LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

เคสมีไฟดูด จะเป็นอะไรไม่ครับ หรือว่าปกติของคอมทั้วๆไป

ลองสลับขั้วของ สายไฟเวลาเราเสียบเข้ากับไฟบ้านครับ

ที่ร้านผม เวลาลูกค้ายกมา ก็บ่นเหมือนกัน แต่พอมาเสียบที่ร้านผมก็ไม่เห็นมันดูดน่ะครับ ;)

อีกวิธีที่ดีกว่านะครับ โดยการติดตั้งสายดิน โดยต่อจากตัวเคสเลยนั่นแหละครับ นอกจากจะป้องกันไฟดูดแล้ว ยังทำให้

สัญญาณรบกวนต่างๆถูกกำจัดไปอีกด้วยครับ................................... :P

ช่วยยืนยันครับ   ต่อสายดินชัวร์ครับ   แต่ถ้าเป็นพื้นไม้ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องดูดครับ

ต่อสายดินดีที่สุดครับ แต่สำหรับลูกค้าบางรายไม่สะดวกที่จะต่อสายดิน เครื่องจะสะดวกเรื่องดูดคนใช้อย่างเดียวเลย วิธีทางแก้ที่ไม่ถูกต้องก็รื้อซัพพลายถอดซีออก ผมทำให้ลูกค้าบางรายแต่ต้องบอกเขาก่อนว่าจะเลือกทางไหน ระหว่างต่อสายดิน(ปลอดภัย)กับลักไก่แบบนี้แต่ผิดหลักการ

สลับขั้วแล้วย้งมีไฟอยู่ เลยใช้ปล๊ก 3 ตาที่มีสายดินตรับ :D :-*

ถ้าต่อสายดิน ยังไงก็ไม่ดูดครับ ผมคิดว่าปลั๊ก 3 ตาของคุณที่เสียบ อาจจะไม่ได้ต่อสายดินไว้ครับ
เป็นปลั๊กหลอก ๆ  :P

ว่าแต่ปลั๊ก 3 ตาที่ว่านี้ (หมายถึงเต้ารับ) ติดอยู่กับผนังบ้านเลยหรือเปล่าครับ ถ้าติดอยู่ที่ผนังบ้าน แต่เสียบแล้วยังมีไฟดูดอยู่ ผมเชื่อว่า เต้ารับนั้นไม่ได้ต่อสายดินไว้ครับ

หรือว่าท่านเอาสายไฟจากคอม เสียบเข้ากับปลั๊กพ่วงครับ ปลั๊กพ่วงของไม่ได้มาตรฐาน จะสังเกตุได้ว่า ตัวเต้ารับมี 3 รูจริง แต่ว่า ปลั๊กตัวผู้ของมัน จะมีอยู่แต่ 2 ขาครับ อย่างนี้เสียบเมื่อไรก็ดูดครับ

เพิ่มเติมอีกนิดครับ
ในกรณีที่ท่านยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องระบบสายดิน สายกราวด์ ให้ท่านจ้างช่างไฟฟ้ามาดำเนินการให้เถอะครับ จะดูไม่วุ่นวายกว่าครับ

หรือหากท่านต้องการทำเองก็ง่ายมากครับ แต่ต้องดูพื้นที่ของท่านด้วยว่าสะดวกหรือเปล่า
ให้ไปซื้อ แท่ง กราวด์รอด Ground Rod มาแท่งนึงครับ พร้อมสายไฟ VSF สีเขียว หรือสีเขียวแถบเหลือง (เพื่อให้สังเกตุง่ายตามมาตรฐานระบบกราวด์ครับ ถ้าไม่มีหรือไม่ซีเรียส ใช้สีอื่นก็ได้) ตามร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า
แท่ง Ground rod ความยาวประมาณ 1.20 เมตร ครับ
แล้วเอาแท่งนั้น ตอกลงดิน แล้วเอาสายไฟที่เตรียมมา ต่อเข้ากับแท่ง Ground Rod ที่ตอกลงดิน แล้วเอาสายไฟนั้นไปต่อเข้ากับโครงเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องครับ แล้วเก็บสายไฟให้เรียบร้อยครับ

ปล. สายไฟที่ต่อเข้าโครงเครื่อง ให้ต่อเข้าตรงส่วนที่เป็นโลหะนะครับ

ปกติเครื่องคอม ไม่ได้เอาไฟ 220V เส้นใดเส้นหนึ่งลงกราวด์โดยตรง จะมีบ้างก็หนืดๆที่เคส  ไม่ถึงกับดูดหรอกครับ  ถ้าดูดจริงก็แสดงว่า power supply ท่านมีไฟ 220V  รั่วลงกราวด์แล้วครับ ควรซ่อม power supply หรือเปลี่ยนใหม่  ผมก็ใช้คอมมาเป็น 10 ปีแล้วก็ไม่เห็นมันดูดอะไร ทั้งๆที่ไม่เคยต่อสายดินเลยครับ

เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงจึงใช้โลหะเป็นองค์ประกอบของ
ตัวโครงสร้างหลัก และมักจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เรียกกันว่า เครื่องกลไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า ฯลฯซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญคือ ขดลวดเหนี่ยวนำไฟฟ้า ซึ่งจะทำหน้าที่เหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้า หรือ แปลงพลังงานไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้งานตามหน้าที่ ในการเหนี่ยวนำไฟฟ้านั้น ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นคือ การเกิดฟองแม่เหล็กไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เมื่อฟองแม่เหล็กไฟฟ้ามีการเคลื่อนไหวไปตามการเปลี่ยนแปลงของไฟฟ้ากระแสสลับที่เราใช
้งานอยู่ภายในบ้าน ส่วนของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า จะเคลื่อนตัวผ่านสิ่งที่เป็นโลหะ ซึ่งก็คือโครงสร้างของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นนั่นเอง และ โลหะ จัดว่าเป็นตัวนำไฟฟ้า ชนิดหนึ่ง เมื่อเกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเคลื่อนผ่านตัวนำไฟฟ้า ก็จะเกิดการเหนี่ยวนำให้เกิดความต่างศักย์ทางไฟฟ้าขึ้น ดังนั้นโครงสร้างโลหะของอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้จะมีประจุไฟฟ้าอยู่ และเมื่อเราไปสัมผัสถูกโครงสร้างโลหะที่มีประจุไฟฟ้าอยู่นั้น โดยที่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสัมผัสอยู่กับพื้นส่วนมากเป็นพื้นกระเบื้องหรือแม้แต่พื้นไม้หรือ โครงสร้างอื่นใดที่มีส่วนต่อถึงพื้น แม้แต่เฟอร์นิเจอร์บางประเภทที่ตั้งอยู่กับพื้น ก็จะเกิดการต่อเชื่อมระหว่างขั้วความต่างศักย์ไฟฟ้าสองขั้วขึ้น จะเกิดการไหลของกระแสไฟฟ้าจากความต่างศักย์สูงไปสู่ที่มีความต่างศักย์ต่ำกว่า คือพื้น โดยที่ร่างกายของคนมีองค์ประกอบเป็นของเหลวเป็นส่วนใหญ่ และ ไม่ใช่น้ำบริสุทธิ์ ดังนั้นร่างกายจึงเป็นเสมือนตัวนำไฟฟ้าอย่างหนึ่ง เมื่อเกิดการไหลของกระแสไฟฟ้าผ่านร่างกายของคนเรา นั่นก็คือการถูกไฟดูด นั่นเอง เนื่องจากการเหนี่ยวนำไฟฟ้าในโครงสร้างที่เป็นโลหะมีไม่สูงมาก และ กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านมีปริมาณน้อย จึงไม่เป็นอันตรายต่อผู้ถูกไฟฟ้าดูดในกรณีนี้มากนัก แต่ก็มีความรู้สึกประมาณหนึ่ง ดังนั้นควรหาวิธีการแก้ไขและป้องกันให้ถูกวิธี
ตามที่เรียนแจ้งข้างต้นครับ

 :)

แสดงว่าของพี่เป็นของดี อิอิ  :P  :)
ว่าแต่ตอนที่พี่โดนเครื่องนี่มันครบวงจรหรือเปล่าครับ พี่ลองเอาไขควงเทสไฟ จิ้มที่โครงเครื่องดูครับ มืออีกข้างไปแปะไว้ที่ผนังปูน ดูว่าหลอดไฟที่ไขควงติดหรือเปล่า ถ้าติดแสดงว่า รั่วแล้วครับเพียงแต่ว่าประมาณมันจะมากน้อยแต่ไหน ครับ

แต่ถ้าอยากเทสว่ามันดูดหรือเปล่าก็เอามือข้างนึง ไปแตะโครงเครื่องส่วนที่เป็นโลหะไว้แล้วเอามืออีกข้างไปแตะที่ผนังปูนดูครับ  :P  :P  :P

ปล.กระเซ้าเย้าแหย่นะพี่ อย่าทำจริง  :P

เรื่องของเดสไฟดูดหรือไม่ดูด ต่างกันที่ใช้งานว่าใช้อย่างไร ที่จริงต้องมีการต่อสายดินให้กับเคส หรือตัวบอดีเครื่อง ซึ่งในต่างประเทศ เขาใช้ปลั๊กไฟ3ตา มันจะมีกราวด์ให้แล้ว ในบ้านเราไม่ค่อยมีใคร ต่อไฟบ้านแบบนั้นเพราะมันแพงมาก ไม่ว่าจะสายไฟ3เส้นที่มันแพงเกินความจริง แล้วไม่เห็นมีใครมาดูแล ปลั๊ก3ตาที่มีขายก็แพงเกินไป จึงมาอาศัย ต่อสายดินจาก ตัวเคสเครื่องใช้ไปฟ้าโดยตรง อย่างเช่น เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องคอมพิวเตอร์ ฯ บางคนที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเคสเครื่องไม่เห็นว่ามันจะดูดเลย เพราะสถานที่ใช้งานไม่เหมือนกัน ตัวคนไมถึงกราวด์ (ดิน) อย่างเช่นบ้านไม้ หรือที่ปูกระเบื้องยาง หรือพื้นปูน แต่ใส่รองเท้าแบบนี้ จะไม่รู้สึกว่าไฟดูดครับ

ผมรู้แล้วละว่าทำไมถึงดูดอยู่ เพราะว่า ปลั๊ก 3 ตาก็จรึงแต่กราวด์(สายดิน)มันหักออกจากขั้ว เวลาเล่นคอมไม่ใด้ใส่รองเท้าดัวยถึงว่าช่อง USB ยังดูด  ได้บทเรียนอีกหนึ่งบท

เอาง่ายๆนะคับ ได้ใจความปะหยัดและปลอดภัย ใส่รองเท้า หรือหาฉนวนมารองเท้าไว้เวลาจะสัมผัสกะเคส เท่านี้อะคับ

ผมเดาเอาน่ะครับ

น่าจะเกี่ยวกับการเดินสายไฟในบ้านนี่แหละ บางบ้านคนที่เดินสายก็สลับ N กับ L มั่วไปหมด ( หรืออาจจะแค่จุดใด จุดหนึ่ง) พอเราเอาคอมพิวเตอร์มาใช้งาน เสี่ยบปลั้กปุ้ป ดูดปั้บเลย

ที่ผมเดาอย่างงี้ก็เพราะว่า หากทำที่บ้านผม พื้นปูกระเบี้อง เวลาทำงานผมก็ไม่ใส่รองเท้า หรือมีอะไรรองทั้งสิ้น ผมจะจับลูบคลำ ส่วนใหน ของเคส หรือว่าภายในเคส บรรดาอุปกรณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น HDD หรือ อื่นๆ แม้แต่เวลา ไขน้อต ก็ไม่ดูดครับ

ต่างกับเวลาเอาเครื่องไปส่งลูกค้า ได้เรื่องครับ สะดุ้งสุดตัว ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ได้ดูดมากมายอะไร แต่มันก็สะดุ้ง พอสะดุ้งแล้ว มันก็อด หงุดหงิดไม่ได้สิครับ

ก็เลยเดาเอาว่า เวลาเดินสายเขาเอา N กับ L สลับกันไปมา หรือเปล่า :)

ถ้าดูดมากก็เปลี่ยน power supply และถ้าจะให้ปลอดภัยอีกก็ต่อสายดิน

ผมว่านะคับไฟที่ดูดมาจากจอมอนิเตอร์มากกว่าคับ

มันทั้ง2ส่วนนั่นแหละไม่ใช่แต่จอ  มาดูวงจรนี้คือสาเหตุที่มันทำให้เกิดไฟดูดซึ่งมีในวงจรสวิทชิ่งแทบทุกตัว

มอนิเตอร์เป็น LCD ปลั๊กเป็น 3 ตาแล้วครับหายดูดเลย

ผมมีวิธีแก้ ได้ผล 100% คือใช้สายดินสายดินของผมคือหาสายไฟมาปลอก แล้วไขน็อตที่ตัวเคสแล้วเอาสายไฟไปพันที่ตัวน็อตแล้วไขเข้ายึดให้แน่น แล้วปลายสายไฟอีทางหนึ้งพันกับตะปูแล้วไปตอกฟังที่พื้นดิน หายดูดแน่นอนเพราะว่าใช้วิธีนี้อยู่จับตัวเครื่องสบายๆ ลองทำดูแล้วกัน

น่าเห็นใจแต่ทุกอย่างมีทางออกเสมอถ้าไม่จนปัญญาเสียเอง ถ้าเป็นบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ สายดินทำเองก็ไม่ได้ยาก หรือมีโทรศัพพ์ ก็ยิ่งง่าย ส่วนที่อยู่คอนโดถ้าเขาน่าจะมีสายดินให้อย่างน้อยก็เครื่องทำน้ำอุ่น ถ้าไม่มีจริงๆเข้าอีกสายไฟภายในก็มีดินมาเส้นหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าไม่มีความรู้ให้ช่างมาต่อให้ ถ้ามันยากไม่ได้อีกปูพรมมันซะเลย ไม่ก็ใส่รองเท้าที่เป็นรองเท้าผ้าที่เขาเอาไว้ใส่ในห้องคงจะพอเคยเห็นกันบ้างมั้งครับ ลองว่ามาสิมีอะไรอีก ถ้าทำไม่ได้สักอย่างเดียวก็ยอมให้ไฟมันดูดเถอะไม่ถึงตายหรอกเพราะไฟที่รั่วมามันกระแสน้อยมาก  รึว่ามันทำอะไรไม่ได้เลยถอดเจ้าCและRตัวที่มันต่อทำกราวด์ลูปทิ้งมันซะเลยหมดเรื่อง

เวลาใช้คอมพิวเตอร์ เอามือจับเคส แล้วโดนไฟดูด ปัญหาส่วนใหญ่มันไม่ได้มาจากเพาเวอร์ซัพพลาย หรือที่ตัวเคสเองครับ

แต่มันมาจากสาย D-SUB ของมอนิเตอร์ต่างหาก

ให้ท่านลองถอดสายไฟ AC ที่เพาเวอร์ซัพพลายออก ให้เหลือแต่จอไว้ซิครับ มันก็ยังดูดอยู่เลย

เพราะฉะนั้น ต้องไปแก้ที่มอนิเตอร์ครับผม ไม่ใช่เพาซัพพลาย

ทั้ง 2 ส่วนครับ ที่เพาเวอร์ซัพพลายวงจรส่วนไฟ 300V จะมี C Couping สัญญาณรบกวนต่างๆลงกราวด์ประมาณ

2-3ตัวครับ ไอ้ 2 ตัวนี้แหละที่ทำให้ไฟรั่วมาที่เคสด้วยส่วนนึง ยังไงผมไม่แนะนำให้ถอดออก เพราะมันจะทำให้อายุการใช้งาน

Computer ของท่านสั้นลง เพราะไฟกระชากต่างๆ

ส่วนที่ท่านพูดถึงมอนิเตอร์ นั่นก็มีส่วนเช่นกัน เพราะวงจรสวิทชิ่งของมอนิเตอร์ก็หลักการเดียวกับ ซัพพลายคอม

จะมี C Couping สัญญาณรบกวนต่างๆลงกราวด์ประมาณ 2-3ตัวครับ ไอ้ 2 ตัวนี้แหละที่ทำให้ไฟรั่วมาที่เคสเช่นกัน

ดังนั้นการติดตั้งสายดิน Ground จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดไม่ใช้แก้ปัญหาโดยการถอด C ออกครับ

  :-X           เปลี่ยนเป็นเคสพลาสติกเลยครับ สวยดี  ใสแจ๋ว
 แต่......................สงสัยเคสโลหะของท่านhs3ldy คงสวยกว่าที่ผมแนะนำ ท่านhs3ldy ถึงลูบบ่อยๆจึงดูดจื๊ดๆคันๆ บ่อยๆ    :P






บังเอิญท่านhs3ldy เปลี่ยนจอเป็นLCD ไฟหายดูดซะแล้ว  จบข่าว ................... ..............
QRU73ด้วยความนับถือครับท่านhs3ldy ;D ;D ;D

ไม่เหมาะครับ สัญญาณรบกวนสูง Computer เจ๊งเร็วครับ....................................  8)
 

ตอนนี้ผมกอดจูบลูบคลำดัวยความรัก..........ก็ไม่เล่นตัวเลย    ;D :P ;D

สงสัยเค้าจะมีใจให้และ.................................... ;D ;D ;D ;D

55555ดัวยรักเธอยิ่ง :)

อย่างที่ช่างทุกท่านตอบกัน เคสมีไฟดูดเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเราไม่ได้ต่อกราวด์วิธีง่ายๆ
1.  ใช้ปากคีบต่อสายไฟ 1 เส้น  คีบกับเคสไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งพันกับตะปูตอกไว้กับปูนก็เป็นการต่อกราวด์แล้วนะครับ
2.  รองเท้าผ้าใส่ซะเวลาเหยีบกับปูนเป็นฉนวนป้องกันได้อย่างดี
3.  ใช้พรมปูพื้นบริเวณที่เราติดตั้งครื่องคอมพิวเตอร์ในเวลาที่เราเล่น comp. หรือจับเคสไฟก็ไม่ดูดแล้วละครับท่าน

ใส่รองเท้าก็ไม่ดูดแล้ว ;D ;D เคสทุกตัวมันต้องมีไฟวิ่งอยู่แล้วครับนอกจกเป็นเคสที่ทำจากพลาสติก

ช่วย ๆกันหน่อย จะครบ 35  แล้ว

ท่านข้ออื่นๆผมเห็นด้วย แต่ข้อ 1 เป็นความคิดที่ผิดอย่างร้ายแรงนะครับ เพราะปูนไม่ใช้ Ground ดินนะครับ

อย่าเข้าใจผิดครับ.......................

ขอตอบด้วยคน
ในขณะที่เราประกอบเมนบอร์ดติดกับเคสนั้น
ทางผู้ผลิตเมนบอร์ดจะให้แผ่นรองน๊อต  ส่วนมากจะเป็นแผ่นสีแดงๆ  เล็ก ๆ
เพื่อรองน๊อตที่ยึดเมนบอร์ด กับ ตัวเคสไม่ให้ต่อถึงกัน
บนเมนบอร์ดนั้นมีไฟวิ่งอยู่แล้ว (ถึงแม้จะเป็นกราวด์ก็ตาม)
นิสัยของช่างไทย  คือไม่ได้สนใจที่จะประกอบแผ่นรองน๊อตนี้เข้าไปด้วย คงเพราะกลัวเสียเวลา
ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้  กราวด์ของเมนบอร์ดต่อตรงกับเคส ทำให้มีไฟรั่วไปที่เคสที่เป็นโลหะ

วิธีแก้ปัญหาก็คือ ใส่แผ่นรองน๊อตนี้เข้าไปเท่านั้นก็จะแก้ปัญหาไฟรั่วได้แล้วครับ

ผมแนะนำให้ต่อสายดิน ถ้าเป็นพื้นปูนหรือกระเบืองยังไงก็ดูด เพราะไฟมันลงกาวด์ผ่านตัวเรา(เท้าเตะพื้น)ไม่งั้นก็เปลี่ยนพื้นไม้หรือพรหมก็ได้   เพราะ กล้องsuppy ไม่มีฉนวนหุ้มอ่ะ

เพิ่มเติมจากอันนี้อีกอิอิ
ถ้าทำตาม 3 ข้อนี้แล้ว ยังจะกลัวมันดูดอีกก็มีอีก 2 วิธีจ้า
วิธีแรก
ทำให้หมด 3 ข้อ แล้วบริเวณที่ใช้เครื่อง ให้เอาเสื่อน้ำมัน มาปูไว้ หรือ จะเอาไม้อัดมาปูก็ได้(ถ้ารวยจริง) รับรองไม่มีดูด

วิธีที่ 2
ทำให้หมด 3 ข้อ  แล้วก็นี้เลยหาเก้าอี้มาตัวนึง ยกขาขึ้น หายใจเขาลึกๆแล้วจับมัน(ตอนจับนี้ต้องทำหน้าตกใจด้วยนะคับเด๋วมันจะดูดเอาถ้าไม่ทำตาม อิอิ  ;D ) มันก็ไม่กัดเราแล้วละ  ;D

อีกวิธีนึงก็คือ กรณีที่ไม่มีสายคีบก็นี้เลย (กรณีที่ซ่อมคอมบ้านลูกค้าหรือที่ร้านเนี่ยแหละแต่ไม่มีสายคีป)
มันคือ วิธีนี้จ้าอิอิ
1. ยกมือขึ้นมา แล้วทำหน้าตาแบบว่าจะ ฆ่าคอมฯ (ประมาณนี้)
2.กางนิ้วออกให้สุด
3.หายใจเข้าลึกๆ
4.ตบลงไปที่เคสอ่างรุนแรงและรวดเร็ว(ระวังนะอย่าตบแรงเด๋วมันจะ  :'(  เอาซะก่อน ) ตบลงไปแล้วไม่ต้องยกมือขึ้น มันจะไม่กล้าหือกับเราหุหุ
หากไม่กล้าทำตามข้อ 4 ก็มาทำข้อ 5 นี้ก็ๆได้
5.เปิดฝาเคสจับมันตั้งแล้วก็ใช้ พระบาทาน้อยๆเหยีบไปที่เคสมัน(ด้านล่างมันนะอย่างไปเหยียบด้านบนเด๋วมันจะโกรธเอา)

ทำตามนี้ไม่มีพลาด หุ หุ

แนะนำนะครับ  ถ้าไม่สะดวก ทำสายดิน   หรือ รองพลาสติกที่เมนบอร์ด แนะนำ ขณะทำงานกับคอมครับ ใส่รองเท้าผ้า  มีขาย หรือทำเองก็ได้  หรือ นั่งบนเก้าอี้พลาสติก ยกขาอย่าให้แตะพั้น ไม่ก็ พรหมรองยืนหรือนั่งทำงานเวลาประกอบ ซ่อมคอม  น่าจะเลี่ยงได้ง่าย
สุดท้ายนะครับ เวลาจะทำงานเกี่ยวกับไฟ แนะนำให้ หาพลาสติก หรือผ้าแห้ง มารองแล้วยืนทำงาน  ไม่ดูหรอกครับ  ผมทำประจำ 
ไม่มีทางลงกราวด์  ให้สะดุ้ง

ขอตอบด้วยคนนะครับในฐานะอยู๋กับคอมมานาน คือผมว่าประเด็นอยู่ว่าถ้าปกติแล้วถ้าเป็นคนเล่นธรรมดาที่บ้านทั่วไปก็หาผ้าหนาๆ หน่อยมารองที่พื้นเวลาเล่นคอมเพราะเราคงไม่ได้เดินไปเดินมาแล้ววิ่งมาจับคอมเล่นหนะครับก็คงเอาไว้ที่เท้าบริเวณที่โต๊ะคอมก็คงพอนะครับสำหรับผู้ใช้ทั่วไปแต่ถ้าเป็นช่างก็ใส่รองเท้าผ้าก็ได้หรือหารองเท้าฉนวนหนาๆ หน่อยมายื่นซ่อมก็ไม่เป็นไรแล้วหละครับอันั้นไม่ใช่ประเด็นคัรบเพราะมันไม่ใช่ไฟ ac มันดูดนิ๊ดๆ แค่สะดุ้งไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแค่มันๆ เพราะระบบไฟในบ้านเราไม่ได้เดินสายกราวไว้หนะครับแต่ที่ร้านผมเดินสายกราวไว้แลวสบายบรือเลยครับตอนนี้ คือถ้าเป็นบ้านสร้างใหม่ก็บอกช่างว่าเดินสายกราวด้วยเป็นสามเส้นเหมือนเมืองนอกเขาหนะครับแค่นั้นไม่ใช่ประเด็นครับแต่มีคนตอบเยอะมากอิอิเลยมาร่วมแจมด้วยครับ :o

ผมใส่รองเท้าเล่น จับไม่ดูดเลยแต่ให้คนอื่นมาแตะตัวก็แล้วกัน.. ;D

สลับปลั๊กเสียบให้ตรงขั้วนะครับ N สาย 0 ายที่เอาไขขวงเช็คไฟแตะไม่มีไฟขึ้น(สายไม่มีไฟ) L สายที่เอาไขขวงเช็คไฟแตะจะมีไฟขึ้น(สำหรับบ้านที่มีปลั๊กเพียงสองรู) แล้วต่อ E ลงดินโดยใช้แท่งทองแดง สัก180 เซนตอกลงดินที่ชื่นๆ
.ข้อควรระวัง..ถ้าสลับขั้วไม่ถูกจะทำให้กระแสใหลลงดินมาก เสียค่าไฟฟ้าเพิ่มนะครับ

 ;D เยี่ยมเลยครับผม

                               
                                                :P :P :P >:( ;D ;D ;D
                                                              :'(

 smiley4  กระทู้นี้นานมากแล้ว ทุกทานที่ถามคงแก้ปัญหากันได้แล้ว  แต่บ้างท่านที่เข้ามาดูยังอาจแก้ไม่ได้  ยังมีอีกวีธีครับ  ตัวเราอย่าไปสัมผัสกับพื้นผิวดิน หรือปูนพื้นซิครับ วิธีการนี้คือหาตัวคั่นกลางเรากับพื้นดิน
ก็หมดห่วง  โดยการซื้อเสื่อน้ำมันหรือแผ่นผ้ายางสัก ๒ ตารางเมตรมาปูก่อนวางโต๊ะคอมพ์และเก้าอี้ที่เรานั่ง ผมคิดว่า  ๒  ตารางเมตรนี้ก็คลุมพื้นที่เราสบายถ้าใหญ่ไปก็สักเมตรครึ่งก็พอ  หมดปัญหาเรื่องปลั๊กสามตาหรือต่อGROUND  แต่ทางที่ดีก็ต่อGROUND ดีที่สุด ลองทำกันดูนะครับ ข้อระวังให้ใช้เสื่อน้ำมันแบบหนา และเก้าอี้นั่งของเราควรมีล้อกันขาตอนเราเลื่อนเข้า-ออกจะทำให้ฉีกขาด...จะถอดหรือไม่ถอดรองเท้าไม่มีปัญหาแล้วครับ kiss6 kiss6

]ลองถอดอุกรณ์ที่ต่อร่วมออกทีละตังดูว่าไฟรั่วมาจากไหน บางทีมาจากจอโมนิเตอร์  ปริ้นเตอร์ โมเด็ม เร้าเตอร์ ฯลฯ ก็ได้ เอาไขควงเช็คไฟวัดทดสอบดู หรือมิเตอร์ก็ได้  แล้วค่อยแก้ตัวที่ไฟรั่วครับ

โดนดูดบ่อยๆระวังเป็นหมันนะครับ  HS-3 IDY     ด้วยความปราถณาดีครับ   HS-9 RXJ  ครับ laugh2

กระทู้ที่ 75 ละ ขอเสริมนิดนึงครับ

ยกขาขึ้นข้างนึงครับ กระต่ายขาเดียว -*-
แล้วก็จับมันไปเลย จะจับส่วนไหนก็ไม่ดูด -*-
ง่ายๆ แต่อาจหัวแตกได้ -*-
ไม่ต้องสวมรองเท้า ไม่ต้องต่อสายดิน เหอๆ
ขำๆ แต่ใช้ได้ผลนะ จะบอกให้

                                            ผมไม่รู้ว่าใช่ผมหรือเปล่าถ้าใช้   ผม HS3LDY  ครับผม สวัดดีครับ
                                         

ลองดูวธีเช็กของผมน่ะว่าไอ้ที่มันรั่วน่ะกี่โวลท์ เผื่อจะได้ตัดสนใจได้ว่าอันตรายหรือว่าไม่อันตราย
1. เตรียมอุปกรณ์ เช็กแลม โวลท์มิเตอร์
2. เอาเช็กแลมจิ้มดูที่รางปลั๊กว่ารูไหนไฟติด (L) จำไว้แล้วทำสัญลักษณ์ไว้กันลืม เสียบปลั๊กเปิดคอมพวเตอร์
3. เอามิเตอร์มาตั้งเรนซ์ไปที่ VAC 250 V
4. นำสายมเตอร์เส้นไหนก็ได้จิ้มที่รางปลั๊ก รูที่ไม่มีไฟ ย้ำรูที่ไม่มีไฟ (N)
5. นำสายมเตอร์อีกเส้นไปจิ้มยังเครื่องคอมพิวเตอร์บรเวณที่เคยโดนดูด(มีไฟรั่ว)
6. อ่านค่ามิเตอร์ว่าได้เท่าไร จดไว้ ปิดคอมพิวเตอร์
7. ถอดปลั๊กแล้วหมุนสลับรู ต่อไปก็ทำตามขั้นตอน 1-6
8. มาเปรียบเทียบว่าไอ้ทางไหนมันรั่วน้อยสุดก็เอาอันนั้น โดยการใช้ปากกาเขียนแผ่นซีดีขีดยาวจากรางปลั๊กไปยังปลั๊กตัวผู้เลือกเอาจะขีดด้านขาไหนขานึง
เพื่อเอาไว้เสียบครั้งต่อไปจ้า

เท่านี้ก็พอที่จะบรรเทาอาการไฟดูดได้ในระดับนึง สำหรับผู้ที่ไม่สามารถต่อสายดินได้จริงๆ
.................จากที่เคยวัดมา จะได้ค่าประมาณ 20VAC กับ 90VAC ต่างกันไหมล่ะพี่น้อง
.................นี่น่ะคอม เครื่องเสียงน่ะเสียบไฟผิดเฟสคุณภาพเสียงลดลงตั้ง 30%
................... ................... ...... เอาลองดูพี่น้อง..............................................................
                                                 smiley4

โหย ตอบกันจนอ่านเกือบไม่หมด  olleyes2

                                                ตาลายเลยหรอก

 เวลาผมซ่อมคอมพ์ หรือเมนบอร์ด ผมจะใส่รองเท้่เพื่อให้เท้าของเราไม่ถึงกราวด์ ดินจับเท่าไหร่ไม่เคยโดนดูด ธรรมชาติของไฟฟ้าจะไหลผ่านตัวเราเพื่อลงกราวด์ ... smiley4

เราใช้เสื่อน้ำมันปูพื้นบริเวณโต๊ะ com เอาง่ายๆไม่ดูดด้วย

ที่ว่าถอดcออก  ได้ผลกี่เปอเซ็นครับ  และcตรงไหนครับ  ถอดออกกี่ตัวครับ
เผื่อว่าผมจะลองทำดู  ครับผม kiss6

ถ้าไม่อยากต่อสายดิน ก็อย่าเหยียบพื้นด้วยเท้าเปล่าครับ

ต่างประเทศ หรือแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านเรา  ระบบไฟของเค้าใช้ปลั๊ก3ขั้วกันหมดแระ
ประเทศไทยเพิ่งจะรณรงค์  ที่นี้เวลาสร้างบ้านก็เดินไฟระบบสามเส้นกันเลยนะครับ ไม่ต้องเสียดายตังค์
ปลอดภัยกว่าเดิมมากๆๆๆๆ ไม่ใช้แค่เคสคอมอย่างเดียว แต่รวมไปถึงทุกอย่างที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า

ดูดทุกเครื่องครับ เพราะหม้อแปลงเป็นระบบสิชชิ่ง ต่อสายดินเลยครับ หาย 100 %  smiley4

เวลาจะถอดอุปกรณหรือชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ผมจะปิดเครื่องและถอดปลั๊กครับปลอดภัยที่สุด
ขณะเครื่องทำงาน ก็ไม่ต้องไปจับที่ตัว Case ครับ ::)

ผมใช้เหล็กเส้นยาวประมาณ1ฟุตตอกลงดินแล้วต่อสายไฟมายึดกับโครงเคสไม่ดูดครับ100% smiley4

ถ้าใส่รองเท้าต้องเป็นรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าหนังครับจะไฟไม่ดูด (ที่เคสนะครับ)..............
แต่ถ้าเป็นไฟ 220ACV ตามบ้านของเรา  ต้องเป็นรองเท้าหนังยางดี( ป้องกันไฟฟ้าดูด)...............
หลักการง่ายๆ ครับถ้าอย่ากจับไฟฟ้า  โดยไม่ให้ดูดก็อย่าเหยียบพื้น.......(ไม่ได้แนะนำนะครับ)
แค่บอกให้รู้ไว้ว่า เมื่อเราจับไฟฟ้า  ไฟฟ้าจะไหลผ่านตัวเราลงพื้น
ในเมื่อเราไม่ได้เหยียบพื้นไฟฟ้าไหลผ่านไม่ได้  เราก็ไม่เป็นไร .................
แต่ที่เคสก็ควรต่อสายดินไว้ครับ  ถึงจะดูดไม่เจ็บ แต่ก็ปลอดภัยสุด ๆแล้ว............
lsv-smile

 kiss6  smiley4  thank2  thank2

กราวเพาเวอร์ผมเหนมันลงเเท่นเคสเลย  ถ้าสายไฟไม่มีสายดิน  หรือสลับสายผิดอย่างว่า  ดูดจนผว่าครับ  ใส่รองเท้าดิ  รับประกันไม่ดูด

 ::)ยังไงก้อต้องต่อสายกราวด์ลงดินหละ่ครับ//เมืองไทยเราไม่ค่อยเดินสายกราด์กันครับแบบว่าค่าใช้จ่ายในการติดตั้งต้องเพิ่มขึ้นแน่นอนแต่ความปลอดภัยที่ได้คุ้มค่าหล่ะครับ  ถ้าไม่เชื่อก้อลองแบบทดสอบตามหัวข้อ ของคุณเคสมีไฟดูดเลยครับ//เมืองนนอกเค้าต่อกันแทบหมดล่ะครับ///ไม่ประหยัดแต่ปลอดภัยครับเลือกเอา

 olleyes2 olleyes2 olleyes2
----------------------------------------
GCLUB (http://gamble1688.com/gclub.html)   ,  คาสิโน (http://www.gamble1688.com)    ,   คาสิโนออนไลน์ (http://www.gamble1688.com)