หัวข้อ: มุทิตา-สักการะ พระธรรมปริยัติโมลี เริ่มหัวข้อโดย: srithaimax ♥1,510 ที่ ธันวาคม 13, 2009, 06:59:11 am วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6954 ข่าวสดรายวัน
มุทิตา-สักการะ พระธรรมปริยัติโมลี คอลัมน์ มงคลข่าวสด สมณศักดิ์ คือบรรดาศักดิ์ที่พระมหากษัตริย์ พระราชทานแด่พระสงฆ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ กอปรด้วยศีลาจารวัตร ดำรงจิรัฏในสมณเพศ สืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง ในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2552 นี้ พระเทพปริยัติสุธี เป็นหนึ่งพระเถระที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่พระธรรมปริยัติโมลี ปัจจุบัน พระธรรมปริยัติโมลี (อาทร อินทปัญโญ) สิริอายุ 58 ปี พรรษา 38 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ, เจ้าคณะภาค 3 และรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัย ฝ่ายกิจการนิสิต อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า อาทร จีนอ่วม เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2495 ณ บ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 5 ต.ไม้ดัด อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเรือง และนางเกลื่อน จีนอ่วม ในวัยเด็ก ได้ศึกษาที่โรงเรียนประชาบาล จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ใน จ.สิงห์บุรี ครั้นอายุได้ 15 ปี ได้เข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2510 ณ วัดน้อยนางหงษ์ ต.สิงห์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี โดยมีพระเกศิวิกรม (สังวาล) วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ ในระหว่างบวชเณร ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2513 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ในสำนักเรียนคณะจังหวัดสิงห์บุรี กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2515 ณ วัดแจ้งพรหมนคร อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดยมี พระครูวิจิตรธรรมศาสตร์ (ระนาม) วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์จุน วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระศรีวราภรณ์ (อำพา) วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังอุปสมบท ท่านได้ศึกษาหาความรู้ทางธรรมเพิ่มเติม ครั้นพอสำเร็จชั้นเปรียญธรรม 5 ประโยค ท่านได้ขอเดินทางมาศึกษาต่อในระดับสูงที่เมืองหลวง โดยไปอยู่จำพรรษาที่วัดรวกบางบำหรุ ฝั่งธนบุรี พ.ศ.2526 ได้รับปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.ศ.2529 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ในนามวัดรวกบางบำหรุ สำนักเรียนวัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ ต่อมา พระเทพมุนี (ธีร์ มหาธีโร) เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุข ในขณะนั้น ได้นิมนต์ให้ย้ายมาอยู่ที่วัดบพิตรพิมุข เพื่อช่วยเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ลำดับงานการศึกษา พ.ศ.2529 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ประจำสำนักเรียนวัดบพิตรพิมุข พ.ศ.2530 เป็นอาจารย์ใหญ่สำนักเรียนวัดบพิตรพิมุข พ.ศ.2537 เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดบพิตรพิมุข ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2530 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร พ.ศ.2537 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร พ.ศ.2541 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะภาค 3 พ.ศ.2545 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะภาค 3 นอกจากนี้ ท่านยังเป็นรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัย ฝ่ายกิจการนิสิต และเป็นกรรมการคณะกรรมการควบคุมการเดินทางไปต่างประเทศของพระภิกษุสามเณร (ศตภ.) พระธรรมปริยัติโมลี ในฐานะเจ้าคณะภาค 3 ท่านรับผิดชอบงานการศึกษาในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 3 คือ จังหวัดลพบุรี สังห์บุรี ชัยนาท และอุทัยธานี ได้ออกตรวจเยี่ยมและให้คำแนะนำสำนักศาสนาศึกษาแผนกธรรม-บาลี และปริยัติสามัญในเขตปกครองคณะสงฆ์เป็นประจำทุกเดือน อีกทั้ง จัดของถวายภิกษุผู้สอบเปรียญธรรม 9 ประโยค ในนามสำนักเรียนคณะจังหวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 3 เป็นประจำทุกปี พ.ศ.2545 ท่านได้สนับสนุนให้มีการเปิดโรงเรียนสหบาลีศึกษา ประจำจังหวัดลพบุรี วัดเสาธงทอง อ.เมือง จ.ลพบุรี งานเผยแผ่พระพุทธศาสนา จัดให้มีการแสดงธรรมเทศนาในเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และวันธรรมสวนะเป็นประจำ แสดงธรรมอบรมประชาชนทั่วไปตามโอกาสอันสมควร นอกจากนี้ ได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ จัดโครงการ "นักศึกษาใหม่ใฝ่ธรรมะ" อบรมธรรมแก่นักศึกษา ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2533 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีสุทธิพงศ์ พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติดิลก พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปริยัติสุธี พ.ศ.2552 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมปริยัติโมลี กล่าวได้ว่า วัดบพิตรพิมุขวรวิหารมีพระภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษาในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ผู้ปกครองวัดเห็นความสำคัญของการสืบต่อพระพุทธศาสนา จึงส่งเสริมให้พระภิกษุสามเณรได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่ ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย ปัจจุบัน วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร ได้ขยายการศึกษาโดยแบ่งนักเรียนแผนกธรรม ชั้นนักธรรมชั้นตรีถึงนักธรรมชั้นเอก และแผนกบาลี ชั้นบาลีไวยากรณ์ ถึง ประโยค ป.ธ.3 ไปเปิดสอนที่วัดพรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เนื่องจากสถานที่ของวัดบพิตรพิมุขไม่เพียงพอต่อพระภิกษุสามเณรที่สนใจศึกษาพระปริยัติธรรม พระธรรมปริยัติโมลี ยังได้สนับสนุนการศึกษาสงเคราะห์ของวัดบพิตรพิมุข จัดตั้งทุนการศึกษาสงเคราะห์พระภิกษุสามเณร และนักเรียน นิสิต นักศึกษา ในสถาบันการศึกษาทั่วไปตามมติมหาเถรสมาคมอีกด้วย ส่วนกิจกรรมเพื่อสังคม ได้จัดโครงการอบรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน กำหนดวันที่ 6-20 เมษายนของทุกปี ด้วยเห็นว่า เยาวชนเป็นอนาคตของชาติ การพัฒนาเยาวชนเป็นอนาคตของชาติ การพัฒนาเยาวชนให้ซึมซับในพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เน้นพัฒนาเยาวชนในด้านความรู้พระพุทธศาสนา ฝึกกิริยามารยาท พระเดชพระคุณพระธรรมปริยัติโมลี ถือว่าเป็นพระเถระรูปหนึ่งของคณะสงฆ์ ที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม เป็นนักปราชญ์ ในเรื่องการบริหารการปกครอง เป็นที่เคารพนับถือของพระสงฆ์สามเณร และอุบาสก อุบาสิกา พระธรรมปริยัติโมลี ได้ถ่ายทอดหลักธรรมง่ายๆ แก่ชาวบ้านให้ยึดถือปฏิบัติ คือ การรักษาศีล 5 เนื่องจากปุถุชนคนธรรมดายังมีกิเลสอยู่ขอให้รักษาศีล 5 ให้ได้ก็พอชีวิตจะพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองแน่นอน ด้วยหลักใหญ่ใจความของพระธรรมปริยัติโมลีอยู่ที่การศึกษา ที่ท่านทุ่มเทเป็นชีวิตจิตใจและเป็นประธานรับผิดชอบมายาวนาน ส่งผลให้มีผู้สอบได้เปรียญธรรม 6-9 ประโยค เกือบทุกปี สร้างชื่อเสียงให้วัดวัดบพิตรพิมุข และสร้างศาสนทายาทให้พระพุทธศาสนามาตามลำดับ ในวาระที่เจ้าประคุณพระธรรมปริยัติโมลี ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ในกาลวาระนี้ จึงสมควรที่คณะศิษย์จะได้ร่วมกันแสดงมุทิตาสักการะ หัวข้อ: Re: มุทิตา-สักการะ พระธรรมปริยัติโมลี เริ่มหัวข้อโดย: b.chaiyasith ที่ ธันวาคม 13, 2009, 09:15:33 am ขอเพิ่มรูปปัจจุบันมีหลายองค์
(http://www.khaosod.co.th/news-photo/khaosod/2009/12/p0160131252p1.jpg) |