พิมพ์หน้านี้ - กินพืชผักเดี่ยวนี้ระวังตายผ่อนส่ง....!!!

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

สารพัดช่าง-แนวทางอาชีพ => ●การเกษตร => ข้อความที่เริ่มโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ พฤศจิกายน 13, 2009, 10:44:41 AM



หัวข้อ: กินพืชผักเดี่ยวนี้ระวังตายผ่อนส่ง....!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ พฤศจิกายน 13, 2009, 10:44:41 AM
ชาวเกษตรหลายแห่ง ใช้ยาฟูราดาน โรยใต้ต้นไม้-พืชผัก เพื่อป้องกันปลวกและแมลง ที่อันตรายอย่างยิ่งก็คือตัวยาฟูราดานจะแทรกซึมไปตามใบ-ผล ทำให้แมลงไม่กัดกิน แต่มีฤทธิ์ตกค้างถึง2เดือน ...

(http://udomsukshop.com/img/p/31-84-home.jpg)
เมื่อ50ปีที่ผ่านมา นักเคมีได้คิดยาฆ่าแมลงชนิดดูดซึมจากรากต้นพืช
ขึ้นมาสู่ต้นใบดอกผล แล้วมีฤทธิ์อยู่ในดินนานเป็นเดือน ดูเหมือนว่า
ชื่อทิมเม็ก เขาเอาไปใช้กับไม้ดอกไม้ประดับ เท่านั้นเขามีตัวหนังสือแดง
เลยว่าห้ามใช้กับพืชที่นำมาเป็นอาหาร

ด้วยความสดวกในการใช้และฤทธิ์ที่คงทนอยู่นานจึงได้มีการนำมาใช้กับ
พืชที่ใช้กินมานานกว่า40ปีแล้ว แต่จะใช้กับนาข้าว โดยมีชื่อทางการค้าว่า
ฟูราดาน โดยทำเป็นเม็ดคล้ายทรายหยาบ มีพิษตกค้างอยู่ในดินนาน
ถึง60วัน แต่ชาวนาใช้ ฟูราดานในช่วงที่ข้าวยังเล็กและเมื่อถึงเวลา
เกี่ยวข้าวก็เกิน60วัน ฤทธิ์ยาหมดพอดี แต่หากใช้ยาล่าใส่แล้วเวลา
เหลือไม่ถึง 60วัน พิษยายังตกค้างบนต้นข้าว คนงานที่แบกข้าวเคย
ล้มลงกลางนาส่งโรงพยาบาลไม่ทันเสียชีวิตเลยก็เคยมีข่าว


ต่อมาเมื่อชาวสวนเห็นชาวนาใช้ฟูราดานได้ผลดีก็เลยใช้กับไม้ผล พืชผัก
สวนครัว แตงโมแตงกวา โดยใช้ทั้งรองก้นหลุมและโรยบนดินเมื่อมี
ปัญหา ทั้งนี้เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า ยาตัวนี้มีพิษสูง มาก และตกค้างใน
ดินนาน แต่เดี๋ยวนี้มีคนรู้กันมากแล้วว่า ฟูราดานมีพิษมากและตก
ค้างนานก็ยังใช้ยานี้อีกเพราะเขาถือว่าปลูกขายให้คนอื่นกินไม่เป็นไร
ผลออกมาคือหลายคนท้องเสียเมื่อกินแตงโมเลยไปถึงว่าเป็นโรคจู๋
วัวนมล้มเมื่อกินต้นข้าวโพดอ่อนที่ใช้ฟูราดานหยอดใส่ในฝักกันหนอน
สรุปว่า ยานี้มีอันตรายถ้าใช้ไม่เป็น และไม่เหมาะกับผู้ไม่รับผิดชอบสังคม

ฟูราดาน เป็นยาฆ่าแมลงชนิด คาร์บาเมท ชื่อสามัญ คาโบฟูราน
มีพิษตกค้างนานถึง60วัน
เป็นอันตรายต่อปลา ผึ้ง สัตว์ป่า วัวควายและมนุษย์
ทดลองให้หนูกินเพียง 8มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนู 1กิโลกรัม หนูจะตาย
เกินครึ่งเขาเรียกว่าค่า LD50=8 ถือว่ามีพิษสูงมาก ค่านี่ตัวเลขน้อยถือ
ว่ามีพิษมาก
(http://www.rd1677.com/backoffice/PicUpdate/44335.jpg)

เล่าให้ฟังแบบชาวบ้านนะ
ถ้าจะปลูกผัก เตรียมดินให้ดีต้นไม้มีสัตรูน้อย
แล้วหาต้นไม้ที่แมลงไม่กินมาบดหมักใช้เป็นยาฆ่าแมลงแทน ฟูราดาน
บางยี่ห้อ ชื่อ ฟูราแคร์ ฯลฯ

...เตือนภัยเพื่อนๆLSV...ด้วยความห่วงใยครับ
http://www.rakbankerd.com


หัวข้อ: Re: กินพืชผักเดี่ยวนี้ระวังตายผ่อนส่ง....!!!
เริ่มหัวข้อโดย: SIWA03 ที่ พฤศจิกายน 13, 2009, 10:56:17 AM
น่ากลัวๆๆ olleyes2 olleyes2
ขอบคุณครับ  wav!!


หัวข้อ: Re: กินพืชผักเดี่ยวนี้ระวังตายผ่อนส่ง....!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ พฤศจิกายน 14, 2009, 04:04:26 PM
-ปูดองที่นำมาใส่กับส้มตำ บางคนจับมาโดยวิธีโรยยาเบื่อ เคมีประเภทฟูราดานเช่นกัน  olleyes2


-ผักกินใบหลายชนิด ถ้าไม่ใส่เคมีประเภทฟูราดาน จะมีแมลงมากัดกินใบ ขายแทบไม่มีคนซื้อ ดังนั้นเกษตรกรบางคน จึงไม่มีทางเลือกหันมาใช้สารเคมีชนิดนี้  olleyes2


-วิธีหลอกขายผัก ว่าเป็นผักไร้สารพิษ ทำได้ง่ายๆ ก่อนเก็บไปขายประมาณ7วัน ใช้ทรายคั่วให้ร้อน แล้วสาดลงแปลงผัก ใบผักจะมีรูคล้ายๆแมลงกัดกิน ...  olleyes2



 ... ปลูกผักกินเอง ปลอดภัยที่สุดครับ  ping!


หัวข้อ: Re: กินพืชผักเดี่ยวนี้ระวังตายผ่อนส่ง....!!!
เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ พฤศจิกายน 14, 2009, 04:23:05 PM

อันนี้ ชัวร์ ครับ ปุ๋ยอินทรีย์

http://www.youtube.com/v/hZ6Pyz2hJh0&hl=en_US&fs=1&

 wav!!


หัวข้อ: Re: กินพืชผักเดี่ยวนี้ระวังตายผ่อนส่ง....!!!
เริ่มหัวข้อโดย: b.chaiyasith ที่ พฤศจิกายน 14, 2009, 06:58:01 PM
ตัวนี้ก็กินกันเกือบทุกวัน
ฟอร์มาลีน-ฟอร์มัลดีไฮด์” ทั้งสองตัวนี้ในทางเคมีคือสารตัวเดียวกัน เพียงแต่ว่าเมื่ออยู่ในรูปของสารละลายจะเรียกว่า “ฟอร์มาลีน” ซึ่งเป็นชื่อที่เราคุ้น ๆ กันดีก็คือน้ำยาดองศพนั่นเอง ส่วน “ฟอร์มัลดีไฮด์” มีสถานะเป็นก๊าซที่อุณหะภูมิปกติ มีกลิ่นฉุนแสบจมูก ส่วนมากที่จำหน่ายกันอยู่ทั่วไปอยู่ในรูปของสารละลายน้ำภายใต้ชื่อน้ำยาฟอร์มาลีน

โดยปกติสารละลายนี้จะไม่เสถียรเมื่อเก็บไว้นานโดยเฉพาะที่อุณหภูมิสูง จะกลายเป็นกรดฟอร์มิก จึงมีการเติมสารยับยั้งหรือที่เรียกว่าสารที่ทำหน้าที่เป็นตัวสเตบิไลเซอร์ เช่นเมทานอล 5-15 เปอร์เซ็นต์ หรือมีขายในรูปของพาราฟอร์มัลดีไฮด์ มีประโยชน์ในฐานะที่เป็นสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นอีกมากมาย ที่ใช้มากคือนำไปทำเม็ดพลาสติกชนิดต่าง ๆ ที่มีชื่อเรียกกันว่า “ยูเรีย-ฟอร์มัลดีไฮด์” หรือ “ฟีนอล-ฟอร์มัลดีไฮด์” ที่ใช้เป็นกาวสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ใช้ทำโฟมเพื่อเป็นฉนวน เป็นต้น

สำหรับในวงการแพทย์ใช้ประโยชน์มากมาย อย่างเช่นการดองศพ ใช้ในเวชภัณฑ์ เช่นยาอม ใช้ฆ่าเชื้อโรค และฟอกหนัง เป็นต้น

ไอของฟอร์มัลดีไฮด์จะระคายตา จมูก และผิวหนัง ทำให้เป็นแผลหรือถึงขั้นตาบอด ถ้าสูดดมเข้าไปมาก ๆ จะทำให้น้ำท่วมปอด จนหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก และตายในที่สุด อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นหลายชั่วโมงหลังจากได้รับสารโดยไม่มีอาการเจ็บปวดเลยก็ได้ หากได้รับปริมาณน้อยเป็นเวลานาน จะมีอาการไอและหายใจติดขัดเพราะหลอดลมอักเสบ เป็นต้น

สารเคมีมีประโยชน์ถ้าใช้อย่างถูกต้อง เมื่อทราบพิษภัยของมันแล้ว จงอย่าคิดนำฟอร์มาลีนไปล้างผักอย่างที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนกระทำกันอยู่ และเป็นข่าวอยู่เสมอ สิ่งตกค้างย่อมเป็นอันตรายได้เมื่อกินเข้าไป โดยเฉพาะฟอร์มัลดีไฮด์นี้มีข้อพิสูจน์ที่พอจะเชื่อได้ว่าเป็นสาร “ก่อมะเร็ง”
[url]http://www.chemtrack.org/News-Detail.asp?TID=1&ID=43#] (http://[/url)ฟอร์มาลีน-ฟอร์มัลดีไฮด์” ทั้งสองตัวนี้ในทางเคมีคือสารตัวเดียวกัน เพียงแต่ว่าเมื่ออยู่ในรูปของสารละลายจะเรียกว่า “ฟอร์มาลีน” ซึ่งเป็นชื่อที่เราคุ้น ๆ กันดีก็คือน้ำยาดองศพนั่นเอง ส่วน “ฟอร์มัลดีไฮด์” มีสถานะเป็นก๊าซที่อุณหะภูมิปกติ มีกลิ่นฉุนแสบจมูก ส่วนมากที่จำหน่ายกันอยู่ทั่วไปอยู่ในรูปของสารละลายน้ำภายใต้ชื่อน้ำยาฟอร์มาลีน

โดยปกติสารละลายนี้จะไม่เสถียรเมื่อเก็บไว้นานโดยเฉพาะที่อุณหภูมิสูง จะกลายเป็นกรดฟอร์มิก จึงมีการเติมสารยับยั้งหรือที่เรียกว่าสารที่ทำหน้าที่เป็นตัวสเตบิไลเซอร์ เช่นเมทานอล 5-15 เปอร์เซ็นต์ หรือมีขายในรูปของพาราฟอร์มัลดีไฮด์ มีประโยชน์ในฐานะที่เป็นสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นอีกมากมาย ที่ใช้มากคือนำไปทำเม็ดพลาสติกชนิดต่าง ๆ ที่มีชื่อเรียกกันว่า “ยูเรีย-ฟอร์มัลดีไฮด์” หรือ “ฟีนอล-ฟอร์มัลดีไฮด์” ที่ใช้เป็นกาวสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ใช้ทำโฟมเพื่อเป็นฉนวน เป็นต้น

สำหรับในวงการแพทย์ใช้ประโยชน์มากมาย อย่างเช่นการดองศพ ใช้ในเวชภัณฑ์ เช่นยาอม ใช้ฆ่าเชื้อโรค และฟอกหนัง เป็นต้น

ไอของฟอร์มัลดีไฮด์จะระคายตา จมูก และผิวหนัง ทำให้เป็นแผลหรือถึงขั้นตาบอด ถ้าสูดดมเข้าไปมาก ๆ จะทำให้น้ำท่วมปอด จนหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก และตายในที่สุด อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นหลายชั่วโมงหลังจากได้รับสารโดยไม่มีอาการเจ็บปวดเลยก็ได้ หากได้รับปริมาณน้อยเป็นเวลานาน จะมีอาการไอและหายใจติดขัดเพราะหลอดลมอักเสบ เป็นต้น

สารเคมีมีประโยชน์ถ้าใช้อย่างถูกต้อง เมื่อทราบพิษภัยของมันแล้ว จงอย่าคิดนำฟอร์มาลีนไปล้างผักอย่างที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนกระทำกันอยู่ และเป็นข่าวอยู่เสมอ สิ่งตกค้างย่อมเป็นอันตรายได้เมื่อกินเข้าไป โดยเฉพาะฟอร์มัลดีไฮด์นี้มีข้อพิสูจน์ที่พอจะเชื่อได้ว่าเป็นสาร “ก่อมะเร็ง”
http://www.chemtrack.org/News-Detail.asp?TID=1&ID=43#