ปักหมุดไว้ /นโยบายพรรคก้าวไกล

ปักหมุดไว้ /นโยบายพรรคก้าวไกล

<< < (5/5)

eskimo_bkk-LSV team♥:
ญัตติพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล
ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
(กรณีเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์) จบไปแล้วครับ

     กรณีที่ประชุมรัฐสภาได้มีการประชุมครั้งที่ 1
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล
ซึ่งสมควรเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
โดยที่ประชุมได้มีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้เดียว
ให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณา ซึ่งผลการพิจารณาปรากฎว่า
นายพิธาฯ ได้คะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
เท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา จึงทำให้ญัตติดังกล่าว เป็นอันตกไป

     มีปัญหาที่ต้องพิจารณาว่า กรณีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นายกรัฐมนตรี
จะสามารถนำญัตติเดิมมาเสนอให้รัฐสภาพิจารณาโหวตในญัตติเดิมนี้ได้อีกหรือไม่นั้น
ขอตอบว่า เสนอญัตติดังกล่าวเข้ามาให้รัฐสภาพิจารณาอีกครั้งไม่ได้ครับ
ถือว่าญัตตินี้ตกไปแล้ว จบไปแล้วครับ ด้วยเหตุผลดังนี้

     1.ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 41 กำหนดว่า

"ญัตติใดซึ่งตกไปแล้ว ห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักการเดียวกัน
ขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน
เว้นแต่ญัตติซึ่งยังไม่มีการลงมติหรือญัตติที่ประธานสภาอนุญาต
ในเมื่อพิจารณาเห็นว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป"
 
ซึ่งหากพิจารณาตามข้อบังคับดังกล่าว
ย่อมถือได้ว่าญัตติพิจารณาให้ความเห็นชอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ตกไปแล้ว
จะนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกไม่ได้ในสมัยประชุมนี้
หากจะนำมาพิจารณาต้องมีเหตุเปลี่ยนแปลงตามมาตรา 272 วรรคสองเท่านนั้นครับ

     2. มาตรา 272 วรรคสอง บัญญัติว่า" หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
จากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด
และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่ากี่งหนึ่ง
ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา
ขอให้สภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี
จากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88
ในกรณีเช่นนี้ ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน
และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
เท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป
โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้"

     จากหลักการสำคัญดังกล่าว หากโหวตครั้งแรกแล้ว
ไม่สามารถได้บุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ว่าด้วยเหตุใด
ประธานรัฐสภาไม่มีอำนาจที่จะเปิดให้มีการลงคะแนนใหม่เองได้
ต้องให้สมาชิกรัฐสภารวมกันไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาตามมาตรา 272 วรรคสอง เท่านั้น

ประธานรัฐสภาจึงจะจัดให้การประชุมตามญัตติที่สมาชิกรัฐสภาเสนอได้
แต่สภาก็ต้องมีเสียงไม่น้อยกว่าสองในสาม จึงจะดำเนินการตามวรรคหนึ่ง
คือให้มีการพิจารณาให้ความเห็นขอบบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี
และในการพิจารณาครั้งนี้ ผู้ที่เคยได้รับการเสนอชื่อ(นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์)
จึงจะสามารถถูกเสนอชื่อเข้ามาโหวตใหม่ได้
การดำเนินการใดๆนอกจากแนวทางนี้ ย่อมไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

     เมื่อรัฐธรรมนูญ ได้บัญญัติไว้เช่นนี้แล้ว จึงไม่เปิดช่องทางอื่นให้
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกเสนอชื่อกลับมาให้รัฐสภาโหวตโดยง่าย
หรือโหวตเลือกนายพิธาฯ ซ้ำซากไปเรื่อยๆเหมือนนักกฎหมาย
หรือพวกกุนซือสมองทื่อเสนอให้โหวตไปเรื่อยๆจนสิ้นวาระของวุฒิสภา
ด้วยเหตุนี้พรรคก้าวไกลและนายพิธาฯ
ควรให้การศึกษาพวกด้อมส้มให้โปรดเข้าใจตามนี้ด้วย
 
    3.หากในระหว่างนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หยุดปฎิบัติหน้าที่ด้วยแล้ว
ยิ่งเป็นกรณีที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเสนอชื่อนายพิธาฯ มาให้รัฐสภาพิจารณา
จึงไม่ควรไปปลุกให้ความหวังพวกด้อมส้มแบบผิดๆ
ควรยอมรับและเคารพมติโดยชอบของรัฐสภา หยุดปลุก ม๊อบ
สร้างปัญหาให้บ้านเมืองเสียทีเถอะครับ
ความดื้อรั้น มีแต่เกิดหายนะกับตน


ประพันธุ์ คูณมี
โค๊ด:

https://www.facebook.com/prapanth.koonmee/?locale=th_TH

 shocked2

ช่างเล็ก(LSV):
https://www.pohchae.com/2023/08/03/pheu-thai-parted-ways-phitha-cheek-m112
“เพื่อไทย” ประกาศแยกทาง “ก้าวไกล” เพราะพิธาไม่ยอมถอย จ้องแก้ ม.112
#เพื่อไทย   #แยกทาง   #ก้าวไกล  #พิธา   #ไม่ยอมถอย    #ม112
-----------------


 2 ส.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ที่ประชุมระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล หารือการจัดตั้งรัฐบาล และรายงานคืบหน้าแนวทางหาเสียง สส. สว. สนับสนุนโหวตนายกฯ รอบ 3 ว่า พรรคเพื่อไทยได้ขอให้พรรคก้าวไกล ถอยกรณีการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เนื่องจากบรรดาพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในขั้ว 8 พรรคที่ลงนาม MOU จัดตั้งรัฐบาลปัจจุบัน รวมถึง สว. มีความกังวลในเรื่องนี้ และไม่สามารถที่จะช่วยโหวตนายกรัฐมนตรี ให้กับแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยได้...


อย่างไรก็ดี พรรคก้าวไกลยืนยัน ไม่ยอมถอยเรื่องนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ดังกล่าว ทำให้เป็นสาเหตุที่พรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องขอสลาย 8 พรรคที่ลงนาม MOU ปัจจุบัน โดยจะไปจับขั้วใหม่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเอง ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย ยืนยันหนักแน่นว่า หากจะเข้าร่วมรัฐบาล จะต้องไม่มีการแก้ไขมาตรา 112

ก่อนหน้านี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา เมื่อเวลา 09.30 น. คณะเจรจาพรรคเพื่อไทย ได้นัดด่วน คณะเจรจาพรรคก้าวไกล หารือทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงแนวทางการขอเสียงสนับสนุนจาก สว. และ สส. จากพรรคการเมืองต่างๆ รวมถึงกระแสข่าวต่างๆ ระหว่างเพื่อไทยและก้าวไกล

โดยทางคณะเจรจาของทางพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ส่วนทางฝั่งคณะเจรจาของพรรคก้าวไกล คาดว่าจะเป็น นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล และ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค

โดยการนัดหารือกันในเช้าวันนี้ มีรายงานข่าวว่า ทางฝั่งของพรรคเพื่อไทย ได้มีการแจ้งนัดไปช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา

ช่างเล็ก(LSV):
https://www.pohchae.com/2023/08/05/chaw-pannika-kao-klai-was-dumped-by-pheu-thai
ช่อ พรรณิการ์ เปิดใจหลัง ก้าวไกล ถูกเพื่อไทยสลัด จะไม่ยกมือโหวตให้ เศรษฐา อย่างแน่นอน
#ช่อ   #พรรณิการ์ #ก้าวไกล   #เพื่อไทย   #โหวต  #เศรษฐา
-------------


ช่อ พรรณิการ์ เปิดใจหลัง ก้าวไกล ถูกเพื่อไทยสลัดพ้นร่วมรัฐบาล ไม่คิดจะกล้าข้ามขั้ว เทียบถูกผัวบอกเลิกไป ยังต้องปูเตียงให้ผัวกับเมียน้อย …

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[*] หน้าที่แล้ว