จะสู้กันได้ไหม
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 10, 2024, 08:56:54 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จะสู้กันได้ไหม  (อ่าน 12916 ครั้ง)
satapornsound
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 126


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 08, 2008, 11:54:42 AM »

ตู้ลูกเต๋ากับตู้ปราบเซียนอะ จำนวนดอกเท่ากันนะครับ อันไหนจะดังกว่า คลอบคลุมพื้นที่กว่าครับ


บันทึกการเข้า

fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 08, 2008, 08:05:02 PM »

มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างนะ ทั้งเรื่องเฟส เรื่องสูตรตู้ รวมไปถึงแอมป์อีกต่างหาก
เพราะว่าโดยธรรมชาติเนี่ยตู้แต่ละสูตรมันมีโทนเสียงไม่เหมือนกันหรอกครับ แม้กระทั่งตู้สูตรเดียวกันแต่องค์ประกอบทั้งในเรื่องขนาด เกรดของไม้ เกรดงาน มันก็มีผลทั้งนั้นแหละครับ
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 08, 2008, 08:21:50 PM »

เวรกรรมมือเร็วไปหน่อย ต่อเลยดีกว่า
ก็อย่างที่กล่าวมาแหละครับ ถึงแม้ว่าจำนวนดอกจะเท่ากันแต่ตู้นั้นคนละสูตรกันเสียงก็ไม่เหมือนกันนะครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานประเภทไหน น้ำเสียงนั้นเราชอบมั๊ย ไม่ใช่ว่าอะไรๆที่เขาพูดมาว่าอย่างโน้นดีกว่าอันนี้อันนี้ดีกว่าอันนั้น แล้วเราก็ตามคำที่เขาบอกไปเรื่อย โดยที่ยังไม่ทันจะได้รู้ศักยภาพของของที่เรามีอยู่จริงๆเลย อย่างนี้ไม่ลงทุนกันตายเหรอครับ หนี้เก่าก็ยังไม่หมดซ้ำยังจะมีของใหม่มาอีก สู้มาเปลี่ยนความคิดเป็นอย่างที่ว่า ใช้ของเท่าที่มีให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดดีกว่ามั๊ยครับ
แต่ถ้าถามว่าผมชอบตู้แบบไหนผมชอบทั้ง2แบบครับ
ปราบ...ขนย้ายง่ายครับตู้เดียว 2 ดอก งานที่ขนยากๆแต่ต้องการเสียงดังอันนี้ดีครับ แต่หนักเหลือเกิน
ลูกเต๋า(มีหลายสูตรเหลือเกิน)...อันนี้ผมชอบมากที่สุดครับ เพราะว่าตู้ดอกเดียวเราสามารถคุมโทนได้ง่ายกว่า ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเฟสท่าไร ข้อเสียคือขนเหนื่อยครับ มันเยอะ
บันทึกการเข้า
satapornsound
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 126


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 17, 2008, 09:53:38 PM »

แล้วถ้าเปรียบเที่ยบว่า ตู้ปราบเซียน ข้างละตู้ กับ ตู้ลูกเต๋า ข้างละ 2 ตู้ อันไหนเสียงเบสจะดังได้คลอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่ากันครับ แล้วถ้ามีจำนวนดอกลำโพงเท่ากัน อันไหนจะแน่นหน้าอกกว่ากันครับ

แล้วตู้ w 1 เมตร เสียงจะนิ่มดีไหมครับท่าน จะหนักแน่นเหมือนลูกเต๋าป่าวครับ แต่เรืองคลอบคลุมต้องยอมรับครับท่าน

หรือมีตู้สูตรไหนบ้างที่มีขนาดเล็ก ขนย้ายสะดวก แล้วเสียงดี แน่นหน้าอก ช่วยแนะนำด้วยครับ

 Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า
benzd
member
*

คะแนน17
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 876


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 17, 2008, 10:15:40 PM »

แล้วลูกเต๋าท่านลองฟังแล้วเป็นอย่างไรครับ
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 17, 2008, 11:25:22 PM »

อันนี้มันแล้วแต่นะครับเพราะอย่างที่บอกว่ามันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้เสียงมันต่างกัน
เอาเป็นว่าผมขอตอบเป็นตู้ที่เคยผ่านมือมาดีกว่า(ของชาวบ้านเขามั่งของผมมั่ง)
- ตู้ W อันนี้แน่นอนเป็นที่ถูกใจมาหลายยุคสมัย ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มหนักแน่น แถมยิงไกลอีกต่างหาก แต่จะมีข้อเสียคือเสียงมันจะบอดเป็นช่วงๆแถมตู้ก็หนักอีกต่างหาก
- ตู้ Turbo Sound จริงๆแล้วตู้สูตรนี้มีมาตั้งนานแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยสืบประวัติว่าตู้สูตรนี้เคยมียี่ห้อไหนทำมาก่อน บริษัทTurbo Sound หรือเปล่า น้ำเสียงจะออกหนักแน่นดัง ไกล ขนาดเล็ก เสียงครอบคลุมหน้าเวที ตู้สูตรนี้ถือว่าชอบในระดับหนึ่งแต่ยังไม่ถือว่าถูกใจมากเท่าไร
- ตู้ Double Turbo Sound ก็คือตู้ Turbo Sound 2 ตู้วางประกบกันบนล่าง มีดอกลำโพง 2 ดอก ตู้นี้ถือว่าถูกใจและสะใจครับ ดังสนั่น หนักแน่น ข้อเสียคือมันหนักมากๆครับ นอกนั้นยังไม่พบ
- ตู้ Cervin Vega ตู้สูตรนี้ผู้คิดค้นและผลิตคือ บริษัท Cervin Vega ครับผม เป็นตู้ที่ถูกใจที่สุดที่เคยเจอมา น้ำเสียงดุดันหนักแน่น พุ่ง สะใจขาร็อค ขนาดเล็ก แถมยิงไกลด้วย เคยคิดที่จะเปลี่ยนจากตู้ W มาเป้นตู้นี้ครับ แต่ยังไม่มีเงิน555
- ตู้ Martin อันนี้ให้คะแนนพอๆกันกับ Cervin Vega ครับผม หน้าตาดูคล้ายๆของ Turbo Sound แต่มีขนาดใหญ่กว่า น้ำเสียงที่ลึก หนักแน่น โหดๆ พุ่งไกลครับผม

อย่าเพิ่งเชื่อผมมากครับผม อันนี้มาจากวิจารณญาณส่วนตัวครับผม แต่ละคนอาจจะชอบไม่เหมือนกันครับ เป็นไปได้น่าจะลองหาโอกาสไปลองไปฟังก่อนตัดสินใจนะครับ ทุกตู้ทุกสูตรย่อมมีข้อดีข้อเสียต่างกันครับผม  Lips Sealed
บันทึกการเข้า
kangauto
member
*

คะแนน5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65



« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 12:45:58 AM »

ขอถามอีกซักคำถามนะครับ  กรณีที่เดินไปฟังเสียงตู้ข้างใดข้างหนึ่งแล้วเบสไม่แน่นแทบจะไม่มีเบสเลยแต่พอเดินมาฟังตรงกลางกับมีเสียงเบสที่แน่นขึ้นจะแก้ไขยังไงครับกรณีนี้งงกับคำถามไหมครับ
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 02:46:42 AM »

เฟสชิป(Phase Shift) ครับผม เกิดจากการหักล้างและเสริมกันของคลื่นเสียงที่แต่ละความถี่ครับผม
ตอนนี้ง่วงนอนแล้ว ขอไปค้นเอกสารเก่าๆก่อนครับ แล้วพรุ่งนี้จะกลับมาตอบให้ครับ Tongue
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 05:25:42 PM »

ครับผม จากที่มีเพื่อนๆพี่ๆถามมาในเรื่องที่ว่าทำไมเสียงเบสตรงจุดกึ่งกลางของลำโพงทั้ง2ข้างถึงแน่นกว่าด้านใดด้านหนึ่ง เดี๋ยวผมจะอธิบาย(แบบงูๆปลาๆ)ให้ฟังครับผม
ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าก่อนนะครับถ้าหากว่าข้อมูลที่ผมเขียนลงไปนี้ไม่ถูกต้อง ท่านใดที่มีความคิดเห็นอย่างอื่นเสริมได้นะครับผม ช่วยๆกันครับ

เอาเป็นว่าเริ่มต้นกันก่อนครับ ธรรมชาติของเสียงจะเดินทางผ่านตัวกลางตัวกลางหนึ่งคืออากาศ ดังนั้นเราลองสังเกตุว่าทำไมตู้ซับเบสจึงต้องมีขนาดใหญ่กว่าตู้เสียงกลางหรือเสียงแหลม ก็เพราะว่าในย่านเสียงต่ำต้องการใช้พลังงานที่มากเพื่อที่จะทำให้ woofer ลำโพงขยับตัวเพื่อผลักอากาศถึงจะทำให้เสียงนั้นเดินทางผ่านอากาศไปได้

การขยับตัวของลำโพง 1 ครั้งใน 1 วินาทีมีหน่วยคือเฮิร์ส (Hz) ซึ่งก็คือหน่วยของความถี่นั่นเอง ดังนั้นที่ความถี่ 100 Hz ลำโพงก็จะขยับตัว 100 ครั้ง/1วินาที 1000 Hz หรือ 1 kHz ลำโพงก็จะขยับตัว 1000 ครั้ง/1วินาที โดยความถี่ที่มนุษย์ได้ยินจะอยู่ที่ 20 - 20000 Hz ถ้าใครว่าสามารถได้ยินเสียงที่ต่ำหรือสูงกว่านั้นก็ไม่ใช่มนุษย์แล้วครับ Shocked

คลื่นเสียงแต่ละความถี่ก็จะมีความยาวคลื่น( wave lenght) ที่ต่างกันโดยความยาวคลื่นที่แต่ละความถี่สามารถคิดได้โดยสมการของ ความเร็วเสียงในอากาศ/ความถี่นั้น
ความเร็วเสียงในอากาศ = 331+(0.6 x T) ; T คืออุณหภูมิในขณะนั้น ในที่นี้ขอใช้ตามเอาสารครับคือ15องศาเซลเซียส ถ้าบ้านเราอาจจะใช้มากกว่านี้ครับ เพราะมันร้อนเหลือเกิน
ดังนั้นเราจะได้ความเร็วเสียงในอากาศ = 331+(0.6 x 15) จะได้ความเร็วเสียงในอากาศ 340 เมตร/วินาที
ฉะนั้นความยาวคลื่นที่แต่ละความถี่จะได้ดังนี้
31.5 Hz ; 340/31.5 = 10.79 เมตร/1ช่วง
40 Hz ; 340/40 = 8.5 เมตร/1ช่วง
50 Hz ; 340/50 = 6.8 เมตร/1ช่วง
63 Hz ; 340/63 = 5.39 เมตร/1ช่วง
80 Hz ; 340/80 = 4.25 เมตร/1ช่วง
100 Hz ; 340/100 = 3.4 เมตร/1ช่วง
จะเห็นได้ว่ายิ่งความถี่ที่สูงขึ้นนั้นความยาวคลื่นจะสั้นลง เดี๋ยวเราลองมาดูรูปกันครับว่าความยาวคลื่นใน 1 ช่วงเขาวัดกันอย่างไร
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 05:49:31 PM »

จากรูปนะครับ จากจุดที่1 ไปจุดที่3 เราจะเรียกว่า 1 ช่วงความยาวคลื่น(cycle)
ส่วนจุดที่1 ไปจุดที่ 2 หรือจุดที่2 ไปจุดที่ 3 เราจะเรียกว่า 1/2 ช่วงความยาวคลื่น
รูปนี้จะใช้อธิบายในเรื่องคลื่นต่างๆ และจะใช้อธิบายในเรื่องของเฟสต่อไปครับผม
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 06:16:11 PM »

ต่อมาว่าด้วยเรื่องของเฟสนะครับ
เฟส(phase) คือการเปลี่ยนแปลงของระยะทางหรือเวลาเกี่ยวพันกับความยาวคลื่น (wavelenght) หรือความถี่ หน่วยคือองศา
การที่เราจะทราบได้ว่าที่ความถี่เสียงที่เราต้องการทราบว่าผิดเพี้ยนไปกี่องศาเราสามารถคำนวนจากสูตร
เฟส = (ระยะ x ความถี่นั้น x 360)/ความเร็วเสียงในอากาศ ; ในที่นี้ขอใช้ค่าความเร็วเสียงในอากาศเหมือนเดิมคือ 340 นะครับ
ตัวอย่างนะครับ ที่ความถี่ของเสียงที่ 100 Hz จะมีความยาวคลื่น 3.4 เมตร โดยกำหนดให้ความเร้วเสียงในอากาศคือ 340 เมตร/วินาทีนะครับ เราลองมาหาดูว่าที่ระยะที่ต่างกันเนี่ยเฟสจะมีค่ากี่องศานะครับ
1.ระยะ0.85เมตร
2.ระยะ1.7เมตร
3.ระยะ3.4เมตร

แทนค่าลงในสูตรเลยนะครับ
1.;(0.85 x 100 x 360)/340 = 90 องศา
2.;(1.7 x 100 x 360)/340 = 180 องศา
3.;(3.4 x 100 x 360)/340 = 360 องศา

เมื่อเราได้ค่าของเฟสที่ชิป(phase shift) ออกมาแล้วเราลองมาดูกราฟกันว่าจะเป็นรูปไหนเราลองมาดูกันครับ
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 06:29:51 PM »

จากรูปในกระทู้ข้างบนเราจะพบว่าที่ระยะ1.7เมตรเฟสของความที่นั้นจะมีค่า 180 องศาหรือที่1/2ของความยาวคลื่น ที่ค่าๆนี้แหละครับที่จะทำให้เกิดปัญหาว่าทำไมเสียงต่ำถึงเบาลงเพราะว่าที่ความถี่นั้นมันเกิดการกลับเฟส 180 องศา ทำให้ที่ย่านความถี่นั้นมันหายไปครับ ถ้าในกรณีที่มีตู้ลำโพงตู้เดียวมันจะไม่เกิดปัญหาครับแต่ถ้าหากว่าเมื่อไรที่มีมากกว่า 1 ตัวมันจะเริ่มเกิดปัญหาครับ
อ่อ..ลืมบอกไปครับจากกระทู้ที่9 ขอเพิ่มเติมนิดหน่อย
จากจุดที่1 ไปจุดที่3 เราจะเรียกว่า 1 ช่วงความยาวคลื่น(cycle)จะมีค่า 360 องศา
ส่วนจุดที่1 ไปจุดที่ 2 หรือจุดที่2 ไปจุดที่ 3 เราจะเรียกว่า 1/2 ช่วงความยาวคลื่น จะมีค่า 180 องศา
รูปต่อไปนี้จะเป็นรูปของผมกระทบที่เกิดจากองศาของเฟสที่เปลี่ยนแปลงไปกับค่าความดังของเสียงนะครับ จะได้เข้าใจมากขึ้นว่าที่เฟส 180 องศามันมีผลอย่างไรครับผม
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 06:42:45 PM »

จากรูปงจะเห็นแล้วนะครับว่าถ้าเกิดการกลับเฟส 180 องศา ผลของมันจะเป็นอย่างไร ซึ่งจากรูปก็บอกอยู่แล้วว่าความดังจะลดลงถึง 100 dB คือไม่เหลืออะไรเลย
รูปต่อไปนี้จะอธิบายถึงว่าที่คลื่นเสียงค่าหนึ่งเกิดการเฟสชิปไปทีละค่าตามรูปวงกลมข้างบนว่าค่ความดังของเสียงในแต่ละค่าที่เฟสชิปไปในแต่ละค่าเป็นอย่างไรครับผม
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 07:07:27 PM »

สุดท้ายนะครับ คงจะเห็นแล้วว่าปัญหาที่ที่ว่าเสียงเบสเบาลงเป็นบางจุดนั้นเกิดขึ้นจากอะไรครับผม จริงๆแล้วมันก็มีตัวแปรจากอุณหภูมิ ความกดอากาศ ลม เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับผม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากครับ เพราะปัญหานี้ผมก็เคยเกิดขึ้น บางครั้งแก้ได้บ้างไม่ได้บ้างเราต้องลองดูกันไปครับ
ส่วนการที่จะทำให้เกิดปัญหาน้อยที่สุดเราต้องมาดูเรื่องต่อไปนี้ครับ
- สายลำโพงสายสัณญาณต่อถูกขั้วหรือไม่ บางครั้งอาจต้องกลับสายลำโพงในบางตู้ด้วยครับผม เพราะว่าการกลับขั้วนี้ก็จะทำให้ เฟสกลับกัน 180 องศาครับ
- ตู้และดอกลำโพงเป็นไปได้ควรที่จะเป็นชนิดเดียวกัน ตู้ต่างสูตรกันใช้งานรวมกันอันนี้ต้องเชคดีๆครับไม่งั้นหายนะลูกเดียว
- ปุ่มกลับเฟสที่ครอสโอเวอร์(บางรุ่นที่มี)ช่วยได้ในบางครั้ง
- การตั้งตู้ลำโพง ลองหาวิธีตั้งแบบใหม่ๆดูครับ อาจจะเอาซับรวมกันที่กึ่งกลางเวที หรือบิดตู้ พอช่วยได้ครับ

คงพอเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาได้นะครับผม ผมก็ไม่ได้เก่งอะไรมากหรอกครับ เวลามีปัญหาก็ค่อยๆแก้ไปถูกมั่งผิดมั่งเหมือนกันครับ เวลาติดตั้งนี่ควรที่จะมีเวลาเชคระบบด้วยครับผม ไม่ใช่ว่าพอเครื่องดังปุ๊บก็เล่นเลยโดยที่เราไม่เชคอะไร เวลามีปัญหาจะได้แก้ไขได้ก่อนครับ Lips Sealed
บันทึกการเข้า
satapornsound
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 126


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 07:10:08 PM »

แล้วถ้าตู้ปราบเซียนละครับ จะดีกว่าลูกเต๋ามากไหมครับท่าน
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #15 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 08:07:43 PM »

อันนี้ไม่ทราบครับผม เพราะไม่เคยใช้ Tongue
บันทึกการเข้า
benzd
member
*

คะแนน17
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 876


อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 08:52:18 PM »

ผมเคยลองต่อกลับเฟสดูแล้ว  เสียงเบสมันหายไปจริงๆ
บันทึกการเข้า
satapornsound
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 126


อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: เมษายน 19, 2008, 09:31:51 AM »

ดับบลิว จะดังกว่า ปราบเซียนไหมครับ จะแน่นกว่า ลูกเต๋าป่าวครับ หรือมีสูตรอะไรแนะนำก็บอกหน่อยแล้วกันนะครับ

อยากได้ แบบ เล็ก ๆ ดัง ๆ แน่น ๆ ตึบ ๆ ครับ ช่วยที่ครับ

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
satapornsound
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 126


อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: เมษายน 22, 2008, 12:46:09 PM »

ชอบปราบเซียนจัง  จะดังไหมครัรบ
บันทึกการเข้า
fa_zone
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189



« ตอบ #19 เมื่อ: เมษายน 22, 2008, 03:35:12 PM »

ถ้าชอบก็เอาเลยครับผม ลองครับเพราะแต่ละสูตรเสียงมันไม่เหมือนกันหรอกครับ แม้กระทั่งสูตรเดียวกันแต่ช่างคนละคนต่อก็ไม่เหมือนกันครับ
บันทึกการเข้า
satapornsound
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 126


อีเมล์
« ตอบ #20 เมื่อ: เมษายน 23, 2008, 10:42:45 AM »

ปราบเซียนคงจะดังดีกว่าลูกเต๋านะครับ คงไม่ผิดหวังนะครับ ท่านผู้รุ้ตอบที่ครับ
บันทึกการเข้า
chai_up
member
*

คะแนน3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 160


อีเมล์
« ตอบ #21 เมื่อ: เมษายน 24, 2008, 03:54:31 PM »

ทำได้เลยครับ ช่างรุ่ง ผู้บุกเบิกตู้ ปราบเซียน ท่านยังทำขายถึงทุกวันนี้ Lips Sealed
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!