แผนผัง ดอกไม้นรก
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 21, 2024, 02:18:40 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แผนผัง ดอกไม้นรก  (อ่าน 4032 ครั้ง)
EMOSECTION
Full Member
member
**

คะแนน20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 453


เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้เป็น


อีเมล์
« เมื่อ: ธันวาคม 23, 2007, 07:00:15 PM »

 Sad




ภาพ แนวตัด และ แนวขวางไล่เอาเองนะ ไม่ยาก เว้น โลกันตนรก
สิ่งที่ควรรู้ 1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร
นิรยภูมิ


ดูกรเธอผู้เห็นภัย ในวัฏสงสารทั้งหลาย! สัตว์ที่จุติจากมนุษย์ไปแล้วจะกลับมาเกิด เป็นมนุษย์อีกมีน้อย โดยที่แท้ สัตว์ที่จุติจากมนุษย์ ไปแล้ว ย่อมกลับไปเกิดในนรกมีประมาณมากกว่า ดูกรเธอ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย! สัตว์ที่จุติจากนรกไปแล้วจะกลับมาเกิด เป็นมนุษย์อีกมีน้อย โดยที่แท้ สัตว์ที่จุติจากนรก ไปแล้ว ย่อมกลับไปเกิดในนรก ในกำเนิดสัตว์ เดียรัจฉาน ในเปรตวิสัย มีประมาณมากกว่า ดูกรเธอผู้เห็นภัยใน วัฏสงสารทั้งหลาย! สัตว์ที่จุติจากนรกไปแล้วจะกลับมาเกิด เป็นเทพยดา มีน้อย โดยที่แท้ สัตว์ที่จุติจากนรก ไปแล้ว ย่อมกลับไปเกิดในนรก ในกำเนิดสัตว์ เดียรัจฉาน ในเปรตวิสัย มีประมาณมากกว่า

นรกขุมต่าง ๆ ที่สัตว์อุบัติเกิดในนรก มหานรก นรกขุมใหญ่ได้นามบัญญัติว่า มหานรก มีอยู่ทั้งหมด ๘ ขุมด้วยกัน ตั้งซ้อนเรียงรายกันอยู่เป็นชั้น ๆ

มหานรกขุมใหญ่มีอยู่ทั้งหมด ๘ ชั้น ตามภาพแรก


สัญชีพนรก ๑.

สัญชีพนรกห่างไกลจากมนุษย์โลกเรานี้ไปทางเบื้องต่ำภายใต้พื้นดินธรณีประมาณ ๑๕,๐๐๐ โยนช์ ปรากฏว่าสัญชีมหานรกประดิษฐานอยู่ สัตว์นรกในมหานรกขุมนี้มีอายุถึง ๕๐๐ ปี ของนรกขุมนี้ ๕ ล้านปีของเมืองมนุษย์ เป็นหนึ่งวันของเมืองนรกขุมนี้ แล้วก็เดือนหนึ่งมี ๓๐ วัน แล้วก็ปีหนึ่งมี ๑๒ เดือนเหมือนกัน ท่านลองคุณกันเล่น ๆ ก็แล้วกันว่ามันนานเท่าไหร่ เหล่าสัตว์ผู้ไปเกิดเป็นถึงแม้ว่าจะได้รับทุกข์โทษอย่างเสนสาหัสจนขาดใจตาย ไปแล้ว ก็กลับเป็นขึ้นมาอีกได้ หมายความว่า บุคคลผู้มีใจบาปหยาบช้าลามกซึ่งตายไปตกนรกขุมนี้แล้ว เขาก็จะคล้าย ๆ กับว่ามีตัวตนเป็นกายสิทธิ์ คือไม่มีวันที่จะตายกันเลย ถึงแม้จะได้รับโทษอย่างแสนสาหัสจนทนไม่ไหวขาดใจตายไปก็จริง ถึงกระนั้นก็ต้องมีชีวิตชีวา กลับเป็นขึ้นมารับทุกข์โทษต่อไปอีก ฉะนั้นมหานรกนี้จึงมีชื่อว่า สัญชีวมหานรก = นรกขุมใหญ่ซึ่งทำให้ไม่มีวันตาย
กาฬปุตตะ ๒.

กาฬปุตตะมหานรก ห่างไกลจากสัญชีวมหานรกลงไปภายใต้ประมาณได้ ๑๕,๐๐๐ โยชน์ สัตว์ที่เสวยทุกขเวทนาอยู่ถึง ๑,๐๐๐ ปีนรก ๓๖ ล้านปีมนุษย์ เป็นหนึ่งวันของเมืองนรกขุมนี้ นรกขุมนี้มีกรรมหนักกกว่า แล้วก็มีอายุมากกว่า สัญชีพนรกอีก ปรากฏว่ามีกาฬปุตตะมหานรกประดิษฐานอยู่เหล่าสัตว์ผู้ไปเกิดเป็นสัตว์นรกขุม นี้ ย่อมถูกลงโทษโดยนายนิรยบาลพากันเอาเส้นเหล็กเเดงลุกเป็นไฟมาตีให้เป็นเส้นดำ เข้าตามร่างกาย แล้วก็เอาเลื่อยนรกมาเลื่อย หรือเอาขวานนรกมาผ่า หรือเอามีดนรกมาเฉือนกรีดไปตามรอยเส้นดำที่ตีไว้นั้น ไม่มีผิดรอยได้ ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า กาฬปุตตะมหานรก = นรกขุมใหญ่ซึ่งมีการลงโทษตามเส้นบรรทัดดำ
สังฆาฏ ๓.

สังฆาฏมหานรก ห่างไกลจากกาฬสุตตมหานรกลงไปภายใต้ประมาณ ๑๕,๐๐๐ โยชน์ นรกขุมนี้มีอายุ ๒,๐๐๐ ปีนรก ๑๔๕ ล้านปีของมนุษย์เท่ากับหนึ่งวันของนรกขุมนี้ปรากฏว่าสังฆฏมหานรกประดิษฐาน อยู่เหล่าสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้

ย่อมถูกลงโทษโดยถูกภูเขาเหล็กแดงกลิ้งไปกลิ้งมา กลิ้งเข้าหากัน บดบรรดาสัตว์ทั้งหลายให้แหลกเหลวไป เมื่อภูเขาเหล็กเลยไปแล้ว สัตว์ทั้งหลายก็กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ คือร่างกายเต็มตามเดิม แล้วก็พากันวิ่งหนีภูเขาไฟแต่ก็มาเจอนายนิริยบาลตีด้วยค้อนบ้างแทงด้วยหอก บ้าง เลยต้องพากันวิ่งไปบนแผ่นเหล็กแดง ซึ่งมีไฟเผาลุกโชนอยู่ตลอดเวลา

และข้างก็ภูเขาไฟกลิ้งมาทางพวกสัตว์นรกวิ่งต่างก็วิ่งย้อนมาทางเดิมก็ต้องมา เจอกับนายนิริยบาลเคยทุบตีเข้าให้อีก ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสอยู่ตลอดเวลาไม่ว่างเว้น ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า สังฆฏมหานรก = นรกขุมใหญ่ซึ่งมีการลงโทษโดยมีภูเขาไฟบดขยี้ร่างกาย
โรรุวนรก ๔.

โรรุวมหานรก ห่างไกลจากสังฆฏมหานรกลงไปในภายใต้ประมาณได้ ๑๕,๐๐๐ โยชน์ นรกขุมนี้มีอายุ ๔,๐๐๐ ปีนรก ๒๓๔ ล้านปีเมืองมนุษย์เท่ากับหนึ่งวัน ของนรกขุมนี้ ปรากฏว่าโรรุวมหานรกประดิษฐานอยู่เหล่าสัตว์ ดอกบัวเหล็กใหญ่มาก กลีบก็เป็นเหล็ก ซึ่งมีไฟนรกลุกแดงโพลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ไปอุบัติเกิดเป็นสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ จะถูกบังคับให้ขึ้นไปนั่งบนดอกบัว เมื่อขึ้นไปบนดอกบัวแล้วกลีบบัวก็บานขึ้น บานแล้วก็เป็นเหล็กแดงมีกระแสไฟพวยพุ่งออกมาจากกลีบ คราวนี้ดอกบัวก็จะถูกไฟเผาจนแดง ไฟกรดยังเผาอยู่ตลอดเวลา พลุ่งอยู่ตลอดเวลาเขาบังคับ

คือกฏของกรรมบังคับให้สัตว์ค่อย ๆ ก้มหัวลง ขึ้นไปยืนบนดอกบัวแล้วแหย่ขาลงไปในระหว่างกลีบ กรรมมันบังคับให้ตัวค่อย ๆ ก้มลง ๆ ในที่สุดก็จุ่มลงไปในโคนของกลีบดอกบัวมือทั้งสองข้างก็ยันลงไปในโคน ของกลีบดอกบัว เมื่อพร้อมแล้วกลีบบัวก็งับเข้ามาเป็นกลับเหล็ก ร้อนก็ร้อน คมก็คม หัวจรดลงไปถึงแค่คาง มือจมลงไปถึงแค่ข้อมือ เท้าทั้งสองจมลงไปถึงแค่ข้อเท้า เจ็บก็เจ็บร้อนก็ร้อน ถูกไฟเผาอยู่ตลอดเวลา ดอกบัวเหล็กก็รัดเข้าไป ความทุกข์ทรมานก็คงอยู่อย่างนั้นนานหนักหนาจนกว่าจะสิ้นอายุ ๔,๐๐๐ ปีนรก เมื่อเป็นเช่นนี้

เหล่าสัตว์นรกทั้งหลายก็ย่อมจะส่งเสียงร้องไห้ครวญครางเป็นธรรมดา ทุกถ้วนหน้าสัตว์นรกซึ่งมีอยู่มากมายหลายเป็นขุมนรกที่เต็มไปด้วยเสียง ร้องไห้ร้องครวญคราง ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า โรรุมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ สัตว์เหล่านี้ไม่เคารพ กรรมบถ ๑๐ จึงต้องมาเสวยทุกข์ในนรกขุมนี้
มหาโรรุวมหานรก ๕.

มหาโรรุวมหานรก ห่างไกลจากโรรุวมหานรกลงไปในภายใต้ประมาณได้ ๑๕,๐๐๐ โยชน์ นรกขุมนี้มีอายุ ๘,๐๐๐ ปีนรก เทียบกับเมืองมนุษย์ได้ ๙๒๑๖ ล้านปีเป็น ๑ วันของนรกขุมนี้ ปรากฏว่ามหาโรรุวมหานรกประดิษฐานอยู่เหล่าสัตว์ผู้ไปเกิดเป็นสัตว์นรกในมหา นรกขุมนี้ ย่อมถูกลงโทษโดยวิธีให้ยืนแข็งทื่ออยู่ในดอกบัวเหล็กตั้งบานสะพรั้งเหมือน กันเป็นดอกบัวที่น่าหวาดกลัว ไม่น่าชม ใกล้ ๆ ดอกบัวมีแหลนหลาวปักเอาปลายขึ้น มีไฟลุกโชนเหมือนกัน ดอกบัวนี้ไม่งับไม่กางงับไม่สนิทเหมือนดอกบัวขุมก่อน ขุมก่อนงับสนิทหนีไม่ได้

ดอกบัวขุมนี้กลีบแต่ละกลีบคมเป็นกรดคมมากกว่าขุมก่อน มิหนำซ้ำยังร้อนแรงมากกว่าสัตว์นรกขึ้นไปบนนั้นแล้วถูกความร้อนเผาเพราะ อำนาจความร้อนเต้นเร่า ๆ ๆ เต้นไปเต้นมากลีบดอกบัวมันก็บาดเข้าไปในเนื้อไฟก็เผาชะแลบแล่เนื้อหนังหล่น ลงมา หมานรกก็คอยกินเนื้อหนังสัตว์เหล่านั้นอยู่ข้างล้าง บ้างก็หล่นลงมาถูกแหลนหลาวเสียบไฟก็เผาเนื้อหล่นลงมาหมาก็มารุมกิน รุมแทะเหลือแต่กระดูก ไม่ตายหรอก พอเหลือแต่กระดูกมันเจ็บแสบเหลือเกิน ร่างกายจับเข้าเป็นกายใหม่ พอเป็นกายเต็มแล้ว นายนิริยบาลก็เอาหอกเที่ยวไล่แทง บังคับให้ขึ้นไปอยู่บนดอกบัวอีก

ทำให้สัตว์นรกได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง ส่งเสียงร้องโอดโอยครวญครางเสียงดังมากกว่ามาก ฉะนั้นมหาโรรุมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า มหาโรรุวมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงร้องครวญครางมากกว่ามาก ถ้าจะถามว่าสัตว์เหล่านี้ต้องโทษอะไร ก็คือกรรมบถ ๑๐ ยังไงล่ะ
ตาปะมหานรก ๖.

ตาปะมหานรก ห่างไกลจากมหาโรรุวมหานรกลงไปในภายใต้ประมาณได้ ๑๕,๐๐๐ โยชน์ นรกขุมนี้ สัตว์มีอายุ ๑ หมื่น ๖ พันปีนรก ๑๘๔,๒๑๒ ล้านปีเมืองมนุษย์เท่ากับ ๑ วันของนรกขุมนี้ ปรากฏว่ามีตาปะมหานรกประดิษฐานอยู่เหล่าสัตว์ผู้อุบัติเกิดเป็นสัตว์นรกใน มหานรกในขุมนี้ ย่อมถูกลงโทษโดยวิธีถูกย่างให้ร้อนบนปลายหลาวเหล็กซึ่งโตเท่าลำตาล แหลมหลาวทั้งหลายเหล่านั้น มันเที่ยวไล่เสียบไล่แทงบรรดาสัตว์ทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้ ความจริงไม่มีชีวิต มันเสียบแทงสัตว์ทั้งหลายแล้วก็ตั้งขึ้นไว้ ไฟก็ไหม้ เนื้อหนังหล่นลงมาไหม้ เรียกว่าถูกไฟไหม้เนื้องหนังก็ทนไม่ไหว เนื้อก็ค่อย ๆ หล่น ขยายตัวลงมา

ผลที่สุดบรรดาสัตว์นรกทั้งหลายก็ทนอยู่บนแหลนไม่ไหว หล่นลงมาข้างล้างถูกพื้นเหล็กแดงเป็นเพลิงข้าล้างร้อนจัด ไฟก็เผา สุนัขตัวใหญ่ ๆ พากันวิ่งมากัดกิน กัดกินเนื้อ มันทั้งเจ็บทั้งแสบทั้งร้อน พอเข้าไปถึงกระดูกมันก็แทะกระดูกอีก สัตว์ทั้งหลายเหลือแต่กระดูก ธรรมดาคนและสัตว์ในเมืองมนุษย์ ถ้ามันเหลือแต่กระดูกแล้วชีวิตมันก็ไม่เหลือ แต่ทว่าในเมืองนรกนี้หาความตายไม่ได้ เพราะว่าเขาเอามาเพื่อทรมาน ให้เข็ดหลาบจำกัน ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า ตาปะมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งทำให้สัตว์นรกทั้งหลายเร่าร้อน
มหาตาปนมหานรก ๗.

มหาตาปนมหานรก ห่างไกลจากตาปนมหานรกไปในภายใต้ประมาณได้ ๑๕,๐๐๐ โยชน์ อายุของสัตว์นรกขุมนี้เขาไม่ได้บอกกำหลดเวลาไว้ ท่านบอกว่ามีอายุครึ้งกัป อายุหนึ่งกัปนั้นอุปมาว่า มีภูเขาหินแข็งแรงลูกหนึ่งสูง ๑ โยชน์ กว้างหนึ่งโยชน์ ยาว ๑ โยชน์ ถึงเวลา ๑๐๐ ปีจะมีเทวดาองค์หนึ่งเอาผ้าเนื้ออ่อนเหมือนสำลีมาปัดภูเขานั้นครังหนึ่ง ปัดทีหนึ่งแล้วก็กลับไป ๑๐๐ ปีมนุษย์ก็มาปัดอีกทีหนึ่ง จนกระทั้งภูเขาหินนี้เหี้ยนเตียนลงไป หาหินไม่ได้เลยเหลือแต่ดินล้วน ๆ นั้นเป็นอายุประมาณ ๑ กัป ปรากฏว่ามีมหานปนมหานรกประดิษฐานอยู่เหล่าสัตว์ผู้ไปอุบัติเกิดเป็นสัตว์นรก ในมหานรกขุมนี้

ท่านบอกว่ามีกำแพงกั้นทุกด้านมีไฟพุ่งเข้ามาทุกด้าน อันนี้เหมือนกับนรกขุมอื่น แต่ทว่าไฟนี่ไม่มีเปลวจริง ๆ คล้ายกับแสงสว่างธรรมดา แต่มีความร้อนแรงมาก แล้วก็มีภูเขาเหล็ก ในนรกนี่เเปลกมีภูเขาเหล็ก ตั้งอยู่ระหว่างขุมนรกเยอะแยะไปหมด ความร้อนก้มาก ไฟพุ่งมาทุกทิศ จากข้างล้างถึงข้างบน จากข้างบนลงข้างล้างจากทิศเหนือทิศใต้ ทิศซ้ายทิศขวา พุ่งเข้ามารวมกันในจุดกลาง เหล็กหรือก็แดงฉานสัตว์นรกเนื้อและกระดูกแดงเหมือนเหล็กถูกเผาสุก ไฟนี้มีความร้อนแรงมากกว่าเมืองมนุษย์หลายสิบล้านเท่า นายนิริยบาลบังคับให้สัตว์ขึ้นเขา ถ้าไม่ขึ้นก็เอาหอกเสียบ หอกแทง เอาค้อนทุบ ไล่ตีพวกสัตว์นรกทั้งหลายเหล่านี้มันก็เจ็บอยู่แล้วพอไฟเข้ามามันก็ร้อน พื้นก็ร้อน ถูกเขาบังคับแบบนั้นมันก็ต้องไป ต้องวิ่งขึ้นไป พากันวิ่งไปบนยอดเขา ภูเขาก็เป็นไฟทั้งลูก ร้อนแรงแล้วก็เป็นเหล็ก ไฟข้างนอกก็พุ่งเข้ามา พอหล่นลงมาก็เสียบกับแหลนแหลว ที่ปักเรียงรายอยู่รอบ ๆ เขา

สัตว์ก็ดิ้นเร่า ๆ มีความร้อน มีความเจ็บ ทุกข์ทรมานมากที่สุดเมื่อโดนเสียบแบบนั้น ถูกไฟเผาหนักเข้า ในที่สุดก็หล่นลงมาจากแหลนหลาว ร่างกายก็เต็มบริบูรณ์ และก็ถูกไฟเผ่าตามเดิม นายนิริยบาลก็เข้าไปเอาค้อนทุบบ้างเอาหอกเสียบบ้าง บังคับให้ขึ้นเขาต่อไป สัตว์นรกเหล่านี้จึงได้รับความทุกข์ทรมานยิ่งกว่ามหานรกขุมที่ ๖ ที่กล่าวมาแล้วนั้นมากกว่า ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า มหาตาปะมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งทำให้สัตว์นรกทั้งหลายเร่าร้อนมากกว่ามาก
อเวจีมหานรก ๘.

อเวจีมหานรก ห่างไกลจากมหาตาปนมหานรกลงไปในภายใต้ประมาณได้ ๑๕,๐๐๐ โยชน์ นรกขุมนี้มีอายุหนึ่งกัปพอดี การลงโทษของนรกขุมนี้มีเป็นพิเศษ นรกตั้งแต่ขุมที่ ๑ ถึงขุมที่ ๗ หรือว่าขุมอื่น บรรดาสัตว์ทั้งหลายมีการเคลื่อไหวได้ แต่ทว่าอเวจีมหานรกนี่ ไม่มีการเคลื่อไหว นรกขุมนี้มีกำแพงพิเศษทั้งข้างล้างข้างบน และทั้ง ๔ ด้านหนา สัตว์นรกเหล่านั้นยืนแล้วมีกำแพงทั้ง ๖ ด้าน ด้านข้าง ๔ ด้าน ข้างบนข้างล้าง ไฟก็พุ่งมาทั้ง ๖ ทิศ หอกทั้งเบื้องล้างเบื้องบน ด้ามหอกฝังอยู่กำแพงด้านบน ปลายหอกเสียบตั้งแต่หัวทะลุก้นและปักลงไปปักอยู่กำแพงด้านล้าง ด้านหน้า ด้านติดอยู่กับกำแพงด้านหน้า

ตรงกลางหอกติดอยู่ที่อกของสัตว์นรกเหล่านั้น ด้านปลาย เอาหอกไปปักอยู่กำแพงด้านหลัง ด้านข้างก็เหมือนกันทั้งมือเท้า ทั้งตัว ถูกเสียบด้วยหอกหลายสิบเล่ม ได้รับความทุกข์ทรมานที่สุดไม่สามารถขยับเขยื่อนได้ เพราะถูกหอกมันตรึงเข้าไปหมด หอกก็เสียบ หอกเป็นเหล็กไฟ แล้วไฟก็พุ่งเข้ามาทั้ง ๖ ด้าน กระดูกแดงฉานเหมือนเหล็กสุก ไม่มีทางที่จะดิ้นรนได้

ความทุกข์ที่ทรมานที่ได้รับนั้นมันเป็นความทุกข์ทรมานที่เสมอราบเรียบหนัก หนาอยู่อย่างนั้นตลอดกาลนาน อยู่อย่างนั้น สิ้นเวลา ๑ กัป ไม่มีการผ่อนปรนเป็นความเบาบางเป็นบางครั้งบางคราวเหมือนมหานรกขุมอื่น เพราะเหตุที่นรกขุมนี้มีเปลวไฟนรกและความทุกข์หนักปรากฏอยู่เสมอ ไม่มีขณะที่ว่าง หรือขณะที่ผ่อนปรนให้เป็นความเบาบางเลยแม้แต่สักนิดเดียว ฉะนั้นมหานรกขุมนี้ จึงมีชื่อว่า อเวจีมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งปราศจากคลื่อนกล่าวคือ ความเบาบางแห่งความทุกข์

อุสสุทนรก 8 ชั้นๆละ 4 ทิศๆละ 4 ขุม ตามภาพ

*อย่า งงลองบวกไล่ดู

อุสสุทนรก

อุสสุทนรก นี้ ล้อมรอบเป็นบริวารชั้นในแห่งมหานรกในทิศทั้ง ๔ ทิศ ๆ ละ ๔ ขุม มหานรกขุมหนึ่ง ๆ มีอุสสุทนรกล้อมรอบ ๑๖ ขุม เพราะฉะนั้น อุสสุทนรกนี้จึงมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดมากถึง ๑๒๘ ขุม คือ ๑. ล้อมรอบสัญชีวมหานรก ๑๖ ขุม ๒. ล้อมรอบกาฬสุตตมหานรก ๑๖ ขุม ๓ ๓. ล้อมรอบสังฆฏมหานรก ๑๖ ขุม ๔. ล้อมรอบโรรุวมหานรก ๑๖ ขุม ๕. ล้อมรอบมหาโรรุวมหานรก ๑๖ ขุม ๖ ๖. ล้อมรอบตาปนมหานรก ๑๖ ขุม ๗. ล้อมรอบมหาตาปนมหานรก ๑๖ ขุม ๘. ล้อมรอบอเวจีมหานรก ๑๖ ขุม รวมเป็น อุสสุทนรก ๑๒๘ ขุม

คูถนรก ๑

บัดนี้จะขอกล่าวถึงชื่อแห่งอุสสุทนรกเพียง ๔ ขุม ซึ่งล้อมรอบเป็นบริวารในทิศบูรพา ของมหานรกขุมที่ ๑ คือสัญชิวมหานรกเท่านั้น ทั้งก็เพราะว่าอุสสุทนรกซึ่งล้อมรอบเป็นบริวารในทิศที่เหลือ คือ ทิศอุดร ทิศทักษิณ ทิศปัจฉิมก็ดี และอุสสุทนรกที่ล้อมรอบเป็นบริวารของมหานรกขุมอื่น ๆ ก็ดี อุสสุทนรกเหล่านั้นทั้งหมดต่างก็มีชื่อ และมีวิธีการลงโทษเหมือน ๆ กันกับอุสสุทนรกทั้ง ๓ ที่ล้อมรอบเป็นบริวาร


บันทึกการเข้า

สิ่งที่ดีที่สุด คือการให้ แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือการเห็นแก่ตัว
(ปัญหาทุกอย่าง มีทางแก้เสมอ อยู่ที่เราจะแก้มันด้วยวิธีใหน แต่สุดปัญญาทน สุดท้ายต้อง วิชามาร)

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!