พิมพ์หน้านี้ - “สัพพปาปัสสะอกรณัง(วิธีกสิกรรมแบบพุทธ)

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

สารพัดช่าง-แนวทางอาชีพ => ●การเกษตร => ข้อความที่เริ่มโดย: b.chaiyasith ที่ ตุลาคม 02, 2009, 05:55:24 PM



หัวข้อ: “สัพพปาปัสสะอกรณัง(วิธีกสิกรรมแบบพุทธ)
เริ่มหัวข้อโดย: b.chaiyasith ที่ ตุลาคม 02, 2009, 05:55:24 PM
พูดถึงการทำกสิกรรมธรรมชาติ หลายคนที่ทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ก็คงจะเหนื่อยและท้อถอยไปบ้าง จึงอยากจะเสนอ การทำกสิกรรมธรรมชาติแบบพุทธโอวาทปาติโมกข์ บ้าง กล่าวคือ

     เริ่มตั้งแต่ “สัพพปาปัสสะอกรณัง” ไม่นำสิ่งที่เป็นพิษลงไปในดิน ซึ่งจะทำให้สิ่งมีชีวิตในดินตาย โดยเฉพาะจุลินทรีย์ที่สร้างสรรค์สิ่งดีให้แก่ดิน แต่จะส่งเสริมสิ่งมีชีวิตที่สร้างความเสื่อมโทรมให้ดิน ดังนั้นเราต้องปราบอกุศลก่อน คือ จุลินทรีย์กลุ่มทำลายที่อยู่ในดินบริเวณนั้นก่อน โดยการเลิกนำสารเคมีทุกชนิดมาลงในพื้นที่ และนำจุลินทรีย์กลุ่มสร้างสรรค์มาครองพื้นที่แทน แล้วสรรพชีวิตในดินจะเปลี่ยนไปตามกระแสระบบวงจรการสร้างสรรค์ มิฉะนั้นแล้วปุ๋ยและอินทรียวัตถุที่ท่านนำมาใส่ลงดินก็เท่ากับขนเสบียงอาหารมาให้โจรร้ายขยายอาณาเขต และเพิ่มพลพรรคมากขึ้นอีก เปรียบเหมือนคนที่ตกอยู่ใต้อารมณ์ของกิเลสที่ถูกเร้าด้วยการโฆษณา การกระทำทุกอย่างแม้จะออกมาดูเหมือนดี แต่ก็เป็นไปเพียงเพื่อเสริมกิเลสให้โตขึ้น

     พร้อมกันนั้นเราต้องทำ “กุสลัสสูปสัมปทา” ไปพร้อมๆกันด้วย กล่าวคือ ต้องนำสิ่งดีคืนสู่ดินด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมให้ดิน โดยการนำเอาอินทรียวัตถุที่เรามีในพื้นที่มาปกคลุมดิน เพื่อป้องกันจุลินทรีย์จากการถูกแดดเผาตาย และปลูกพืชหมุนเวียนลงไปโดยไม่ต้องลงทุนไปขนอินทรียวัตถุจากแหล่งอื่น ซึ่งขอบอกว่าอาหารและแร่ธาตุในดินนั้นพอเพียงสำหรับพืช ถ้าไม่ถูกจุลินทรีย์กลุ่มทำลายแย่งไปกินเสียก่อน เมื่อเราสร้างระบบห่วงโซ่อาหารให้ดำเนินไปในทิศทางสร้างสรรค์และต่อเนื่อง นี่ก็คือมรรควิธีที่จะเดินไปสู่ “สจิตตปริโยทปนัง”

     เนื่องจากเราเข้าใจผิดว่า การทำกสิกรรมธรรมชาติ คือไม่ทำอะไรเลย จึงเกิดทางสุดโต่ง 2 ทาง คือทางหนึ่งเดินไปสู่เส้นทางของฤๅษี กล่าวคือไม่ทำอะไรเลยรอให้ดินผลิตอาหารและพืชขึ้นมาเอง อย่างดีก็แค่หว่านหรือหยอดเมล็ดลงไป รอให้ดินบันดาลผลเองและอดทนรอคอยเท่าที่จะรอได้ เมื่อรอไม่ไหวแล้วก็ตบะแตก จึงไปขนปุ๋ยและอินทรียวัตถุมาใส่ให้มากๆ โดยไม่รู้ตัวว่ามีโจร คือ จุลินทรีย์กลุ่มทำลายนั่งยิ้ม รอกินอินทรียวัตถุอยู่ ไม่ฆ่าอกุศลก่อน มุ่งแต่จะทำแต่กุศลให้มากๆ อาจจะดูดี แต่เมื่อหมดอุตสาหะทำดีลงเมื่อใดอกุศลก็จะกลับมาครอบครองหัวใจดังเดิม

     ถ้าเราเดินทางสู่มรรควิธีกสิกรรมแบบพุทธแล้ว เราก็มีอันหวังได้ว่าจะเจริญไปตามลำดับเท่าที่เราจะมีความเพียร.

ขอบคุณแหล่งที่มา : หนังสือ น้ำหมักชีวภาพและจุลินทรีย์พื้นบ้าน Ensyme Ionic Plasma by Indigenous Microorganisms