พิมพ์หน้านี้ - 10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานซะบ้าง

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

นานาสาระ => บ้าน,ครอบครัว,อาหาร => ข้อความที่เริ่มโดย: Nattawut-LSV Team ที่ ตุลาคม 11, 2010, 07:01:25 AM



หัวข้อ: 10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานซะบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Nattawut-LSV Team ที่ ตุลาคม 11, 2010, 07:01:25 AM
ข้อมูลดีๆที่นำมาฝาก เพื่อให้ทุกคนตระหนักนะไม่ใช่ตระหนก อิอิ  lv!
แค่ลดปริมาณก็พอไม่ถึงกับต้องเลิกกินหรอกนะ

 (http://board.postjung.com/data/508/508312-topic-ix-0.jpg)

1. แฮมเบอร์เกอร์ จัดเป็นอาหารประเภทที่  “มีความเสี่ยงสูง” เพราะเวลาที่สูญเสียไปในระหว่างรอกระบวนการนำ “เนื้อ” มาใช้ปรุง  ทำให้มี “แบททีเรีย” เกิดขึ้นได้สูง  ทำให้จำเป็นต้องมีการใช้  “สารเคมีสีแดง”  มาช่วยกำจัดเนื้อที่กำลังจะเน่าเสียทำให้เนื้อแดงเปลี่ยนเป็นเขียว

นอกจากนี้แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่ “สารปรุงรส” (MSG=Monosodium  Glutamate ) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้  โดย “MSG” เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้นด้วย

 
(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:JiW4ueQrAV166M:%3Ca%20href=)

2. ฮอทด็อก เป็นอีก “เมนูอันตราย” เพราะมีกระบวนการผลิตคล้ายแฮมเบอร์เกอร์  และ  “ฮอทด็อก” ทั้งหมดยังใส่ “สารไนไตรท์” เพื่อช่วยให้เนื้อยึดตัวและช่วยเติมไส้กรอกให้เต็มโดย “สารไนไตรท์”  เป็นสารที่ทำให้เกิด “โรคมะเร็ง” ในกระเพราะอาหาร  มะเร็งในเม็ดเลือดเนื้องอกในสมอง  และมะเร็งในกระเพราะปัสสาวะนอกจากนี้ “ถุงหลอด” ที่ใช้บรรจุฮอทด็อกก็ทำจาก “คอลลาเจนสังเคราะห์” ที่เป็นสารก่อให้เกิด “โรคมะเร็ง” ได้สูง  มีไขมันที่เป็นสารประกอบไม่เปิดเผยอยู่ประมาณ 40% เมื่อนำไปปิ้งย่างมันจะทำให้มี “สารพิษร้ายแรง”  ที่เรียกว่า “อะคริลิไมค์” (Acrylimides) ออกมาซึ่งรู้จักดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง
(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSURuIOlOCpLWBEB55JnRDow6aMU_6rbL8YQrsIrDS18sxpwgM&t=1&usg=__vhOgdMIYfXF13Eldl_mzelRdosE=)

3. เฟร้นช์ฟราย – มันฝรั่งทอด เป็นอาหารที่มี “ความเป็นพิษสูง” โดยการทอด “เฟร้นช์ฟราย” ใช้อุณหภูมิสูงทำให้มี “สารอะคริลิไมด์” ออกมา  นอกจากนี้ “น้ำมัน” ที่ใช้ทอดมันฝรั่งแต่ละครั้งจะเกิดการ “ออกซิไดซ์” ในมันฝรั่งยังมี “ดรรชนีกลีซิมิค” (Glycemic) อยู่สูงมาก..นั่นหมายถึงมันเปลี่ยนให้กลายเป็นน้ำตาลภายในร่างกายได้เร็วมาก

 
(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTrNQK0M-0bbJkehdj7zuPzaekLYXBTK34WlAjQSdlTMtS_fLw&t=1&usg=__FuWZ5SKLA_YmRe-_tpXFF9Ilc4M=)
4. คุกกี้ ที่เด่นชัดมากคือสัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว  ซึ่งอาหารในประเภทที่มีน้ำตาลปริมาณสูงเช่นนี้  จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น

 
(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRAGbzhZ2eEeRpjG7JA3hlj8vTnKFO8CiynooD4WC9ILuEimX0&t=1&usg=__b8ja1ulKlT66thS2eWHOoVNeJpA=)


5. พิซซ่า “พิซซ่า” ประกอบด้วยอาหารที่มาจากการ “ตัดแต่งพันธุกรรม”  5 ชนิดคือ…

- เนยแท้ (Cheese) เพียง 10 % เท่านั้น  ซึ่งไม่ควรเรียกว่าเนยแท้ได้เลย..

- ที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี  ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้วแต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตาม จำนวนโมเลกุลที่เคยมีอยู่เข้าไปใหม่…

- ซอสมะเขือเทศ  ทำด้วยสารคล้ายมะเขือเทศที่สร้าง  “ยาฆ่าแมลง” ของมันขึ้นมาได้เองในร่างกายของท่าน…

- แป้งสาลี  ชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม

- มีน้ำมันฝ้าย  ประกอบอยู่  โดยฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร  มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้  ในฝ่ายเมล็ดจะเป็นตัวดูดเอาสารพิษต่างๆ  เอาไว้ได้มากที่สุด

ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ  และกระทรวงสาธาธารณสุขต่างไม่ไห้ความร่วมมือซึ่งกันและกันที่จะรับรองว่ามัน ปลอดภัยต่อการบริโภคได้หรือไม่  มันไม่ได้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น  แต่มันเป็น “น้ำมันไฮโดรจีเนต” และมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ “ผิวหน้าแป้งพิซซ่า”  ที่อบปิ้งในอุณหภูมิ  อาจมี “สารอะคริลิไมค์” เกิดขึ้นด้วยขณะที่การเพิ่มหน้าพิซซ่า “เพ็พเปอโรนิ” หรือ เพิ่มหน้าไส้กรอกทำให้มีความเสี่ยงสูงจาก “ไนไตรท์” สารกันบูดและสารเคมีอื่นๆ  รวมทั้งไขมันอิ่มตัวที่มีการเติมเข้าไปจากโรงงานอีกด้วย

 
(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcShmrVlx3luSQVtBPKRxzGsoulnnyy8LUnJIzi5LK44QT-G68U&t=1&usg=__h5XBvmgwU-GOgG2v3lc8yaa9yA0=)
 

6. น้ำอัดลม สารตัวสำคัญที่มีอยู่ใน “น้ำอัดลม”  คือ “กรดกำมะถัน” (Phosphoric acid) ซึ่งมีความเป็นกรดสูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน  กรดที่สะสมอยู่ในร่างกายทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักลดลงได้  และ “น้ำโซดา” ที่เป็นส่วนประกอบอีกตัวหนึ่งของน้ำอัดลมจะเปิดตัวซะล้างแคลเซียมออก จากกระดูก  จนทำให้เกิด “โรคกระดูกพรุน” นอกจากนี้ในน้ำอัดลม 1 กระป่องจะมี “น้ำตาลที่ไม่ให้พลังงาน” อยู่ 12 ช้อนชา  ในน้ำอัดลมที่ช่วยลดน้ำหนักตัว หรือ Dict soda ที่ใช้ “น้ำตาลเทียมสังเคราะห์” (Artificial sweetener) เพิ่มความหวานจะทำให้ร่างกายกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้นเพราะน้ำตาลสังเคราะห์ เหล่านี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมดามาก  ขนาดที่ “สี” ที่ใช้เติมในน้ำอัดลมยังเป็น “สารก่อมะเร็ง” อีกด้วย

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTNOQFYXW_kYIyjN7PJcaOSdIUPSJmjm_m4leeV4UW4WuON5Xo&t=1&usg=__-n3iy5_4MDcIkOsAbepgO8RbMNk=)


7. ชิ้นไก่ทอด – เนื้อนุ่มไร้กระดูก เป็นเมนูที่ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ใช้แล้ว  การรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไปจะให้พลังงาน  340 แคลลอรี 50% เป็นไขมัน  มีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก  ซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูงมีการเติมสารปรุงรส “MSG” ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้นอกจากนี้ “นัคเก็ตชิคเก้น” บางอันจะมี  “สารอลูมิเนียม”  ซึ่งเป็นอันตรายต่อสมองและเป็นอันตรายต่อการเผาพลาญของร่างกายด้วย
(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSVsTuGwZATKKvQoWGKDWBB5XbcN5bViaTQsg5iIy1u4YtlMTo&t=1&usg=__hzDCoG-STucgtLCNzOvJKjONN1Y=)


8. ไอศกรีม  มีไขมันสูงมากเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำบริโภคต่อวัน  มีคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน  มีน้ำตาลอยู่มากทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น  เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น  เต็มไปด้วยไขมันไฮโดรจีเนตและไขมันที่แปรเปลี่ยน  (Transfat) ไปจากธรรมชาติ  และยังช่วยเพิ่มพูนโคเลสเตอรอล  ทำให้สันเลือดแดงอุดตัน  ทำให้มีสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากขึ้น  ซึ่งทำให้เป็นสาเหตุของมะเร็ง

 

(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRha5V1Hd7wuAgAVpCoGSRnrJe9BsEonCEApqj20VtsQlkxjO0&t=1&usg=__xIAdjpOb_O_VRQbSgsuhYVOylSY=)

9. โดนัท โดยเฉลี่ยแล้วจะให้พลังงาน 300 แคลอรี่  โดยในโดนัท 1 ชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50 % ของที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน  มีเกลือโซเดียมสูงมาก  ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้  นอกจากนี้โดนัทยังทอดในน้ำมันที่มีอุณหภูมิที่สูง  ซึ่งน้ำมันประเภทนี้จะทำให้มีกลิ่นหืนและมีสารอนุมูลอิสระเกิดขึ้น  ทำให้เกิดสารพิษ  และทำให้ร่างกายเผาพลาญช้าลง  เป็นการคุกคามต่อสุขภาพได้  และยังเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น

 
(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTrCgTMt5z9gLkp2oCrtLVPWxRpWvuNnS0MrHOckwlS-u6utnw&t=1&usg=__exWxMIrmrxERhTlFs1EUvDGt4Sg=)
 

10. อาหารขบเคี้ยวยามว่าง ในปัจจุบันมีการบริโภค “โปเตโต้ซิพ”กันมาก  โดยน้ำมันที่ใช้ในการทอดโปเตโต้ซิพในแต่ละครั้งจะเกิดการออกซิไดร์ (Acrylimides) ซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายระบบประสาทออกมา  นากจากนี้การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ถุงอาจได้รับสารอะคริลิไมด์สูงมากกว่า 500 เท่า  เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราสูงสุดที่อนุญาตให้มีในน้ำดื่มทั่วไปๆได้  การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ชิ้น  อาจได้รับสารอะคริไมค์เท่ากับอัตตราที่มีอยู่ในน้ำดื่ม 1 แก้ว

 

ที่มาจาก : http://board.postjung.com


หัวข้อ: Re: 10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานซะบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: พรเทพ-LSV team♥ ที่ ตุลาคม 11, 2010, 07:33:44 AM
ดีนะไม่มีอาหารที่ผมชอบ
1.หูฉลาม
2.ปลิงทะเล
3.ไก่สับเบตง
4.ขาหมูทอดกรอบ
5.เคาหยก
6.ปลาเก๋าทอด
7.กระเพราะปลาน้ำแดง
8.กบภูเขา
9.ปลากระพงนึ่งซี่อิ่ว
10.กุ้งชุบแป้งทอด
 lsv-smile


หัวข้อ: Re: 10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานซะบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: worathep-LSV team ที่ ตุลาคม 11, 2010, 09:33:22 AM
เป็นอาหารที่เด็กๆรุ่นใหม่ชอบกินทั้งนั้น
อาหารพวกนี้มันมาจาก ไอ้กัน เอามาเผยแพร่

อาหารไทยดีๆมีแต่คนจนกับคนแก่กินกัน

น่าเศร้าจริง คนไทยเป็นคนโง่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา
ใช้จ่ายเงินเป็นว่าเล่น ไม่รู้จักประหยัด ไม่รู้อะไรคือดี
อะไรไม่ดี ตามก้นคนอื่นตลอด ทั้งๆที่ตัวเองก็มีดีเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: 10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานซะบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kittanan_2589 ที่ ตุลาคม 11, 2010, 04:43:47 PM
โหมีแต่อันที่ผมเคยกินซะด้วยคิ  คิ  คิ
แต่ก็กินไม่บ้อยหรอกครับ
ขอบคุณครับที่ให้ความรู้ว่ากินมากไปก็ไม่ดีครับ laugh2


หัวข้อ: Re: 10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานซะบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: peera-500 ♥ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 05:18:05 PM
เพิ่งมารู้ เคยกินทั้งนั้น คงต้องเลิกแล้ว  embarrassed7