ก่อนวันสิ้นโลก 21-12-12
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 16, 2024, 11:32:39 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ก่อนวันสิ้นโลก 21-12-12  (อ่าน 4072 ครั้ง)
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 09:06:40 PM »

20 ธ.ค.-นับถอยหลังตามปฏิทินของชนเผ่ามายา พรุ่งนี้จะเป็นวันสิ้นโลก ทำให้ผู้คนทั่วโลกจดจ่อกับเหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นตามคำทำนาย 

 ประเทศเม็กซิโก ประชาชนจำนวนมากเดินทางไปรวมตัวกันที่ชีเชนอิตซา แหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ของชนเผ่ามายา บนคาบสมุทรยูกาตัง เพื่อประกอบพิธีสิ้นสุดระยะเวลา 5,125 ปีปฏิทินมายา คาดว่าพรุ่งนี้ซึ่งตรงกับคำทำนายจะมีประชาชนนับแสนคนไปรวมตัวที่นี่ ซึ่งนักมนุษยวิทยาชาวเม็กซิกันเตือนว่ามีการแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้าจากข่าวลือวันสิ้นโลก

 ส่วนที่แหล่งโบราณคดีทิคัล ชาวกัวเตมาลาและนักท่องเที่ยวเตรียมฉลองวันสิ้นสุดปฏิทินมายา โดยการร้องเพลง และเต้นรำ

 ขณะที่ชาวหมู่บ้านบูการาช หมู่บ้านเล็กๆ ในฝรั่งเศส ที่มีความเชื่อว่าจะรอดพ้นจากวันสิ้นโลก มีกำลังตำรวจคุมเข้มทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ตื่นกลัวแห่เข้าไปในหมู่บ้าน

 เช่นเดียวกับหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดอิซเมียร์ของตุรกี สินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับวันสิ้นโลกขายดิบขายดี เนื่องจากประชาชนจำนวนมากพากันมาที่หมู่บ้านดังกล่าว เพราะเชื่อว่าจะรอดพ้นจากวันสิ้นโลก

 ที่ประเทศรัสเซีย มีการเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ร่วมงานปาร์ตี้ที่หลุมหลบภัยของพิพิธภัณฑ์หลุมหลบภัยนิวเคลียร์ที่สร้างขึ้นเมื่อ 56 ปีก่อน ในกรุงมอสโก โดยเชื่อว่าเป็นสถานที่ปลอดภัย เพราะหลุมลึกถึง 56 เมตร แต่ต้องเสียค่าร่วมงานคนละ 30,000 บาท     
             
 ต่างจากที่ออสเตรเลีย กระแสตื่นกลัววันสิ้นโลกไม่มีผล โดยธุรกิจหลุมหลบภัยและร้านอาหารที่สามารถเก็บไว้ได้นานหลายปีไม่ได้มียอดสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่นักเขียนเรื่องราวลี้ลับเชื่อว่าเรื่องวันสิ้นโลกถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า

 กลับมาที่ทวีปเอเชีย ชาวจีนสมาชิกลัทธิพระผู้เป็นเจ้า เดินเคาะประตูบ้านแพร่กระจายข่าวเกี่ยวกับวันสิ้นโลก โดยอ้างว่าทางลัทธิสามารถช่วยให้รอดชีวิตได้ ตำรวจจีนจับกุมสมาชิกลัทธินี้ได้กว่า 100 คน ตั้งข้อหาสร้างข่าวลือและก่อความไม่สงบให้กับสังคมโดยใช้ศาสนาบังหน้า

 ส่วนที่ประเทศไทย นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย นายกสมาคมโรงแรมกระบี่ กล่าวว่า ยอดจองห้องพักใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียและชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นตลาดกลุ่มใหม่ ทยอยเดินทางเข้าพักกันอย่างคึกคัก ไม่หวั่นกระแสข่าววันสิ้นโลก.

-สำนักข่าวไทย




บันทึกการเข้า

Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 09:11:57 PM »

"21-12-12" ที่กำลังเป็นกระแสตื่นกลัวไปทั่วโลกเวลานี้

อเมริกัน 25 ล้านคนเชื่อเรื่องวันโลกาวินาศถึงขนาดกักตุนของกินของใช้ รวมถึงอาวุธ อีกทั้งบางส่วนเครียดหนักคิดฆ่าตัวตายหมู่ แม้ข้อมูลวิทยาศาสตร์ยืนยันชัด โลกไม่มีทางแตกในวันดังกล่าวแน่นอน เกษตรกรจีนหัวใสสร้าง ?บ้านทรงกลม? ลอยน้ำได้ ขายราคาสูงถึง 10 ล้านบาทเพื่อรับมือน้ำท่วมโลก ส่วนที่ฝรั่งเศสชาวบ้านบนเขาสูงทางใต้ต้องขอกำลังทหาร-ตร.มาดูแล หวั่นคนแห่บุกคุกคาม หลังมีข่าวลือหึ่งว่าจะเป็นจุดเดียวที่รอดพ้นมหันตภัยสิ้นโลก ด้านนักวิชาการชั้นนำของไทยย้ำชัดอย่าแตกตื่น เพราะไม่มีปัจจัยใดๆ ให้ต้องกังวลทั้งสิ้น

 จากกระแสข่าวลือแพร่สะพัดผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไปทั่วโลก อ้างว่าวันที่ 21 เดือนธันวาคม ปีค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) หรือวันที่ 21/12/2012 นี้คือวันสิ้นโลก หรือวันโลกแตก พร้อมยกตัวอย่างประกอบ ทั้งความเชื่อปฏิทินชนเผ่ามายัน ซึ่งสิ้นสุดในวันดังกล่าว และอ้างข้อมูลว่าจะมีดาวนิบิรุพุ่งชนโลก เกิดภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดครั้งใหญ่ โลกโดนหลุมดำดูด เกิดพายุสุริยะโจมตีโลก และขั้วโลกพลิกกลับ

 ด้านสำนักงานบริหารการบินและอวกาศ สหรัฐอเมริกา (นาซ่า) องค์กรวิทยาศาสตร์ระดับโลก เปิดเว็บไซต์อธิบายยืนยันว่าวันที่ 21 นี้ไม่ใช่วันสิ้นโลกอย่างแน่นอน ข่าวลือทั้งหมดไม่มีหลักวิชาการรองรับ ขณะที่ดาวนิบิรุก็ไม่มีอยู่จริง ถ้าจะกังวลควรช่วยกันหาทางแก้วิกฤตโลกร้อนดีกว่า อย่างไรก็ตาม ชาวโลกจำนวนไม่น้อย รวมถึงคนบางกลุ่มในประเทศไทยก็ยังมีความเชื่อและตื่นตระหนกว่าวันสิ้นโลกกำลังมาถึงจริงๆ แห่ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์และซื้อสิ่งของจำเป็นกักตุนขนานใหญ่

 ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าววันสิ้นโลกว่าเป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีหลักวิทยาศาสตร์ยืนยัน ปฏิทินของชาวมายาไม่ได้บอกว่าวันที่ 21 ธ.ค. 2012 เป็นวันสิ้นโลก เพียงแต่ชาวมายาทำปฏิทินไว้แค่นั้น ต่อมามีนักเขียนนำไปอ้างต่อ ส่วนที่เกรงกันว่าในวันดังกล่าวจะมีอุกกาบาตพุ่งชนโลก จากข้อมูลทางดาราศาสตร์ปัจจุบันไม่ได้บ่งชี้ว่าจะมีดาวเคราะห์น้อยดวงไหนมาชนโลก แม้แต่ในระยะเวลาหลายสิบปีต่อจากนี้ก็ยังไม่มี

 "ปัจจุบันแต่ละประเทศมีโครงการศึกษาเรื่องนี้จำนวนมาก หากจะมีดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกในวันที่ 21 ธ.ค.จริง ขณะนี้ต้องมีความสว่างเท่าดวงจันทร์ และนักดาราศาสตร์ต้องสังเกตเห็นได้ก่อนหน้านี้นานแล้ว" ดร.ศรัณย์กล่าว

 ดร.ศรัณย์ระบุว่า ข่าวลือที่บอกว่าโลกจะถูกดูดเข้าไปในหลุมดำยิ่งเป็นเรื่องน่าตลก คนมักคิดว่าหลุมดำเหมือนเครื่องดูดฝุ่น แต่จริงๆ แล้วเหมือนดาวเคราะห์ดวงหนึ่งซึ่งมีแรงดึงดูด เป็นเรื่องจริงที่วันที่ 21 ธ.ค.นี้หลุมดำ ดวงอาทิตย์ และโลก จะโคจรอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน แต่ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นไม่รู้กี่ล้านครั้งแล้ว และหลุมดำดังกล่าวยังอยู่ห่างออกไปถึง 6 หมื่นปีแสง ขนาดดาวที่อยู่ชิดหลุมดำที่สุดยังไม่เคยถูกดูดเข้าไป จึงไม่มีอะไรต้องกังวล

 รองผู้อำนวยการ สดร. อธิบายต่อไปว่า ส่วนพายุสุริยะมีปฏิกิริยาสูงสุดเกิดขึ้นทุก 11 ปี และไม่เคยมีใครเสียชีวิตจากเหตุนี้ มีเพียงกระทบต่อการสื่อสาร ซึ่งปัจจุบันดาวเทียมสื่อสารต่างๆ ก็ออกแบบมาป้องกันอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังศึกษาพบว่าปีนี้และปีหน้าพายุสุริยะจะอ่อนกำลังกว่าหลายปีที่ผ่านมา ส่วนการสลับขั้วของแม่เหล็กขั้วโลกไม่มีอันตรายแน่นอน เพราะเกิดขึ้นเป็นประจำ และเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ขณะที่การเรียงตัวของดาวเคราะห์ก็เกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง และไม่เคยทำอันตรายให้กับโลก จากข้อมูลพบว่า ค.ศ.2012 ไม่มีการเรียงตัวเลยด้วยซ้ำ

 "วันที่ 21 ธ.ค.มีเพียงปรากฏการณ์อย่างเดียวที่จะเกิดขึ้นคือ เป็นวันที่กลางคืนยาวที่สุดและกลางวันสั้นที่สุดของปีสำหรับประเทศในซีกโลกเหนือ หรือที่เรียกว่า วันเหมายัน และเป็นวันที่กลางคืนสั้นที่สุด กลางวันยาวที่สุดสำหรับประเทศในซีกโลกใต้ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทุกปี" ดร.ศรัณย์กล่าว

 เวลา 13.00 น. ที่ห้อง 308 อาคารมหามกุฏ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเวทีเสวนาทางวิชาการเรื่อง "โลกแตก 2012 ในเชิงวิชาการ...จริงหรือหลอก" มีนักวิชาการเข้าร่วมเสวนา ประกอบด้วย อ.ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ผศ.พงษ์ ทรงพงษ์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อ.ดร.ไพบูลย์ นวลนิล ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมี ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ

 ผศ.ดร.เจษฎากล่าวว่า กรณีที่สังคมกำลังให้ความสนใจอย่างมากต่อวันที่ 21 ธ.ค.ว่าจะเป็นวันสิ้นโลก อ้างอิงเรื่องราวทางดาราศาสตร์และความเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียงตัวของดาวเคราะห์ พายุสุริยะ การเกิดแผ่นดินไหว ปฏิทินของชาว มายัน ดาวนิบิรุ หรือหลุมดำที่ใจกลางกาแล็กซี จนเกิดความแตกตื่นในหมู่ประชาชน ทำให้จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยเชิญนักวิชาการทั้งจากของจุฬาฯ เองและจากสถาบันอื่นมาให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าว

 ผศ.พงษ์ชี้ว่า พายุสุริยะเกิดจากการที่สนามแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์เกิดการแปรปรวน ที่ผ่านมามีการเกิดพายุสุริยะไปแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งสร้างความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นการขัดข้องของระบบไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ดาวเทียม รวมถึงวงการสื่อสารต่างๆ ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบในพายุสุริยะแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นวงการดาวเทียม หรือ นาซ่า ก็ได้ตื่นตัวและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับพายุสุริยะดังกล่าวมากขึ้น เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

 ทั้งนี้ พายุสุริยะจะมีรอบการเกิดอยู่ที่ 11 ปี ซึ่งรอบที่แล้วตรงกับปี 2001 จึงมาครบรอบพอดีในปี 2012 ซึ่งเกิดพายุสุริยะระดับรุนแรงในรอบปีไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่พบว่าพายุครั้งดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น ในวันที่ 21 ธ.ค. หากเกิดพายุสุริยะขึ้นอีกครั้งก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องกังวล อย่างไรก็ตาม เรื่องดวงอาทิตย์นั้นเป็นสิ่งที่ไว้ใจไม่ได้ ต่อให้นักวิทยาศาสตร์ทำนายไว้ล่วงหน้าเพียง 1 วันก็ยังเชื่อได้เพียง 70 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น การทำนายว่าจะมีพายุสุริยะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค.จึงไม่สามารถทำได้

 ดร.บัญชาเสริมว่า พายุสุริยะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ พายุแม่เหล็กโลก หรือ Geomagnetic Storm พายุรังสีสุริยะ หรือ Solar Radiation Storm และการขาดหายของสัญญาณวิทยุ หรือ Radio Blackout โดยแต่ละแบบจะแบ่งความรุนแรงออกเป็น 5 ระดับ และพายุแต่ละแบบ แต่ละระดับ ก็จะส่งผลกระทบที่แตกต่างกัน ดังนั้น เวลามีผู้ออกมาทำนายหรือคาดการณ์ว่าจะเกิดพายุสุริยะต้องให้ระบุด้วยว่าเป็นพายุสุริยะแบบใด ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างไร หากผู้พูดตอบคำถามไม่ได้แสดงว่าผู้พูดมั่ว

 ดร.ไพบูลย์กล่าวว่า กรณีมีหลายคนเชื่อมโยงการเกิดแผ่นดินไหวว่าสัมพันธ์กับการเกิดพายุสุริยะ มีข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์หลายข้อที่สรุปได้ว่าพายุสุริยะไม่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว เนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวเป็นการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกโดยธรรมชาติ หรือเกิดจากการ กระตุ้นของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเขื่อน การทำเหมืองขุด การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ หรือภูเขาไฟระเบิด เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกวัน วันละหลายครั้ง และไม่มีฤดูกาล นอกจากนี้ การเกิดแผ่นดินไหวก็ไม่ได้เกิดแบบสะเปะสะปะ แต่เกิดในที่ที่ควรจะเกิด เช่น บริเวณวงแหวนไฟ หรือรอยเลื่อนต่างๆ

 "ปัจจุบันมีการออกมาทำนายเรื่องแผ่นดินไหวของหลายฝ่าย แต่การทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหว ผู้ทำนายต้องระบุด้วยว่าแผ่นดินไหวดังกล่าวจะเกิดขึ้นที่ไหน เวลาใด และรุนแรงมากแค่ไหน หากขาดไปข้อใดข้อหนึ่งก็ไม่ถือว่าทำนายถูก ที่ผ่านมาในหลายประเทศมีมาตรการเกี่ยวกับการคาดการณ์แผ่นดินไหว ไม่ว่าจะเป็นประเทศอิตาลีที่สั่งจำคุกนักวิทยาศาสตร์ 7 คน จำนวน 6 ปี ด้วยข้อหาไม่แจ้งการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เมื่อเดือนเม.ย. เมื่อปี 2009 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 309 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1,500 ราย ที่ประเทศจีน ออกกฎหมายห้ามแสดงความเห็นว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหากไม่มีข้อมูลวิทยาศาสตร์เพียงพอ ขณะที่ประเทศไทย ทุกคนออกมาคาดการณ์และทำนายเรื่องแผ่นดินไหวได้อย่างเสรี ทำให้ประชาชนตื่นกลัวและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ" ดร.ไพบูลย์ระบุ

 วันเดียวกัน นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตรัง เปิดเผยว่า จากกระแสข่าววันสิ้นโลก 21 ธันวาคม 2012 ตามปฏิทินชาวมายานั้น แม้เป็นเพียงกระแสข่าวลือและยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ยอมรับว่ามีผลกระทบทางจิตใจผู้คนพอสมควร อย่างไรก็ตาม ในส่วนการท่องเที่ยวจังหวัดตรังยืนยันว่ายังไม่มีนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางที่จองไว้ล่วงหน้า มีเพียงบางส่วนยังลังเลรอดูสถานการณ์ แต่ส่วนใหญ่มีลูกค้าให้ความสนใจแห่จองทัวร์ ทำให้ยอดโรงแรมกับที่พักเต็มแล้วกว่าร้อยละ 80 ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก

 "กระแสข่าวลือวันสิ้นโลกที่ออกมาเหมือนกับข่าวการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งทำให้คนไทยส่วนใหญ่รู้สึกชินชากับกระแสข่าวลือหลายครั้งที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด เพราะรู้จักใช้ดุลพินิจแยกแยะข้อเท็จจริงได้ แต่กับคนอีกกลุ่มหนึ่งอาจรู้สึกไม่กล้าเดินทางท่องเที่ยว เพราะตื่นตระหนกหวาดกลัวกับกระแสข่าวดังกล่าว ทำให้ไม่มีความสุขเหมือนคนอื่น ดังนั้น จึงอยากให้แง่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่วงหน้าไม่มีใครล่วงรู้ได้ หากมัวแต่ปฏิเสธการเดินทางก็จะทำให้เราไม่มีความสุขใดๆ" นายประทีปกล่าว

 สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกระแสวิตกกังวลเรื่องวันสิ้นโลก 21-12-2012 ที่ผู้คนตามชาติต่างๆ แห่เตรียมพร้อม ทั้งซื้อของกักตุน และสร้างที่อยู่อาศัยสารพัดรูปแบบเพื่อรับมือกับวันโลกาวินาศตามความเชื่อทางปฏิทินของชนเผ่ามายัน ด้านองค์การนาซ่าแถลงเพื่อลดความตื่นกลัวของชาวอเมริกัน หลังมีกระแสข่าวลือว่าปีนี้จะไม่มีวันคริสต์มาสให้เฉลิมฉลอง เพราะโลกสิ้นสุดในวันที่ 21 ธ.ค.

 นายเดวิด มิริสสัน เจ้าหน้าที่นาซ่าระบุว่า มีผลสำรวจหนึ่งรายงานว่าชาวอเมริกัน 25 ล้านคนเชื่อว่าวันที่ 21 ธ.ค.นี้คือวันสิ้นโลก บางคนเตรียมของอุปโภคบริโภค ขณะที่บางกลุ่มคิดฆ่าตัวตายหมู่ ข่าวนี้ทำให้ตนเป็นห่วงกับการแพร่กระจายของอุปทานหมู่ ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดัน และทำให้อีกหลายคนเกิดความกลัวโดยไม่มีเหตุผล

 "จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ในวันที่ 21 ธ.ค.อย่างแน่นอน สิ่งที่น่ากังวลจริงๆ คืออเมริกันหลายล้านคนกำลังสะสมอาวุธปืน กระสุน และอาวุธต่างๆ ตนไม่รู้ว่าคนพวกนี้จะกักตุนอาวุธไว้เพื่อทำอะไร และได้แต่หวังว่าคนกลุ่มนี้จะหลบอยู่ในที่ที่ปลอดภัยโดยไม่ก่อเหตุร้ายแรง" นายเดวิดกล่าว

 นายรอน ฮับบาร์ด เจ้าของธุรกิจที่พักหลบภัยจากเมืองมอนเตเบลโล รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ กล่าวว่า เชื่อในคำนายเรื่องวันโลกาวินาศ จึงสร้างที่พักสำหรับหลบหนี มีลักษณะเป็นโพรงทรงกระบอกฝังไว้ใต้ดิน ขนาด 45 ตร.ม. สูง 3 เมตร ยาว 15.24 เมตร ทำจากวัสดุกันระเบิด นิวเคลียร์ และอาวุธเคมี ภายในมีห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ พื้นบุด้วยไม้ มีโซฟาหนัง และโทรทัศน์สีจอใหญ่ ราคาหลังละ 46,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.38 ล้านบาท

 รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า กระแสโลกแตกทำให้รายได้ของนายฮับบาร์ดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดือนหนึ่งจะรับออร์เดอร์ทำที่หลบภัย 1 หลัง แต่ในปีนี้มีคนสั่งทำที่หลบภัยมากถึงวันละ 1 หลัง ส่วนชาวอเมริกันอีกราย (ไม่ระบุชื่อ) สร้างบ้านพักรับวันสิ้นโลกบนพื้นที่ขนาด 2.529 ไร่ในเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส มีพร้อมทั้งรั้วลวดหนามรอบอาคาร และผนังกันกระสุน

 ที่ประเทศจีน นายหลิว ซีหยวน เกษตรกรชาวจีนวัย 45 ปี จากมณฑลเหอเป่ย ลงทุนสร้างบ้านทรงกลมด้วยเงิน 2 ล้านหยวน หรือราว 10 ล้านบาท เพื่อรับมือกับน้ำท่วมโลกในวันสิ้นโลก โดยบ้านดังกล่าวได้รับการขนานนามว่า "เรือโนอาห์" มีน้ำหนักถึง 4.2 ตัน แต่ลอยน้ำได้ ภายในบรรทุกคนได้ 30 คน มีเข็มขัดนิรภัย ถังออกซิเจน ที่ปั่นไฟฟ้า แบตเตอรี่ และเสบียงอาหาร สามารถประทังชีพผู้โดยสารได้อย่างน้อย 2 เดือน นอกจากนี้ ชาวจีนหลายคนยังแห่ซื้อเทียนไขมากักตุน เพราะเกรงว่าวันที่ 21 ธ.ค.จะเกิดไฟดับ

 ที่เนเธอร์แลนด์ มีรายงานการสร้างเรือโนอาห์เช่นกัน โดยนายโยฮัน ฮุยเบอร์ส ศิลปินชาวดัตช์ซึ่งฝันร้ายว่าจะมีน้ำท่วมโลก ได้สร้างเรือใหญ่ขนาดครึ่งหนึ่งของเรือไททานิก และจอดรอการขนย้ายผู้คนในวันที่ 21 ธ.ค. บริเวณท่าเรือเมือง ดอร์เดรชต์

 ส่วนที่ฝรั่งเศสเกิดกระแสข่าวลือว่าหมู่บ้านบูการัช บนเทือกเขาสูงทางตอนใต้เป็นสถานที่ปลอดภัยแห่งเดียวในวันสิ้นโลก เนื่องจากมีผู้คาดการณ์ว่าหินเก่าแก่บนเทือกเขาที่ล้อมรอบจะถล่มลงมาปิดครอบหมู่บ้านในลักษณะเหมือนถ้ำ สามารถปกป้องชาวบ้านจากการโจมตีของมนุษย์ต่างดาวได้ ส่งผลให้สภาหมู่บ้านต้องเตรียมรับมือกับกลุ่มคนที่จะหลั่งไหลเข้ามา พร้อมขอกำลังตำรวจ ทหาร และหน่วยดับเพลิงเพื่อปิดกั้นเส้นทาง ห้ามการชุมนุม และสั่งจับคนที่ฝ่าฝืนเข้ามายังหมู่บ้าน

 สำนักข่าวต่างประเทศระบุอีกว่า นอกจากกระแสสิ้นโลก 21-12-2012 แล้ว ยังมีมุมมองในทางกลับกันที่เชื่อว่าวันดังกล่าวคือวันแห่งการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งกลุ่มผู้สนับสนุนทฤษฎีนี้รวมตัวจัดตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวการเกิดปี 2012 โดยอ้างว่ามีผู้คนทั่วโลกกว่า 100 ล้านคนลงชื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีกระแสการแต่งงานรับวันสิ้นโลกที่ครึกครื้น โดยเฉพาะที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ มีคู่รักหลายพันคู่จองโบสถ์ที่มีอยู่ราว 80 แห่ง เพื่อทำพิธีแต่งงานในวันที่ 21ธ.ค.ด้วย


 โดยข่าวสดหน้า 1
บันทึกการเข้า
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 09:28:39 PM »

โลกไม่แตก แย่แน่! หนุ่มฮ่องกงลาออกงาน ใช้เงินจนหมดก่อนสิ้นโลก

สำนักข่าวของฮ่องกงรายงานว่าชายชาวฮ่องกงวัย 40 ปีรายหนึ่ง ทำงานด้านไอทีเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว และใช้จ่ายอย่างประหยัด ได้ลาออกจากงานและขายแฟลตที่อยู่พร้อมข้าวของทั้งหมด เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว

ทั้งนี้เขานำเงินที่ได้ไปใช้อย่างเปรมปรีดิ์ ทานอาหารหรู พักโรงแรมชั้นดี รูดบัตรเครดิต รวมทั้งมีการขอยืมเงินคนอื่น เพราะต้องการจะหาความสุขใส่ตัวก่อนวันที่ 21 ธ.ค. หรือวันสิ้นโลกจะมาถึง โดยไม่ฟังสียงทัดทานจากครอบครัว

ขณะที่นักจิตวิทยา กล่าวว่า ชายผู้นี้อาจพินาศไปกับกองหนี้มหาศาลที่สร้างขึ้นมา หากวันสิ้นโลกไม่เกิดขึ้น ซึ่งยังมีผู้ป่วยในลักษณะนี้อีก 8 คน นักจิตวิทยาแนะนำว่าครอบครัวและคนรอบข้างต้องเข้าใจพฤติกรรมของคนเหล่านี้ คอยเป็นกำลังใจ อย่าไปตำหนิ ซึ่งคนเหล่านี้มีความเสี่ยงที่ต่อความเครียดจนอาจฆ่าตัวตายก่อนวันสิ้นโลกจะมาถึง

news.mthai.com
บันทึกการเข้า
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12096

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 07:24:30 AM »

ต้องปล่อยเขาไป ตามกรรมของเขา
บันทึกการเข้า

Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 07:30:39 AM »

ใช่แล้วครับผม ท่านพรเทพ  Cool
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18677


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2013, 09:06:42 PM »

ระทึกกว่าดูหนัง! อุกกาบาตพุ่งตกในรัสเซีย บาดเจ็บ 102 ราย



สำนักข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ว่า เกิดเหตุวัตถุปริศนาจากท้องฟ้าตกในรัสเซีย ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดตูมใหญ่ และทำให้มีผู้บาดเจ็บราว 100 คน

รายงานระบุว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น บริเวณเหนือเทือกเขาอูรอล ในแถบเชเลียบินสก์ ประเทศรัสเซีย จู่ ๆ ก็มีควันเมฆขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้าเป็นทางยาวเหยียด คล้ายกับเครื่องบินไอพ่น ก่อนที่วัตถุปริศนาซึ่งคาดว่าจะเป็นอุกกาบาต หรือสะเก็ดดาว จะระเบิดบนชั้นบรรยากาศ ส่งเสียงดังไปทั่ว จนทำให้กระจกแตก ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนบางส่วนเสียหาย และโทรศัพท์มือถือใช้การไม่ได้

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 102 คน ส่วนใหญ่บาดเจ็บจากเศษกระจกที่แตกเพราะเสียงระเบิด นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เศษอุกกาบาตได้ทำให้กำแพงโรงงานผลิตสังกะสีเสียหาย

ขณะที่บางแหล่งข่าวก็ได้รายงานว่า อุกกาบาตตกลงมาลูกเดียวเท่านั้น และยังไม่มีคำชี้แจงหรือคำยืนยันจากนาซา ว่าเป็นอุกกาบาตจริงหรือไม่ ส่วนสื่อมวลชนรัสเซียเอง ได้เผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการยิงมิสไซล์สกัดกั้นอุกกาบาตของทางการรัสเซีย และมิสไซล์ก็ได้ทำให้อุกกาบาตแตกเป็นเสี่ยงเหนือผิวโลก 20 กิโลเมตร แต่รายงานดังกล่าวก็เป็นเพียงข่าวลือ ยังไม่ได้รับการยืนยันจากกองทัพอากาศ หรือองค์กรการบินและอวกาศในรัสเซียแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ทางการรัสเซียได้นำเครื่องบินขึ้น 3 ลำ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่เสียหายแล้ว ขณะที่หลังเกิดเหตุ มีผู้เห็นเหตุการณ์ที่ได้บันทึกภาพปรากฏการณ์ดังกล่าวไว้ นำคลิปวิดีโอที่ถ่ายได้มาเผยแพร่เป็นจำนวนมาก

-------------------------------
ดูทั้งหมดได้ที่ http://www.leksound.net/UBMTHAI/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2/
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18677


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2013, 10:48:04 AM »


วันที่ 16 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (นาซ่า) แถลงว่า ดาวเคราะห์น้อย "2012 เอดี 14" ที่มีขนาดเทียบเท่าสระว่ายน้ำโอลิมปิก โคจรผ่านโลก โดยอยู่ห่างเพียง 27,700 กิโลเมตร ใกล้กว่าการโคจรรอบโลกของดาวเทียม เมื่อเวลาประมาณ 14.25 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 02.25 น.เช้านี้ตามเวลาประเทศไทยซึ่งถือเป็นการโคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุดของดาวเคราะห์น้อย ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อุกกาบาตตกทางตอนกลางของรัสเซียสายวานนี้ (15 ก.พ.) เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 เหตุการณ์มาจากทิศทางที่ต่างกัน และเชื่อว่า เหตุการณ์อุกกาบาตระเบิดเหนือเมืองเชเลียบินสก์ เทือกเขาอูราล ทางตอนกลางของรัสเซีย เป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็ก ประมาณ 15 เมตร หรือใหญ่กว่าขนาดรถยนต์ขนาดเล็ก 2 เท่า เดินทางด้วยความเร็วประมาณ 18 กม.ต่อวินาที และมีน้ำหนักราว 7,000 ตัน

ด้าน องค์การวิทยาศาสตร์รัสเซียระบุว่า อุกกาบาตลูกดังกล่าวร่วงลงมาจากท้องฟ้า เหนือเขตไซบีเรียตะวันตก กลายเป็นแสงสว่างวาบ และเกิดการระเบิดเหนือพื้นดินราว 30-50 กิโลเมตร แรงระเบิดส่งผลกระทบต่อพื้นที่เป็นบริเวณกว้างถึง 1 แสนตารางเมตร ทำให้อาคารกว่า 3 พันหลังในเมือง 'เชเลียบินสค์' เสียหาย กระจกแตกและปลิวกระจาย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เพราะผู้คนยืนชิดกระจก เพื่อดูแสงสว่างวาบช่วงหนึ่ง ขณะที่อุกกาบาตกำลังร่วงจากท้องฟ้า

กระทรวงมหาดไทยรัสเซียระบุว่า มีประชาชนราว 1,100 คนต้องเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บ ส่วนใหญ่จากกระจกบาด โดยยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนชิ้นส่วนของอุกกาบาตโดยตรง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!