ถ้าคุณคิดจะช่วยชาติประหยัด ต้องเริ่มที่ตัวของคุณ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 15, 2024, 03:46:06 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าคุณคิดจะช่วยชาติประหยัด ต้องเริ่มที่ตัวของคุณ  (อ่าน 1382 ครั้ง)
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« เมื่อ: มีนาคม 29, 2009, 11:37:34 AM »

มาตรการประหยัดพลังงาน
ถ้าคุณคิดจะช่วยชาติประหยัด ต้องเริ่มที่ตัวของคุณ

วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้า สำหรับเครื่องปรับอากาศ
1. ลดชั่วโมงการทำงานของเครื่องปรับอากาศทุกเครื่อง อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง
2. ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส
3. ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้งเมื่อออกจากห้องเกิน 1 ชั่วโมง  หากจำเป็นต้องกลับเข้ามาในห้องอีก ภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ควรปรับ
 ความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิสูงสุด ประมาณ 30 องศาเซลเซียส
4. ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศและระบบระบายความร้อนอย่างสม่ำเสมอ
5. เปิดพัดลมระบายอากาศเท่าที่จำเป็น
6. ตรวจสอบอุดรอยรั่วในห้องและปิดประตูทุกครั้งก่อนใช้เครื่องปรับอากาศ
7. ลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ เช่น ไม่นำสิ่งของที่มีความชื้น มาตากในห้อง
8. ใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพเมืองร้อน
9. หากพบข้อบกพร่องหรือจุดที่มีการรั่วไหลของพลังงาน ควรลงมือแก้ไขหรือแจ้งซ่อมทันที
 
วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้า สำหรับเครื่องไฟฟ้าทั่วไป
1. เปลี่ยนหลอดไส้มาใช้หลอดประหยัดไฟแทน
2. ใช้บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์คู่กับหลอดประหยัดไฟ
3. ใช้โคมไฟที่มีแผ่นสะท้อนแสงเพื่อช่วยกระจายความสว่าง
4. ใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์ต่ำ สำหรับการเปิดไฟไว้ทั้งคืน
5. ติดตั้งสวิทซ์แยกหรือติดตั้งไฟเฉพาะจุดแทนการเปิดไฟทั้งห้อง
6. ถอดหลอดไฟออกครึ่งหนึ่งในบริเวณที่ต้องการแสงสว่างน้อย
7. ใช้แสงสว่างจากธรรมชาติให้มากที่สุด
8. ปิดสวิตช์ไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งที่เลิกใช้งาน
9. ปิดไฟเวลาพักเที่ยงหรือขณะที่ไม่มีคนอยู่
10. ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ โดย
   - ปิดจอภาพเวลาพักหรือเมื่อไม่มีการใช้งานเกิน 15 นาที
   - ตั้งโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์ปิดหน้าจออัตโนมัติ เมื่อไม่มีการใช้งานเกิน 15 นาที
   - ปิดคอมพิวเตอร์หลังเลิกใช้งานและถอดปลั๊กออก
11. ใช้เครื่องถ่ายเอกสาร โดย
   - กดปุ่มพัก (Standby mode) เมื่อใช้งานเสร็จ
   - ตั้งระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ (Auto power off) ควรตั้งเวลาหน่วง 30 นาที (ถ้ามี)
   - ควบคุมการถ่ายเอกสารเฉพาะเท่าที่จำเป็น
   - ไม่ควรวางเครื่องถ่ายเอกสารไว้ในห้องปรับอากาศ
   - ปิดเครื่องถ่ายเอกสาร หลังเลิกใช้งานและถอดปลั๊กออก
12. เลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐานรับรองหรือมีฉลากเบอร์ 5
13. ควรใช้พัดลมแทนการเปิดเครื่องปรับอากาศ
14. ปิดโทรทัศน์ทุกครั้ง ทันทีที่ไม่มีคนดู
15. ไม่ปรับจอโทรทัศน์ให้สว่างเกินไป
16. เลือกขนาดตู้เย็นให้เหมาะสมกับความต้องการ
17. ไม่ควรเปิดตู้เย็นบ่อยและปิดตู้เย็นให้สนิททุกครั้ง
18. ไม่ควรนำของร้อนเข้าแช่ในตู้เย็น
19. ตั้งสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิของตู้เย็นให้เหมาะสม คือ 5 องศาเซลเซียสสำหรับช่องธรรมดา และ -17 องศาเซลเซียสสำหรับช่องแช่แข็ง
20. ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ
21. ตรวจสอบขอบยางประตูตู้เย็นไม่ให้เสื่อม
22. เสียบปลั๊กเตารีดแล้ว ควรรีดผ้าในคราวเดียว
23. ไม่ควรพรมน้ำขณะรีดผ้าให้แฉะจนเกินไป
24. ดึงปลั๊กเตารีดออกก่อนรีดผ้าเสร็จเล็กน้อย ความร้อนที่เหลือยังสามารถรีดผ้าต่อได้อีก
25. ใส่ผ้าให้เต็มพิกัดของเครื่องซักผ้าทุกครั้งที่ใช้
26. ตากผ้ากับแสงแดดธรรมชาติ
27. เลือกภาชนะให้เหมาะสมกับปริมาณอาหารที่ปรุง
28. ดึงปลั๊กกาต้มน้ำไฟฟ้าออกทันทีเมื่อน้ำเดือด
29. อย่าเสียบปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าทิ้งไว้ตลอดเวลา
30. ซ่อมบำรุงอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
31. หากพบข้อบกพร่องหรือจุดที่มีการรั่วไหลของพลังงาน ควรแก้ไขหรือแจ้งซ่อมในทันที
 
วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้า สำหรับอาคารและสภาพแวดล้อม
1. ใช้สีโทนอ่อน เพื่อเพิ่มความสว่างภายในอาคารและลดอุณหภูมิจากภายนอกอาคาร
2. ติดตั้งฉนวนกันความร้อนรอบผนังและบนเพดาน
3. ใช้มู่ลี่หรือกันสาด ป้องกันแสงแดดกระทบตัวอาคาร
4. ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการปิดเปิดประตูห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ
5. ปลูกต้นไม้รอบอาคาร เพื่อเพิ่มความเย็นและบดบังแสงแดดให้แก่อาคาร
6. ปลูกพืชคลุมดินเพื่อลดไอความร้อนจากพื้นดิน
 
"วิธีประหยัดน้ำมัน"
1. ตรวจตราลมยางเป็นประจำ เพราะยางที่อ่อนเกินไปนั้น ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่ายางที่มีปริมาณลมยางตามที่มาตรฐานกำหนด

2. สับเปลี่ยนยาง ตรวจตั้งศูนย์ล้อตามกำหนด จะช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกมาก

3. ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อต้องจอดรถนานๆ แค่จอดรถติดเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที ก็เสียน้ำมันฟรีๆ 200 ซีซี

4. ไม่ควรติดเครื่องทิ้งไว้เมื่อจอดรถ ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่ขึ้นของ ลงของ หรือคอยคน เพราะการติดเครื่องทิ้งไว้ เปลืองน้ำมันและสร้างมลพิษอีกด้วย

5. ไม่ออกรถกระชากดังเอี๊ยด การออกรถกระชาก 10 ครั้ง สูญเสียน้ำมันไปเปล่าๆ ถึง 100 ซีซี น้ำมันจำนวนนี้รถสามารถวิ่งได้ไกล 700 เมตร

6. ไม่เร่งเครื่องยนต์ตอนเกียร์ว่างอย่างที่เราเรียกกันติดปากว่าเบิ้ลเครื่องยนต์ การกระทำดังกล่าว 10 ครั้ง สูญเสียน้ำมันถึง 50 ซีซี ปริมาณน้ำมันขนาดนี้รถวิ่งไปได้ตั้ง 350 เมตร

7. ตรวจตั้งเครื่องยนต์ตามกำหนด ควรตรวจเช็คเครื่องยนต์สม่ำเสมอ เช่น ทำความสะอาดระบบไฟจุดระเบิด เปลี่ยนหัวคอนเดนเซอร์ ตั้งไฟแก่อ่อนให้พอดี จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 10%

8. ไม่ต้องอุ่นเครื่อง หากออกรถและขับช้าๆ สัก 1-2 กม. แรกเครื่องยนต์จะอุ่นเอง ไม่ต้องเปลืองน้ำมันไปกับการอุ่นเครื่อง

9. ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด เพราะเครื่องยนต์จะทำงานตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หากบรรทุกหนักมาก จะทำให้เปลืองน้ำมันและสึกหรอสูง

10. ใช้ระบบการใช้รถร่วมกัน หรือคาร์พูล (Car pool) ไปไหนมาไหน ที่หมายเดียวกัน ทางผ่านหรือใกล้เคียงกัน ควรใช้รถคันเดียวกัน

11. เดินทางเท่าที่จำเป็นจริงๆ เพื่อประหยัดน้ำมัน บางครั้งเรื่องบางเรื่องอาจจะติดต่อกันทางโทรศัพท์ก็ได้ ประหยัดน้ำมันประหยัดเวลา

12. ไปซื้อของหรือไปธุระใกล้บ้านหรือใกล้ๆ ที่ทำงาน อาจจะเดินหรือใช้จักรยานบ้าง ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ทุกครั้ง เป็นการ
ออกกำลังกายและประหยัดน้ำมันด้วย

13. ก่อนไปพบใคร ควรโทรศัพท์ไปถามก่อนว่าเขาอยู่หรือไม่ จะได้ไม่เสียเที่ยว ไม่เสียเวลา ไม่เสียน้ำมันไปโดยเปล่าประโยชน์

14. สอบถามเส้นทางที่จะไปให้แน่ชัด หรือศึกษาแผนที่ให้ดีจะได้ไม่หลง ไม่เสียเวลา ไม่เปลืองน้ำมันในการวนหา

15. ควรใช้โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ อินเตอร์เน็ท หรือใช้บริการส่งเอกสาร แทนการเดินทางด้วยตัวเอง เพื่อประหยัดน้ำมัน

16. ไม่ควรเดินทางโดยไม่ได้วางแผนการเดินทาง ควรกำหนดเส้นทาง และช่วงเวลาการเดินทางที่เหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมัน

17. หมั่นศึกษาเส้นทางลัดเข้าไว้ ช่วยให้ไม่ต้องเดินทางยาวนานไม่ต้องเผชิญปัญหาจราจร ช่วยประหยัดทั้งเวลาและประหยัดน้ำมัน

18. ควรบับรถด้วยความเร็วคงที่ เลือกขับที่ความเร็ว 70-80กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 2,000-2,500 รอบเครื่องยนต์ ความเร็วระดับนี้ ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า

19. ไม่ควรขับรถลากเกียร์ เพราการลากเกียร์ต่ำนานๆ จะทำให้เครื่องยนต์หมุนรอบสูงกินน้ำมันมาก และเครื่องยนต์ร้อนจัดสึกหรอง่าย

20. ไม่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งที่จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นเช่น การทำให้เกิดการต้านลมขณะวิ่ง หรือทำให้เครื่องยนต์ ไม่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี

21. ไม่ควรใช้น้ำมันเบนซินที่ออกเทนสูงเกินความจำเป็นของเครื่องยนต์ เพราะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์

22. หมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อประหยัดน้ำมัน

23. สำหรับเครื่องยนต์แบบเบนซิน ควรเลือกเติมน้ำมันเบนซินให้ถูกชนิด ถูกประเภท โดยเลือกตามค่าออกเทนที่เหมาะสมกับรถแต่ละยี่ห้อ (สังเกตจากฝาปิดถังน้ำมันด้านใน หรือรับคู่มือที่ปั้มน้ำมันใกล้บ้าน

24. ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ยามเช้าๆเปิดกระจกรับความเย็นจากลมธรรมชาติบ้างก็สดชื่นดี ประหยัด
น้ำมันได้ด้วย

25. ไม่ควรเร่งเครื่องปรับอากาศในรถอย่างเต็มที่จนเกินความจำเป็นไม่เปิดแอร์แรงๆ จนรู้สึกหนาวเกินไป เพราะสิ้นเปลืองพลังงาน
 

รวมพลังช่วยชาติ"วิธีประหยัดน้ำประปา"
1. ใช้น้ำอย่างประหยัด หมั่นตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำ เพื่อลด
การสูญเสียน้ำอย่างเปล่าประโยชน์

2. ไม่ควรปล่อยให้น้ำไหลตลอดเวลาตอนล้างหน้า แปรงฟัน โกน
หนวด และถูสบู่ตอนอาบน้ำ เพราะจะสูญน้ำไปโดยเปล่า
ประโยชน์ นาทีละหลายๆ ลิตร

3. ใช้สบู่เหลวแทนสบู่ก้อนเวลาล้างมือ เพราะการใช้สบู่ก้อน
ล้างมือจะใช้เวลามากกว่าการใช้สบู่เหลว และการใช้สบู่เหลว
ที่ไม่เข้มข้น จะใช้น้ำน้อยกว่าการล้างมือด้วยสบู่เหลวเข้มข้น

4. ซักผ้าด้วยมือ ควรรองน้ำใส่กาละมังแค่พอใช้ อย่าเปิดน้ำไหล
ทิ้งไว้ตลอดเวลาซัก เพราะสิ้นเปลืองกว่าการซักโดยวิธีการขัง
น้ำไว้ในกาละมัง

5. ใช้ Sprinkler หรือฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการฉีดน้ำด้วย
สายยาง จะประหยัดน้ำได้มากกว่า

6. ไม่ควรใช้สายยางและเปิดน้ำไหลตลอดเวลาในขณะที่ล้างรถ
เพราะจะใช้น้ำมากถึง 400 ลิตร แต่ถ้าล้างด้วยน้ำและฟองน้ำใน
กระป๋องหรือภาชนะบรรจุน้ำ จะลดการใช้น้ำได้มากถึง 300 ลิตร
ต่อการล้างหนึ่งครั้ง

7. ไม่ควรล้างรถบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะนอกจากจะมีความ
สิ้นเปลืองน้ำแล้ว ยังทำให้เกิดสนิมที่ตัวถังได้ด้วย

8. ตรวจสอบท่อน้ำรั่วภายในบ้าน ด้วยการปิดก๊อกน้ำทุกตัว
ภายในบ้าน หลังจากทีทุกคนเข้านอน (หรือเวลาที่แน่ใจว่า ไม่มี
ใครใช้น้ำระยะหนึ่ง จดหมายเลขวัดน้ำไว้ ถ้าตอนเช้ามาตรเคลื่อนที่
โดยที่ยังไม่มีใครเปิดน้ำใช้ ก็เรียกช่างมาตรวจซ่อมได้เลย)

9. ควรล้างพืชผักและผลไม้ในอ่างหรือภาชนะที่มีการกักเก็บน้ำ
ไว้เพียงพอ เพราะการล้างด้วยน้ำที่ไหลจากก๊อกน้ำโดยตรง จะใช้
น้ำมากกว่า การล้างด้วยน้ำที่บรรจุไว้ในภาชนะถึงร้อยละ 50

10. ตรวจสอบชักโครกว่ามีจุดรั่วซึมหรือไม่ ให้ลองหยดสีผสมอาหาร
ลงในถังพักน้ำ แล้วสังเกตดูที่คอห่าน หากมีน้ำสีลงมาโดยที่ไม่ได้กด
ชักโครก ให้รีบจัดการซ่อมได้เลย

11. ไม่ใช้ชักโครกเป็นที่ทิ้งเศษอาหาร กระดาษ สารเคมีทุกชนิด
เพราะจะทำให้สูญเสียน้ำจากการชักโครก เพื่อไล่สิ่งของลงท่อ

12. ใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ เช่น ชักโครกประหยัดน้ำ ฝักบัว
ประหยัดน้ำ ก๊อกประหยัดน้ำ หัวฉีดประหยัดน้ำ เป็นต้น

13. ติด Areator หรือ อุปกรณ์เติมอากาศที่หัวก๊อก เพื่อช่วย
เพิ่มอากาศให้แก่น้ำที่ไหลออกจากหัวก๊อก ลดปริมาณการไหลของ
น้ำ ช่วยประหยัดน้ำ

14. ไม่ควรรดน้ำต้นไม้ตอนแดดจัด เพราะน้ำจะระเหยหมดไป
เปล่าๆ ให้รดตอนเช้าที่อากาศยังเย็นอยู่ การระเหยจะต่ำกว่า
ช่วยให้ประหยัดน้ำ

15. อย่าทิ้งน้ำดื่มที่เหลือในแก้วโดยไม่เกิดประโยชน์อันใด ใช้รดน้ำ
ต้นไม้ ใช้ชำระพื้นผิว ใช้ชำระความสะอาดสิ่งต่างๆ ได้อีกมาก

16. ควรใช้เหยือกน้ำกับแก้วเปล่าในการบริการน้ำดื่ม และให้
ผู้ที่ต้องการดื่มรินน้ำดื่มเอง และควรดื่มให้หมดทุกครั้ง

17. ล้างจานในภาชนะที่ขังน้ำไว้ จะประหยัดน้ำได้มากกว่าการ
ล้างจานด้วยวิธีที่ปล่อยให้น้ำไหลจากก๊อกน้ำตลอดเวลา

18. ติดตั้งระบบน้ำให้สามารถใช้ประโยชน์จากการเก็บและจ่ายน้ำ
ตามแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้พลังงานไปสูบและ
จ่ายน้ำภายในอาคาร


          


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!