เสียงค้าน ธปท.ไม่เป็นผล 'เปิด 4 ข้อกังวล' ครม.ไม่ควรอนุมัติ 'เงินดิจิทัล'
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 05, 2024, 09:25:14 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสียงค้าน ธปท.ไม่เป็นผล 'เปิด 4 ข้อกังวล' ครม.ไม่ควรอนุมัติ 'เงินดิจิทัล'  (อ่าน 219 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13282


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 25, 2024, 06:16:22 AM »



    ธปท.ส่งหนังสือถึง ครม.เสนอ 4 ประเด็นค้านเงินดิจิทัล
ใช้งบประมาณจำนวนมาก
เสี่ยงประเทศไทยถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ
กระทบงบประมาณโครงการอื่น
ห่วงสภาพคล่อง ธ.ก.ส. โครงการเปิดช่องการทุจริต
แนะใช้พร้อมเพย์แทนซุปเปอร์แอป


นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567
เพื่อเสนอเป็นความเห็นประกอบการพิจารณา
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567

ธปท.ได้เสนอความเห็นที่มีความยาว 5 หน้า ระบุว่า
ด้วยโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ
ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ใช้งบประมาณจำนวนมาก
และก่อให้เกิดภาระผูกพันต่อรัฐบาลในระยะยาว

ดังนั้น เพื่อให้ ครม.ได้รับข้อมูลและความเห็น
ที่ครบถ้วนประกอบการพิจารณานโยบายสำคัญนี้

ธปท.จึงขอเสนอความเห็น และข้อสังเกตสำคัญที่ได้เคยแจ้ง
ต่อคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท
ผ่าน Digital Wallet และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน
โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet รวมถึง
ข้อห่วงใยอื่น ดังนี้


1.ความจำเป็นในการดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ


1.1 ควรทำโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
ในขอบเขตที่ครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย
ที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น (targeted =กำหนดเป้าหมาย)
เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ
ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ อย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า
และใช้งบประมาณลดลง


โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น
กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือ
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 15 ล้านคน
ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที
และใช้งบประมาณ 150,000 ล้านบาท

เนื่องจากคนกลุ่มรายได้น้อยมีสัดส่วน
การใช้จ่ายเพื่อบริโภคสูงกว่ากลุ่ม รายได้อื่น
และมักซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศมากกว่าสินค้านำเข้า
และควรพิจารณาดำเนินโครงการแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing=แบ่งเป็นระยะ)
เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลังด้วย

ทั้งนี้ ความจำเป็นที่จะกระตุ้นการบริโภคในวงกว้างมีไม่มาก
โดยในปี 2566 การบริโภคภาคเอกชนของไทย
ขยายตัวได้ที่ร้อยละ 7.1 เทียบกับค่าเฉลี่ยช่วงปี 2553 - 2565
ที่ขยายตัวเฉลี่ยที่ร้อยละ 3 ต่อปี

1.2 โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
ก่อให้เกิดภาระทางการคลังจำนวนมากในระยะยาว

และหากไม่สามารถรักษาเสถียรภาพภาระหนี้ภาครัฐได้
จะเพิ่มความเสี่ยงที่ประเทศไทย
จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ เช่น

เกณฑ์การประเมินของ Moody's ได้กำหนดอัตราส่วนภาระดอกเบี้ย
จ่ายต่อรายได้ของประเทศในกลุ่ม Baal (Rating ของไทยในปัจจุบัน)
ไว้ว่าไม่ควรเกินร้อยละ 11

โดยโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
จะทำให้อัตราส่วนดังกล่าวมีแนวโน้มสูงกว่าเกณฑ์นี้ ในปี 2568

1.3 การดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
ที่ใช้วงเงินงบประมาณมูลค่าสูงทำให้ความสามารถ
ในการดำเนินนโยบายการคลังอื่นของรัฐบาลลดลง

และมีความเสี่ยงที่จะมีงบประมาณ
ไม่เพียงพอรองรับในภาวะฉุกเฉิน

การเพิ่มวงเงินกู้ปีงบประมาณ 2568 จนเกือบเต็มกรอบที่กฎหมายกำหนด
ทำให้เหลือวงเงินกู้ได้อีกราว 5,000 ล้านบาท
เทียบกับวงเงินคงเหลือเฉลี่ยในปีก่อน ๆ ที่มากกว่า 100,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ การจัดสรรวงเงินจากงบประมาณปี 2567
ทำให้งบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นลดลง
จนอาจไม่เพียงพอรองรับกรณีฉุกเฉิน
โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์การเมืองโลก
ที่มีความไม่แน่นอนสูงและภาวะภัยธรรมชาติ
ที่มีความรุนแรงมากขึ้น

1.4 รัฐบาลควรพิจารณาถึงความคุ้มค่า
ของการนำงบประมาณ 500,000 ล้านบาท

ไปใช้ลงทุนในโครงการที่จะแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
และยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
ตัวอย่างการใช้งบประมาณที่ผ่านมา ได้แก่

    โครงการพัฒนาบุคลากรการแพทย์ (ใช้วงเงิน เฉลี่ย 3.8 ล้านบาทต่อตำแหน่ง)
    จะสามารถสร้างบุคลากรการแพทย์ได้กว่า 130,000 ตำแหน่ง
    โครงการ เรียนฟรี 15 ปี สำหรับนักเรียนทั่วประเทศ (83,000 ล้านบาทต่อปี)
    จะสามารถสนับสนุนได้นานถึง 6 ปี
    โครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม - ชุมพร (40,000 ล้านบาทต่อสาย) จะพัฒนาได้กว่า 10 สาย
    โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (190,000 ล้านบาทต่อสาย) จะพัฒนาได้กว่า 2 สาย


2. แหล่งเงินสำหรับดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

ตามที่กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเสนอ
วงเงินดำเนินโครงการรวม 500,000 ล้านบาท
ซึ่งมีที่มาจากงบประมาณรายจ่ายต่างปีและต่างประเภท

และอีกส่วนหนึ่งจะมาจากการมอบหมาย
ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินโครงการโดยรัฐบาลจะรับภาระชดเชย
ค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้
ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

การใช้เงินงบประมาณจากแหล่ง ต่าง ๆ
จะต้องมีความสอดคล้องกับกฎหมาย
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึง
ถึงความเสี่ยง ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน

2.1 สิทธิการใช้จ่ายภายใต้โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
จะต้องไม่ขัดแย้งกับการควบคุมระบบเงินตรา

โดยมูลค่าสิทธิใช้จ่ายที่รัฐบาลกำหนดขึ้น
จะต้องมีงบประมาณรองรับเต็มจำนวน (fully earmarked)
และมีแหล่งที่มาของเงินที่เจาะจงชัดเจนในวันเริ่มโครงการ

โดยหากรัฐบาลยังไม่สามารถ earmark งบประมาณเต็มมูลค่า
สิทธิรวมในวันเริ่มโครงการด้วยเหตุใด ๆ เช่น
ไม่สามารถนำเงินงบประมาณส่วนใดมาใช้ได้
ตามเงื่อนไขของกฎหมาย หรือมีความล่าช้าในการพิจารณาอนุมัติ

จะมีผลให้การกำหนดสิทธิใช้จ่ายในส่วนที่ไม่มีงบประมาณรองรับ
เป็นการสร้างวัตถุหรือเครื่องหมายแทนเงินตรา
ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501

2.2 การให้ ธ.ก.ส. ร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการ
เติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต

และให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร
ควรมีความชัดเจนทางกฎหมายว่า
การดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายใต้หน้าที่และอำนาจ

และอยู่ภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ของ ธ.ก.ส.
ตามมาตรา 9 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติธนาคาร
เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509
ประกอบกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ จะต้องกำหนดกลไกการเติมเงินให้เกษตรกร
แยกส่วนจากการเติมเงินให้ประชาชนทั่วไปอย่างชัดเจน
ทั้งอาจต้องจำกัดขอบเขตการใช้จ่ายให้สอดคล้อง
กับวัตถุประสงค์ของ ธ.ก.ส. ด้วย เพื่อไม่ให้เกิด
การใช้งบประมาณผิดประเภท

ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความถูกต้อง
และรอบคอบ จึงเสนอให้คณะรัฐมนตรี
มอบหมายให้กระทรวงการคลัง
หารือคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน
ดังเช่นที่ได้เคยหารือในประเด็นกิจการ
อันพึงเป็นงานธนาคารออมสิน ตามมาตรา 7
แห่งพระราชบัญญัติ ธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 แล้ว

ธปท. ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลความเสี่ยง
และฐานะของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
มีข้อกังวลว่า การที่รัฐบาลจะมอบหมายให้ ธ.ก.ส.
สนับสนุนโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
โดยยังมีภาระหนี้คงค้างกับ ธ.ก.ส.
ถึงประมาณ 800,000 ล้านบาท

อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและความเสี่ยง
ต่อฐานะการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. อย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินการตามพันธกิจ
และกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงิน

จึงควรมีแนวทางชดเชยค่าใช้จ่าย
หรือการสูญเสียรายได้
ให้แก่ ธ.ก.ส. พร้อมทั้ง รับฟังความเห็น
ของคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ก่อนด้วย

3.ผู้พัฒนาและดำเนินการระบบสำหรับ
โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท


ด้วยระบบสำหรับโครงการ DW มีความซับซ้อน
และต้องรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก
จึงต้องเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ
มีความเสถียร และมีความมั่นคงปลอดภัยเพียงพอ

เพื่อไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบ (systemic risk) ธปท.
ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลเสถียรภาพระบบการชำระเงินของ ประเทศ
มีข้อห่วงใยในการพัฒนาและดำเนินการระบบ ดังนี้

3.1 ควรใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เช่น ระบบพร้อมเพย์ และ Thai QR Payment
เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ลดต้นทุนในการพัฒนาระบบ
และใช้ประโยชน์สูงสุด
จากโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่มีอยู่

3.2 ด้วยเงื่อนไขของการใช้สิทธิที่มีความซับซ้อนในหลายมิติ
รวมทั้งการที่ระบบจะมี ลักษณะเป็นระบบเปิด (Open-loop)
ที่ต้องเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการที่หลากหลาย
จึงควรต้องกำหนดโครงสร้าง และสถาปัตยกรรมของระบบที่ชัดเจน
 ตลอดจนวางแผนการพัฒนาและทดสอบที่รัดกุมครบถ้วน

เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบ
อันจะกระทบต่อเสถียรภาพ
ระบบการชำระเงินของประเทศ

ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย
ของระบบและข้อมูล ความถูกต้องเชื่อถือได้ของระบบงานและ
ข้อมูลความต่อเนื่องของการให้บริการ
การจัดการการเข้าถึงข้อมูลธุรกรรม

และการป้องกันภัยไซเบอร์ที่เข้มงวด
รวมทั้งมีกระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวตน
ของประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐาน
ตามระดับความเสี่ยงของภาคการเงินด้วย

3.3 ผู้พัฒนาระบบ (Developer) ต้องมีความรู้และประสบการณ์
ในการพัฒนาระบบการชำระเงินเป็นอย่างดี

โดยเฉพาะการพัฒนาระบบที่เป็น Open-loop
เพื่อให้ระบบสอดคล้องกับมาตรฐานข้างต้น
และดำเนินการได้ตามกรอบเวลาที่จำกัด

ทั้งนี้ ตัวอย่างที่ผ่านมา ทีมงานของธนาคารพาณิชย์
ต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ
ด้านระบบการชำระเงินเป็นจำนวนมาก
และใช้เวลาในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 1 ปี

3.4 ผู้ดำเนินการระบบ (Operator) ต้องสามารถดูแลระบบ
ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากได้อย่างต่อเนื่อง

ไม่หยุดชะงัก
และสามารถดูแลแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว
เพื่อไม่ให้การใช้จ่ายของประชาชนมีความติดขัด
หรือเกิดการใช้จ่ายที่ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขของโครงการ

ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องมีการยกเลิก
ธุรกรรมและเรียกคืนสิทธิจากประชาชน
และร้านค้าจำนวนมาก และในกรณีที่มีการโจมตีทางไซเบอร์
หรือมีการรั่วไหลของข้อมูลธุรกรรมหรือข้อมูลส่วนบุคคล
จะต้องสามารถหยุดยั้งและแก้ไขเหตุได้อย่างทันท่วงที

4. การบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือทุจริต

หน่วยงานที่รับผิดชอบควรกำหนดกลไก
ลดความเสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือทุจริต
ในขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม
โดยเฉพาะประเด็นที่ปัญหา
พึงคาดหมายได้ตั้งแต่เริ่มแรก เช่น

แนวทางการตรวจสอบรายได้และทรัพย์สิน
ของผู้เข้าร่วมโครงการให้เป็นไปตามคุณสมบัติ
ที่กำหนดการป้องกันการลงทะเบียนเป็นร้านค้าปลอม
การกำหนดประเภทและขนาดของร้านค้า

เพื่อรองรับเงื่อนไขการใช้จ่ายประเภทสินค้าต้องห้าม
และมาตรการป้องกันในการห้ามไม่ให้มีการซื้อสินค้าดังกล่าว
ที่มีประสิทธิภาพการตรวจสอบว่ามีการซื้อขายสินค้าจริง
และป้องกันไม่ให้มีการขายลดสิทธิ์ (discount)

ด้วยเหตุผลและข้อสังเกตข้างต้น ธปท.
จึงมีความเห็นว่า การพิจารณากรอบหลักการและ
รายละเอียดต่าง ๆ ของโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
ซึ่งเป็นโครงการที่มีรายละเอียด
การดำเนินการซับซ้อนใช้งบประมาณจำนวนมาก

ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อภาระการคลังของประเทศในระยะยาว
และมีความเสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือทุจริตในขั้นตอนต่าง ๆ
ควรดำเนินการด้วยความรอบคอบ
และระมัดระวัง (Due Care=การดูแล) และมีกระบวนการ
ที่ถูกต้องรัดกุม (Due Process) อย่างเต็มที่

ดังนั้น เพื่อให้การให้ความเห็นชอบในกรอบหลักการ
โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
มีความรอบคอบครบถ้วน จึงเสนอให้คณะรัฐมนตรี
มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทบทวนและนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม

พร้อมทั้งจัดทำแนวทางหรือมาตรการแก้ไข
ประเด็นปัญหาหรือความเสี่ยงต่าง ๆ ให้เป็นรูปธรรมด้วย
ก่อนที่ ครม.จะพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ในกรอบหลักการของ
โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ต่อไป
--------------------------------------------------------
"ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ"
"ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

โค๊ด:
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1123537

 ping!


บันทึกการเข้า

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13282


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 25, 2024, 06:24:51 AM »

“วิรไท” อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ เปิดตำราสอน รัฐบาล-ธปท. แก้ปัญหาเศรษฐกิจ

โค๊ด:
https://www.thansettakij.com/finance/financial-banking/589361

 ping!
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!