มนุษย์ต่างดาวมีจริงไหม ?
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 21, 2024, 09:50:01 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มนุษย์ต่างดาวมีจริงไหม ?  (อ่าน 2527 ครั้ง)
EMOSECTION
Full Member
member
**

คะแนน20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 453


เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้เป็น


อีเมล์
« เมื่อ: ธันวาคม 23, 2007, 08:42:36 PM »

 Sad


ในดวงดาวนับหมื่นล้านดวงของจักรวาลจะไม่มีดาวเคราะห์ดวงอื่นที่มีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาเหมือนมนุษย์อีกเลยหรือ มนุษย์ต่างดาวเคยมาเยือนโลกจริงหรือไม่ 


มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่

จากบินจากนอกโลกเคยมาเยือนโลกจริงหรือ


ในวัฒนธรรมร่วมสมัย (Popular Culture) ความคิดเรื่องมนุษย์ต่างดาวได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนิยายวิทยาศาสตร์ สารคดี ภาพยนตร์ชุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์มภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ หรือไซไฟ และล่าสุดอินเทอร์เน็ต

ความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวจะฟังดูเหลวไหลสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์เองให้ความสนใจการมาเยือนของสิ่งมีชีวิตนอกโลกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการสืบหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกโดยองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐหรือนาซา ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง


สิ่งมีชีวิตที่องค์การนาซากำลังดำเนินโครงการค้นหาอยู่เป็นสิ่งมีชีวิตระดับพื้นฐานมาก แม้แต่ความพยายามสืบค้นว่าดาวอังคารยังมีน้ำ แหล่งกำเนิดของชีวิตอยู่ใต้ผิวดินหรือไม่ ก็ยังคาดหมายว่าอย่างดีคงได้พบแค่จุลินทรีย์เท่านั้น

จึงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่ามีใครสักคนเคยพบกับมนุษย์ต่างดาว และเคยเห็นพาหนะที่ใช้เดินทางข้ามกาแล็กซีมาแล้ว แต่สำหรับ ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน ไม่เพียงแต่เชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ เขายังเป็นผู้หนึ่งที่เปิดเผยกับสาธารณชนมาตลอดว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง และเขาเป็นหนึ่งในนั้นที่พบและพูดคุยกับมิตรจากนอกโลกที่นำคำทำนายอวสานโลกมาด้วย



"จากการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวครั้งล่าสุดด้วยการสื่อสารทางจิต เขา (มนุษย์ต่างดาว) ได้ฉายลำแสงขึ้นฟ้าให้ผมถ่ายเป็นภาพ ซึ่งตีความหมายได้ว่า อีก 6 ปีข้างหน้าน้ำจะท่วมมหาศาล จนเป็นเมืองใต้บาดาล แผ่นดินไทยจะหายไปกว่าครึ่งประเทศถึงแนวระดับ จ.นครสวรรค์ และภาคอีสานตอนบน โดยจะมีพายุงวงช้างนำมาก่อน ตามมาด้วยคลื่นยักษ์ และแผ่นดินไหวหลังจากนั้นจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยประเทศมหาอำนาจในตะวันออกกลาง และมีอุกกาบาตพุ่งเข้าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ" ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน นายกสมาคมเวชพิพัฒน์ กล่าว


ย้อนไปราว 50 ปี น.พ.เทพพนม (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้ทุนการศึกษาจากกองทุนข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปศึกษาต่อด้านการแพทย์ ณ สหรัฐอเมริกากว่า 15 ปี และเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นจานยูเอฟโอ พร้อมกับชาวอเมริกันกว่าพันคนที่อยู่ในละแวกเดียวกัน

"เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดเมื่อประมาณ 10 นาฬิกาของเช้าวันหนึ่ง ขณะไปแคมปิงกับเพื่อนโดยใช้กล้องส่องทางไกลที่พกอยู่ พบว่าวัตถุที่เห็นมีลักษณะเป็นจานโดมสีเงิน 2 ลำลอยคู่กัน หลังจากนั้นสักครู่ก็มีคนโทรศัพท์แจ้งกองทัพอากาศอเมริกัน ซึ่งทางกองทัพได้ส่งเครื่องบินเจ็ทมาไล่ถึง 2 ลำ ทำให้จานบินลอยขึ้นในแนวตรงจนหายลับไปจากท้องฟ้า"


นายกสมาคมเวชพิพัฒน์เล่าว่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เขาสามารถถ่ายรูปจานบินเก็บไว้ได้กว่า 200 ลำ และมนุษย์ต่างดาวที่ออกมาจากยานประมาณ 30 คน ทั้งที่คล้ายมนุษย์และหน้าตาประหลาดต่างกันออกไปหรือแม้แต่ไม่มีหน้าตา ในสถานที่ต่างๆ เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขากะลา ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ สะพานแม่น้ำแคว จ.กาญจนบุรี ประเทศอียิปต์ ประเทศจีน เป็นต้น

นับแต่นั้นจนปัจจุบันอายุย่างเข้า 72 ปีแล้ว เขายังติดตามข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวหรือจานบิน รวมถึงศึกษาหาวิธีติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวอย่างเข้าใจกัน ทั้งการรับนิตยสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวจากต่างประเทศ อาทิเช่น อเมริกา อังกฤษ ยุโรป เยอรมนี และการติดต่อกับกลุ่มผู้สนใจและศึกษาอยู่ก่อน



ขณะเดียวกัน ในสหรัฐมีโครงการสืบหาสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญานอกโลกที่รู้จักกันดีในนาม เซติแอตโฮม ( http://setiathome.berkeley.edu ) รับผิดชอบโดยห้องปฏิบัติการวิจัย วิทยาศาสตร์อวกาศ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย

โครงการดังกล่าวเริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2542 ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์คลื่นวิทยุอเรซิโบเพื่อค้นหาสัญญาณวิทยุที่น่าจะเป็นสัญญาณที่ส่งมาจากสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญานอกโลก



การค้นหาสัญญาณวิทยุของทีมงานคล้ายกับการจูนเครื่องรับวิทยุหาช่องสัญญาณที่กำลังส่งชัดเจน แต่เนื่องจากข้อมูลที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์มีจำนวมหาศาล นักวิจัยประจำโครงการจึงพัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดเล็กที่เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการดาวน์โหลดลงเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี ทุกครั้งที่คอมพิวเตอร์ออนไลน์ระบบจะคอยตรวจสอบดูว่าเครื่องพีซีว่างจากการใช้งานหรือไม่ ถ้าเครื่องถูกเปิดทิ้งไว้เฉยๆ คอมพิวเตอร์ศูนย์กลางจะใช้พลังประมวลผลของพีซีมาช่วยอ่านสัญญาณ


ปัจจุบัน มีคอมพิวเตอร์เข้าร่วมโครงการแล้ว 5.2 ล้านเครื่อง แต่ปัญหาของโครงการตามหามนุษย์ต่างดาวของสหรัฐนี้คือ ผู้เข้าร่วมโครงการถอนตัว และคอมพิวเตอร์ 1 ใน 3 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในสถานการศึกษาและภาคธุรกิจ ซึ่งผู้ดูแลระบบมักกังวลด้านความปลอดภัยด้านการเจาะระบบข้อมูล แต่ปัญหาใหญ่สุดของโครงการนี้คือ ทุนสนับสนุน

ในต่างประเทศ การศึกษาเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกไม่ได้เป็นเรื่องเหลวไหล ตรงกันข้ามยังเปิดเวทีกระตุ้นความสนใจอย่างกว้างขวาง ดังเห็นได้จากนิทรรศการ "วิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิตจากต่างดาว" ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และระบบดาวเคราะห์ของไมอามีจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่สาธารณชน นอกจากนี้ กลุ่มที่เชื่อและเคยมีประสบการณ์เผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวยังจัดประชุมประจำปีเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างสม่ำเสมอ




บันทึกการเข้า

สิ่งที่ดีที่สุด คือการให้ แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือการเห็นแก่ตัว
(ปัญหาทุกอย่าง มีทางแก้เสมอ อยู่ที่เราจะแก้มันด้วยวิธีใหน แต่สุดปัญญาทน สุดท้ายต้อง วิชามาร)

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!