หัวข้อ: ประโยชน์ของการเลิกบุหรี่ เริ่มหัวข้อโดย: pitak1 ที่ พฤษภาคม 30, 2009, 09:38:20 pm ประโยชน์ทันตาเห็นสุขภาพดีขึ้น หายใจโล่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องออกแรง
ลมหายใจจะสดชื่นขึ้น ไม่มีกลิ่นเหม็นของลมหายใจ นิ้วมือจะหายเหลืองและฟันจะไม่ดำอีกต่อไป จะมีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายอีกสัปดาห์ละ 200-300 บาท ไม่ต้องกังวลว่ากำลังพยายามฆ่าตัวตายผ่อนส่ง คนที่รักและเป็นห่วงคุณดีใจที่คุณเลิกสูบบุหรี่ได้ ประโยชน์ในอนาคต สุขภาพดีขึ้น หายจากอาการไอเรื้อรังเพราะบุหรี่ เป็นหวัด หรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ น้อยลง มีอายุยืนยาวขึ้น ประโยชน์ที่ครอบครัวและผู้ใกล้ชิดจะได้รับเมื่อเลิกสูบบุหรี่ สึกหห เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูกหลาน ลดโอกาสที่ลูกหลานของคุณ จะกบลายเป็นผู้สูบบุหรี่ในอนาคต พวกเขาจะได้รับอากาศบริสุทธิ์มากขึ้น พวกเขาจะรู้สึกว่าคุณน่าใกล้ชิดมากขึ้น ภูมิใจในตัวคุณที่เลิกสูบบุหรี่ได้ เด็กๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่มีควันบุหรี่จะป่วยเป็นไข้หวัด หลอกลมอักเสบ หูน้ำหนวก โรคหืด และโรคทางเดินหายใจอื่นๆน้อยลง ครอบครัวมีความสุขไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดโรคจากควันบุหรี่ ผลดีของการเลิกบุหรี่..ถ้าผู้สูบบุหรี่หยุดสูบบุหรี่กอ่นอวัยวะต่างๆในร่างกายจะได้รับความเสียหายอย่างถาวร จะทำให้ร่างกายชอ่มแชมสว่นที่สึกหรอไปแล้วให้กลับคืนสู่สภาพกติ..หรือเกือบปกติ1. การหยุดสูบบุหรี่จะช่วยลดอาการไอ ลดจำนวนเสมหะ ลดการหายใจมีเสียง วี๊ด และลดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ เช่นหลอดลมอักเสบ และ ปอดบวม เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป 2. ในผู้ทียังไม่เกิดอาการของดรคถุงลมโป่งพอง การหยุดสูบบุหรี่จะทำให้ สมรรถภาพของปอดดีขึ้นร้อยละ 5 ภายใน 2-3 เดือนหลังจากเลิกสูบบุหรี่ 3. ผู้ที่หยุดสูบบุหรี่อย่างถาวร อัตราการเสื่อมของปอดจะชลอตัวลง จนเท่ากับ ความเสื่อมที่เกิดในผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ 4. ในผู้ที่หยุดสูบบุหรี่ได้อย่างถาวร อัตราการเสียชีวิตจากโรคถุงลมโป่งพอง จะลดลง เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป 1. การหยุดสูบบุหรี่จะช่วยลดอาการไอ ลดจำนวนเสมหะ ลดการหายใจมีเสียง วี๊ด และลดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ เช่นหลอดลมอักเสบ และ ปอดบวม เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป 2. ในผู้ทียังไม่เกิดอาการของดรคถุงลมโป่งพอง การหยุดสูบบุหรี่จะทำให้ สมรรถภาพของปอดดีขึ้นร้อยละ 5 ภายใน 2-3 เดือนหลังจากเลิกสูบบุหรี่ 3. ผู้ที่หยุดสูบบุหรี่อย่างถาวร อัตราการเสื่อมของปอดจะชลอตัวลง จนเท่ากับ ความเสื่อมที่เกิดในผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ 4. ในผู้ที่หยุดสูบบุหรี่ได้อย่างถาวร อัตราการเสียชีวิตจากโรคถุงลมโป่งพอง จะลดลง เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป |