พิมพ์หน้านี้ - นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

สารพัดช่าง-แนวทางอาชีพ => ปากพนัง..เมืองดีที่ถูกลืม. => ข้อความที่เริ่มโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ มีนาคม 25, 2009, 08:59:40 PM



หัวข้อ: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ มีนาคม 25, 2009, 08:59:40 PM
 หลังจากขับรถเดินทางจากจ.เชียงใหม่มาถึงอ.ปากพนัง ด้วยระยะทางมากกว่า1,400 ก.ม ใช้เวลา2วัน พักที่อ.ชะอำ1คืน ฝนตกหนักที่สุราษฎร์ถึงชุมพร ทำให้การเดินทางยิ่งช้าเข้าไปอีก

อ.ปากพนังสมัยก่อน เป็นเมืองที่เจริญมาก เพราะเคยเป็นเมืองท่าเรือ,เมืองการศึกษา ..แต่เดี๋ยวนี้ผู้คนหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ สภาพตลาดสด(เช้า)ที่อ.ปากพนัง  olleyes2



หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ มีนาคม 25, 2009, 09:03:45 PM
ลองทายกันเล่นๆครับ ..  :(


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: e21fnw-LSV team♥ ที่ มีนาคม 25, 2009, 10:04:52 PM
ปลากระเบน  ทอด + น้ำจิ้มก็แล้วกัน  lsv-smile


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ มีนาคม 26, 2009, 11:59:13 AM
ถูกต้อง...คร้าบบบบ  น้องต้นนี่เก่งทุกเรื่องเลย  :-X

... แม่ค้า ยังสาวแต่ไม่ค่อยสวย บอกว่าทำจากปลากระเบนตัวเล็กๆ ..เรียกว่าปลาจ้งม่ง แปลกดีแฮะ
   ราคาไม่แพงครับ ตัวละ30 บาท อร่อยใช้ได้ทีเดียว  smiley4


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ มีนาคม 26, 2009, 12:02:09 PM
.. ด้านล่างคือปลาดุกทะเล ทำแกงส้มอร่อยมากครับ ..แต่ผมชอบกินไข่มากกว่า  HAPPY2!!

นี้หล่ะปลาลายจุด กิโลละ20บาท....น่ากินดีนะ... คือปลาอันหยัง  :o


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: e21fnw-LSV team♥ ที่ มีนาคม 26, 2009, 12:32:31 PM


ยิ่งปลากระเบนผัดเผ็ดพริกไทอ่อน แล้วด้วย  หร๊อย ๆ ๆ


 wav!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: supoj007 ที่ มีนาคม 26, 2009, 05:14:13 PM
ปลากระเบน   เข้าท่า อืม  ไม่เคยทานเลยครับ  นี่คงมีแต่ปากพนังแน่ๆ :P


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: noi3535-LSV team♥ ที่ มีนาคม 26, 2009, 07:27:55 PM
           เดินทางก็ไม่บอกล่วงหน้ากันบ้าง  หลานอยากเจอ ลุงเล็ก อยู่ครับ :) :)


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: somnuktv ที่ มีนาคม 27, 2009, 11:04:00 AM
 :( ปลาลายจุดข้างบน สตูลเรียกว่า ปลาแกแดด ส่วนข้างล่าง น่าจะเป็น ปลามิหลัง หรือปลาดุกทะแล  ปลาจ๊องม๊อง เวลาหยิบจับอย่าไปจับตรงส่วนหาง เดี๋ยวจะโดนเงี่ยงมันตำ พิษมันแรงมาก เงี่ยงปลามิหลัง พิษก็แรงพอๆกันครับ  undecided2


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ มีนาคม 27, 2009, 11:15:37 AM
ปลาลายจุดข้างบน สตูลเรียกว่า ปลาแกแดด
...ได้ยินแม่ค้าปากพนังเรียกว่าปลาขี้เก้ง ...ทำแกงส้มน่าอร่อยนะ อิๆ  :D HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: b.chaiyasith ที่ มีนาคม 27, 2009, 11:16:37 AM
ลงภาพมากๆหน่อยครับ อยากมาเที่ยวที่นี่จังเลย
ขอบคุณที่นำภาพมาฝาก smiley4 HAPPY2!! :)


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: eon_rmut ที่ มีนาคม 27, 2009, 01:24:12 PM
ปลาลายจุดข้างบน สตูลเรียกว่า ปลาแกแดด
...ได้ยินแม่ค้าปากพนังเรียกว่าปลาขี้เก้ง ...ทำแกงส้มน่าอร่อยนะ อิๆ  :D HAPPY2!!


มันคือปลาขี้เกง ครับ นั่นแถวบ้านผมครับน่าเที่ยวครับ


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 10, 2009, 07:14:53 PM
ปลาทะเลนาๆชนิด ตัวอ้วนพี ...ไม่ต้องโปะน้ำแข็ง ไม่ใส่ฟอร์มาลีน ขายไม่แพง กิโลละ10บาทก็มี ..  HAPPY2!!

 ..ปลาสดลูกตาต้องใส กดแล้วเนื้อปลาจะเด้งสู้มือ ไม่ยอบแยบ ..

 ... น่าขายส่งทางเว็บนะ ใครสนใจบ้างส่งให้ถึงที่เลย อิๆ  HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 10, 2009, 07:17:26 PM
กุ้งก็สด ..ผู้ซื้อไม่ขาดทุนเพราะเต็มกิโล ไม่มีน้ำจากน้ำแข็งผสมให้ขาดดุลย์  HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 10, 2009, 07:44:38 PM
ส่วนนี้ใช้ดับกลิ่นห้องน้ำเหม็นๆได้หายขาดครับ  :o
บน... ลูกเหลียง
ล่าง....ลูกเนียงวันรุ่น
ล่าง....ลูกเนียงแก่     HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 23, 2009, 12:46:55 PM
ตอนบ่ายๆไปเที่ยวตลาดเย็นกันบ้าง ตลาดนี้อยู่ห่างจากตลาดเช้าประมาณ1กิโล เปิดตอนเย็นสมชื่อครับ  HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 23, 2009, 12:53:07 PM
ส่วนมากผลไม้ที่นี่ราคาแพงกว่าเชียงใหม่ เช่นส้มเขียวหวานตกโลละ60บาททีเดียว กลายเป็นผลไม้ของคนมีเงินไปเลย ทั้งๆที่เชียงใหม่กิโลละ20-30บาทเท่านั้น
  ..แต่ที่ถูกกว่าก็มีเช่นองุ่น ทุเรียน ชมพู่ ...   HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 23, 2009, 01:01:34 PM
ตึกสูงๆรอบตลาด ล้วนแล้วแต่ทำตึกไว้ให้นกนางแอ่นทำรังครับ ... นกนางแอ่นเข้ามาทำรังที่ตึกไหน เจ้าของตึกนั้นก็รวยครับ เพราะรังนกนางแอ่นส่งขายประเทศจีน เกรดดีๆตกกิโลละแสนกว่าบาทครับ..

  ที่ดินเพียง20-30ตารางวาแถวนี้แพงยิ่งกว่าเอาทองคำมาปู ตกห้องละ27ล้านครับ  olleyes2 HAPPY2!!
------------------
เกร็ดเล็กๆตึกรังนก
ธุรกิจสร้างตึกให้นกนางแอ่นเมืองปากพนังสุดบูม

นครศรีธรรมราช ๒๕ เม.ย.- นักลงทุนต่างชาติแห่กว้านซื้อที่ดินปากพนังทำธุรกิจสร้างบ้านให้นกนางแอ่น เผยได้กำไรงามตลอดปีไม่มีตกเฉียดแสนบาท เทศบาลฯ เกิดแนวคิดเตรียมเปิดถนนท่องเที่ยวสายนกนางแอ่น สรรพามิตหมดหนทางเก็บภาษี ขณะเดียวกันบริษัท รปภ.พลอยได้รับผลดีตาม นายชัยณรงค์ สวัสดีนฤนาท นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า มีนักลงทุนหลายรายความสนใจเข้ามาสร้างตึกให้นกนางแอ่นอยู่อาศัย จากเดิมที่มีบ้านนกประมาณ ๓๐ หลัง และกำลังก่อสร้างอีกกว่า ๑๐ หลัง อีกทั้งมีการยื่นขออนุญาตแบบแปลนสร้างที่เทศบาลอีก ๓๐ หลัง ซึ่งการก่อสร้างเป็นตึกสูง ๓-๗ ชั้น แต่ละแห่งลงทุนไม่ต่ำกว่า ๕ ล้านบาท สำหรับนักลงทุนที่เข้ามาสร้างตึกให้นกอยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นคนต่างพื้นที่ และต่างชาติถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งได้ประสานกับกลุ่มนายหน้าคนไทยเข้ามากว้านซื้อที่ดินในปากพนังตามเส้น ทางที่นกบินผ่าน จึงทำให้มีการก่อสร้างตึกกันมากและที่ดินยังว่างเปล่าอยู่มีราคาแพงลิบลิ่ว ตกไร่ละ ๕ ล้านบาท นายชัยณรงค์ กล่าวว่า จากการที่มีนักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจประเภทนี้มาก เทศบาลเห็นว่าน่าจะเปิดถนนสายนกนางแอ่นขึ้นมาคือถนนบริเวณหลังองค์การ โทรศัพท์ที่มีตึกนกนางแอ่นมาก โดยจะมีจุดส่องกล้องชมนกแก่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจในยามเช้าและยามเย็น เพราะมีความสวยงามมากที่นกนับหมื่นบินออกมาพร้อมกัน สำหรับธุรกิจประเภทนี้เพิ่งบูมมากเมื่อ ๕-๖ ปีที่ผ่านมา แต่ก่อนคนกับนกไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะคนที่อยู่ร่วมกับนกนางแอ่อนมักมีอายุไม่ยืน เนื่องจากนกมีไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นอันตราย อย่างบ้านรังนกหลังแรกของอำเภอปากพนังอยู่ในตลาดปากพนัง บุตรชายเจ้าของบ้านเสียชีวิตเพราะด้านบนให้นกอยู่อาศัย นักธุรกิจบ้านรังนกรายหนึ่ง กล่าวว่า ทุ่มงบกว่า ๖ ล้านบาท สร้างตึก ๕ ชั้น ให้นกเข้ามาอาศัยทำรัง ขณะนี้กำลังก่อสร้างไปประมาณ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งที่เข้ามาทำธุรกิจประเภทนี้เพราะเพื่อนที่เคยทำอยู่เล่าให้ฟังและมอง เห็นว่าหากลงทุนแล้วนกเข้ามาอยู่จะเป็นธุรกิจลงทุนครั้งเดียว จากนั้นจะเก็บเกี่ยวรายได้ได้ตลอดปี ราคารังนกนางแอ่นสูงประมาณ ๖๐,๐๐๐–๘๐,๐๐๐ บาท ไม่เคยต่ำกว่านี้ อีกทั้งการขายไม่ลำบาก เพราะจะมีบริษัทจากกรุงเทพฯ ติดต่อเข้ามาขอซื้อถึงที่ บางรายมีการนำเงินมามัดจำล่วงหน้า เรพาะกลัวว่าจะขายแก่บริษัทอื่น เรียกว่าไม่ต้องดิ้นรนมาก คิดว่าต่อไปน่าจะมีการจัดเก็บภาษีรังนกนางแอ่น หากเป็นแบบเหมาจ่ายจะไม่ยุ่งยาก และนกธุรกิจเต็มใจที่จะเสียภาษี อย่างไรก็ตาม การสร้างตึกให้นกอยู่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกราย ถือว่าเป็นการเสี่ยงเช่นกัน หากสร้างแล้วนกไม่เข้ามาจะสูญเงินเปล่า ซึ่งแต่ละรายจะต้องมีเทคนิคในการทำให้นกเข้ามาทำรังที่นักธุรกิจแต่ละคนจะ ไม่ยอมเปิดเผยกัน อย่างการสร้างตึกนั้นจะสร้างแบบมิดชิดมีเพียงรูระบายอากาศเล็กน้อย รวมถึงตัวตึกห้ามทาสีต้องให้เหมือนสีธรรมชาติคือถ้ำมากที่สุด เมื่อสร้างตึกเสร็จจะมีการสร้างบรรยากาศด้านใน โดยใช้เทปเสียงธรรมชาติของนกเมื่อเวลานกบินผ่านจะเข้ามา และอีกหลายเทคนิคที่แต่ละรายจะคิดค้นมาได้ ด้านนายวิฑูร โสตถิสุพร สรรพากรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีรังนกนางแอ่นทำได้ยาก เพราะผู้ประกอบการไม่ได้แจ้งรายรับที่เป็นจริง และการสร้างตึกให้นกอยู่ส่วนใหญ่ไม่มีการเปิดเผยว่าสร้างเพื่อให้นกอยู่ เป็นการเลี่ยงภาษี แต่ที่เทศบาลปากพนังที่มีผู้เข้าไปขออนุญาตก่อสร้างน่าจะทราบว่าเป็นการยื่น อนุญาตเพื่อจะสร้างตึกให้นกอยู่ สรรพากรไม่สามารถเข้าไปจัดเก็บภาษีรังนกนางแอ่นได้ แม้จะทราบว่าผู้ประกอบการมีรายได้จำนวนมากจากการขายรังนก ซึ่งการเก็บภาษีคงเป็นการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามากกว่า แม้จะทราบว่าแจ้งเท็จ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ อย่างไรก็ดี นอกจากพื้นที่อำเภอปากพนังที่นิยมสร้างตึกให้นกนางแอ่นแล้ว ยังมีที่บริเวณอดีตโรงภาพยนต์นวกิจรามา ตลาดหัวอิฐ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เจ้าของโรงภาพยนต์ประกาศหยุดกิจการฉายหนัง หันมาเปิดให้นกนางแอ่นเข้าทำรังโดยเฉพาะ ขณะเดียวกันธุรกิจอีกประเภทหนึ่งที่พลอยได้รับผลดีไปด้วยคือ บริษัทรักษาความปลอดภัยไม่ให้ขโมยรังนก ถือว่าเป็นธุรกิจครบวงจร เพราะเมื่อสร้างตึกให้นกอาศัยแล้วจะรับเหมาจัดเจ้าหน้าที่ รปภ.มาเฝ้าดูแลตามตึก แต่ละตึกจะมีห้องเล็ก ๆ หลายห้อง รปภ. ๑ คน รับผิดชอบ ๒-๓ ห้อง ห้องละ ๒๐๐–๕๐๐ บาทต่อเดือน และผู้ที่มาซื้อตึกให้นกอยู่สามารถใชบริการจาก รปภ.ได้ทันที
สำนักข่าวไทย



หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 23, 2009, 01:09:03 PM
ตึกหลังนี้สมัยเด็กๆคิดว่าสูงที่สุดในอ.ปากพนังแล้วครับ เพราะสูงถึง3ชั้น เป็นตึกแรกๆที่นกนางแอ่นมาทำรัง ..และเป็นตึกที่นกนางแอ่นมาทำรังกันเยอะที่สุดตราบทุกวันนี้...เมื่อก่อนเจ้าของตึกนี้ขายเครื่องมือ,เครื่องเหล็กด้านล่าง แต่ปัจจุบันเลิกขายแล้วครับ ไม่ต้องทำงานก็มีกินมีใช้ตลอดชาติ .. นกเลี้ยงคนครับ  smiley4 HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 23, 2009, 01:14:28 PM
สาเหตุที่ ทำเลแถวนี้แพงมาก เพราะอยู่ติดแม่น้ำปากพนังครับ นกนางแอ่นชอบทำรังใกล้ๆแหล่งน้ำ ... ดังนั้นบนดอยสูงๆทางเหนือจึงไม่มีนกนางแอ่นมาทำรัง เพราะขาดน้ำ ...และคงไม่ชอบสภาพอากาศด้วย...ทั้งๆที่ช่วงหน้าหนาวผมสังเกตเห็นนกนางแอ่นบินว่อนแถวแม่โจ้เป็นฝูง สงสัยว่าคงหนีหนาวมาจากเมืองจีน ...ท่านใดอยู่แถวภาคกลางหรือภาคเหนือน่าลองสร้างตึกนกนางแอ่นดู เผื่อฟลุ๊กก็รวยไปเลย  HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดเช้า...ปากพนัง
เริ่มหัวข้อโดย: Hooto cha-am ที่ เมษายน 23, 2009, 01:20:03 PM
ถูกต้อง...คร้าบบบบ  น้องต้นนี่เก่งทุกเรื่องเลย  :-X

... แม่ค้า ยังสาวแต่ไม่ค่อยสวย บอกว่าทำจากปลากระเบนตัวเล็กๆ ..เรียกว่าปลาจ้งม่ง แปลกดีแฮะ
   ราคาไม่แพงครับ ตัวละ30 บาท อร่อยใช้ได้ทีเดียว  smiley4



พักชะอำด้วยเหรอพี่เล็ก            ...........ปลากระเบนเล็ก    ที่ชะอำชาวเรือเรียกว่า  ปลาตุกา   ชาวเรือเขาบอกว่า  กระเบน กับ ตุกา จะไม่เหมือนกัน    ที่หางจะไม่เหมือนกัน     ตุกาจะตัวเล็กไม่โต   ส่วนกระเบนจะโตได้อีกเยอะ


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: TLE. ที่ เมษายน 23, 2009, 03:36:52 PM
  ไม่เคยเจอะมาก่อนครับ  ปลากระเบน  ทอด  เคยเห็น แต่เขาเอาเจ้าปลาไปย่างจนเกลียม แล้วก็ มาผัดเผ็ดเพราะคาวที่ตัวปลามันแรง


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 28, 2009, 10:33:49 AM
อ้างถึง
พักชะอำด้วยเหรอพี่เล็ก
 
 ครับ พัก1คืน ...ขออภัยด้วยที่ไม่ได้แจ้งข่าวครับ เพราะต้องขับรถ2วันกว่าจะถึงปากพนัง กลางคืนผมสายตาไม่ดี ต้องทำเวลากลางวันให้เร็วที่สุดครับ  :D HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 28, 2009, 10:38:53 AM
แผงขายปลาหมึกแห้ง ของทะเลแห้ง...ขนมท้องถิ่น ที่ตลาดเย็นถูกกว่าที่วางขายในจ.เชียงใหม่ ม๊ากกก... มาก  HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 28, 2009, 10:46:59 AM
มะม่วงเบา ลูกโตสุดได้เท่านี้   :o

 ..ลูกมุด เนื้อหอม จริงๆ

..ทั้งสองอย่างนิยมนำมากินกับมันกุ้ง ..อร่อยมาก  smiley4 HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 28, 2009, 10:51:21 AM
คุณลุงท่านนี้ นั่งสูบบุหรีใบจาก รอลูกค้าขึ้นเรือข้ามฟาก... ทุกอาชีพขยันย่อมไม่อดครับ...แต่จะรวยหรือไม่ก็อีกเรื่อง  HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Anan7107 ที่ เมษายน 29, 2009, 11:49:56 AM
ค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 1 บาท นักเรียน 2คน 1บาท   จากด็กปากพนังครับ


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Nattawut-LSV Team ที่ เมษายน 29, 2009, 12:03:06 PM
ค่าบริการนี่ ก็ถูกดีนะครับ..............
ถึงค่าบริการจะถูกแต่ก็  หากินด้วยความสุจริต( ขับเรือ)
นั่งรอลูกค้า สบายใจเฉิบ.......
 lsv-smile wav!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 29, 2009, 01:14:56 PM
อ้างถึง
ค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 1 บาท นักเรียน 2คน 1บาท   จากด็กปากพนังครับ
  ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ อยู่แถวไหนครับ เผื่อว่างๆได้เจอตัวเป็นๆกัน อิๆ  ;D  :D

   ... หอยสดๆก็มีครับ ไม่แพง ที่เห็นในถุงแม่ค้าเรียกว่า"หอยพง " ตัวจะเล็กกว่าหอยแมงภู่ สมัยก่อนเขาจะทุบเปลือกให้แตกใช้เลี้ยงกุ้ง แต่สมัยนี้คนนำมาปรุงอาหาร ผัดกับใบแมงลัก อร่อยน้ำยายไหลครับ ...สนนราคาไม่แพง คุยกับแม่ค้าถูกคอ เอาไปเลย2ถุง30บาท.. :-X



หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 29, 2009, 01:24:20 PM
รู้จักลุ่มน้ำปากพนัง

การแบ่งเขตพื้นที่น้ำจืดและน้ำกร่อย     
    เนื่องจากในพื้นที่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม อาชีพทำนาข้าวและทำนากุ้งในเรื่องของการใช้น้ำและการระบายน้ำทิ้ง การทำนากุ้งจะต้องมีการถ่ายเทน้ำเสียจากบ่อกุ้งทิ้ง ซึ่งน้ำเสียดังกล่าวได้ทำความเสียหายและเดือดร้อนแก่ชาวนามาก เพราะทำให้ดินเค็ม ปลูกข้าวได้ผลผลิตต่ำ การแบ่งเขตระหว่างพื้นที่น้ำจืดและน้ำกร่อยอย่างชัดเจนจะเป็นการแก้ปัญหาดัง กล่าวได้อย่างดี ดังนั้นทางกรมชลประทาน กรมประมง กปร. และกองทัพภาคที่ 4 ได้ประชุมปรึกษาหารือและมีความเห็นร่วมกันว่า หากต้องการรักษาระบบนิเวศวิทยาของลำน้ำในเขตพื้นที่โครงการ ควรจะมีการแบ่งเขตการใช้ที่ดินระหว่างนากุ้งและนาข้าว โดยได้ตกลงให้มีการแบ่งเขตดังนี้

   1. ด้านทิศตะวันออกเลียบชายฝั่งทะเล กำหนดให้คลองหัวไทรตั้งแต่อำเภอหัวไทรไปทางทิศเหนือจนถึงบรรจบคลองเสือหึง เป็นเขตน้ำกร่อย แนวกั้นน้ำเค็มช่วงนี้ส่วนใหญ่จะลัดเลาะไปตามแนวถนนเดิมแนวแบ่งเขตที่ต่อไป ทางทิศเหนือจะวิ่งลัดเลาะไปตามแนวถนนท้องถิ่นไปจนถึงคลองท่าพญา แนวคันกั้นน้ำช่วงนี้จะมีบางช่วงที่ไม่ใช่แนวถนนเดิม จึงต้องมีการจัดหาที่ดินเพื่อการนี้ต่อจากคลองท่าพญาขึ้นไปทางเหนือ คันกั้นน้ำเค็มจะเลียบไปทางฝั่งตะวันออกของคลองท่าพญาตามแนวถนนเดิมทั้งหมด จนไปถึงประตูระบายน้ำปากพนัง สำหรับทางด้านใต้ของอำเภอหัวไทร แนวกั้นน้ำเค็มจะเริ่มจากถนนหลวง 4017 ตัดผ่านท้องนาแล้วมาบรรจบกับถนนเดิมเลียบคลองหัวไทรไปจนถึงปากระวะ
   2. ด้านทิศเหนือเลียบอำเภอปากพนัง ใช้ แนวถนนลูกรังเดิม เป็นแนวคันกั้นน้ำเค็ม โดยเริ่มจากประตูระบายน้ำปากพนังขึ้นไปทางเหนือจนถึงถนนหลวง 4013 แล้วลัดเลาะไปตามแนวถนนที่ขนานไปกับอ่าวปากพนังจนถึงบริเวณคลองบางจาก แล้วใช้แนวถนนริมคลองบางจากทั้งสองฝั่งเป็นแนวคันกั้นน้ำเค็มต่อจากคลองบาง จากไปทางทิศตะวันตกจะมีแนวถนนที่สามารถต่อไปจนถึงคลองปากนครหรือคลองหัวตรุด

     
การรุกตัวของน้ำเค็ม    
    อิทธิพลของน้ำขึ้นน้ำลงที่ปากแม่น้ำเป็นตัวแปรที่ สำคัญประการหนึ่งที่มีผลต่อการรุกล้ำของน้ำเค็ม ถ้าการขึ้นลงของระดับน้ำทะเลที่ปากแม่น้ำมีความรุนแรงมาก ปริมาณน้ำเค็มก็จะถูกดันเข้าไปในแม่น้ำได้มาก การรุกล้ำของน้ำเค็มจะมีมาก และในทางกลับกันถ้าการขึ้นลงของระดับน้ำทะเลที่ปากแม่น้ำมีความรุนแรงน้อย การรุกล้ำของน้ำเค็มจะมีน้อย ซึ่งจากผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาเมื่อปี พ.ศ.2537 ช่วงเดือนเมษายน พบว่าระดับการขึ้นลงของระดับน้ำทะเลส่งผลไปถึงบริเวณอำเภอชะอวดที่อยู่ห่าง จากแม่น้ำปากพนังประมาณ 100 กิโลเมตร
    นอกจากนี้ ปัจจัยทางธรรมชาติและปัจจัยที่มนุษย์ก่อขึ้นเองอีกหลายประการมีผลต่อการ รุกล้ำของน้ำเค็ม ปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น ลักษณะทางกายภาพของลำน้ำ ความลึกตื้นของลำน้ำ ส่วนปัจจัยที่มนุษย์ก่อขึ้น เช่น การนำน้ำจืดจากต้นน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้ง ทำให้น้ำจืดที่ใช้ผลักดันน้ำเค็มมีน้อยลงและการระบายน้ำเค็มลงสู่ลำน้ำ เนื่องจากมีการเพาะเลี้ยงกุ้งตามแนวชายฝั่งแม่น้ำปากพนังมาก การเปลี่ยนถ่ายน้ำในนากุ้งลงสู่คลองต่างๆ ที่ต่อเชื่อมกับแม่น้ำปากพนังจะเป็นผลให้น้ำเค็มจากนากุ้งไหลลงสู่แม่น้ำปาก พนัง
 
สภาพน้ำท่วม    
    ลุ่มน้ำปากพนังประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ระดับความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ของลุ่มน้ำปากพนังจะมีความ แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสูงต่ำของพื้นที่ ระดับน้ำท่วม และระยะเวลาที่น้ำท่วม ซึ่งสาเหตุของการเกิดน้ำท่วมในบริเวณลุ่มน้ำปากพนัง สามารถสรุปได้ดังนี้

    * เกิดจากฝนตกลงมามาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลมาจากต้นน้ำของแม่น้ำปากพนังและลำน้ำสาขามีมาก จากรายงานของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย 2532 ได้สรุปสถิติข้อมูลฝนตกมากที่สุดในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง อันดับ 1 และ 2 ตั้งแต่ปี 2505 พบว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมีปริมาณน้ำฝนสูงติดอันดับ 1 และ 2 ของภาคใต้ฝั่งตะวันออกถึง 13 ครั้ง ใน 27 ปี ดังนั้นพอสรุปได้ว่าอุทกภัยในลุ่มน้ำปากพนังซึ่งมีพื้นที่ไม่ห่างไกลจากตัว จังหวัดนครศรีธรรมราชมากนัก เกิดขึ้นบ่อยครั้งในอดีต
    * เกิดจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูง จนน้ำในแม่น้ำปากพนังระบายออกไปได้น้อยหรือมีประสิทธิภาพในการระบายต่ำลง
    * ลักษณะทางกายภาพของลุ่มน้ำปากพนัง สภาพพื้นที่มีความลาดชันน้อยประมาณ 22.36 เมตรต่อตารางกิโลเมตร ค่า drainage density = 0.64 กิโลเมตรต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งแสดงว่ามีการระบายน้ำเลวหรือระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ช้า
    * พื้นที่ราบลุ่มในลุ่มน้ำปากพนังมีขนาดกว้างใหญ่มาก เป็น แหล่งเก็บกักน้ำของพื้นที่น้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำเมื่อปริมาณน้ำที่กักขังอยู่ ยังระบายออกไม่หมด และมีพายุลูกใหม่เข้ามาเสริมทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมมากยิ่งขึ้น
    * เกิดจากการพัฒนาระบบคมนาคมทั้งถนนและทางรถไฟ ทำ ให้กีดขวางการไหลออกของน้ำในที่ราบลุ่มที่ถูกน้ำท่วม อาทิเช่น ถนนสาย 4017 ระหว่างอำเภอปากพนัง-อำเภอหัวไทร ถนนสาย 4013 ระหว่างอำเภอเมิงและอำเภอปากพนัง และถนนสาย 4151 ระหว่างอำเภอเชียรใหญ่-อำเภอชะอวด นอกจากนี้ยังมีถนน รพช. ซึ่งเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ถนนเหล่านี้มีท่อลอดหรือทางระบายน้ำน้อยมาก


สภาพภูมิอากาศ
    เนื่องจากลุ่มน้ำปากพนังตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกภาคใต้ของ ประเทศไทย สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฤดูกาล 2 ฤดู คือ ฤดูฝนและฤดูร้อน โดยลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดผ่านช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ก่อให้เกิดปริมาณฝนในบริเวณพื้นที่ไม่มากนักเพราะมีภูเขาสูงด้านทิศตะวันตก วางแนวขวางทิศทางลม ส่วนลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านบริเวณอ่าวไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม ก่อให้เกิดปริมาณฝนตกชุก
 
ลักษณะทางกายภาพและภูมิประเทศ    
    ลุ่มน้ำปากพนังมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยม สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยเทือกเขาสูงชันทางด้านตะวันตกของพื้นที่ลุ่มน้ำโดย ทอดตัวยาวตามแนวเหนือ-ใต้ เกือบขนานกับแนวชายฝั่งทะเล สภาพของพื้นที่จะลาดเอียงลงมาทางด้านตะวันออกของลุ่มน้ำจนถึงชายฝั่งทะเล โดยจุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่เทือกเขาหลวงสูง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังแบ่งออกได้ 4 ลักษณะ คือ บริเวณที่เป็นเทือกเขาบรรทัดทางด้านตะวันตกของพื้นที่ลุ่มน้ำ อันเป็นแหล่งต้นกำเนิดของแม่น้ำปากพนังซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของลุ่มน้ำ มีความลาดชันของพื้นที่โดยเฉลี่ยมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ถัดจากพื้นที่ภูเขามาทางด้านตะวันออก สภาพพื้นที่จะค่อยๆ ลาดลงมาเป็นที่ลาดเชิงเขามีลักษณะพื้นที่เป็นลูกคลื่นลอนชันถึงพื้นที่ค่อน ข้างเรียบ ถัดลงมาตอนกลางของพื้นที่ลุ่มน้ำจะปรากฏมีแนวสันทรายทะเลเก่าอยู่ 2 แนว ทอดตัวตามแนวเหนือใต้ และในระหว่างแนวของสันทรายทะเลเก่าทั้งสองนี้จะเป็นที่ราบลุ่มต่ำประกอบด้วย พื้นที่พรุและพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดเป็นส่วนใหญ่ ถัดจากสันทรายทะเลเก่าออกมาทางด้านตะวันออก เป็นพื้นที่ราบลาดเทลงสู่แม่น้ำปากพนังฝั่งตะวันตก เป็นแหล่งปลูกข้าวที่ใหญ่ที่สุดของลุ่มน้ำปากพนัง ส่วนพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำปากพนังกับสันทรายริมทะเลเป็นพื้นที่ราบลุ่ม แอ่งที่ลุ่มอยู่ค่อนไปทางสันทรายและมีแนวเกือบขนานกับสันทราย ด้านที่ชิดกับสันทรายเป็นแอ่งน้ำมีน้ำท่วมขัง
    สำหรับ แม่น้ำสายปากพนังมีต้นกำเนิดจากควนหินแท่นและควนหินแก้วทางด้านตะวันตกเฉียง ใต้ของพื้นที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาบรรทัด บริเวณที่เป็นรอยต่อระหว่างเขต 3 อำเภอ คือ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง และอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ลำน้ำมีทิศทางการไหลจากทิศใต้ไปทางทิศเหนือ ผ่านอำเภอชะอวด อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอปากพนัง ลงสู่อ่าวปากพนังบริเวณบ้านปากน้ำ ความยาวของลำน้ำปากพนังจากต้นน้ำถึงจุดที่ไหลลงอ่าวปากพนังยาวประมาณ 150 กิโลเมตร โดยที่แม่น้ำปากพนังตอนต้นเรียกว่าห้วยน้ำใสและคลองไม้เสียบ ช่วงที่ไหลผ่านอำเภอชะอวดและอำเภอเชียรใหญ่เรียกว่าคลองชะอวด ช่วงที่ไหลผ่านอำเภอปากพนังเรียกว่าแม่น้ำปากพนัง ลำน้ำสาขาซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนของแม่น้ำปากพนังส่วนใหญ่จะไหลลงมาจากเทือก เขาบรรทัดซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตก ลำน้ำสาขาที่สำคัญ ได้แก่ คลองลาไม คลองถ้ำพระ คลองรากไม้ คลองฆ้อง คลองเชียรใหญ่ คลองบางไทร คลองเสาธง คลองชะเมา ฯลฯ ส่วนลำน้ำสาขาทางทิศตะวันออกของแม่น้ำปากพนัง ตั้งแต่ตอนใต้ของอำเภอเชียรใหญ่ลงไปเป็นลำน้ำที่ช่วยระบายน้ำจากแม่น้ำปาก พนังลงทะเล ได้แก่ คลองปากพนัง (คลองหัวไทร) คลองท่าพญา คลองบางพรุ คลองบางทราย คลองบางโด คลองบางไทรปก ฯลฯ
 
ที่ตั้งและอาณาเขต    
    ลุ่มน้ำปากพนังตั้งอยู่ในลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกส่วนที่ 4 ซึ่งเป็นลุ่มน้ำสาขาของลุ่มน้ำหลักภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีพื้นที่รวมประมาณ 3,183.89 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,989,932 ไร่ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างลองจิจูดที่ 7 องศง 45 ลิบดา - 8 องศา 30 ลิบดาเหนือ และละติจูดที่ 99 องศา 41 ลิบดา - 100 องศา 30 ลิบดาตะวันออก ครอบคลุมจังหวัดนครศรีธรรมราช 11 อำเภอ ได้แก่ พื้นที่ทั้งหมดของอำเภอปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอชะอวด อำเภอหัวไทร อำเภอพระพรหม และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ บางส่วนของอำเภอลานสกา อำเภอทุ่งสง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช บางส่วนของอำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง และอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
    อาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ใกล้เคียง

        * ทิศเหนือ จรด อำเภอเมืองและอำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
        * ทิศใต้ จรด อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และอำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง
        * ทิศตะวันออก จรด อ่าวไทย
        * ทิศตะวันตก จรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง

http://pakpanang.wu.ac.th/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=3&Itemid=8&limitstart=5

----------------------------------------
อาหารกินกันแบบง่ายๆรวมญาติพี่ๆน้องๆ .. อร่อยหลายๆ กินไปอ่านข่าวไป  HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: prom jantapho ที่ เมษายน 29, 2009, 02:47:18 PM
ปลาลายจุดที่พี่เล็กถามแถวบ้านผมเขาเรียก ปลาขี้ตังส์


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Anan7107 ที่ เมษายน 29, 2009, 08:44:49 PM
อ้างถึง
ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ อยู่แถวไหนครับ เผื่อว่างๆได้เจอตัวเป็นๆกัน อิๆ 
อยู่บ้านเลขที่16 หมู่2 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตกครับ อาจารย์เล็กเรียนจบม.3จากโรงเรียนปากพนังเมื่อปี45  ตอนนี้เรียนอยู่ราชมงคล คลอง6   คณะ วิศวกรรมศาสตร์ เอกอิเล็กทรอนิกส์  อีกปีเดียวจะจบแล้วครับ 


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: b.chaiyasith ที่ กรกฎาคม 21, 2009, 07:21:12 PM
 :) :D-ขอบคุณที่พาเที่ยวและทานอาหารอร่อยๆรายละเอียดแน่นเพียบเลย คงได้มา
 จริงๆอีกไม่นาน kiss6ถ้าไม่ได้มา undecided2 :(


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: pronprasert ที่ สิงหาคม 08, 2009, 02:56:56 PM
คนบ้านเดียวอิอิอิ 


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็กๆ(เล็กซาวด์) ที่ สิงหาคม 08, 2009, 03:20:06 PM
อ้างถึง
คนบ้านเดียวอิอิอิ 

..ยินดีรู้จักครับ ตอนนี้อยู่ที่ไหนเอ่ย  :) HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: zener12v ที่ สิงหาคม 08, 2009, 03:37:19 PM
อยากไปบ้งครับ.


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.T.♥ ที่ สิงหาคม 20, 2009, 08:55:06 AM
ชอบจังครับ น่าดูมาก แต่ยังสัยสัย ไมนกทำรังในตึก แปลกดีนะครับ


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ สิงหาคม 20, 2009, 10:21:08 AM
..ตึกให้นกนางแอ่นอยู่ ผมไปถ่ายภายในตึกมาแล้ว แต่เจ้าของตึกขอร้องอย่านำลงเนท เพราะมีเทคนิคทุกรูปแบบให้นกนางแอ่นมาอยู่ครับ  เช่นฉีดน้ำฝอย ...ทำเสียงนกร้อง(แผ่นซีดีต้องสั่งจากมาเลเซียแผ่นละหมื่นกว่า..แผ่นละร้อยกว่าเรียกนกไม่ค่อยได้ผล) ...และเทคนิคอื่นๆมากมาย ผมไม่สามารถนำมาถ่ายทอดลงในนี้ได้ เพราะรับปากกับเจ้าของตึกไว้แล้วครับ  embarrassed7

  ..ตึกที่ผมไปถ่ายทำ(ปกติจะไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าเด็ดขาด).. ตึกนึ้เป็นตึกใหญ่ราคาก่อสร้างตกตึกละเกือบ100ล.(คงแพงเพราะเป็นตึกครอบตึก)...เจ้าของตึกสนิทกับคุณแม่ผม .... รายได้แต่ละตึกไม่มากเท่าไรครับ เก็บรังนกอย่างเดียวเดือนละ 1-2ล้านเป็นของธรรมดาๆ(ประมาณ80รัง/1ก.ก. ตกก.ก.ละ8หมื่นถึงแสนบาทแล้วแต่ราคาขึ้นลง)   HAPPY2!!

..ท่านใดพอมีเงินเหลือใช้ซัก10-20ล.ก็น่ามาลงทุนนะครับ ..ส่วนที่ดินติดต่อผมได้ครับ ในตัวอ.เมือง ผมพอมีว่างๆอยู่3ไร่ครับ ..แต่ผมไม่มีปัญญาหาเงินมาสร้างตึก ..เสียดายจังงง  ...  undecided2

..แต่หลายตึกก็ลงทุนไม่สูงมากเพียง10-30ล.ทำตึกให้เย็นสบายๆคล้ายถ้ำมากที่สุด นกก็มาอยู่ครับ ..อีกทั้งความสูงก็สำคัญ ไม่ควรต่ำกว่า4ชั้น ... ตึกสูงๆในอ.ปากพนัง ตอนนี้กลายเป็นคอนโดนกแทบทั้งหมด ...ส่วนคน กลับมาอยู่บ้านชั้นเดียวครับ...ผมเองก็อยู่กระต๊อบชั้นเดียวเช่นกัน อิๆ  :o


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.T.♥ ที่ สิงหาคม 25, 2009, 07:34:40 PM
โหนั่นคอนโดนกเหรอครับ แพงซะยิ่งกว่าคนอยู่อีก โหเงิน10-20ล้านมาลงทุนนี่ต้อง คนมีฐานะอย่างมากเลยนะครับถึงจะทำแบบนี้ได้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีมากเลยครับ ดูตึกนก เหอๆ ฝรั่งจะคิดได้แบบคนไทยมะเนี่ย สุดยอดดดดด.... wav!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ สิงหาคม 25, 2009, 08:00:53 PM
..เท่าที่สัมผัส เมืองปากพนังเป็นเมืองของคนที่รวยก็รวยมาก..และคนจนก็จนมากครับ เพราะคนจนส่วนใหญ่ต้องพึ่งพากับงานเกษตรเท่านั้น ..ส่วนมากมักนิยมทำงานราชการกันมากกว่า...

.. สมัย10ปีก่อนรวยกับการทำนากุ้ง สมัยนี้หมดตัวกับนากุ้งกันก็เยอะ เพราะนากุ้งที่ปากพนังเขาทำกันแบบจริงจัง แต่ละบ่อกุ้งขนาด4-5ไร่ยังถือว่าเป็นบ่อไม่ใหญ่มาก ล่าสุดเดือนนี้เพื่อนน้องชายผมน๊อคได้บ่อแรกล.กว่าบาท บ่อที่เหลืออีก2บ่อเป็นกำไรไปเลย(แต่ละบ่อใช้ทุนเลี้ยงต่อครั้งประมาณ7แสนบาท ค่าไฟฟ้าต่อเดือนมากกว่า2หมื่นบาท ใช้ตีน้ำบ่อกุ้งด้วยมอเตอร์ขนาด3-5แรงม้านับสิบตัวครับ ) ..
  ผมก็อยากทำเหมือนกัน ตอนนี้ดูๆไปก่อน เพราะทุนรอนมีจำกัดครับ พลาดไม่ได้  :( HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: pimchanokabc ที่ กันยายน 03, 2009, 09:56:25 PM
เพิ่งทราบว่าพี่ช่างเล็กเป็นคนปากพนังผมเข้าเว๊ปนี้เมื่อหลายปีที่แล้ว(ประมาณ 7-8 ปี)ช่วงนั้นยังไม่มีเมล์เป็นของตนเองเลยต่อมาก็สมัครเข้าเว๊ปนี้หลายครั้งก็ไม่ได้เพิ่งประสบผลสำเร็จเมื่อปลายปีที่แล้ว ก่อนนั้นก็ไปอยู่ ตรงอื่น ได้เข้ามาอ่านช่วงหลังนี้มีความหลากหลายดี พบกระทู้และหัวข้อเกี่ยวกับปากพนังก็เข้ามาดู เห็นหัวข้อเกี่ยวกับการเกษตรและเศรษฐกิจพอเพียง ก็ดีใจเลยเข้ามาทักทาย ผมอยู่อำเภอเชียรใหญ่ พ่อแม่ผมก็อยู่เชียรใหญ่ก่อนถึงเส้นทางตัววายเส้นหนึ่งเข้าอำเภอเชียรใหญ่ อีกเส้นฝ่านอำเภอเชียรใหญ่ทางเส้นนอกไปบ่อล้อ  ก่อนถึงทางด้านซ้ายมือ จะมีป้าย เขียนว่าศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ จะมีรูปสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี และรูปพ่อและแม่เฝ้ารับเสด็จอยู่ ถ้าฝ่านมาทางนี้ก็ด้วยความยินดีนะครับร้านผมอยู่ในตลาดเชียรใหญ่ข้างคิวรถตู้  เบอร์โทรและชื่อร้านตามลายเซ็นนะครับ
ลิ้งกิจกรรมที่บ้านที่พ่อแม่เป็นผู้ดำเนินการเห็นว่าเหมือนกิจกรรมที่พี่เสนออยู่ ครับ http://www.fisheries.go.th/fpo-nakhon/king/25501019_patep_ubon/25501019_pratep_ubon_1.html


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กันยายน 06, 2009, 08:03:48 PM
ด้วยความยินดีครับคุณ ..pimchanokabc ..ประมาณ2เดือนก่อน ผมได้ผ่านสามแยกตัวY ไปฟาร์มแพะเจ๊ย้ง คงจะอยู่ใกล้ๆกันนะครับ
.หากผ่านไปอีกครั้งจะแวะไปเยี่ยมชมกิจการนะครับ ..มีลูกปลาขายไหมครับ  HAPPY2!! :)


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: pimchanokabc ที่ กันยายน 07, 2009, 11:26:06 AM
พันธ์ปลามีเฉพาะพันธุ์ปลานิลจิตลดา 3 เพาะแบบธรรมชาติ ครับ ไม่พอต่อความต้องการของตลาดครับ ผลิตไม่ทัน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นขาประจำบริเวณอำเภอไกล้เคียง บ้านป้าย้งผมเคยไปครับไปเอาพันธุ์ปลาดุกมาเลี้ยงครับ   อยู่เลยบ้านผมไปประมาณ 9-10 กิโลเมตร ครับ  :D


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กันยายน 27, 2009, 08:19:14 AM
..พูดถึงปลากระเบน สามารถนำมาแปรรูปได้อีกเยอะครับ ..ปลากระเบนย่างจิ้มน้ำปลา ..อร่อยเช่นกันครับ เดี๋ยวนี้ราคาไม่ถูกแล้วครับ ตกกิโลละ180.-ทีเดียว ..จำได้สมัยเด็กๆเพื่อนๆคุณพ่อที่อยู่ติดทะเลเอามาให้ที่บ้านบ่อยๆจนไม่รู้ว่าจะทำอะไรกินกัน เพราะสมัย40ปีก่อน ปลากระเบนไม่มีราคา ...หนังสามารถมาทำเป็นกระดาษทรายขัดไม้แทนตะไบหรือบุ้งได้ ส่วนหางปลากระเบนพวกเราเด็กๆเอามาเล่นแทนแซ่ โดนใครเข้าเป็นเลือดออกซิบๆ  HAPPY2!!

 ..ถั่วฝักยาวที่เป็นผักเครื่องเคียงข้างจาน แฟนผมปลูกเองครับ ไม่ฉีดยา ไม่ใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ใช้แต่ปุ๋ยตราขี้น้องกระต่าย ปลูกไว้ไม่ถึงสิบต้น เดือนกว่าๆก็เป็นฝักแล้ว  กินกันแทบไม่ทัน ต้องแจกเพื่อนบ้านครับ  HAPPY2!!

.. ถั่วฝักยาวปลูกที่ปากพนังแปลกดีที่ไม่มีเพลี้ยมากินเลย ต่างกับแม่โจ้..จ.เชียงใหม่ปลูกทีไรเพลี้ยสีแดงมาเกาะเต็มฝักทุกที..  HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ ตุลาคม 08, 2009, 06:41:54 PM
หอยแมงภู่สดๆ... ราคาถูกมากครับ 10 บาท กินกัน4คนอิ่ม... อร่อยอีกต่างหาก  HAPPY2!!


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ ตุลาคม 08, 2009, 06:44:56 PM
ช่างที่ดีต้องขี้สงสัย ..  :o

  ..หอยสีแดงกับสีซีดหมายถึงอะไร..ตัวผู้ตัวเมีย?... หอยกำลังท้อง? ... ใครบอกได้บ้าง  :(  HAPPY2!!


หัวข้อ: ท่านใดรู้จักปูชนิดนี้บ้างครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ ตุลาคม 16, 2009, 10:02:25 AM
...เมื่อวานเดินในตลาดเช้า เจอปูตัวโตเท่าฝ่ามือ(เด็ก) กิโลละ30บาท ...ทำไมถูกจัง ซื้อมา2กิโล ทำน้ำจิ้มรสเด็ด ..อิ่มแปร้ครับ  HAPPY2!!
   
    ปูม้า? ..ไม่แน่ใจครับ ท่านใดรู้จักปูชนิดนี้บ้างครับ  :( :D


หัวข้อ: Re: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: supoj007 ที่ ตุลาคม 19, 2009, 04:19:54 PM
ปูม้า ตำส้มตำ จานละ 50 บาท ในจาน หากตำส้มตำ ขายได้ หลายร้อยครับ lsv-smile