วงาวียน22กรกฏา
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 08, 2024, 07:21:51 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วงาวียน22กรกฏา  (อ่าน 12016 ครั้ง)
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3004


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« เมื่อ: สิงหาคม 01, 2011, 04:56:20 PM »


เมื่อ2490

ใครไม่รู้เขียนไว้แบบนี้
ในประเทศของเรา มีประวัติศาสตร์บันทึก เอาไว้ว่า รัฐบาลสร้างวงเวียน 22 กรกฏา เพื่อรำลึกถึงการที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงตัดสินใจนำประเทศเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2460 อันเป็นผลประโยชน์อย่างยิ่งทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศของชาติ นับเป็นโชคดีของประเทศชาติที่ในสมัยนั้นเรายังไม่มีนักการเมืองสารเลวเหมือนทุกวันนี้ ถ้าเกิดสงครามโลกขึ้นอีกวันนี้ พวกนักการเมืองบัดซบหลายคน คงจะหาทางออกกฏหมายให้ประเทศไทยเข้าร่วมกับฝ่ายที่จ่ายเงินให้มันมากที่สุด ประเทศชาติจะล่มจมพินาศน์อย่างไรมันคงไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวว่าจะได้เงินเท่าไหร่ และจะหนีไปอยู่ที่ประเทศไหนกับพ่อของมันดี วันที่ 22 กรกฏาคม จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่เตือนพวกเราให้ร่วมใจกันสนับสนุนการเมืองใหม่ ที่มีจริยธรรม[/img]
ชวิตเมื่อวันวานที่เลือกไม่ได้


ชีวิตโสเภณี "วงเวียน22" ขายตัว20บ. แลกอยู่รอด

 


อนาถโสเภณีวงเวียน 22 ยอมพลีร่างแลกเงิน 20 บาท ซื้อข้าวประทังชีวิต สนองราคะขี้เมาซาดิสต์ จิตแพทย์ระบุหญิงขายตัวเสี่ยงป่วยโรคจิตมากกว่าคนปกติ พม.ส่งนักสังคมสงเคราะห์ฝึกอาชีพ ด้าน ผอ.สำนักโรคเอดส์ชี้หญิงขายบริการใน กทม.เป็นเอดส์ร้อยละ 17

ใครที่สัญจรผ่านวงเวียน 22 กรกฎา ย่านเยาวราช กทม. คงเคยเห็นภาพผู้หญิงแฝงตัวอยู่ตามซอกตึกเสนอขายบริการทางเพศจนชินตา แต่จะมีสักกี่รายที่ทราบว่าหญิงขายบริการเหล่านี้ต้องพบเจออะไรบ้าง เพื่อให้ได้เงินแค่ 20 บาท แลกกับอาหารประทังชีวิต

"คม ชัด ลึก" สำรวจความเป็นอยู่ของหญิงขายบริการในย่านวงเวียน 22 กรกฎา พบว่าหญิงขายบริการหลายคนต้องยอมขายศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงแลกกับเงินเพียงไม่กี่บาท โดย "คม ชัด ลึก" ได้พูดคุยกับ "นางสี" วัย 30 ปี ที่ยึดซอกตึกใกล้โรงแรมจิ้งหรีดแห่งหนึ่งริมถนนมิตรสัมพันธ์ ห่างจากวงเวียน 22 กรกฎา ไม่เกิน 50 เมตร ขายบริการมานานหลายปี เป็นหนึ่งในหญิงบริการที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในธุรกิจค้าเรือนร่างมายาวนาน ซึ่งนางสีย้อนลำดับความหลังให้ "คม ชัด ลึก" ทราบว่าต้องวนเวียนมาขายบริการที่วงเวียน 22 กรกฎา แทบทุกวัน แต่ไม่ได้หมายความว่าชื่นชอบในอาชีพนี้ เพียงแต่ไม่รู้จะไปทำอะไรที่ดีกว่านั้น

นางสี กล่าวว่า คนเราทุกคนเมื่อท้องหิวไม่ว่างานอะไรหากมีค่าแรงย่อมทำทั้งนั้น ตนก็เช่นกัน หากเลือกได้คงไม่มาขายบริการ เพราะการขายตัวแลกเงินเหมือนกับการขายวิญญาณ ผู้หญิงจะหลับนอนกับใครสักคนมันเป็นเรื่องที่ยากหากคนคนนั้นไม่ใช่คนที่รัก โสเภณีก็มีหัวใจ หากเลือกได้คงไม่มาขายตัว บางครั้งทำงานไปร้องไห้ไป บอกไม่ถูก เหมือนถูกย่ำยี มันไม่ได้สนุกเลย แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อท้องมันหิว ตามันลาย ถ้าไม่ทำอาชีพนี้จะให้ไปทำอะไร

ปัจจุบัน "นางสี" เสนอขายบริการในราคา 300 บาท ในจำนวนนี้รวมค่าเช่าห้องในโรงแรมจิ้งหรีด ชั่วคราว 120 บาท ด้วยราคานี้จะให้บริการแก่ลูกค้านาน 30 นาที ซึ่งราคา 300 บาท สำหรับร่วมหลับนอนกับแขก 1 ครั้ง ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับหญิงบริการอายุ 30 ปีเช่นเธอ ลูกค้าหลายคนเลือกที่จะมีอะไรกับหญิงบริการสาวๆ อายุ 20 ต้นๆ มีเพียงไม่กี่ครั้งที่นางสีสามารถเรียกเงินเต็มอัตราจากชู้รักชั่วคราวที่แวะเวียนมาเช่าไปหลับนอน ส่วนใหญ่ราคาที่ตกลงกันได้จะอยู่ที่ 200 บาทต่อครั้ง เมื่อหักค่าห้องและค่าถุงยางอนามัยแล้ว จะมีเงินจากการขายบริการครั้งละ 60 บาทเท่านั้น

"ทุกวันนี้มีลูกค้าวันละไม่เกิน 2 คน บางวันไม่มีเลย วันไหนไม่มีลูกค้าก็ไม่มีเงินสักบาท โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนเป็นช่วงที่แย่มากๆ ไม่มีลูกค้าเรียกใช้บริการเลย ไม่มีเงินก็ไม่มีข้าวกิน ท้องไส้แสบไปหมด ทุกครั้งที่เป็นอย่างนี้ลูกค้าต่อราคาเหลือ 20 บาทก็ต้องเอา ถุงยางก็ไม่ได้ใช้ เพราะไม่มีเงินซื้อ ลูกค้าเขาไม่สนใจหรอก เพราะเขาเมามา หรือไม่บางครั้งก็อาศัยซื้อเชื่อจากพ่อค้ารถเข็นส้มตำ คอหมูย่าง ที่ผ่านมาขายเป็นประจำทุกวันจนสนิทสนมกัน บางครั้งไม่มีเงินจ่ายก็ต้องใช้ตัวแลกกับหนี้สิน" นางสี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

นางสี บอกว่า ทุกปลายเดือนจะรู้สึกแย่มาก ไหนลูกค้าไม่ค่อยมี แล้วยังต้องอาศัยจับกรรมกรรับจ้างขนของในหัวลำโพง คนกลุ่มนี้จะเมาแล้วจึงมาใช้บริการ อีกทั้งมีเงินไม่มากเขาให้ 20 บาทก็ต้องเอาดีกว่าไม่ได้เลย พร้อมกันนี้นางสีบอกด้วยว่า ทุกครั้งที่ให้บริการลูกค้าขี้เมาเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น พวกเขาจะไม่รู้เนื้อรู้ตัว บางรายซาดิสต์ชอบใช้ความรุนแรง แถมเอะอะโวยวาย ไม่พอใจก็ทำร้าย บางรายเมาแล้วอึด เสร็จช้า จนระบมไปทั้งตัว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องหลับหูหลับตาทำ บางครั้งต้องยอมมีอะไรกับแขกเหล่านี้ทั้งน้ำตา

จากการสำรวจของ "คม ชัด ลึก" พบว่า นอกจากนางสีแล้วที่วงเวียน 22 กรกฎา โดยเฉพาะถนนมิตรสัมพันธ์ ยังมีหญิงขายบริการอีกไม่ต่ำกว่า 50 ราย ยืนเรียงรายรอแขกมาเรียกใช้บริการ อายุระหว่าง 20 ปลายๆ ไปจนถึง 40 ปีเศษ โดยผู้ที่อายุน้อยหน่อย และรูปร่างหน้าตาดีก็จะมีแขกเรียกใช้บริการบ่อยกว่าหญิงสูงวัย จากการสังเกตพบว่า ขณะที่หญิงขายบริการยืนเรียกแขกอยู่ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนสัญจรผ่านหน้า พวกเธอจะตรงเข้าไปเสนอขายบริการ แม้กระทั่งชายชราปั่นจักรยานผ่านก็ยังถูกพวกเธอกวักมือเรียก

"วันชัย" กรรมกรย่านหัวลำโพง วัย 40 ปี หนึ่งในลูกค้าของหญิงขายบริการวงเวียน 22 กรกฎา เปิดเผยว่า บ่อยครั้งที่ใช้บริการกับผู้หญิงกลุ่มนี้ โดยเฉพาะช่วงใกล้สว่าง เพราะราคาถูกแค่ 40-50 บาท ยิ่งใกล้สิ้นเดือนยิ่งถูก 20 บาทก็เอา ส่วนสถานที่ปฏิบัติกิจเท่าที่ประสบมา ผู้หญิงกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเช่าโรงแรมจิ้งหรีดไว้เป็นรายเดือน ก็จะไปที่ห้องของเธอ บางครั้งก็ไม่ได้สวมถุงยางอนามัย อยู่ที่ว่าตอนไปเมาหรือเปล่า หากไม่เมาก็จะใช้ แต่หากเมามากก็ไม่รู้ตัว บางครั้งสร่างเมาแล้วยังถามตัวเองเลยว่า นอนกับผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร เพราะทั้งอ้วนทั้งแก่

น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หญิงขายบริการเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคจิตได้มากกว่าคนปกติทั่วไป เนื่องจากเกิดความกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับในอาชีพที่ทำอยู่ และยิ่งต้องทนร่วมเพศกับชายขี้เมา ถูกทำร้ายก่อนร่วมเพศ อาจทำให้หญิงขายบริการรู้สึกขยะแขยง และรู้สึกว่าถูกล่วงละเมิดทางอารมณ์ ก็จะยิ่งกดดันสภาพจิตใจให้เกิดลุกลามกลายเป็นผู้ป่วยโรคจิตได้ง่าย

"หากหญิงขายบริการรายใดตกอยู่ในสภาวะเหล่านี้ ก็ไม่ควรทนขายบริการต่อ ให้เปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่นทำจะดีที่สุด แต่เข้าใจว่าการขายบริการเป็นอาชีพที่ง่าย ได้เงินง่ายไม่ต้องทนลำบาก ส่วนใหญ่ผู้หญิงขายบริการจะเป็นคนที่รักความสบาย ทำให้ตกอยู่ในวังวนของธุรกิจประเภทนี้" น.พ.ทวีศิลป์ กล่าว

ด้าน นางนภา เศรษฐกร ผอ.สำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าหญิง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า จากนี้ไปจะส่งนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา เข้าไปพูดคุยกับหญิงขายบริการวงเวียน 22 กรกฎา พร้อมกับเกลี่ยกล่อมให้เลิกทำอาชีพนี้ โดยจะนำไปฝึกอบรมและส่งเสริมให้ประกอบอาชีพอื่นแทน เช่น การนวดแผนไทย ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน

ขณะที่ น.พ.สมบัติ แทนประเสริฐสุข ผอ.สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมควบคุมโรคเข้าไปตรวจสอบหญิงขายบริการอิสระในเขต กทม.มาโดยตลอด แต่เข้าถึงได้ยาก เนื่องจากหญิงขายบริการจะปกปิดตัวเอง ไม่ยอมให้เข้าถึงตัวได้ง่าย ทำให้การตรวจสอบเรื่องการติดโรคเอดส์ทำได้ยากตามไปด้วย จึงเป็นเรื่องอันตรายกับผู้ที่เข้าไปใช้บริการ หากไม่มีการป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัยด้วยแล้วแทบจะมั่นใจได้เลยว่า ผู้ใช้บริการทางเพศมีโอกาสเสี่ยงติดโรคสูงมาก

ทั้งนี้ จากการสำรวจจำนวนหญิงขายเฉพาะในเขต กทม.โดยกรมควบคุมโรค เท่าที่ตรวจสอบได้มีอยู่ทั้งสิ้น 18,689 ราย โดยจำนวนนี้เป็นยอดรวมโสเภณีทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ป่วยโรคเอดส์รวมอยู่ด้วยร้อยละ 17 หากใครที่จะเข้าไปใช้บริการก็ควรระมัดระวังตัวให้มาก


บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13303


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2011, 05:41:06 PM »

อนาถประเทศไทยที่เป็นประเทศกระหรี่

ถ้าโสเภณี ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ถูกกฏหมาย

ก็จะไม่สะเทือนใจแบบนี้

ผมเคยไปใช้บริการตอนหนุ่มๆ แถวนี้ผมไปบ่อย

เสร็จจากนี่อีกที่นี่ผมไปบ่อย อีกที่ก็  ฮาแลม ไกล้ๆหัวลำโพง

 

ทั่วโลก กระหรี่มีทุกประเทศ

แต่เค้าจะทำให้เป็นอาชีพที่ถูกกฏหมายแล้วเก็บภาษีเข้ารัฐ
บันทึกการเข้า
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12093

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2011, 08:49:09 AM »

คนเรามีกรรมเป็นที่ตั้ง

ก็ไปทำอาชีพที่ผิดศีล แล้วจะถามหาความเจริญ มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว

ถ้าทำอาชีพที่ผิดศีลแล้วเจริญได้ คำสอนของพระพุทธเจ้าก็ผิดสิ
 กรรมไม่ใช่ว่าต้องเป็นสิ่งที่ทำมาตั้งชาติภพก่อน
กรรมที่ทำวันนี้ หรือเดียวนี้ ก็ส่งผลในเวลาต่อมา คือหลังจากนี้ ส่วนจะนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผลกรรมที่ได้ทำไป
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!