บ่นคนเดียว...การศึกษาไทย...
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 14, 2024, 11:36:42 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บ่นคนเดียว...การศึกษาไทย...  (อ่าน 4824 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 18675


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2012, 06:39:23 PM »

วันนี้ต้องมาค้นหาการบ้านให้ลูก... ถ้าทำไม่เสร็จท่องไม่ได้ โดนหักคะแนน   เศร้าจัง

  การบ้านต้องใช้สมองมากครับ ครูถามว่ารัฐมนตรีรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ มีกี่คน ชื่ออะไรบ้าง
    รองนายกมีกี่คน .. ชื่ออะไร ท่องมาให้ผ่าน

...เวรกรรมการศึกษาของไทย   งง


บันทึกการเข้า

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 13314


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2012, 07:57:08 PM »


ข้อสังเกตความล้มเหลวของการศึกษาไทย

เคยมีคนไปถามบิล เกตส์ เจ้าของบริษัท Microsoft ว่า
ให้เขาเลือกคนเก่งที่สุดในบริษัทของเขาออกมาสัก 10 คน
บิลเกดส์เลือกคนเก่งของบริษัทเขาออกมา
ปรากฎว่า ในบรรดา 10 คนที่เลือกมา
 เป็นชาวเอเชีย 8 คน
เป็นชาวตะวันตก 2 คน
ชาวเอเชียแยกเป็นชาวจีน 4 คน
อินเดีย 2 คน
ญี่ปุ่น 1 คน
เกาหลี 1 คน
ส่วนชาวตะวันตกที่ บิลเกตส์เลือก
เป็นยุโรปซะ 1 คน
อเมริกา 1 คน

การเลือกคนเก่งของบิลเกตส์คราวนี้สื่ออะไรได้หลายๆอย่าง
เพราะระบบการเรียนการสอนของชาวเอเชีย
สอนให้เด็กมีการแข่งขันกันอย่างหนัก
เพื่อคัดเลือกเด็กเก่งสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ในขณะที่ระบบมหาวิทยาลัยทางตะวันตกใช้ระบบ Admission

ประเทศในแถบเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น
ยังใช้ระบบสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย
อย่างไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
ประเทศไทยก็เคยใช้ระบบนี้ในรุ่นของพวกผม
แล้วค่อยๆกลายพันธ์เป็นระบบ Admission ตามอย่างตะวันตก

ผมว่า ปัญหามันเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่นักการศึกษา
เข้ามาวุ่นวายกับการจัดระบบการศึกษา
และ ระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เพื่อจะยกวิทยฐานะของตนเอง
หรือ เพื่อธุรกิจแอบแฝงที่มากับการศึกษา

ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมสมัยผมสอบเข้าคณะสถาปัตยกรรม
ซึ่งมีวิชาบังคับต้องสอบเข้าแค่ 3 วิชา คือ เลข ฟิสิกส์ และ อังกฤษ
แล้วไปสอบความถนัดทางศิลป
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนักเรียนหญิงจะสอบเข้าคณะนี้ได้น้อยมาก
ไม่เกิน 20 คน เนื่องจากสอบวิชาคำนวณสู้นักเรียนชายไม่ได้

จนมีนักการศึกษาหัวดีแนะนำให้สอบวิชาบังคับ คือ
ภาษาไทย สังคมศาสตร์เพิ่ม
ก่อนที่จะไปสอบวิชาประจำคณะ
ในปีแรกนักเรียนหญิงเข้าคณะสถาปัตยกรรมได้เกือบครึ่งหนึ่งของนักเรียนชาย
เพราะได้คะแนนจากวิชาท่องจำ

แต่ขอโทษครับระบบการศึกษามันเริ่มมีปัญหาแล้ว
เพราะแสดงว่า การสอนในระดับชั้นประถมและมัธยมของเรา
ไม่ช่วยให้เด็กไทยใช้ภาษาไทยเป็น
การเรียนรู้สังคมไม่วางรากฐานตั้งแต่ยังเป็นเด็กนักเรียน
จนต้องนำเอาวิชาพวกนี้มาสอบคัดนักเรียน

ที่แย่กว่าเริ่มมีโรงเรียนกวดวิชาเปิดขึ้นมาเพื่อมาหากินกับนักเรียน
จนอาจารย์บางคนไม่ใส่ใจในการสอน
เพียงเพื่อจะหารายได้เพิ่มจากการสอนพิเศษพุ่งเป็นดอกเห็ด
จนเด็กๆสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้เริ่มกดดันตัวเอง
หาทางออกในทางที่ผิด เช่นการทำร้ายตัวเอง หรือ ฆ่าตัวตายดังที่เห็นเป็นข่าว

แล้วนักการศึกษาอีกนั่นแหละที่ไปเห็นตัวอย่างระบบ Admission จากทางฝากตะวันตก
ซึ่งรับเด็กจากผลเฉลี่ยทางการศึกษา
ซึ่งคิดว่า จะทำให้เด็กไม่เครียดเกินไปในการสมัครเข้ารียนมหาวิทยาลัย
อยู่ที่ความขยันและตั้งใจของนักเรียนที่จะไขว่คว้าทางการศึกษา

แต่ประเทศไทยก็คือประเทศไทย
โรงเรียนแต่ละแห่งมาตรฐานการเรียนการสอนต่างกัน
กลายเป็นอาจารย์เป็นผู้แจกเกรดให้นักเรียน
เพื่อให้นักเรียนของโรงเรียนไม่เสียเปรียบแก่โรงเรียนอื่นๆ
กลายเป็นการแจกเกรดสะเปะสะปะ
จนหามาตรฐานในการคัดนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้

ทำให้เกิดเป็นการสอบเพื่อเก็บคะแนนสะสม
เพื่อหาค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
และไม่รู้สอบอะไรกันเยอะหนักหนาจนคนรุ่นผมตามกันไม่ทัน
กลายเป็นภาระของผู้ปกครอง แล้วธุรกิจที่ตามมาไม่เคยหายไปไหน ก็คือ
โรงเรียนกวดวิชาที่ต้องไปจองที่เรียนกันข้ามปี
ทำให้อาจารย์บางคนเป็นเศรษฐีได้ภายในแค่ 2-3 รุ่น
ของนักเรียนที่เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ปัญหาของนักการศึกษาอีกอย่าง คือ
การให้ปริญญาตรีเกลื่อนเมืองสำหรับนักศึกษาในหาวิทยาลัยต่างๆ
จนไม่เป็นที่ยอมรับของบริษัทเอกชนต่างๆในไทย

แต่ที่ผมรับไม่ได้ คือ ให้ปริญญาผิดประเภท
เพราะนักการศึกษาอยากยกวิทยฐานะของตัวเอง
และช่วยลูกศิษย์ของตน ขอยกวิชาชีพของผมเป็นตัวอย่าง
 ธรรมดานักศึกษาอาชีวะที่จบการเขียนแบบจากอุเทนถวาย
หรือ ก่อสร้างดุสิต จะได้วุฒิ ปวส.
หลังจากนั้นไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในคณะสถาปัตย์คุรุบัณฑิตสักสองปี
จบออกมาก็จะได้ปริญญาตรีสถาปัตย์สาขาคุรุบัณฑิต

เด็กเหล่านั้นเก่งในเรื่องเทคนิคการก่อสร้างและเขียนแบบก่อสร้างได้ดี
ผิดจากเด็กที่เรียนจบโดยตรงจากคณะสถาปัตยกรรม
ซึ่งสอนเรื่องการออกแบบแต่เด็กจะด้อยเรื่องการเขียนแบบก่อสร้าง
และเทคนิคการก่อสร้าง ซึ่งธรรมดาเด็กที่จบจากอาชีวะจะเป็น Buddy
หรือครูให้เด็กที่จบจากคณะสถาปัตยกรรมโดยตรงในเรื่องการเขียนแบบก่อสร้าง

ปัญหาที่เกิดและเรื้อรังมาถึงทุกวันนี้
คือเด็กที่จบจากอาชีวะเมื่อมารับปริญญาตรีเป็นสถาปัตย์บัณฑิต
ไม่มีใครอยากมานั่งเขียนแบบ เพราะรู้สึกว่า
ตัวเองเป็นสถาปนิกออกแบบงานได้ ซึ่งออกแบบสู้เด็กที่เรียนมาทางด้านสถาปัตยกรรมโดยตรงก็ไม่ได้
ส่วนเด็กที่เรียนสถาปัตยกรรมโดยตรงก็เขียนแบบก่อสร้าง
สู้เด็กจบจากอาชีวะไม่ได้ ทำให้ประเทศไทยขาดบุคลากรที่มีทักษะในการเขียนแบบก่อสร้างเป็นอันมาก
และขอโทษเป็นที่ต้องการของบริษัทออกแบบจากทั่วโลก
เพราะเด็กไทยเขียนแบบได้ดีมากในย่านเอเชีย

สิ่งที่ผิด ก็คือ การให้ปริญญาตรีสถาปัตย์แก่เด็กอาชีวะ
แทนที่จะให้ปริญญาตรีด้านเทคนิคก่อสร้างซึ่งเป็นสื่งที่เด็กพวกนี้ถนัด
เหมือนกับปริญญาเทคนิคการแพทย์ที่ทางแพทยสภา
ให้กับคนที่จบมาเพื่อรองรับช่วยเหลืออาชีพแพทย์
 คนพวกนี้มีความรู้เรื่องแพทย์ แต่ไม่ใช่หมอ
แต่มีความถนัดในเครื่องมือของแพทย์ช่วยวิเคราะห์วิจัยให้หมอ

ที่เล่ามาทั้งหมดเพื่อจะบอกว่า
ถึงเวลาแล้วที่การศึกษาไทยต้องมาทบทวนบทบาทตนเองครับ
โดยเฉพาะนักการศึกษาที่ไปเห็นระบบการศึกษาของตะวันตกแล้วเห็นว่าดี
แต่มาใช้กับเมืองไทยกลับล้มเหลว
เพราะการสั่งสอนเด็กให้เติบโตและวัฒนธรรมของตะวันตกต่างกับเราโดยสิ้นเชิง

เมื่อไหร่ที่เด็กของเรามีความรับผิดชอบต่อตัวเอง
ตั้งแต่เด็กระบบตะวันตกอาจจะเหมาะสมกับเรา
แต่การที่เราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ขนาดอายุ 30 ปี
ยังต้องให้พ่อแม่ดูแล ระบบตะวันตกที่นำมาใช้จะล้มเหลวสิ้นเชิง

ผมไม่ทราบว่า การศึกษาของประเทศไทยจะไปทางไหน
แต่ระบบสอบคัดเลือกคนเก่งเข้ามหาวิทยาลัยที่ประเทศต่างๆในเอเชียใช้
ผมคิดว่า ยังมีมนต์ขลังอยู่ ไม่งั้นจะเห็นความรุ่งโรจน์ของเอเชียในขณะนี้หรือ
โดยประเทศจีนการคัดเลือกคนเก่งของเขา
สามารถพิสูจน์ได้จาการเจริญเติบโตของประเทศจีนในตอนนี้

หรือไม่ต้องดูไกล ประเทศเวียดนามที่กำลังเติบโตเท่าเทียมไทย
หรือ แซงไทยไปแล้วก็ใช้ระบบการสอบนี้

อย่ากลัวว่า ระบบการศึกษาที่เราเคยใช้ไม่ดี หรือ สร้างความผิดหวังให้เด็กที่สอบเข้าไม่ได้
เพราะถ้าคุณเป็นชาวพุทธ การสอบเข้าไม่ได้อาจเป็นพรหมลิขิต
เพื่อให้เด็กที่สอบไม่ติดเหล่านั้นแสวงหาแนวทางที่แตกต่างก็ได้
 หรือ ทำให้เด็กเหล่านั้นเข้าใจชีวิต ว่า
ชีวิตไม่โรยด้วยดอกกุหลาบ
เพื่อทำให้ชีวิตของเด็กเหล่านั้นแกร่งขึ้นเพื่อเป็นกำลังพัฒนาประเทศ ครับ

Credit   http://www.oknation.net/blog/jui880/2010/07/31/entry-1
บันทึกการเข้า
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2012, 11:09:47 PM »

เคยโดนมาแล้วครับ(สมัยมัธยมตอนต้น ม.2) คัดลายมือไทย 100 แผ่น 200 หน้า
ถ้าใครไม่คัดมา ตัดเกรด มส. ใครบ้างอยากจะติด มส. ผมคนนึงที่ไม่อยากจะติด
ผมใช้เวลาคัดตั้งแต่ 5 โมงเย็น จนถึงตี 5 ไม่ได้หลับไม่ได้นอน (ทุกวันนี้ยังฝังใจผมอยู่เลย
ว่าจะมีที่ไหนอีก ที่ทำกับผมอย่างนี้)
แต่การทำอย่างนี้ก็มีทั้งข้อดีและเสีย  HAPPY2!!  Smiley
บันทึกการเข้า
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12096

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 08:57:13 AM »

อย่าให้พูดเลยเรื่องแบบนี้

ผิดหมดทุกคน

(ผมถูกคนเดียว) 55555

ผู้นำก็ผิด ผิดเพราะไม่ใส่ใจเรื่องเนื้อหา เอาแต่เงิน

ครู ส่วนมากก็เอาแต่เงิน

พ่อแม่ส่วนมาก.....(สอนลูกแบบผิดๆ)

จริงๆแล้ว วิชาในโรงเรียน สอนไม่กี่วิชาหรอก สอนให้เป็นแค่ลูกจ้าง  ไม่มีวิชาสอนให้เป็นเจ้าของ บ.

และจริงๆแล้ว ความสำเร็จ ไม่ได้มาจากเรียกเก่ง คนเรียนเก่งมากมาย เป็นแค่ลูกจ้าง

และคนเก่งก็มีมากมาย ส่วนมากก็เป็นแค่ลูกจ้าง

***เหมือนซ่อมทีวีเก่ง ก็เป็นได้แค่ช่างเก่ง แต่เป็นลูกจ้าง

     คนที่เป็นเจ้าของ อาจซ่อมไม่เป็น


***ผมเองก็เป็นคนเก่งคนหนึ่ง  (ขอยกหางหน่อย)  ผมก็เป็นแค่ลูกจ้าง (ต้องรอเขาจ้าง) 

ผมไม่ได้เป็นนายจ้าง หมายถึง จ้างคนทำงานให้ เราไม่ต้องทำ นั่งอยู่บ้าน

บันทึกการเข้า

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 13314


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 10:11:23 AM »

55555555555555555 พี่นั่นหละผิด 

อ้างถึง
สอนให้เป็นแค่ลูกจ้าง  ไม่มีวิชาสอนให้เป็นเจ้าของ บ.

ปริญญาโท เอก ส่วนใหญ่เนื้อหาวิชา เค้าจะเน้น หลักการบริหาร

Executive  + Business Administration + Management

นั่นหมายถึง การเข้าถึง การเป็นเจ้าของบริษัท หรือ องค์กร

แต่ เด็ก ไม่อยากเรียนเอง อยาก สมสู่ สะมากกว่า

และ ค่าใช้จ่ายในการเรียน โท + เอก แพงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คนมีตังค์หรือ คนรวย ไงหละที่ เข้าถึง

ส่วนคนจน ก็ไม่ใช่ว่า หนทางจะ มืด สะทีเดียว

มี มูลนิธิ การสอบชิงทุน  ขององค์กร ภาคต่างๆ เค้าก็เปิดโอกาส เยอะแยะ

แต่ คนไทย ใจ ไม่ถึง

ส่วนมาก ขอทำงานก่อนแล้วหาโอกาสเรียนเสริม มากมาย

 

บันทึกการเข้า
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12096

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 10:44:03 AM »

 

เจ้าของ  บ.ใหญ่ๆ หลายต่อหลาย บ. ไม่ได้จบสูง

***แล้วทำไม ต้องตั้งหลักสูตรไว้สูงจัง

  ลูกผมก็ จบ ป.ตรี

  ไม่เห็นรู้อะไรเลย

  การใช้ชีวิตไม่มีสอนเลย
 
  หรือสอนก็สอนน้อยมาก น้อยเกินที่จะเอาไปใช้งานได้


***เหตุผลหลักคือ ถ้าสอนให้คุณรู้แล้ว  แล้วจะโกงกินกันยังไงละ

    ดังนั้น สอนให้ เป็นแค่ลูกจ้างก็พอ มันจบไปจะได้เป็นลูกจ้าง ทำงานให้เรา

   เขาจะได้โกงกินกันไง

   อีกอย่าง เส้นทางรวย สอนให้คุณรู้ คุณก็มาแย่งสิ สอนให้โง่หรอ เก็บไว้รวยเองไม่ดีกว่าหรอ
บันทึกการเข้า

e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 11:36:08 AM »

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมที่รัฐสภา ในหัวข้อ

" สุขภาวะของเด็กไทย : การพัฒนาทางสติปัญญาเพื่อก้าวไปสู่โลกแห่งการแข่งขัน”

http://www.thairath.co.th/content/edu/298076

ฮิ ฮิ เคยแต่นอนตากยุงข้างนอก  นั่งร่วมประชุมทั้งวัน สงสัยเพิ่งจะตื่นรู้กันว่าเด็กไทย IQ EQ MQ ต่ำทุกด้าน

จนท.จากศึกษา สาธารณสุข องค์กรพัฒนาการศึกษาเอกชน ก็พูดกันไป ว่ากันไป มองแต่มุมของตัว เหมือนมาฟังพวกมันบ่่น ๆ


ไม่ต้องหวังกับการศึกษาไทยแล้วครับ  ล่มจม  แล้วครับ

ในส่วนตัวผม ย้ำ ๆ ขอให้เป็น " คนดี " ก่อนที่จะเป็นคนเก่ง  เริ่มที่ตัวเราก่อน ครอบครัวเราก่อน  ครับ  ping!
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12096

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 11:47:15 AM »

ถูกต้องครับ

และถูกต้องที่สุดครับ

บันทึกการเข้า

worathep-LSV team
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน712
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5066


รุ่งเรืองอิเล็กทรอนิกส์


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 06:28:07 PM »

สาเหตุเป็นเพราะ คนไม่มีความรู้แท้จริงเป็นใหญ่เป็นโตกันเต็มประเทศ มันก็เลยเป็นอย่างนี้แหล่ะ
บันทึกการเข้า

รับซ่อม TV-computer                    มี TV มือสองขาย  
รับสอนซ่อม-ประกอบคอมพิวเตอร์      มีจอมอนิเตอร์มือสองขาย
ซ่อม อัพเกรด ประกอบคอมฯ             มีคอมพิวเตอร์มือสองขาย
รับติดตั้ง วางระบบแลน อินเตอร์เน็ต
ราคาคุยกันได้ โทร 02-6934724
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 13314


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2012, 07:27:43 AM »

*ความรู้ คือ อำนาจ *

*ไม่มีใครเลี้ยงอาหารใครเปล่า ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน *

*ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้

แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน

การศึกษาไทย...ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น

แต่ประเทศที่พัฒนา...อย่างแท้จริงจะมองไป.............ยังอนาคต*


*ผู้ปกครองระดับธรรมดา.....ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง.....ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง......ใช้ปัญญาของ.....คนอื่นอย่างเต็มที่ *

คำคม ขงเบ้ง


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!