พิมพ์หน้านี้ - แม่ใบ้งีบหลับ ลูกสาว1ขวบกิน 'กันยุง' ชัก

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

นานาสาระ => เตือนภัย => ข้อความที่เริ่มโดย: แวมไพร์-LSVteam♥ ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2008, 06:24:47 AM



หัวข้อ: แม่ใบ้งีบหลับ ลูกสาว1ขวบกิน 'กันยุง' ชัก
เริ่มหัวข้อโดย: แวมไพร์-LSVteam♥ ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2008, 06:24:47 AM
แม่ใบ้งีบหลับ ลูกสาว1ขวบกิน 'กันยุง' ชัก

(http://www.thairath.co.th/images/logo.gif)

(http://www.thairath.co.th/2551/hotnews/Feb/library/25/pic_8.jpg)

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 ก.พ. เจ้าหน้าที่กู้ภัยท่าเรือรับแจ้งมีเด็กกินของมีพิษเข้าไป เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่
9/1 หมู่ 11 ต.ศาลาลอย อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรีบนำรถฉุกเฉินไปรับตัวพาส่ง
รพ.ท่าเรือให้แพทย์ปฐมพยาบาลในเบื้องต้น

ทราบชื่อคือ ด.ญ.สาวิตรี อยู่สมบูรณ์ หรือน้องใบเตย อายุ 1 ขวบ 3 เดือน โดยสภาพที่พบเด็กมีอาการชัก น้ำลายฟูมปาก ใบหน้าและลำตัวเริ่มมีอาการเขียวคล้ำคล้ายขาดอากาศหายใจ แพทย์ต้องนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินใช้เครื่องช่วยหายใจ และล้างท้องให้อย่างเร่งด่วน

ด้าน พญ.วิรชา เนตรบารมี แพทย์เวรที่ให้การรักษาน้องใบเตย ระบุว่า จากการสอบถามนางรุ่งทิวา อยู่สมบูรณ์ อายุ 40 ปี ผู้เป็นป้า ที่ช่วยเป็นล่ามพูดภาษามือกับนางสุวิณณา อยู่สมบูรณ์ อายุ 38 ปี มารดาของน้องใบเตย ที่พิการเป็นใบ้หูหนวก ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางสุวิณณาเผลอหลับไป ปล่อยให้น้องใบเตยเล่นซนตามประสาเด็กอยู่ในบ้าน มารู้สึกตัวตื่นตอนที่เพื่อนบ้านวิ่งเข้าไปปลุกบอกว่าน้องใบเตยชัก จึงวิ่งออกมาดูที่ห้องนั่งเล่น พบน้องใบเตยนอนดิ้นทุรนทุราย น้ำลายฟูมปาก ใบหน้าเขียวคล้ำ ข้างตัวพบขดยากันยุงสีดำตกอยู่ในสภาพหักเป็นท่อนๆวางเกลื่อนพื้น คาดว่าน้องใบเตยอาจจะกินขดยากันยุงเข้าไป จึงรีบพาส่ง รพ. แต่อาการยังน่าเป็นห่วง จึงตัดสินใจส่งไปรักษาต่อที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีหอผู้ป่วยเด็กเล็กที่มีอาการโคม่า

ต่อมาเวลา 18.00 น. รถพยาบาลของ รพ.ท่าเรือได้นำตัว ด.ญ.สาวิตรี หรือน้องใบเตย เดินทางมาถึง รพ.

พระนครศรีอยุธยา โดยคณะแพทย์ได้รับตัวเข้าไปตรวจสอบอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่ามีชิ้นส่วนของยากันยุงเข้าไปอุดหลอดลม และสารพิษที่เป็นส่วนประกอบของขดยากันยุงได้ซึมเข้าสู่กระแสเลือด จึงช่วยรักษาด้วยการดูดเอาเศษชิ้นส่วนยากันยุงออกจากหลอดลมและช่วยล้างท้องให้อีกครั้ง ก่อนจะย้ายเข้าไปดูอาการในห้องไอซียูเด็ก ล่าสุดมีอาการดีขึ้น เริ่มรู้สึกตัวแล้ว โดยมีนางสุวิณณา ผู้เป็นแม่เฝ้าดูอาการด้วยความเป็นห่วงอยู่ข้างเตียง พร้อมทั้งเปิดเผยถึงชีวิตรันทดผ่านญาติที่รู้ภาษามือว่า ชีวิตครอบครัวล้มเหลว สามีเพิ่งแยกทางไป ต้องหอบลูกสาวกลับมาอยู่กับญาติช่วยทำงานเล็กๆน้อยๆ เสียใจที่ลูกสาวมาเกิดเรื่องร้ายขึ้น แต่ยังโชคดีที่แพทย์ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน