รายงานจราจรอัจฉริยะ ดูได้...ผ่านมือถือ

การเดินทางในช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ มักก่อปัญหาเสมอโดยเฉพาะเรื่องของอุบัติเหตุและการจราจรติดขัด เทคโนโลยีจึงถูกนำมาใช้เพื่อลดปัญหาดังกล่าว

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ .... กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติหรือเนคเทค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำผลงานวิจัยที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางที่พัฒนาอย่าง ต่อเนื่องออกมาให้บริการประชาชน

เรียกว่า “โปร แกรมระบบขนส่งและการจราจรอัจฉริยะหรือ ITS”

“ดร.ภาสกร ประถมบุตร” ผู้อำนวยการโปรแกรมระบบขนส่งอัจฉริยะ จากเนคเทค บอกว่าโปรแกรมนี้พัฒนาขึ้นโดยต่อยอดมาจากการรายงานสภาพจราจรออนไลน์แบบเรียลไทม์ผ่าน http:// traffic.thai.net ตั้งแต่เทศกาลสงกรานต์ปี 2550 และได้รับการตอบรับอย่างดีมีผู้เข้าใช้บริการกว่า 50,000 ครั้ง

การรายงานจราจรทำในรูปแบบของแผนที่ แสดงผลเส้นทางต่าง ๆ ด้วยสี โดยสีแดงแสดงว่าติดขัด สีเหลืองหนาแน่น และสีเขียวคล่องตัว มีข้อมูลจุดเกิดอุบัติเหตุ ซ่อมบำรุงทาง หรือการก่อสร้างให้ดู เพื่อวางแผนเลือกเส้นทางเดินทางล่วงหน้าได้
เว็บไซต์นี้เปิดให้บริการมาอย่างต่อเนื่องเพียงแต่ข้อมูลด้านจราจรจะไม่มากเท่าช่วงเทศกาล

สำหรับสงกรานต์ปีนี้..มีการพัฒนาเพิ่มเติม นอกจากจะ ดูได้ผ่านเว็บไซต์แล้ว ยังพัฒนาไปสู่การดูป้ายจราจรอัจฉริยะของ กรุงเทพมหานครแบบเรียลไทม์บนมือถือ และขยายขอบเขตเส้นทาง ออกไปสู่ปริมณฑล เส้น ทางหลวงสายหลักสู่ภาคต่าง ๆ อีกด้วย

ดร.ภาสกร บอกว่า การดูป้ายจราจรอัจฉริยะผ่านมือถือ เป็นการลดข้อจำกัด ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถวางแผนการเดินทางได้ ซึ่งเดิมกว่าจะเห็นป้ายจราจรอัจฉริยะ ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ติดขัดได้ทัน

โปรแกรมรายงานสภาพจราจรบนมือถือนี้เรียกว่า JTraffy เน้นการใช้งานที่ง่าย สะดวก สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมไปใช้ งานได้ที่หน้าเว็บ http://traffic.thai.net โดยใช้กับมือถือที่รองรับภาษาจาวาเสียแค่ค่าจีพีอาร์เอส ในการดูตามโปรโมชั่นของแต่ละเครือข่ายเท่านั้น

ด้าน “พ.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์” รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวถึงที่มาของข้อมูลบนแผนที่จราจรอัจฉริยะ ว่า การใส่ข้อมูลในระบบจะมาจาก 3 ช่องทาง

ช่องทางแรกมาจากการฟังวิทยุตำรวจซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถคลิกเปลี่ยนสีเส้นทางต่าง ๆ บนหน้าเว็บได้ทันที ส่วนวิธีที่ 2 คือข้อมูลจาก กล้อง CCTV ที่ติดตั้งอยู่ตามเส้นทางหลักต่าง ๆ จะมีการบันทึกภาพและคำนวณข้อมูลจราจรส่งมาให้ระบบแบบเรียลไทม์

และช่องทางที่ 3 ก็คือ จากกล้องบนพีดีเอหรือพ็อกเกตพีซีที่มีอุปกรณ์จีพีเอสหรือการอ่านพิกัดแผนที่ผ่านดาวเทียม ซึ่งมาจากตำรวจทางหลวงที่มีอยู่ประมาณ 40 เครื่อง

อีกส่วนหนึ่งมาจากอาสาสมัครที่ลงทะเบียนและดาวน์โหลดโปรแกรมรายงานข้อมูลสภาพจราจร หรือโปรแกรม Traffy จาก http://traffic.thai.net ไปใช้งาน ปัจจุบันมีลงทะเบียนไว้หลายร้อยคน แต่ยังส่งข้อมูลเข้ามาที่ระบบน้อยมาก

ทีมปฏิบัติงานจึงฝากมาว่าช่วยส่งข้อมูลเข้ามากันหน่อย ... ส่งกันคนละนิด แต่คุ้มค่ากับข้อมูลทั้งหมดที่จะได้รับกลับไป เพื่อที่จะสร้างระบบจราจรอัจฉริยะเมืองไทย ที่ช่วยประหยัดได้ทั้งค่าน้ำมันและเวลา

...ก่อนออกเดินทาง...คลิกเข้าไปดูข้อมูลกันสักนิด...

...โชคดีปีใหม่ไทยครับ