข็มขัดนิรภัยแห้งดีแล้ว ทั้งนี้เนื่องมาจากสิ่งสกปรกบนสายเข็มขัดนิรภัย อาจแทรกเข้าไปในการทำงานของรอก และทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการทำงานของเข็มขัดนิรภัย

เบาะนั่ง

วัสดุที่ใช้หุ้มเบาะนั่งเท่าที่นิยมใช้กันแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ พวกไวนิลหรือหนังเทียม ผ้า และหนังแท้ ซึ่งการใช้งานนั้นอาจจะใช้วัสดุประเภทเดียวกันทั้งคัน หรือบางทีก็ใช้ผสมปะปนกันไป เช่น ตัวเบาะแผ่นกลางเป็นผ้า แต่ขอบและหลังเบาะเป็นไวนิล หรือรถบางคันใช้แผ่นหน้าเบาะเป็นหนังแท้ ส่วนด้านข้างและด้านหลังเบาะใช้ไวนิล เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง แต่ก็อย่าดูถูกว่าไวนิลเป็นผลิตภัณฑ์เกรดต่ำพวกไวนิลดี ๆ ประเภทของนอก หรืออย่างเช่น พวก Fabrics ที่มีคุณภาพสูง ราคายังแพงกว่าหนังแท้เกรดต่ำ ๆ ซะอีก

พวกวัสดุต่าง ๆ ที่ใช้หุ้มเบาะนั่งนั้น โดยทั่วไปจะมีคุณลักษณะเฉพาะตัว วิธีการใช้และดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพดี มีอายุการใช้งานยืนยาว ไม่เกิดการชำรุดเสียหายก่อนเวลาอันสมควร จึงควรทำความเข้าใจกันเป็นพิเศษ


    
     เบาะไวนิลหรือหนังเทียม
ระยะหลังนี้พวกไวนิลหรือหนังเทียมล้วน ๆ หาดูได้ค่อนข้างยากในรถเก๋ง เพราะถือว่าเป็นเบาะเกรดต่ำราคาถูก มักมีใช้อยู่ในพวกรถกระบะมากกว่า หรือถ้าอยู่ในรถเก๋งก็จะอยู่ในฐานะตัวประกอบยอดเยี่ยม เช่นใช้อยู่ในส่วนหลังเบาะและด้านข้าง ส่วนแผ่นกลางด้านหน้าจะเป็นผ้าหรือหนังแท้ แต่รถที่ขึ้นชื่อว่าหรูหรา มีรสนิยม และราคาแพง เป็นรถสำหรับคนมีกะตังค์ บางรุ่นเค้าก็ยังใช้ไวนิลหรือหนังเทียมอยู่เลย

การดูแลรักษาพวกเบาะไวนิลนั้นไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่ เนื่องจากทนทาน สกปรกยาก และทำความสะอาดง่าย ถึงกระนั้นก็ต้องดูกันบ้างเหมือนกัน โดยการดูดฝุ่นเป็นประจำ เพื่อดูดเอาฝุ่นผงและเม็ดทรายที่ติดค้างอยู่บนเบาะนั่งออกไป เนื่องจากเจ้าฝุ่นผงและเม็ดกรวดทราย จะเป็นอันตรายต่อผิวของเบาะ และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผ้าเบาะหรือเส้นด้ายที่เย็บตะเข็บเบาะขาดได้

โดยทั่วไปการทำความสะอาดเบาะไวนิลนั้น เพียงผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ ก็สามารถทำความสะอาดได้แล้ว และถ้าจะให้ดีตามด้วยการดูดฝุ่นเอาเศษผงเศษทรายที่ตกค้างตามร่องและรอยพับ ออกด้วย แบบนี้ก็ทำให้เบาะไวนิลสะอาดและทนทานไม่ชำรุดเสียหาย แต่เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะเกิดคราบสกปรกเกาะที่ผิวของเบาะ คราวนี้ลำพังผ้าชุบน้ำคงจะไม่สามารถกำจัดออกไปได้ หากพบว่าผิวเบาะหมองคล้ำดูสกปรกไม่สดใส ให้ใช้พวกน้ำยาทำความสะอาดพลาสติกเช็ดถู ก็สามารถเพิ่มความสดใสดูเหมือนของใหม่ได้


     เบาะผ้า
พวกรถที่หุ้มเบาะด้วยผ้ามักเจอะเจอร่องรอยของการกดทับบนผ้าบุที่นั่ง ซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้ที่นั่งนั้นเป็นประจำทุกวันลักษณะแบบนี้เราสามารถ รักษาให้กลับสู่สภาพเดิมได้ไม่ยากนัก โดยการแปรงสวนทางด้วยแปรงที่ขึ้นหมาด ๆ

พยายามหาเวลาปัดขุยผ้าออกจากเบาะผ้า และขจัดเส้นใยที่ขาด หรือเศษผ้า เป็นประจำ โดยการใช้แปรงหรือลูกกลิ้งสำหรับทำความสะอาด ส่วนพวกถุงมือทำความสะอาด เหมาะที่จะใช้กับขุยที่ติดแน่น และควรทำความสะอาดรอยต่างตลอดจนคราบสกปรกที่เป็นบริเวณกว้างทันที หรืออย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากมีรายการเลอะเทอะเปรอะเปื้อนขึ้นมา โดยการใช้น้ำอุ่นและน้ำยาทำความสะอาดภายในรถ อันเป็นพวกน้ำยาขจัดรอยเปื้อน หรือน้ำมันสำหรับทำความสะอาด หลังจากนั้นควรแปรงผ้าอีกครั้ง เพื่อรักษาสภาพเดิมของเบาะเอาไว้


เบาะหนัง

เบาะนั่งที่หุ้มด้วยหนังต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างดีและถูกต้อง มิฉะนั้นอาจเกิดการแตกปริ แห้งแข็ง หรือมีเชื้อราเกิดขึ้น ถ้าดูกันอย่างผิวเผินอาจคิดว่าเบาะหนังนั้นดูแลรักษาง่าย เพราะไม่อมฝุ่นและไม่ค่อยเปรอะเปื้อนสกปรก ทำให้เจ้าของรถไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่กันมากเท่าที่ควร แต่ความเป็นจริงนั้นเนื่องจากเบาะหนังเป็นวัสดุธรรมชาติการเสียหายและ เปลี่ยนสภาพจึงเกิดขึ้นง่ายกว่าพวกวัสดุสังเคราะห์ และเพื่อให้ได้ผลดีในการดูแลรักษาทำความสะอาด จึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์พิเศษที่ใช้กับหนังโดยเฉพาะ

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเบาะหนังอย่างสม่ำเสมอนั้น ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญมาก เนื่องจากฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่ติดมาจากถนนและจากผู้โดยสาร จะสะสมตัวอยู่ตามซอก รอยพับ รอยย่น ตะเข็บ ตลอดจนเส้นใย ซึ่งมันจะไปกัดผิวหน้าของหนังให้แตกยุ่ยก่อนเวลาอันสมควร โดยเฉพาะเศษกรวดหรือเม็ดทรายที่ติดตัวผู้โดยสารมาหลังจากไปเที่ยวชายทะเล ดังนั้นเมื่อกลับจากการท่องเที่ยวให้รีบทำความสะอาดรถโดยเร็วที่สุด

ในช่วงของการใช้งานตามปกติ อยากแนะนำให้เช็ดฝุ่นออกจากหนังเป็นประจำด้วยผ้า แม้เวลามองด้วยตาจะเห็นว่ามันสะอาดดีแล้วก็ตาม หรือหากใช้เครื่องดูดฝุ่นก็ยิ่งเป็นการดียิ่งขึ้น เพราะมันจะได้ดูดเอาเศษผงและฝุ่นละอองที่ซุกตัวอยู่ตามซอกมุมออกมาได้ เกลี้ยงเกลามากขึ้น สำหรับในการทำความสะอาด ถ้าเป็นไปได้ควรใช้โฟมสำหรับทำความสะอาดหนัง ซึ่งมีจำหน่ายตามมุมรถยนต์ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ทั่วไป

หากพบว่าเกิดมีพวกของเหลวใดๆหก รดเบาะอย่าทำเฉย ให้รีบเช็ดออกทันที นอกจากนี้ถ้าเป็นไปได้ควรเต็มน้ำยาขจัดคราบสกปรกในบริเวณที่เปรอะเปื้อน หรือเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำมัน และถ้าหากว่ามีความจำเป็นต้องจอดรถตากแดดแรง ๆ เป็นเวลานาน ๆ ควรหาอะไรมาคลุมเบาะที่นั่งเอาไว้ หรือมีแผ่นบังกระจก เพื่อไม่ให้แสงแดดส่องถูกเบาะที่นั่งอย่างเต็มที่ ป้องกันไม่ให้สีเบาะซีดจางหรือกรอบแห้ง

ผิวของแผ่นหนังนั้นจะมีรูเล็ก ๆ ที่ตาเปล่ามองไม่เห็น แต่พวกสิ่งสกปรก น้ำ และน้ำมันสามารถแทรกซึมผ่านรวมทั้งฝังตัวเกาะแน่นได้ หากเป็นสิ่งสกปรกบางอย่างอาจก่อให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ในภายหน้า หากมีการปล่อยทิ้งไว้ให้หมักหมมอยู่นาน ๆ และการกำจัดกลิ่นนี้ก็ทำได้ยากซะด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อนล่วงหน้า จึงควรใช้พวกผลิตภัณฑ์รักษาหนังหนัง หรือพวกสารเคลือบหนังป้องกันน้ำ โดยเฉพาะบางชนิดสามารถป้องกันการเกิดประจุไฟฟ้าสถิตได้ด้วยยิ่งดีใหญ่ แบบนี้จะสามารถช่วยลดปริมาณฝุ่นเกาะให้น้อยลง อย่างไรก็ตามพวกสารทำความสะอาดต่าง ๆ เหล่านี้ อาจมีส่วนผสมของสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งบางคนอาจจะเกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามข้อควรระวังและคำเตือนที่อยู่ข้างกล่องหรือภาชนะ บรรจุ สำหรับรถที่ใช้งานกันตามปกติ การดูแลรักษาเบาะหนังโดยการเคลือบควรกระทำทุก ๆ 6 เดือน หรือหลังจากการทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดหนัง เมื่อเบาะเกิดการเปรอะเปื้อนสิ่งสกปรก