สนช.ปลดล็อก “กัญชา+กระท่อม”แล้ว เล็งจัดโซนนิ่งให้เสพ ไม่ผิดกฎหมาย

สนช.ปลดล็อก “กัญชา+กระท่อม”แล้ว เล็งจัดโซนนิ่งให้เสพ ไม่ผิดกฎหมาย

<< < (3/3)

eskimo_bkk-LSV team♥:
ต้นฉบับ เขียนข่าว เหมือนเด็กป.4  น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ่งโหรงเหรง
ฟังไม่ได้ศัพท์ วกไปวนมา เลย ย่อมาให้ดู เอา เนื้อๆ ไม่เอาน้ำำ

น้ำมันสารสกัดจากกัญชา
ขององค์การเภสัชกรรมเข้าบัญชี
ยาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรแล้ว

ทั้งสูตร THC เด่น, CBD เด่น และ CBD : THC 1:1

มีคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย
และแผนปัจจุบันให้บริการทั่วประเทศถึง 1,173 แห่ง

ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์น้ำมันสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ล็อตแรก
ให้แก่คลินิกกัญชานำร่องในทุกเขตสุขภาพ
เริ่มจากระยะแรกเป็นน้ำมันสารสกัดกัญชาชนิดหยดใต้ลิ้น

สูตรที่มี THC เด่น สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะคลื่นไส้
อาเจียนจากเคมีบำบัด
ภาวะปวดประสาท

สูตร 1:1 ในผู้ป่วยประคับประคอง
หรือผู้ป่วยระยะสุดท้าย

น้ำมันสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม
ทั้ง 3 รายการ เป็นรูปแบบยาหยดใต้ลิ้น ประกอบด้วย

น้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี THC เด่น ใช้เสริมในการรักษาภาวะคลื่นไส้
อาเจียนจากเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ที่มีอาการนอนไม่หลับ
เบื่ออาหาร หรือมีอาการปวดในระดับปานกลางจนถึงรุนแรง,

น้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี CBD เด่น
สำหรับรักษาโรคลมชักในเด็ก และ

น้ำมันสารสกัดกัญชา
ที่มี CBD และTHC สัดส่วน 1:1 ใช้รักษาเสริมในผู้ป่วยมะเร็ง
ระยะท้ายที่นอนไม่หลับ
เบื่ออาหาร ปวดปานกลางถึงรุนแรง

ผู้ป่วยบางรายมีความจำเป็นต้อง
ใช้น้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี THC สูงกว่า
ผลิตภัณฑ์เดิมที่มีความเข้มข้น 13 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยระยะสุดท้าย
องค์การเภสัชกรรม จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์

น้ำมันสารสกัดกัญชาสูตรใหม่
ที่มี THC เข้มข้น 81 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร
เพื่อใช้เป็นการรักษาเสริมในภาวะคลื่นไส้
อาเจียนจากเคมีบำบัดผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะท้าย
ที่มีอาการนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร
หรือมีอาการปวดในระดับปานกลางจน
ถึงรุนแรง

นับเป็นยาจากกัญชารายการที่ 4
ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม

โค๊ด:

12 พฤษภาคม 2565
เพจ รับบาลไทย
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/54515

eskimo_bkk-LSV team♥:
สรุปหลัง 9/6/65 จะเป็นยังไง

ป๋าอ๋องหรือบอสอ๋อง กูรูธุรกิจกัญชา 5 ปี ระดับนานาชาติ มาบอกเอง

การันตี ฟันธง ห้ามด่า เพราะไม่เคยคาดอะไรผิด !!!

➡️ กัญชาจะล้นตลาด ราคาจะเท่าใบกระเพรา ไม่เกิน 6 เดือนจากนี้

➡️ คนที่คาดจะปลูกเยอะ 90% เจ๊ง ถามตัวเองปลูกแล้วขายใคร
ปลูกแล้วได้มาตรฐานตามที่ผู้ซื้อต้องการไหม?
ตลาดสกัดลืมไปได้เลย การแพทย์ทั่วโลกใช้แค่ 7%
ที่สำคัญบริษัทอันดับต้นของประเทศล้วนมีโรงปลูกกันเอง
เพื่อคงคุณภาพและควบคุมได้

➡️ การสกัดแบบ modern จะมาลบการสกัดแบบเก่า 100%
แต่เครื่องสกัดราคาร้อยล้าน ไม่ได้มีค่าไปมากกว่า
 คนสกัดที่เก่ง (ขี้คุยเยอะมาก)

➡️ สินค้าทั่วประเทศโดยเฉพาะโอท็อปจะมีแต่
กัญชา กัญชา และกัญชา ไม่ทันได้ใช้คำว่าแข่งขัน
เพราะมันออกพร้อมกัน ไม่รู้จะแข่งยังไง คนซื้อก็งง

➡️ สันทนาการ คือทางออก แต่คงไม่ใช่ตอนนี้

➡️ อย่าเห่อปลูก เพราะแค่มันจะปลด เอาแค่พอตัว แล้วจะไม่หมดตัว

➡️ อีกไม่นานกัญชงจะเหลือ กิโลล่ะ 500บาท กัญชา ไม่เกิน 1000 บาท
สำหรับผู้พอมีฝีมือในการปลูก

➡️ ขอให้ค่อยๆดู อย่าตื่น อย่าเต้น เหมือนเช่น
ใบกิโลล่ะ 20000 ราก 30000 ต้น 15000… ต้มตุ๋นกันเอง
แถมสุดท้ายหักคอเอาออกมาขายกิโลละ 1000บาท…
เพราะอีกไม่นาน มันจะเป็นอาหารสัตว์

➡️ ถ้าจะทำ ทำ ending product แล้วแข่งกับตลาดนอก ตลาดโลก
อันนั้นรอด เพราะไทย แรงงานถูกต้นทุนต่ำกว่าที่อื่น

➡️ คำว่า”กัญชา” มันไม่ได้หมายถึงแค่ “กัญชา”
แต่อะไรที่เกี่ยวกับกัญชา นั้นแหละทางรอด

➡️ ย้ำเหมือนข้างต้น “ห้ามด่า”
เพราะผมทำกัญชาระดับโลกมา 5 ปีแล้ว
ไม่มั่ว ไม่จกตา เห็นหมด อะไรเป็นอะไร
แค่ประเทศสาระขัณฑ์ ผมมองไม่ผิด

➡️ถ้าเงินเหลือเยอะทำเลย ถ้าไม่มีเงินอย่าคิด
เพราะ”กัญชา”คือการแข่งขันสูงสุดที่คุณภาพ

➡️มีแต่คนบอกทำกัญชารวย ลองไปถามไอ้คนที่เจ๊ง "คุณจะรู้ว่าฝั่งไหนมากกว่ากัน"

➡️ไม่เกิน 3 ปี จะเหลือแค่ 15% ของคนปลูกที่หลงเหลืออยู่ในตลาด….เชื่อบอส ไม่ “จกตา”

กัญชาคือเกมส์การเมือง เท่านั้นเอง

อยากให้คนรู้ทั้งประเทศ แต่มีปัญญาโพสเท่านี้

สรุปสั้นๆง่ายๆว่า

(1)ปลูกพอกินพอใช้ครัวเรือนตัวเองพอแล้ว
(2)อยากทำธุกิจ ต้องส่งออกเท่านั้น

(2)ข้อนี้แหละท่องให้ขึ้นใจจะไม่เสียใจ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[*] หน้าที่แล้ว