หัวข้อ: สายRG6/128 กับ RG6/64 มันต่างกันยังไงเหรอครับ เริ่มหัวข้อโดย: olenicky ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2009, 08:32:23 pm สายRG6/128 กับ RG6/64 มันต่างกันยังไงเหรอครับ และคุณภาพการนำสัญญาณต่างกันมั้ยครับ รบกวนผู้รู้ตอบด้วยนะครับ :D
หัวข้อ: Re: สายRG6/128 กับ RG6/64 มันต่างกันยังไงเหรอครับ เริ่มหัวข้อโดย: พรเทพ-LSV team♥ ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2009, 08:47:55 pm ต่างกันตรง/128กับ/64ไง lsv-smile
/มากก็ดีมาก เช่น/128 ดีกว่า/64ครับ แต่ถ้าไม่/ เลยจะดีกว่า แบบที่มี/ ครับ ***/128คือชิลด์ 128เส้นครับ ***สายที่ดี จะไม่เขียนข้อความปัญหาอ่อนแบบนั้นครับ หัวข้อ: Re: สายRG6/128 กับ RG6/64 มันต่างกันยังไงเหรอครับ เริ่มหัวข้อโดย: olenicky ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2009, 12:33:13 am :D
และถ้ามันมี U ตามหลังมาด้วยนี่มันหมายถึงอะไรเหรอครับ เช่น RG6U อย่างนี้อ่ะครับ พอดีผมไม่รู้จริงๆอ่ะครับและเกิดสงสัย รบกวนด้วยนะครับผม หัวข้อ: Re: สายRG6/128 กับ RG6/64 มันต่างกันยังไงเหรอครับ เริ่มหัวข้อโดย: พรเทพ-LSV team♥ ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2009, 08:05:30 am สายนำสัญญาณทุกแบบถูผลิตตามมาตรฐาน MIL - C -17 ในกิจการทางด้านทหารของสหรัฐอเมริกา และ JIS C 3501 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทผู้ผลิตต่างๆ จะนำมาผลิตสายนำสัญญาณยี่ห้อของตนตามมาตรฐานจำพวกนี้ และกำหนดเบอร์ของสายออกมา ซึ่งจะบอกคุณลักษณะของสายนำสัญญาณ เช่น
มาตรฐาน MIL- C -17 RG-58 A/U RG ย่อมาจาก Radio Guide ก็คือสายนำสัญญาณวิทยุนั่นเอง 58 เป็นเบอร์ของสาย อักษรตัวแรก อาจมีหรือไม่มีก็ได้แสดงการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงวัสดุ เช่น เปลือกหุ้ม จำนวนลวดตัวนำ อิมพีแดนซืเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย การสูญเสียต่างกันเล็กน้อย /U หมายถึง Utility หรือ Universal คือการใช้วานทั่วไป มาตรฐาน JIS C 3501 เบอร์ของสายนำสัญญาณจะขึ้นต้นด้วยตัวเลข เช่น 3C-2V 5D-FB ตัวเลขตัวแรก คือ ขนาดเส็นผ่าศูนย์กลางภายนอก โดยประมาณ ของไดอิเล็กทริก อักษรหลังตัวเลข คือ ค่าอิมพีแดนซ์ C = 75 โอมห์ D = 50 โอมห์ อักษรหลังขีด แสดงวัสดุที่ทำไดอิเล็กทริก F คือ โฟม ถ้าเป็นเลข 2 คือ PE อักษรตัวสุดท้าย แสดงลักษณะของชิลด์ และเปลือกหุ้มสาย B = ชิลด์ทองแดง + ชิดล์ อะลูมืเนียม + PVC E = ชีลด์ทองแดง + PE L = ชีลด์อะลูมิเนียม + PVC N = ชิลด์ทองแดง + ไนล่อยถัก V = ชีลด์ทองแดง + PVC W = ชิลด์ทองแดงทักสองชั้น + PVC การเลือกใช้สายนำสัญญาณ สำหรับทาวเออร์แล้วควรใช้สายนำสัญญาณเส้นใหญ่ๆ และค่าการสูญเสียต่ำ เพื่อให้ความสูงของสายอากาศเกิดประโยชน์เต็มที่ และการสูญเสียน้อนที่สุด ถ้าใช้สายนำสัญญาณเล็กๆ บางครั้ง สายอากาศที่อยู่ต่ำกว่าแต่การสูญเสียน้อยจะรับส่งได้ดีกว่าเสียอีก สายอากาศทิศทางที่ต้องใช้โรเตอร์ช่วยหมุนหาทิศทาง ควรใช้สายนำสัญญาณแบบที่มีตัวนำตรงกลางหลายๆ เส้น จะได้ไม่ขาดเร็วเกินไป แต่ก็ไม่ควรใช้สายโฟม เพราะไดอิเล็กทริกนิ่มและมีรูพรุนเมื่อถูโค้งงอบ่อยๆ ตัวนำตรงกลางอาจเบียดออกด้านข้างไม่อยู่ในแนวกลางเหมือนเดิม อิมพีแดนซ์ของสายอากาศจะเปลี่ยนไปทำให้ค่าการสูญเสียเพิ่มขึ้น สายโฟมและสายที่มีตัวนำตรงกลางเส้นเดียวมีการสูญเสียน้อย เหมาะสำหรับการใช้งานตายตัว เช่น ใช้กับสายอากาศแบบรอบตัว สายอากาศที่ต้องตากแดดตาดฝนอยู่ตลอดปี ควรเลือกใช้สายนำสัญญาณแบบที่เปลือกหุ้มทำจากสาร NMV แทน PVC เช่น สายเบอร์ RG-58 C/U แทน RG-58 A/U หัวข้อ: Re: สายRG6/128 กับ RG6/64 มันต่างกันยังไงเหรอครับ เริ่มหัวข้อโดย: hs4enk ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2009, 01:33:10 am A/U /U 2ตัวนี้ต่างกันที่ไดอิเลคติกที่กั้นระหว่างชิลกับอินเนอร์ A/U(ทุกเบอรืก่อนนำหน้าเช่นRG58 8 59 11 213 214) ไดอิเลคติก(ที่เป็นฉนวนกั้นนะ) ทำจากPE (โพลีเอทธีลีน พลาสติกใสขุ่นแบบขวดน้ำดื่มวันเวย์ไง) /U ไมมีAด้วยนะฉนวนทำจากโฟมที่มีอากาศแทรกตัวจำนวนมาก ความยาว2อย่างนี้ที่ความยาวเท่ากันแบบโฟมจะลดทอน(สูญเสีย)สัณญานน้อยกว่าแบบพลาสติกขุ่น(PE) แต่ดีกว่าตรงที่เวลาโค้งงอมากๆอินเนอร์จะไม่หนีศูนย์กลางทำให้อิมพีแดนส์สายคงที่กว่าโฟมที่เบี้ยวหนีศูนย์กลางได้ทำให้อิมพีฯสายเปลี่ยนไปได้ทำให้เกิดมีสแมทขึ้นได้เมื่อเทียบสายA/U
หัวข้อ: Re: สายRG6/128 กับ RG6/64 มันต่างกันยังไงเหรอครับ เริ่มหัวข้อโดย: olenicky ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2009, 08:31:23 pm ขอบคุณครับ
|