วิธีทำ "ข้าวงอก" ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ....เติมพลังชีวิตจากเมล็ดข้าว มากประโยชน์ต่อร่างกาย
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 15, 2024, 09:06:47 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีทำ "ข้าวงอก" ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ....เติมพลังชีวิตจากเมล็ดข้าว มากประโยชน์ต่อร่างกาย  (อ่าน 4820 ครั้ง)
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3004


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2008, 10:24:41 AM »

เรียนรู้วิธีการง่ายๆ ในการทำ "ข้าวงอก" ทานด้วยตัวเอง เผยประโยชน์ต่อร่ายกายครบครัน ช่วยชะลอความแก่ นอนหลับสบาย ควบคุมน้ำตาลและคลอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ช่วยขับสารแห่งความสุข แถมยังป้องกันมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

กระแสการรับประทาน "ข้าวงอก" ได้หวนกลับมาอีกครั้ง จึงมีโอกาสได้ทดลองทำข้าวงอกทานเองอีกหน เพื่อนำประสบการณ์และวิธีการทำข้าวงอก ซึ่งเรียนรู้มาจากมูลนิธิขวัญข้าวและโรงเรียนชาวนาแห่งสุพรรณบุรี มาถ่ายทอดให้แก่ผู้อ่านต่อไป

นายเดชา ศิริภัทร ผู้อำนวยการมูลนิธิขวัญข้าว ให้ความรู้เกี่ยวกับข้าวงอกว่า การรับประทานข้าวงอกเกิดขึ้นที่ประเทศจีนเมื่อนานมาแล้ว แต่ได้รับความนิยมมากที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะชาวแดนอาทิตย์อุทัยเชื่อว่า "ข้าวงอกให้พลังแห่งชีวิต"

วิธีการทำ "ข้าวงอก" สามารถทำได้ด้วยตนเองอย่างไม่ลำบาก และไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อแพงๆ มารับประทาน เริ่มจากการเลือก "ข้าวกล้อง" เป็นอันดับแรก โดยต้องเน้นเลือกข้าวกล้องที่สดใหม่และเมล็ดสมบูรณ์มาเพาะ เนื่องจากจะสามารถงอกได้ดี โดยเมล็ดข้าวกล้องต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปี เพราะมี "จมูกข้าว" และ "เปลือกหุ้มเมล็ด" อยู่ ทำให้มีพลังชีวิตค่อนข้างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ข้าวกล้องต้องไม่บรรจุในถุงสุญญากาศ ไม่มีแมลงรบกวน และถ้าเป็น "ข้าวกล้อง อินทรีย์" ได้ ก็ยิ่งดีเข้าไปอีก

จากนั้น นำข้าวกล้องไปซาวน้ำและแช่น้ำไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง ต่อมาก็เทข้าวที่อุ้มน้ำใส่ผ้าสะอาดและมีความหนานุ่ม โดยอาจเลือกใช้เสื้อยืดเก่าหรือผ้าขนหนูเก่าก็ได้ แล้วใช้ผ้าห่อคลุมให้มิดชิด แต่พอมีอากาศให้เมล็ดข้างหายใจ พรมน้ำแค่พอชุ่ม แต่อย่าให้แฉะ ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง

ถ้าเตรียมแช่ข้าวไว้เย็นวันศุกร์ นำมาบ่มในผ้าเช้าวันเสาร์ พอถึงเช้าวันอาทิตย์ก็สามารถหุงข้าวรับประทานได้ เพราะแค่เพียงข้ามคืน เราจะสามารถสังเกตเห็นจมูกข้าวสีขาว โผล่ขึ้นมาชัดเจน

เมล็ดข้าวที่ถูกบ่มแล้วสามารถนำไปหุงให้สุกได้เลย แต่มีเคล็บลับในการหุง คือ ต้องใส่น้ำน้อยกว่าการหุงตามปกติเกือบครึ่งหนึ่ง

ข้าวงอกที่หุงสุกจะมีกลิ่นหอมแปลกจากข้าวธรรมดา เมล็ดข้าวจะไม่จับเป็นก้อน กินหอมนุ่มอร่อยลิ้น หากค่อยๆ เคี้ยวจะสามารถรับรสนุ่มหวานที่แปลกไปจากเดิม
 

ประโยชน์ของข้าวงอก
 
พลังชีวิตในข้าวงอก คือ สารกาบ้า (Gamma - Aminobutyric Acia หรือ GABA) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นในกระบวนการฟื้นชีวิตของเมล็ดข้าว ทั้งนี้ สารกาบ้ามีอยู่ในเมล็ดข้าวและจะมีเพิ่มขึ้นเมื่อเป็นข้าวงอก อายุ 1 - 2 วัน เมื่อเข้าสู่วันที่ 3 สารกาบ้าจะลดลงเรื่อยๆ

"สารกาบ้า" เป็นกรดอะมิโน ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทในระบบประสาทส่วนกลาง และเป็นสารสื่อประสาทประเภทยับยั้ง ทำหน้าที่รักษาสมดุลในสมอง ทำให้ผ่อนคลายและนอนหลับสบาย นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นต่อมไร้ท่อ ซึ่งผลิตฮอร์โมนที่ช่วยการเจริญเติบโตและเกิดสารป้องกันไขมัน ชื่อ "Lipotropic"
 
สารกาบ้ายังช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายสม่ำเสมอ ชะลอความชรา ความคุมระดับน้ำตาลและพลาสมาคลอเลสเตอรอลในกระแสเลือก รวมทั้งขับเอ็นไซม์ เพื่อขจัดสารพิษออกจากร่ายการ แถมยังช่วยกระตุ้นการขับน้ำดีสู่ลำไส้ เพื่อย่อยสลายไขมัน ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ และช่วยขับสารแห่งความสุข

ส่วนในวงการแพทย์มีการใช้ "สารกาบ้า" รักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น โรควิตกกังวล โรคนอนไม่หลับ โรคลมชัก

เห็นไหมละว่า ประโยชน์เพียบจริงๆ !!!
 

************************
 
ที่มา นิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ฉบับที่ 93 เขียนโดย นก อยู่วนา romsuan@hotmail.com
 
(ติดต่อ "ฉลาดซื้อ" ได้ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซ.วัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0-2248-3734-7 โทรสาร 0-2248-3733 อีเมล webmaster@consumerthai.org)




บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ

Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2008, 02:00:20 PM »

 ขอบคุณ ขอบคุณครับ มีประโยนช์มากๆ ครับ  ขอบคุณ
บันทึกการเข้า
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3004


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 07, 2009, 05:39:25 PM »


น้ำข้าวกล้องงอก
สวัสดีปีใหม่ 2552 ค่ะ ขออวยพรให้คุณผู้อ่านเว็ปของ mcot และคุณผู้ฟังที่ติดตามรายการต่าง ๆ ของสถานีวิทยุ เอฟ.เอ็ม.100.5 อสมท มีความสุขตลอดปีใหม่นี้ สุขภาพแข็งแรง การงานลุล่วงด้วยดี เหนือสิ่งอื่นใด สมหวังในทุกสิ่งที่ต้องการค่ะ

ช่วงนี้ไดรับการสอบถามจากคุณผู้ฟังจำนวนมากว่า  "น้ำข้าวกล้องงอก" มีประโยชน์อย่างไร ซึ่งช่วงปีใหม่ทางกรมการข้าว ให้ข้อมูลข่าวว่า น้ำข้าวกล้องงอกมีสาร "กาบา"ค่อนข้างสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอสมองเสื่อม ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

ซึ่งในเรื่องนี้ อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักโภชนาการจากกรมอนามัย บอกว่า ไม่อยากให้หลงประเด็น หันไปดื่มน้ำข้าวกล้องงอกอย่างไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งการหุงข้าวเช็ดน้ำได้น้ำข้าวกล้อง น้ำข้าวธรรมดาหรือการนำข้าวกล้องมางอกแล้วหุงเอาน้ำข้าวมาดื่มนั้น มีประโยชน์ต่อร่างกายจริง เพราะได้วิตามินบีชนิดต่าง ๆ รวมทั้งแร่ต่าง ๆ จากน้ำข้าว แต่การป้องกันสมองไม่ให้เสื่อม รวมทั้งป้องกันมะเร็งต้องฟังหูไว้หู เพราะจำเป็นต้องดูแลร่างกายหลายด้านประกอบกัน คือ รับประทานอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินผัก ผลไม้ ส่วนการดื่มน้ำข้าวอย่างเดียวเพื่อหวังป้องกันมะเร็ง ป้องกันสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ คงไม่ดีแน่

"ข้าวกล้องดีต่อร่างกาย มีใยอาหารสูง คนที่กินข้าวกล้องไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะใช้เวลาในการย่อย เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะกว่าจะย่อยแป้งเป็นน้ำตาล ต้องใช้เวลาจึงทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดไม่สูงรวดเร็ว แต่เมื่อมีข่าวน้ำข้าวกล้องงอกและบอกสรรพคุณว่า ป้องกันสมองเสื่อม ตรงนี้ขอให้พิจารณา เพราะโรคสมองเสื่อมมีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง"นายสง่า กล่าวตอนหนึ่งในรายการ "พลังชีวิต" ซึ่งออกอากาศเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2552 ออกอากาศเวลา 05.00-06.00 น. ทาง อสมท เอฟ.เอ็ม.100.5 เมกะเฮิร์ต

ท่านที่สนใจฟังเสียงสัมภาษณ์แบบเต็ม ๆ ใน รายการพลังชีวิต ประจำวันที่ 5 มกราคม 2552  ย้อนหลังได้ที่ http://radio.mcot.net สถานีวิทยุ เอฟ.เอ็ม.100.5 อสมท ค่ะ


 
บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!