พิมพ์หน้านี้ - สารพัด พันธ์ุหมา

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

นานาสาระ => สัตว์เลี้ยงน่ารัก... => ข้อความที่เริ่มโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 01:32:44 PM



หัวข้อ: สารพัด พันธ์ุหมา
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 01:32:44 PM
หากท่านใดอยาก เลี้ยงสุนัข แต่ยังไม่ทราบว่าจะเลือก พันธ์ุใด ให้เหมาะสมกับที่ต้องการ
และต้องการทราบวิธี การดูแล ก็มาที่นี้เลยครับ  smiley4


หัวข้อ: เกรทเดน (Great Dane) ช่างประจบประแจง ขี้อิจฉา สอนง่าย
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 01:34:12 PM
เกรทเดน (Great Dane)
ช่างประจบประแจง ขี้อิจฉา สอนง่าย

(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/1_con)

 ;D ลักษณะทั่วไป
     สุนัขสายพันธุ์เกรทเดนนั้น มีความสง่าผ่าเผย มัดกล้ามสมส่วนดูหน้าเกรงขาม เกรทเดนถึงแม้จะดูตัวใหญ่น่าเกรงขามแต่มันไม่มีนิสัยก้ารร้าว บางครั้งมันมักจะมีอุปนิสัยดื้อและซน เกรทเดนจัดได้ว่าเป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ มีความซื่อสัตย์และมีความจงรักภักดีต่อ และที่สำคัญเกรทเดนชอบที่จะได้รับความรักและความอบอุ่นจากผู้เป็นเจ้าของเสมอความเป็นมา

     เกรทเดนสุนัขสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศ เยอรมนี สุนัขพันธุ์เกรทเดนเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง มีความสามารถเฉพาะตัวสูง ชาวเยอรมันได้พัฒนาสุนัขพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อล่าหมูป่า แต่ในปัจจุบันเกรทเดนได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น

 
 ;D ลักษณะนิสัย
     เกรทเดนเป็นสุนัขที่ขี้ประจบ เป็นมิตร เงียบๆ และสุภาพกับเด็กๆที่ปฏิบัติต่อมันอย่างนิ่มนวล หากมีคนมาหาจะส่งเสียงเห่าดังๆ บอกเจ้าของให้รู้ แต่ไม่ก้าวร้าวหรือกัด

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Great%20Dane/Great-Dane.jpg)

 ;D การดูแล
     เกรทเดน เป็นสุนัขขนสั้น เรียบเป็นมันเงางาม ควรแปรงขนให้สุนัขเกรทเดนทุกสัปดาห์เป็นประจำ 5-10 นาที ก็เพียงพอ เพราะเป็นสุนัขที่มีขนชั้นเดียว ดังนั้นในขณะที่ขนตายกำลังร่วงขนใหม่ก็จะขึ้นมาทดแทนทันที ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรหาเวลาออกกำลังกายให้มันอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าลืมคำนึงถึงพื้นที่ของบ้านของคุณด้วย ส่วนเรื่องของการออกกำลังกาย เกรทเดนเป็นสุนัขที่แข็งแรง อยากรู้อยากเห็นตามสัญชาติญาณของสุนัขล่าเนื้อ จึงควรให้เกรทเดนได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อที่เขาจะได้ไม่อ้วนและไม่เครียด

 
 ;D ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     เกรทเดนเติบโตอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นไม่ควรให้สุนัขออกกำลังกายมากเกินไปก่อนอายุ 12 เดือนต้องแน่ใจว่าบริเวณที่เลี้ยงควรมีรั้วรอบขอบชิด และเมื่อผู้เลี้ยงไม่อยู่บ้านต้องผูกสุนัขไว้ด้วยเพราะ เกรทเดน สามารถกระโดดข้ามรั้วได้สบายๆ ที่สำคัญผู้เลี้ยงจะต้องคอยให้ความรักความเอ็นดูสุนัขด้วยนะ


หัวข้อ: เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก สุนัขเฝ้ายาม เป็นมิตร
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 01:38:50 PM
เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs)
สุนัขเฝ้ายาม เป็นมิตร ไม่ก้าวร้าว

(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10024_con)

 ;) ลักษณะทั่วไป

     ตัวใหญ่ แข็งแรง กำยำ  มั่นคง ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มั่นใจ เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  เดิมเลี้ยงไว้เพื่อต้อนแกะ ทำงานบนภูเขา จึงมีกระดูกค่อนข้างใหญ่แข็งแกร่ง ขนสีดำ  มีสีสนิมแทรมสมมาตรกันระหว่างลำตัวทั้งสองด้าน และแต้มด้วยสีขาว โดยเฉพาะบริเวณอก มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 8-12 ปี

 
 ;) ความเป็นมา

     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  มีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ พวกเขาเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้สำหรับใช้งานในฟาร์มโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะต้อนสัตว์ เฝ้ายาม ปกป้องทรัพย์สิน  แบกหามของขึ้นภูเขาสำหรับการล่าสัตว์ และการเดินเขา จนกระทั่งปีคริสตวรรษที่ 19 เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก ถูกสันนิษฐานว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากชาวไร่ชาวนาเลิกเลี้ยงมันเพราะมีเครื่องจักร เครื่องไถนาช่วยในการทำการเกษตรแทน อย่างไรก็ตามได้มีการค้นพบสายพันธุ์นี้อีกครั้งในเวลาต่อมา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/twodog_186124145.jpg)


หัวข้อ: โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ หมาหน้ายิ้ม อารมณ์ดี ขี้เล่น ฉลาด ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 01:46:08 PM
 (http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/2_con)

 :o ลักษณะทั่วไป
     โกลเด้นฯเป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง ไม่เทอะทะเก้งก้างจนดูเกะกะ เป็นสุนัขที่มีนิสัยค่อนข้างจะเป็นมิตรกับทุกๆ และสุนัขที่มีความปราดเปรียวและอดทน ลีลาในการย่างก้าวหรือไหวเป็นไปด้วยความนิ่มนวล
 
 :o ความเป็นมา
     โกลเด้นฯเป็นสุนัขที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากสุนัขในกลุ่มสแปเนี่ยล ซึ่งเป็นสุนัขที่มีความเชี่ยวชาญทางน้ำเป็นพิเศษ โดยมีขนาดเล็กกว่าสุนัขพันธุ์นิวฟาวน์แลนด์ แต่มีลักษณะโครงสร้างที่คล้ายคลึงกัน สันนิษฐานว่าอาจผสมข้ามพันธุ์มาจากสุนัขพันธุ์ไอริชเซทเทอร์ และสุนัขในกลุ่มวอเตอร์สแปเนี่ยล โดยอาจมีสายเลือดของสุนัขพันธุ์บลัดฮาวน์เข้าไปเจือปนอยู่ด้วย
 
 :o ลักษณะนิสัย
     นิสัยสุภาพ น่ารัก มีเสน่ห์ ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ และเสียสละรักเจ้าของได้เท่ากับสุนัขพันธุ์ โกลเด้นฯนี้ ลักษณะนิสัยสุนัขพันธุ์นี้ใจดี ชอบอยู่กับคนและสัตว์อื่น มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ค่อนข้างติดคนหรืออยากให้เจ้าของสนใจ โกลเด้นฯ เป็นสุนัขที่ฝึกง่าย มันชอบเห่าเมื่อมีคนอยู่หน้าประตูบ้าน แต่มีบ่อยครั้งที่การเห่านั้นเป็นการแสดงการทักทายมิใช่การขู่

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Golden%20Retriever/golden_AKCbloom.jpg)

 :) ขนาดตัว : ใหญ่
 :) ออกกำลังกาย : ทุกวัน
 :) ทนต่ออากาศร้อน : ปานกลาง
 :) ดูแลรักษาความสะอาด : 1ครั้ง/2 สัปดาห์
 :) พละกำลัง/ความแข็งแรง : มาก
 :) ทนต่ออากาศหนาว : มาก
 :) ความยาวขน : ปานกลาง
 :) เป็นมิตรกับเด็ก : มาก
 :) พื้นที่ในการเลี้ยง : มาก


หัวข้อ: คอเคเซียน เชพเพิร์ด ฉลาด มีไหวพริบ กล้าหาญ ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 01:51:27 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10022_con)

 THANK!! ลักษณะทั่วไป

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีรูปร่างสูงใหญ่ยักษ์ กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง ขนหนา มีสีดำคาดเป็นหน้ากากเสมอๆ ขนมี 2 แบบคือ แบบยาวและสั้น ซึ่งจะเป็นลักษณะขนของคอเคเซียน เชพเพิร์ด ทางสายพันธุ์จอร์เจียน และอาร์เมเนียน  คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีอายุเฉลี่ยประมาณ 10-14 ปี


 THANK!! ความเป็นมา

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสายพันธุ์ที่เชื้อสายที่เก่าแก่เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์ โมโลสเซอร์ (Molosser)  เริ่มแรกพวกเขาถูกเลี้ยงไว้เพื่อปกป้องบ้านเรือน ครอบครัว ไร่นา และทรัพย์สิน นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสุนัขที่ถูกเอาไปพาขึ้นสังเวียนเดินโชว์ตัวตามงานต่างๆ ซึ่งคอเคเซียน เชพเพิร์ดเริ่มปรากฏตัวในงานโชว์ในปี ค.ศ. 1930 ที่ประเทศเยอรมัน อย่างไรก็ตามถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาจนปัจจุบัน ทว่าความนิยมของคอเคเซียน เชพเพิร์ด ก็ยังคงอยู่ในเขตแคว้นเดิมที่พวกเขากำเนิดมา เนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสม และที่สำคัญคอเคเซียน เชพเพิร์ดไม่ได้เป็นสุนัขที่มีไว้เพื่อใครก็ได้ สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยให้เขา อาจทำให้เขามีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวหรือเป็นปัญหาได้


 THANK!! ลักษณะนิสัย

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสุนัขที่ฉลาด มีไหวพริบ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่บางครั้งก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักอิสระ ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง ก้าวร้าวในบางครั้ง จึงควรได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม พาออกไปมีสังคมบ้าง ไม่ควรให้เขาอยู่แต่ในบ้านหรือพื้นที่แคบยาวนานเกินไปจนเกิดความเครียด นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสุนัขที่พลังงานต่ำ ชอบอยู่เฉยๆ แต่ก็หูไวตาไวรู้สึกไว ยิ่งถ้าครอบครัวกำลังถูกข่มขู่คุมคาม เขาก็จะลุกขึ้นมาปกป้องทันที

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/5549581_f520.jpg)

 ;) ขนาดตัว : ใหญ่
ออกกำลังกาย : ทุกวัน
 ;) ทนต่ออากาศร้อน : น้อย
ดูแลรักษาความสะอาด : 1 ครั้ง/2 สัปดาห์
 ;) พละกำลัง/ความแข็งแรง : มาก
ทนต่ออากาศหนาว : มาก
 ;) ความยาวขน : ปานกลาง,ยาว
เป็นมิตรกับเด็ก : ปานกลาง
 ;) พื้นที่ในการเลี้ยง : มาก

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/l.jpg)

 ;D การดูแล
 
     คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีขน  2 ชนิดคือ ขนสั้นและ ขนยาว หากเป็นชนิดขนยาวควรได้รับการแปรงขนเป็นประจำเพื่อป้องกันขนพันกัน  ส่วนขนสั้นอาจดูแลน้อยลง แต่ก็ยังคงต้องแปรงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

     สำหรับการออกกำลังกายควรพาพวกเขาออกไปวิ่งหรือเดินเล่นเป็นประจำทุกวัน ให้เขาได้ใช้พลังงาน สร้างความกระตือรือร้น พวกเขาจะมีความสุขมากๆ ที่ได้ออกกำลัง หรือได้ทำงานที่ได้ใช้กำลังกาย  อย่างไรก็ตามไม่ควรปล่อยให้เขาวิ่งนำเจ้าของ เพราะจะทำให้เขาเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้นำ แล้วจะทำให้กลายเป็นปัญหาที่พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังและก้าวร้าว ควรให้เขาเดินข้างๆ หรือเดินตามหลังถึงจะดีที่สุด
 
 ;D ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดไม่เหมาะที่จะเลี้ยงในพื้นที่แคบโดยเฉพาะในอพาร์ตเม้นท์ แต่ควรเป็นบ้านที่มีบริเวณ หรือสนามหญ้ากว้างๆ เพื่อให้เขาได้เดินเล่นและได้ใช้พลังงานได้ แล้วขนที่ยาวของเขาก็มีไว้เพื่อปกป้องเขาจากอากาศหนาว และสภาพแวดล้อมต่างๆ อย่างไรก็ตามถ้าเลี้ยงในเมืองไทย ควรมีห้องที่ติดแอร์ให้เขาโดยเฉพาะ เนื่องจากขนที่หนามากไม่เหมาะกับสภาพอากาศร้อน  อาจทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว เกิดอากาศฮีสโตรกได้ง่าย และอาจทำให้อารมณ์เสีย เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว  ดังนั้นหากนำมาเลี้ยงตามบ้าน โดยเฉพาะในเมืองต้องฝึกวินัย สามารถควบคุมดูแลพวกเขาได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคอเคเซียน เชพเพิร์ด เป็นสุนัขที่ถ้าไม่ฝึกก็จะนิสัยเสีย ดุร้าย ดื้อ และไม่เชื่อฟังคำสั่งได้ง่าย
 
 ;D ข้อควรจำ

     ปกติแล้วคอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน ไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บ แต่ก็ควรระวังโรคกระดูกสะโพกเสื่อม โรคอ้วน และโรคหัวใจได้ ดังนั้นควรดูแล สังเกตอาการและพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ   


หัวข้อ: คอลลี่ (Collie) ใจดี แข็งแรง คล่องแคล่ง และรักเด็ก
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 01:57:54 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/4_con)

 ;D ลักษณะทั่วไป

     คอลลี่เป็นสุนัขที่ร่าเริง แข็งแรง กระตือรืนร้นต่อสิ่งรอบข้าง เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วและยืดหยุ่นดี ไม่งุ่มง่าม ยืนตัวตรงและมั่นคง อกลึกและกว้างแสดงความแข็งแรง ไหล่ลาดเอียงและข้อเท้าที่โค้งพอดีแสดงความเร็วในการวิ่ง ใบหน้าของคอลลี่นั้นแสดงความฉลาดเฉลียว ลำตัวส่วนหน้าและส่วนหลังสมดุลกัน อวัยวะทุกส่วนได้สัดส่วนและประสานกันเป็นรูปร่างที่สวยงามลงตัว
 
(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Collie/2.jpg)

 ;D ความเป็นมา

     สุนัขคอลลี มีต้นกำเนิดจากบริเวณรอยต่อระหว่างตอนเหนือของประเทศอังกฤษ กับประเทศสกอตแลนด์โดยเกิดจากเมื่อเวลาที่ชาวโรมันเข้ามารุกรานประเทศอังกฤษ

 ;D ลักษณะนิสัย
     สุนัขคอลลี่เป็นสุนัจที่ชาญฉลาดมาก และชอบที่จะสุงสิงกับคน เพราะฉะนั้นการฝึกสุนัขพันธุ์คอลลี่นี้ จึง ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ไม่ควรอย่างยิ่ง ที่จะทิ้งให้อยู่หลังบ้านตามลำพังเพราะเขาจะรู้สึกขาดความรัก และรู้สึกถูกทอดทิ้งซึ่งจะทำให้เขาซึมเศร้าไป สุนัขพันธุ์นี้รักความสะอาดและเหมาะจะเป็นเพื่อนที่ดีกับเด็กๆ สุนัขคอลลี่ชอบอยู่ร่วมกับสุนัขตัวอื่นๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นเพศตรงข้าม และถ้าหากผู้เลี้ยงมีสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ ต้องเข้าใจว่าสัญชาตญาณของสุนัขเฝ้าแกะ สัตว์ตัวเล็กๆ ที่เหมือนจะชอบวิ่งหนีก็จะถูกต้อนไปยังที่ใดที่หนึ่งซึ่งเขาได้เล็งไว้
 
 ;D การดูแล
     สุนัขคอลลี่มีขนยาวสวย และต้องได้รับการแปรงขนทุกอาทิตย์เพื่อให้ขนสวยงามอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าสุนัขคอลลี่จะไม่แสดงอาการกระตือรือร้นขอให้ผู้เลี้ยงพาออกไปเดินเล่น แต่ถ้าได้ไปสุนัขจะเพลิดเพลิน และอารมณ์ดี สุนัขพันธุ์นี้มีความฉลาดและยังตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ มีพรสวรรค์ในการตามรอยและต้อนฝูงสัตว์ เพราะฉะนั้นสุนัขอาจจะอดใจไม่อยู่ เผลอไล่ต้อนสิ่งที่มาเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ ตัว ผู้เลี้ยงจะต้องพยายามสอนให้สุนัขเข้าใจ ว่าไม่ควรทำพฤติกรรมแบบนั้น 

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Collie/1.jpg)

 ;D ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     สุนัขพันธุ์คอลลี่นี้เหมาะกับเกือบทุกครอบครัวและสามารถเลี้ยงได้ทุกสถานการณ์เพราะสุนัขพันธุ์นี้มีความอ่อนโยนและปรับตัวได้ง่าย     
 
 ;D ข้อควรจำ
 
      โรคประจำสายพันธุ์ของคอลลี่ที่ควรระวังก็คือ อาการแพ้ยา ซึ่งพวกเขามักจะอ่อนไหวง่ายต่อยากว่า 100 ชนิด ซึ่งรวมไปถึง แอนตี้ไบโอติก และ สเตรอยด์ นอกจากนี้ยังมีโรคที่เกิดจากความผิดปกติของยีนส์ ทำให้มีขนสีเทา  (canine cyclic neutropenia gray collie syndrome) ลูกคอลลี่ที่ออกมาจะมีขนสีเทา ร่างกายไม่แข็งแรง มีไข้ ท้องร่วง มีปัญหาดวงตา และผิวหนังติดเชื้อ เป็นต้น โรคนี้สามารถติดต่อกันได้ หากพบว่าลูกคอลลี่ตัวไหนที่ออกมามีการดังกล่าว ควรแยกออกมาจากคอกโดยทันที


หัวข้อ: คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ใจดี เป็นมิตร อ่อนหว่าน
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 02:06:42 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10023_con)

 HAPPY2!! ลักษณะทั่วไป

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลเป็นสุนัขพันธุ์ตุ๊กตา ตัวเล็กแต่มีความสง่างาม เหมาะทั้งกับชีวิตในเมืองและชีวิตในชนบท เชื่อฟังเจ้าของ ฝึกง่าย คล่องแคล่วว่องไว เป็นสุนัขที่เหมาะกับการนำไปใช้ในการบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ขนนุ่มยาวเส้นเล็กราวแพรไหม มีทั้งหมด 4 สี คือ สีน้ำตาลเชสนัทปนสีขาว(Blenheim) สีดำปนสีขาวและสีน้ำตาลแทน (Tricolor) สีแดงเข้ม (Ruby) สีดำและสีน้ำตาลแทน อายุโดยเฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี

 
 HAPPY2!! ความเป็นมา

     หลายสิบปีมาแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ที่ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ซึ่งได้ตั้งชื่อตามกษัตริย์ คิง ชาร์ลส์ที่ 2 ของสหราชอณาจักร ได้รับการบันทึกอยู่ในภาพวาดและรูปถ่ายร่วมกับครอบครัวชั้นสูง แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล เป็นสัตว์ที่มีเลี้ยงไว้ภายในบ้าน ประหนึ่งเป็นสมบัติอีกชิ้นที่มีราคาหรูหราของชนชั้นสูง  นอกจากนี้คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลยังสามารถระงับอารมณ์ของคนที่กำลังหวั่นวิตกให้สงบลง และเยียวยารักษาโรคเครียดได้อีกด้วย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Cavalier_King_Charles_Spaniel3.jpg)

HAPPY2!! ลักษณะนิสัย

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลมีจิตใจดี เป็นมิตร อ่อนหวาน อ่อนโยน ร่าเริงไม่เขินอาย  ไม่ก้าวร้าว  ฝึกง่าย เป็นสุนัขที่เติบโตมากับเด็กๆ และเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ชอบเดินออกกำลังกาย หรือไม่ก็นั่งเล่น นอนเล่น

 
HAPPY2!! การดูแล

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลอยู่ได้ดีทั้งพื้นที่กว้าง และพื้นที่แคบอย่างเช่น อพาร์ตเม้นต์ พวกเขาสามารถวิ่งเล่นออกกำลังกายได้เองภายในตัวบ้าน หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน  ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลคือการพาพวกเขาเดินเล่นรอบๆ บ้านประมาณ 10 -15 นาทีเป็นประจำ  ในส่วนการดูแลทำความสะอาด ควรแปรงขนเป็นประจำ อย่างน้อยที่สุด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะก่อนอาบน้ำ เพื่อไม่ให้ขนติดเป็นสังกะตัง การทำความสะอาดควรอาบน้ำ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง และควรตรวจเชคดูแลความสะอาดช่องหูและรอบดวงตาด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น หมาดๆ ทุกครั้งหลังอาบน้ำ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Cavalier_King_Charles_Spaniel_Floral.jpg)

 HAPPY2!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ต้องการความรักมากเป็นพิเศษ ผู้เลี้ยงควรมีเวลาอยู่กับเขา ให้มีกิจกรรมร่วมกับครอบครัว สามารถพาเขาเดินเล่นได้เป็นประจำทุกวัน และดูแลแปรงขนให้เขาสม่ำเสมอ


 
 HAPPY2!! ข้อควรจำ

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล  มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ โรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัข ต้อกระจก โรคหูชั้นนอกอักเสบ เสี่ยงต่อการสูญเสียการรับรู้ทางเสียง ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรพาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/cavalier_king_charles_spaniel_5555.jpg)


หัวข้อ: คีชอน (Keeshounds ) ร่าเริง ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม บุคลิกภาพดี เป็นมิตร
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 02:15:04 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10027_con)

 laugh2 ลักษณะทั่วไป

     คีชอนเป็นสุนัขขนาดปานกลาง ดูแข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยว สมกับเป็นสุนัขสายพันธุ์ทางเหนือ มีความคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอก ขนฟู หนา หางยกสูงขึ้นพาดบนหลัง สีขนผสมกันระหว่างสีเทา สีดำ และสีครีม ทั้งเชดสีอ่อนและเข้ม สีดำแต้มบริเวณหู กระบอกปาก และเส้นตรงจากหางตาถึงโคนหู ช่วงอายุอยู่ระหว่าง 12-15 ปี

 laugh2 ความเป็นมา

     คีชอน จะมีต้นกำเนิดแถวบริเวณประเทศที่ใกล้กับขั้วโลก เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์ชามอยด์, เชา เชา, เอลค์ฮาวนด์นอร์เวย์ และปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่นำมาเลี้ยงเพื่อเฝ้ายามคอยสอดส่องดูแลไร่นา เรือบรรทุกต่างๆ คีชอนเป็นสุนัขที่เลี้ยงกันมากในประเทศเนเธอร์แลนด์ ช่วงปี ค.ศ. 1700 แล้วได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของพรรคการเมืองดัทช์  แพทริออท และ คอร์เนลิส เดอ เยเซลาร์ ผู้นำพรรคการเมือง  ซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขขื่อ คีส และเป็นผู้ตั้งชื่อสุนัขพันธุ์นี้ว่า คีชอน แต่เมื่อพรรคการเมืองพ่ายแพ้การเลือกตั้ง สุนัขพันธุ์คีชอนก็ได้รับความนิยมน้อยลง และจนเกือบสูญพันธุ์หายไป จนกระทั่งหนึ่งร้อยปีต่อมา สายพันธุ์นี้จึงกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา

 laugh2 ลักษณะนิสัย

     คีชอนเป็นสุนัขนิสัยร่าเริง ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม บุคลิกภาพดี เป็นมิตร ต้องการความรักสูง ชอบอยู่กับครอบครัว เข้ากับเด็กๆ ได้ดี ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่เหมาะกับการเลี้ยงไว้ให้อยู่ร่วมกับครอบครัว เข้ากับเด็กๆ ได้ดีมากกว่าผู้ใหญ่  พวกเขาชอบออกไปเดินเล่นนอกบ้าน และด้วยสัญชาตญาณของสุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อเฝ้ายามได้อย่างดีเยี่ยม พวกเขาจึงค่อนข้างไวต่อเสียง จะเห่าเมื่อได้ยินเสียงที่ผิดปกติ เพื่อให้เจ้าของรับรู้ แต่ค่อนข้างตื่นตกใจกับสิ่งต่างๆ ได้ง่าย แล้วเมื่อใดที่พวกเขาตื่นเต้นก็จะวิ่งวนไปวนมารอบตัวเองเป็นวงกลม คีชอนบางตัวอาจจะชอบเก็บตัว ดังนั้นถ้าพวกเขามีแนวโน้มขี้ขลาด หรือไม่มั่นใจในตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก ให้พาเขาออกไปเดินเล่น เจอผู้คน หรือสุนัข สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ให้เคยชิน เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว สัญชาตญาณนักเตือนภัย คอยระแวดระวังจะเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้เขากลายเป็นสุนัขที่ไม่ไว้ใจใคร ดุร้าย ข่มขู่ และกัดผู้อื่น

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/keeshond.jpg)

laugh2 การดูแล

     คีชอนเป็นสุนัขขน 2 ชั้นที่ยาวหนา จึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษ ต้องแปรงขนให้เขาเป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดขนสังกะตัง และผลัดขนที่ตายแล้ว  เวลาแปรงขนต้องแปรงตั้งแต่โคนขนที่ติดกับบริเวณผิวหนัง ถ้าเวลาแปรงขนไม่เห็นผิวหนังของเขา ถือว่ายังแปรงผิดวิธี ซึ่งก่อนอาบน้ำควรแปรงขนก่อนทุกครั้ง การอาบน้ำควรอาบให้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง เวลาอาบไม่ควรให้น้ำเข้าหูหรือตา และไม่ควรใช้ยาสระผมของคนเพราะผิวหนังของเขาอาจจะเกิดอาการระคายเคืองได้ เนื่องจากขนที่หนามาก ผู้เลี้ยงต้องล้างแชมพูให้หมด อย่าให้เหลือทิ้งไว้ที่ขน เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังเขาได้อีกเช่นกัน ส่วนการไดร์ขนไม่ควรใช้ความร้อนสูงและควรเป่าให้แห้งสนิท ไม่เช่นนั้นความชื้นที่ขน หรือผิวหนังที่ยังอยู่อาจทำให้เกิดผื่นหรือเชื้อราได้ นอกจากขนที่ต้องดูแลรักษาแล้ว หูก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อในช่องหู

     คีชอนต้องการการออกกำลังเป็นประจำทุกวัน ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะตื่นตัวมากเวลาอยู่ในบ้าน จึงจำเป็นต้องพาออกไปเผาผลาญพลังงาน หรือสร้างกิจกรรมให้เขาได้ใช้กำลังหรือร่างกายอย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน หรือวิ่งเล่นก็ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจ โดยเฉพาะการได้เดินเล่นร่วมกับคนในครอบครัว  นอกจากนี้คีชอนเป็นสุนัขที่น้ำหนักขึ้นง่ายมาก ผู้เลี้ยงจะต้องดูแลควบคุมปริมาณอาหารประกอบกับการพาไปออกกำลังกายป้องกันน้ำหนักเกิน  อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นสุนัขขนยาวและหนา ไม่สามารถทนทานได้กับอากาศร้อน เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องความร้อนภายในร่างกายขณะออกกำลังกาย ไม่ให้เขารู้สึกร้อนจากการเผาผลาญพลังงานจนเกิดไปจนเกิดอาการชักได้

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Keeshond_Majic_standing_cropped.jpg)

 laugh2 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     โดยธรรมชาติแล้วคีชอนเหมาะที่จะอยู่กับสนามหญ้ามีรั้วเล็กๆ ให้พวกเขาได้วิ่งเล่น ในขณะเดียวกันพวกเขาก็มีเชื้อสายของสุนัขพันธุ์เล็กอยู่ในตัว จึงอยู่ได้ดีในพื้นที่เล็กเช่นกัน  แต่ควรพาพวกเขาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายนอกบ้านประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นประจำทุกวัน คีชอนสุนัขขนยาวหนา จึงไม่เหมาะกับอากาศร้อน  หากเลี้ยงควรให้เขาอยู่ในห้องแอร์ และไม่ควรปล่อยทิ้งเขาไว้นอกบ้าน เพราะเขาตื่นตระหนก ปากเปราะ เห่าง่าย แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้เขาอยู่ในบ้านตัวเดียวเป็นระยะเวลานานเช่นกัน เพราะพวกเขาจะรู้สึกวิตกกังวล จนอาจทำลายข้าวของในบ้าง คีชอนจึงเหมาะกับผู้เลี้ยงที่ต้องทำงานนอกบ้าน หรือทำงานไกลบ้าน  การดูแลทำความสะอาดควรแปรงขนให้เขาเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/fg2.jpg)

 laugh2 ข้อควรจำ

     คีชอนเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกสะโพกเสื่อม กระดูกสะบ้าเคลื่อน ลมบ้าหมู โรคคุชชิ่ง ซึ่งเป็น กลุ่มอาการผิดปกติของร่างกายที่เกิดจากการมีฮอร์โมนสเตอรอยด์ในเลือดสูงกว่าปกติ ก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้ ส่งผลต่อการเจริญเติบโต ความผิดปกติของน้ำหนัก หรือขนร่วงได้ นอกจากนี้ยังมีโรคเกี่ยวกับความผิดปกติในการแข็งตัวของเกล็ดเลือด และอาการที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรสังเกตเมื่อพวกเขามีอาการผิดปกติ และควรพาไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ


หัวข้อ: เคน คอร์โซ่ (Cane Corso) เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขที่ฉลาดหลักแหลม
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 02:22:31 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10021_con)

 kiss6 ลักษณะทั่วไป

     เคน คอร์โซ่เป็น 1 ใน 2 สายพันธุ์ อิตาเลียน มาสทิฟฟ์ มีรูปร่างใหญ่ มั่นคง กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง แลดูสง่างาม ทรงพลัง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สง่างาม ขนสั้น กระด้าง เรียวตัวหนาแน่น ป้องกันน้ำได้ดี  สีขนมีได้ทั้งสีดำ สีเทา สีน้ำตาลเหลือง สีแดง หรือจนที่เป็นลักษณะคล้ายลายเสือ เป็นต้น

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/DSC_0019.jpg)

 kiss6 ความเป็นมา

     เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขพื้นเมืองของอิตาลี เดิมพวกเขาเป็นที่รู้จักเพียงทางตอนใต้ของอิตาลีเท่านั้น ไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวาง แต่ก็มีภาพของพวกเขาปรากฎเห็นในภาพวาด งานศิลปะ ที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาตร์ของอิตาลีอยู่จำนวนมาก  ชื่อ เครน คอร์โซ่ ได้มาจาก คาเน่ ดา คอร์โซ  ชื่อประเภทสุนัขที่ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ในชนบท เช่น ต้อนแกะ ล่าสัตว์ เฝ้าไร่นา ต่อสู้กับหมี  ด้วยเหตุนี้เคน คอร์โซ่ จึงเป็นสุนัขที่ทำหน้าที่บอร์ดี้การ์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ในช่วงปี ค.ศ. 1970 สุนัขสายพันธุ์นี้ค่อยลดจำนวนลงจนใกล้สูญพันธุ์ จึงได้มีการพัฒนาและผสมพันธุ์ให้กลับมา  2 สายพันธุ์  แล้วกลายเป็นที่นิยมทั่วโลกในเวลาถัดมา โดยเฉพาะเมื่อถูกนำเข้ามายังสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1987 เคน คอร์โซ่ ได้รับการยอมรับโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2010

 kiss6 ลักษณะนิสัย

     เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขที่ฉลาดหลักแหลม  ง่ายต่อการฝึกวินัยและการเชื่อฟังคำสั่ง พวกเขาซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก กระตือรือร้น เฝ้าบ้านได้ดี มีความกล้าหาญและจิตวิญญาณของสุนัขผู้พิทักษ์  ตอบสนองต่อบุคคล หรือสัตว์ที่เพิ่งพบเห็นไม่ดีเท่าไหร่ เจ้าของจึงไม่ควรกระตุ้นให้พวกเขาหวาดระแวงตามสัญชาตญาณผู้ปกป้อง จนแสดงอาการก้าวร้าวออกมา  อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พวกเขาจะดูกล้าหาญ เข้มแข็ง แต่เขาก็ต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากครอบครัวสูง เป็นมิตรเด็กๆ สุภาพ อ่อนโยน และเป็นเพื่อนที่ดี

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/cane-corso-photo-gallery-pics-2.jpg)

 kiss6 การดูแล

     เคน คอร์โซ่ มีขนสั้น หนา ควรได้รับการแปรงขนเป็นประจำอย่างน้อยที่สุดทุกสัปดาห์ เพื่อพลัดขนเก่าและ นวดผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพขนดีและเงางาม  ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกสัปดาห์ ควรอาบประมาณ  2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุด 1 เดือนต่อครั้ง  หูของพวกเขาควรได้รับการดูแลทำความสะอาดเป็นพิเศษเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อป้องกันสาเหตุการติดเชื้อในหู  ในส่วนการออกกำลังกาย เคน คอร์โซ่ มีพละกำลัง รักการผจญภัย และมีพลังงานสูง จึงต้องพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน พวกเขาสามารถวิ่งจ้อกกิ้งและปีนเขาระยะไกลได้ ซึ่งจริงๆ แล้วพวกเขาเป็นสุนัขที่ต้องการบ้านที่มีสนามหญ้ากว้าง มีรั้วรอบขอบชิด

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/cane-corso1.jpg)

 kiss6 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ตามธรรมชาติของเคน คอร์โซ่ พวกเขาเหมาะกับบ้านที่มีสนามหญ้า อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถเลี้ยงให้อยู่ภายในอพาร์ตเม้นท์ได้ แต่ต้องพาเขาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายอย่างเพียงพอเป็นประจำ  เอาใจใส่ดูแลและอยู่เป็นเพื่อนกับเขา เพราะถ้าพวกเขาได้ความรัก การเอาใจใส่ที่ไม่เพียงพอ อาจจะทำลายข้าวของ เป็นการเรียกร้องความสนใจ ในส่วนของการทำความสะอาด พวกเขาต้องการการแปรงขนเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เช่นเดียวกับการทำความสะอาดหู ควรตรวจดูและทำความสะอาดทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 kiss6 ข้อควรจำ

     โรคประจำตัวของเคน คอร์โซ่ส่วนใหญ่จะเป็น โรคกระดูกเคลื่อน ลำไส้บวม  และต่มน้ำตาขยายใหญ่ เพื่อความแน่ใจว่าลูกเคน คอร์โซ่ที่นำมาเลี้ยงเสี่ยงต่อโรคดังที่กล่าวมาหรือไม่ ต้องตรวจสอบดูจากพ่อและแม่ของพวกเขา เนื่องจากเป็นโรคที่ติดมาทางกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ ควรพาพวกเขาไปตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรคต่างๆ   


หัวข้อ: เครนเทอร์เรีย(Cairn Terrier)เป็นสุนัขพลังงานสูง ร่าเริง อยู่ไม่สุข
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 02:28:58 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10020_con)

 ping! ลักษณะทั่วไป

     เครนเทอร์เรียเป็นสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียขาสั้น แต่รูปร่างมั่นคง แข็งเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ยืนเอียงไปทางด้านหน้า อกลึก ความยาวช่วงหลังกำลังพอดี ศีรษะสั้นกว่าสุนัขพันธุ์เทอร์เรียทั่วๆไป ขนหนา ทนต่อสภาพอากาศได้ทั้งร้อนและหนาว หน้าตามีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอก   เป็นสุนัขที่ตื่นตัว แอคทีฟ เป็นมิตร เชื่อฟังคำสั่งได้ดี ช่วงอายุประมาณ 12- 15ปี

 ping! ความเป็นมา
 
     เครนเทอร์เรีย มีต้นกำเนิดอยู่บริเวณที่ราบสูงของสก็อตแลนด์และบริเวณก่อนทางเหนือของสก็อตแลนด์ (the Isle of Skye)   ซึ่งเครนเทอร์เรียจัดอยู่ในกลุ่มสกายเทอร์เรีย (Skye Terrier) มีเทือกแถวใกล้ๆ กับสก็อตทิชเทอร์เรียและเวสท์ ไฮแลนด์ ไวท์ เทอร์เรีย  ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 สายพันธุ์ทั้ง 3 สายพันธุ์เริ่มแยกออกมา “เครน” หมายถึงกองหิน หรือถ้ำหินที่พวกสุนัขจิ้งจอกและตัวแบดเจอร์อาศัยอยู่ในแถบชนบท ซึ่งสุนัขสายพันธุ์นี้มีหน้าที่เห่าบอกตำแหน่งที่ซ่อนของศัตรูหรือผู้รุกล้ำอย่างสุนัขจิ้งจอกหรือตัวแบดเจอร์เพื่อให้ชาวนามาฆ่า ด้วยเหตุนี้จึงได้ชื่อว่า เครนเทอร์เรีย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/Cairn_Terrier.jpg)

 ping! ลักษณะนิสัย

     เครนเทอร์เรีย เป็นสุนัขพลังงานสูง ร่าเริง อยู่ไม่สนุข ฉลาดหลักแหลม ซื่อสัตย์จงรักภักดี ปกป้องครอบครัว จนบางครั้งมักลืมไปว่าตัวเองเป็นเพียงสุนัขตัวเล็กๆ โดยธรรมชาติของสายพันธุ์เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เขาอาจจะก้าวร้าวหรือดุเมื่อเจอคนแปลหน้า สุนัขหรือสัตว์ตัวอื่นๆ และออกจะขี้หวง ไม่ว่าจะอาหาร สิ่งของ หรือของเล่น พวกเขา เป็นเพื่อนเล่นที่ดีมกับเด็กๆ แต่พวกเขาไม่ค่อยชอบปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียว อาจทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว ทำลายข้าวของได้ หรือขุดดิน หรือเห่าไม่หยุด ควรได้รับการฝึกวินัยในเชิงบวก ซึ่งจะช่วยให้สภาพกายและใจของเขาดีขึ้น พวกเขาเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้ง่าย ของรางวัลและความรักจะช่วยให้การเรียนรู้ รวมทั้งการทำงานของเขามีประสิทธิภาพ การลงโทษขณะฝึกวินัยจะเป็นการทำร้ายจิตใจของเขามากๆ เพราะเขาเป็นสุนัขที่อ่อนไหวง่าย ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นเสียง หรือใช้ความรุนแรง อาจจะทำให้เขาเกิดความเครียด และเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวตามมา

 ping! การดูแล

     เครนเทอร์เรียเป็นสุนัขที่ต้องการการดูแลเพียงระดับพื้นฐาน ไม่จำเป็นต้องเข้าร้านกรูมมิ่งเสริมสวย พวกเขาต้องการเพียงการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน  เนื่องจากขนชั้นในมีแนวโน้มพันกันเป็นสังกะตัง ซึ่งอาจก่อนให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังอักเสบ และติดเชื้อ การอาบน้ำควรอาบน้ำประมาณ 2-3 สัปดาห์เป็นอย่างมาก ไม่ควรอาบบ่อยกว่านี้  เพราะจะทำให้น้ำมันที่อยู่บนขนของน้องหมาถูกชะไปกับน้ำ อาจทำให้ผิวหนังแห้ง และทำลายเส้นขนได้ ควรเลือกดูแชมพูที่มีอ่อนโยนโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้แชมพูของคนเป็นอันขาด นอกจากนี้ควรดูแลขนรอบๆ หูและดวงตาอย่างเป็นประจำ คอยเล็มขนที่แทงเข้าไปในดวงตา และทำความสะอาดภายในหูเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ส่วนการออกกำลังกาย ถึงแม้เขาจะสามารถอยู่ในพื้นที่เล็กๆได้ดี ก็ยังต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เช่นนั้นเขาอาจเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ ถ้าไม่เสนอกิจกรรมให้เขาทำ หรือพาเขาไปวิ่งเล่น พวกเขาชอบเล่นวิ่งไล่ลูกบอลที่สนามหญ้าร่วมกับครอบครัว หรือแค่เดินเล่นๆ เขาก็รู้สึกดี ไม่ควรให้เขากระโดด เพราะอาจทำให้เกิดโรคสะบ้าเคลื่อนได้ ควรให้เขาออกกำลังกายแต่พอเหมาะพอดี

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/cairnpair.jpg)

 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     แม้เครนเทอร์เรียจะเป็นสุนัขอารมณ์ดี ร่าเริง เหมาะกับผู้เลี้ยงที่ต้องการความแอคทีฟ ตื่นตัว แต่ถ้าผู้เลี้ยงไม่พาเขาออกไปพบปะกับสุนัขตัวอื่นๆ บ้างอาจทำให้เขาเป็นสุนัขเข้าสังคมยาก แล้วอาจทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวดุ เห่า สัตว์อื่นๆ หรือคนแปลกหน้าได้ ดังนั้นผู้เลี้ยงควรมีเวลาพาเขาไปสังสรรค์นอกบ้าน เล่นกับสุนัขหรือสัตว์ตัวอื่นบ่อยๆ ในระหว่างพาออกไปเดินเล่นหรือออกกำลังกายซึ่งควรทำอยู่แล้วเป็นประจำทุกวัน เช่นเดียวกับการแปรงขน ควรแปรงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/CairnTerriers.jpg)

 ping! ข้อควรจำ

     เครนเทอร์เรียมีโรคประจำสายพันธุ์ คือโรคอ้วน  โรคผิวหนัง โรคต้อกระจก โรคเกี่ยวกับกระดูก โดยเฉพาะกระดูกสะโพก และ โรคสะบ้าเคลื่อน ผู้เลี้ยงจึงควรสังเกตอาการผิดปกติของพวกเขา หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดโรคดังกล่าว และควรพาพวกเขาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ   


หัวข้อ: เคอร์รี บลู เทอร์เรีย (Kerry Blue Terriers) ฉลาด คล่องแคล่ว เชื่อฟังคำสั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2014, 02:34:49 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10028_con)

 lsv-smile ลักษณะทั่วไป
     เคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย เป็นสุนัขฉลาด คล่องแคล่ว เชื่อฟังคำสั่ง มีลักษณะการยืนที่มั่นคง โดดเด่น ลำตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงตามแบบสายพันธุ์เทอร์เรีย ขนหยักหนาทั่วตัว สีน้ำเงินเทามีตั้งแต่อ่อนไปจนถึงสีเข้ม ถ้าไม่ใช่สีดังกล่าวถือว่าไม่ได้มาตรฐาน  มีอายุอยู่ในช่วง 12 – 15 ปี

 lsv-smile ความเป็นมา
     เคอร์รี่  บลู เทอร์เรีย เป็นสุนัขภูเขา มีต้นกำเนิดอยู่ที่ คันที เคอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1700 โดยเลี้ยงไว้เพื่อจุดประสงค์ ในการใช้งาน และใช้สำหรับเกมล่าสัตว์เล็กๆ และใช้ในการล่านก ต้อนแกะ ต้อนวัว ชาวนาในไอร์แลนด์ได้คิดพัฒนาสายพันธุ์เคอร์รี่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มชนชั้นสูง ซึ่งพวกเขาได้ถูกนำไปช่วยชาวนาในการล่อสัตว์เล็กๆ ที่อยู่ตามพื้นดิน บลูเทอร์เรียถือได้ว่าเป็นเทอร์เรียประจำชาติของไอร์แลนด์ และต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไอร์แลนด์ในเวลาต่อมา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/kerry_blue_terrier.jpg)

 lsv-smile ลักษณะนิสัย
 
     เคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย มีจิตวิญญาณ แห่งความเป็นสุนัขสูง ไม่ว่าจะความซื่อสัตย์  ฉลาด เป็นมิตร น่ารัก จิตใจดี สุภาพอ่อนโยน สามารถป้องและดูแลครอบครัวได้อย่างดี  แต่จากขนาด ความสูง ความแข็งแกร่ง และสีที่มีลักษณะเฉพาะ พวกเขามักถูกนำไปใช้ในการแข่งขันสุนัข โดยมีชื่อขนานนามว่า “ปีศาจสีน้ำเงิน” (Blue Devils) อย่างไรก็ตาม ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะชอบวิ่งไล่แมว หรือสัตว์ตัวเล็กๆ รวมถึงสุนัขพันธุ์เล็กด้วย ผู้เลี้ยงจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และโดยธรรมชาติของเคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย แล้วพวกเขาเหมาะกับการนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะทั้งงานในที่ร่มหรือที่แจ้ง ซึ่งพวกเขาฉลาดและมีไหวพริบอย่างเหลือเชื่อในการทำงาน ไม่ว่าต้อนแกะ ติดตามเส้นทาง และการล่าสัตว์ นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่ง ตื่นตัว สามารถสอนทักษะใหม่ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเรื่องการนำไปใช้งาน หรือให้เล่นเกมน่ารักๆ เพื่อความสนุกสนาน แต่เวลาสอนพวกเขาควรใช้โทนเสียง และน้ำเสียงที่อ่อนโยนกับพวกเขา เพราะเคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย ค่อนข้างอ่อนไหวง่ายต่อการรับคำสั่ง ผู้เลี้ยงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

 lsv-smile การดูแล
 
     เคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเกิดอาการแพ้บริเวณผิวหนัง การทำความสะอาดไม่ยุ่งยากเท่าใดนัก เพียงแปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์ และได้รับการตัดแต่งขนเมื่อยาวเกินไป เพื่อไม่ให้ขนพันกันเป็นสางกะตัง อักเสบที่ผิวหนังจนเกิดการติดเชื้อ และควรอาบน้ำให้ 3-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ส่วนการออกกำลังกายเนื่องจากเคอร์รี่ บลู เทอร์เรียมีความเป็นสุนัขนักแข่งอยู่ในสายเลือด  พวกเขาจึงต้องการออกกำลังกายมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะการเดิน หรือ วิ่ง พวกเขาก็จะรู้สึกดี ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการได้ออกกำลังกายร่วมกับเจ้าของจะช่วยให้เขายิ่งรู้สึกผูกพันมากยิ่งขึ้น

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/Kerry%20Blue%20Terrier-watermarked-1227365854.jpg)

 lsv-smile ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     เคอร์รี่ บลู เทอร์เรียมีความตื่นตัวและต้องการใช้พลังงาน รวมทั้งการออกกำลังกายสูง แต่พวกเขาก็สามารถอยู่ได้ดีในอพาร์ตเม้นท์หรือบ้านหลังเล็ก พวกเขาสามารถวิ่งเล่นหากิจกรรมได้เองภายในบ้าน พวกเขาค่อนข้างขี้เบื่อควรจัดหากิจกรรมให้เขาได้เล่น หรือถ้ามีสนามหญ้าก็ปล่อยให้เขาได้วิ่งเล่นบ้าง แต่ว่าควรล้อมรั้วไว้ให้เรียบร้อย ผู้เลี้ยงไม่ควรล่ามเขาไว้อยู่กับที่ตลอดทั้งวัน เพราะพวกเขาต้องการความรักและการเอาใจใส่สูง  การปล่อยทิ้งให้เขาอยู่ตัวเดียวเป็นเวลานานจะส่งผลเสียต่อสภาวะจิตใจได้

 lsv-smile ข้อควรจำ

     โดยทั่วไปแล้ว เคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ แต่อาจมีแนวโน้มเป็นโรคประจำสายพันธุ์ได้ นั่นก็คือ ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับดวงตา กระดูกสะโพกเคลื่อน  และอาการแพ้ที่บริเวณผิวหนัง หรือรูขุมขนบ้างเล็กน้อย นอกจากนี้ก็อาจมีอาการแพ้ยาบางชนิด ผู้เลี้ยงจึงควรสังเกตอาการเป็นพิเศษ หากให้เขากินยาอะไรก็ตามเข้าไป นอกจากนี้ควรพาเขาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคที่อาจจะเกิดขึ้น 


หัวข้อ: เจแปนนิส ชิน ฉลาด มีไหวพริบ คล่องแคล่ว ขี้เล่น
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 04, 2014, 02:01:56 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10026_con)

 kiss6 ลักษณะทั่วไป

     เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่มีรูปร่างเล็ก ขนยาวปานกลาง มีลักษณะคล้ายสุนัขพันธุ์ชิสุ แต่ว่ามีขนบริเวณศีรษะและใบหน้าค่อนข้างสั้น สีขนทั่วไปจะเป็นสีขาวสลับสีดำ หรือ สีขาวสลับแดง อุปนิสัยค่อนข้างอ่อนไหวง่าย ฉลาด มีไหวพริบ เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่เกิดขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์สำหรับเป็นเพื่อนกับมนุษย์โดยเฉพาะ เขาจึงต้องการความรักสูง พวกเขาคล่องแคล่ว ขี้เล่น ง่ายต่อการถูกฝึกสอนให้แสดงโชว์หรือเล่นเกมต่างๆ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Japanese_Chin555.jpg)

 kiss6 ความเป็นมา

     เจแปนนิส ชิน มีประวัติต้นกำเนิดที่ยาวนาน และยังไม่สามารถรู้แน่ชัดว่าเกิดขึ้นมาจากประเทศใด บ้างกล่าวว่า ต้นกำเนิดและการพัฒนาสายพันธุ์ มาจากถิ่นพื้นเมืองของประเทศจีน พวกเขาเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์และความน่ารัก สามารถเป็นที่รักได้กับทุกๆ คน  ในสมัยก่อนเจแปนนิส ชินได้รับการผสมพันธุ์เพื่อเป็นเพื่อนกับกลุ่มหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ในราชวัง นอกจากนี้พวกเขายังถูกนำมาเป็นภาพประกอบอยู่บนเครื่องปั้นดินเผาและลายเย็บปักถักร้อยเมื่อร้อยกว่าปีก่อน แต่สุนัขพันธุ์นี้คนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อได้ เนื่องจากพวกเขาจะถูกเลี้ยงและเก็บไว้เฉพาะชนชั้นสูง อย่างไรก็ตามในบางหลักฐานกล่าวว่า ต้นกำเนิดของเจแปนนิส ชิน เริ่มแรกเดิมทีอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ช่วงประมาณ ค.ศ. 732 เป็นสุนัขที่มีไว้สำหรับมอบเป็นของขวัญให้แก่ครอบครัวของราชวงศ์เกาหลีและญี่ปุ่น รวมทั้ง บรรดาขุนนาง และชาวต่างชาติที่ทำงานรับให้ญี่ปุ่น  จนกระทั่งร้อยกว่าปีต่อมา เพอรรี่ ผู้บังคับการเรือชาวอเมริกัน ได้นำสุนัขพันธุ์นี้เข้าไปยังประเทศอังกฤษ จนกลายเป็นที่นิยมทางฝั่งตะวันตก

 kiss6 ลักษณะนิสัย

     เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริง สดใส ตื่นตัว ซื่อสัตย์ ว่องไว อ่อนไหว อ่อนโยน เป็นมิตร และขี้เล่น  ด้วยเหตุที่พวกเขาเป็นสุนัขที่ผสมพันธุ์ขึ้นมาเพื่อเป็นเพื่อนมนุษย์และครอบครัว พวกเขาจึงค่อนข้างอ่อนไหวง่าย และต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่สูง ยิ่งผู้เลี้ยงดูแลและให้ความรักได้ดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรักได้มากเท่านั้น พวกเขาเข้าได้ง่ายกับคนแปลกหน้า สัตว์ตัวอื่น ปรับตัวได้ดีกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อย่างไรก็ตาม เจแปนนิส ชิน พวกเขามีข้อเสียเล็กน้อย ตรงที่ต้องการการเอาใจใส่มากจนติดนิสัยเอาแต่ใจ ต้องการเป็นจุดสนใจ  และถ้าพวกเขาไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เขาก็จะเกิดอาการอิจฉา อารมณ์ไม่ดี วิตกกังวล

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/japanese_chin.jpg)

 kiss6 การดูแล

     เจแปนนิส ชิน มีขนยาวควรได้รับการแปรงขนประมาณ  3-4  นาทีเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ขนสวยและดูเงางามอยู่เสมอ ขนของเจแปนนิส ชินเป็นขนชั้นเดียว มีการพลัดขนปานกลาง ควรอาบน้ำให้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ใช้แชมพูที่อ่อนโยนเป็นพิเศษต่อผิว ควรหลีกเลี่ยงครีมนวด  หากไม่สกปรกมากนัก การแปรงขนเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา การดูแลรักษาตาสำคัญมากสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ ควรทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน หูก็เช่นกัน เพราะอาจจะพบสัญญาณของการติดเชื้อได้ ส่วนการดูแลรักษาฟันก็ควรรักษาให้สะอาดเช่นกัน เพราะการคอยตรวจเชคและดูอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ฟันของพวกเขาอยู่ได้นานมากขึ้น  นอกจากนี้ควรตรวจดูเล็บเท้า หากยาวให้ตัดบริเวณปลายเล็บออก

     การออกกำลังกาย เจแปนนิส ชินต้องการการออกกำลังกายเพียงเล็กน้อย เพราะพวกเขาเป็นสุนัขที่มีพลังงานต่ำ ควรให้เขาออกกำลังกายวันเว้นวันเป็นอย่างมาก หรือ 2-3 วันต่อครั้ง พวกเขาชอบเดินมากกว่าวิ่ง ซึ่งการออกกำลังกายแต่พอดีทำให้เขารู้สึกพึงพอใจและมีความสุข แต่ต้องระวังสุนัขตัวอื่นพยายามเข้ามาจู่โจม หรือเข้ามาเล่นด้วยความรุนแรงเพราะจะทำให้พวกเขาตกใจ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/japanesechinf1.jpg)

 kiss6 ข้อควรจำ

     เจแปนนิส ชินมีปัญหาได้เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์หน้าสั้นทั่วๆ ไป พวกเขามีแนวโน้มมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ส่งเสียงครืดคราด ถ้าหากอยู่ในระดับรุนแรงมากขึ้น ควรพาไปพบสัตวแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นกระดูกสะบ้าอักเสบ ต้อหิน ต้อกระจก โรคลมแดด  และเสี่ยงอย่างมากที่จะเป็นโรคหัวใจในสุนัข โดยเฉพาะเมื่ออายุย่างเข้า 10 ปี ดังนั้นจึงควรพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ และหากพบอาการผิดปกติควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที


หัวข้อ: เจแปนนิส สปิตซ์ ตื่นตัว เรียนรู้ไว เป็นนักเตือนภัยที่ดี
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 04, 2014, 02:11:55 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/43_con)

 lv! ความเป็นมา

     จริงๆแล้วมีสุนัข spitz อยู่หลายพันธุ์ เช่น Japanese spitz , Finnish Spitz ,German Spitz แต่ที่ได้รับความนิยมในบ้านเราที่สุดคือ Japanese spitz ซึ่งเป็นสุนัขที่เกิดจากการ ผสมพันธุ์ระหว่างสุนัข Siberian และ Samoyed ให้ตัวเล็กลง จะเห็นว่าหน้าตาเหมือนเจ้า Samoyed ทุกอย่าง เพียงแต่ว่าขนาดเล็กลงมาเท่านั้นเอง ในสมัยก่อนสุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นมาก จึงเป็นที่มาของชื่อพันธุ์

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/German-Spitz.jpg)

 lv! ลักษณะนิสัย

     มีนิสัยร่าเริง ฉลาด และขี้เล่น ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และเชื่อฟังเจ้าของ อาจจะเห่าเก่ง เพราะมันจะมีสัญชาติญาณในการเตือนภัยให้เจ้าของเมื่อมันรู้สึกว่ามีอันตราย หรือมีคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาใกล้ มันจะทำตัวเป็นยามปกป้องบ้านอยู่เสมอเลย ตามปกติแล้วเป็นสุนัขที่ฝึกได้ง่ายครับ แต่เจ้าของจะต้องให้เวลากับมันและฝึกอย่างสม่ำเสมอ สุนัขพันธุ์นี้จะชอบเล่นเกม อย่างพวกขว้างของแล้วให้ไปเอากลับมานี่จะชอบมากเป็นพิเศษ โดยทั่วไปแล้วสุนัขพันธุ์นี้เป็นมิตรกับเด็ก และเข้ากันได้ดีกับสุนัขที่ถูกเลี้ยงอยู่ในบ้านเดียวกัน

 lv! การดูแล

     การดูแลขน นี่ควรจะได้รับการแปรงหรือหวีอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องพาไปตัดขน ตามปกติแล้วเจ้าสปิตซ์เป็นหมาที่รักสะอาดมาก อาจจะไม่ต้องอาบน้ำบ่อยนักในหน้าผลัดขน ขนของสุนัขพันธุ์นี้จะร่วงค่อนข้างเยอะ ตามลักษณะของสุนัขพันธุ์ที่มีขนสองชั้นและเป็นสุนัขในกลุ่ม Northern Breed ทั่วไป

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/frontpage%20pix.jpg)

 lv! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้เลี้ยงต้องให้เจ้าตูบออกกำลังกายอย่างเพียงพอ เพราะเป็นสุนัขที่พลังงานค่อนข้างเยอะ ในแต่ละวันควรให้โอกาสมันได้วิ่งเล่น หรือเล่นเกมกับเขาบ้าง ก็จะลดปัญหาเรื่องการกัดทำลายข้าวของ ในบ้านลงได้


 lv! ข้อควรจำ

     สิ่งที่อาจจะเป็นปัญหาก็คือเรื่องการเห่า เพราะได้ชื่อว่าเป็น "หมาเล็กใจใหญ่" เป็นสุนัขที่กล้าหาญและพร้อมที่จะปกป้องเจ้าของหรือบ้านที่อาศัยตลอดเวลา จะสงสัยคนแปลกหน้าเอาไว้ก่อน 


หัวข้อ: แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรีย ตัวเล็กแสนซน ตั่วป่วนประจำบ้าน
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 04, 2014, 02:19:30 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/5_con)

 laugh2 ลักษณะทั่วไป
     เป็นนักล่าตัวเล็กๆ ที่ยอดเยี่ยม มีความว่องไวในการไล่ล่า เป็นสุนัขที่ฉลาดและเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายและปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดี

 laugh2 ความเป็นมา
     แจ็ครัสเซลล์ได้มีการเพาะพันธุ์สายพันธุ์ขึ้นมาใหม่เมื่อต้นปี ค.ศ. 1800 ในประเทศอังกฤษโดยศาสนจารย์ Jack Russell ซึ่งภายหลังสุนัขพันธุ์ดังกล่าวจึงถูกเรียกว่า Jack Russell Terrier (JRT) ตามชื่อของท่านศาสนจารย์ นอกจาก Jack Russell Terrier จะมีชื่อตามศาสนจารย์ที่เรียกกันแล้ว ก็ยังมีบางครั้งที่คนมักเรียกก็คือ PARSON JACK RUSSELLโดยทั่วไปแล้วสุนัขสายพันธุ์กลุ่ม TERRIER จะใช้ในการล่าสัตว์และติดตามเหยื่อไปหลังจากที่เหลือ โดยสุนัขในกลุ่ม HOUND ไล่ต้อนมาก่อนหน้านี้แล้ว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Jack%20Russell%20Terrier/2.JPG)

 laugh2 ลักษณะนิสัย
     แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรียร์ มีความเป็นนักล่าตัวเล็กๆ โดยจะไล่ล่าไปตั้งแต่ หมาจิ้งจอก จนถึงหนูตัวเล็กๆ มันจะใช้เวลาในการสำรวจพื้นที่ก่อนจะทำการไล่ล่า แจ็ครัสเซลล์ ทอร์เรียร์เป็นสุนัขที่มีความฉลาด ซึ่งเห็นได้ ชัดจากการที่สุนัขเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสนามแข่งขัน

 laugh2 การดูแล
     สุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรียร์ ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย การอาบน้ำแค่เดือนละครั้งก็ไม่ถือว่าน้อยเกินไป และปริมาณการอาบน้ำอาจจะมีเพิ่มมากขึ้น ได้ถ้าสุนัขชอบเล่นซนหรือไปคลุกกับสิ่งสกปรกต่างๆ แต่ก็ไม่ควรอาบน้ำบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้งเนื่องจากน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติถูกชำระล้างออกไป และไม่ควรใช้แชมพูหรือสบู่ของคนเพราะไม่เหมาะกับสภาพผิวของสุนัข นอกจากนี้ยังต้องแปรงขนเพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วงออกไปสัปดาห์ละครั้งด้วย สุนัขพันธุ์นี้จะมีการผลัดขนทุกปี ซึ่งในช่วงนั้นอาจจะต้องแปรงขนหรืออาบน้ำบ่อยขึ้น

     นอกจากนี้คุณผู้เลี้ยงยังต้องคอยสังเกตลักษณะของ ดวงตา ฟัน หู เท้า และเล็บอย่างสม่ำเสมอด้วย เพราะหากพบปัญหาก็จะได้รักษาตั้งแต่เบื้องต้น โดยเฉพาะในลูกสุนัข

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Jack%20Russell%20Terrier/1.jpg)

 laugh2 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     สุนัขพันธุ์แจ็กรัสเซลล์มีพลังงานสูง ผู้เลี้ยงควรจะมีเวลาพาพวกเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำ ชอบใช้ชีวิตในแบบแอคทีฟ สนุกสนาน สร้างสรรค์และต้องการความร่าเริงกับชีวิต แจ็กรัสเซลล์ต้องหารการดูแลเอาใจใส่ การได้ทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าของ ชีวิตผู้เลี้ยงที่ชอบหยุดนิ่งอยู่เฉยๆ อาจจะรู้สึกหงุดหงิดง่าย และเหนื่อยที่จะเลี้ยงค่ะ หากบ้านมีพื้นที่ให้พวกเขาได้วิ่งเล่นจะดีมากๆ

 laugh2 ข้อควรจำ

     แจ็กรัสเซลล์มีโอกาสเป็นโรคได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น ตาแฉะ ลืมตาไม่ได้ สีตาเปลี่ยน หรือโรคหัวใจที่ส่งผลต่อระบบการหายใจ โรคตับที่ส่งผลให้ มีการขับปัสสาวะออกมามาก ความต้องการอยากอาหารลดลง หากพบความผิดปกติของร่างกายควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาเบื้องต้น


หัวข้อ: ชเนาเซอร์ หมามีคิ้ว รักบ้าน รักเจ้าของ และรักเด็ก
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 04, 2014, 02:28:53 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/12_con)

 HAPPY2!! ลักษณะทั่วไป

     ชเนาเซอร์มีถึง 3 สายพันธุ์ คือ ไจแอนท์ ชเนาเซอร์ สแตนดาร์ดชเนาเซอร์ และ มินิชเนาเซอร์ เป็นสุนัขที่มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ มีคิ้ว มีหนวด ดูน่าเกรงขามและดุ แต่ตรงกันข้ามเป็นสุนัขที่รักบ้าน และเจ้าของมากๆ เป็นมิตรกับคนด้วยโดยเฉพาะเด็กๆ

 HAPPY2!! ความเป็นมา

   ชเนาเซอร์สุนัขพันธุ์เก่าแก่ ต้นกำเนิดเป็นสุนัขเลี้ยงแกะ ถิ่นกำเนิดอยู่ทีประเทศเยอรมันนี โดยคำว่า ชเนาซ์ (Schnauze) เป็นภาษาเยอรมัน มีความหมายว่าปาก คำว่าชเนาเซอร์จึงมีความเหมาะสมที่จะเรียกสุนัขที่มีหนวดเคราอย่างสุนัขพันธุ์นี้ ในสมัยก่อนพ่อค้าที่ต้องเดินทางในช่วงศตวรรษที่ 15-16 จะใช้ชเนาเซอร์เพื่อคุ้มกันรถบรรทุกเทียมม้าในระหว่างการเดินทางไปแต่ละหมู่บ้าน ขนาดดัวของสุนัขไม่ควรจะใหญ่เกินไปเพราะต้องสามารถอยู่บนหลังคาของรถบรรทุกเทียมม้าขณะเดินทางได้ แต่ก็ต้องดุร้ายพอที่จะขับไล่พวกขโมยได้ด้วยเช่นกัน มินิเอเจอร์ และไจแอนท์ชเนาเซอร์ถูกพัฒนาจากสแตนดาร์ดชเนาเซอร์

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Schnauzer/1.jpg)

 HAPPY2!! ลักษณะนิสัย
 
     เป็นสุนัขที่ฉลาด กระฉับกระเฉง ว่องไว สนใจและสำรวจสภาพแวดล้อมของมันอยู่เสมอ มีความรักให้กับครอบครัวผู้เลี้ยงและชอบอยู่กับคนที่สุด มีความซื่อสัตย์จงรักภักดี ไม่ก้าวร้าว มีสัญชาตญาณความปลอดภัยดี หากพบคนแปลกหน้ามันจะไม่สน ผู้เลี้ยงจึงควรแนะนำผู้มาเยี่ยมให้มันรู้จัก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานการเลี้ยงจากเจ้าของ เพราะนิสัยของแต่ละตัวก็จะย่อมแตกต่างกันไป

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Schnauzer/2.jpg)

 HAPPY2!! การดูแล
 
     สุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์นั้น ไม่ค่อยมีปัญหาในการดูแลอะไรมาก เพราะเป็นสุนัขทอดทนและแข็งแรง แต่สิ่งที่ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอคือ เรื่องของความสะอาด ผู้เลี้ยงจะต้องอาบน้ำให้สุนัขอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยแชมพูที่ใช้นั้นควรจะใช้ของสุนัข โดยเฉพาะและมีความอ่อนโยนต่อผิว ควรแปรงขนอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง อาจมีตัดขนได้บ้าง หากไม่ต้องการให้มีเยอะมากเกินไป

ในเรื่องของการให้อาหาร ผู้เลี้ยงควรให้อาหารที่มีคุณภาพสูง อาจไม่จำเป็น ที่ต้องเพิ่มวิตามินหรืออาหารอย่างอื่นใดๆ ลงไปก็ได้ การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์ คือการวิ่งออกกำลังกายในช่วงเวาสั้นๆ เช่นวันละ 15 – 20 นาที่ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้มีการตื่นตัวตลอดเวลา จึงควรออกกำลังกายวันละหนึ่งครั้ง ผู้เลี้ยงควรให้ความสำคัญกับเรื่องของที่นอนของสุนัข ไม่ควรให้สุนัขนอนในบริเวณที่มียุงชุม ควรจะต้องมีมุ้งลวดติด เพราะหากโดนยุงกัดมากๆ จะทำให้เกิดโรคหนอนหัวใจได้

 HAPPY2!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ชเนาเซอร์เป็นสุนัขที่ไม่มีการผลัดขน ไม่มีกลิ่นตัว ฉะนั้นผู้ที่เป็นภูมิแพ้ก็สามารถเลี้ยงได้ และยังเหมาะกับผู้เลี้ยงที่ต้องการนำมาคุ้มครองป้องกันภัยและครอบครัว ทั้งสำหรับผู้เลี้ยงที่เอาใจใส่ และพร้อมที่จะให้ชเนาเซอร์เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เพราะพื้นฐานการเติบโตของสุนัขพันธุ์นี้มาจากความรัก ความจงรักภักดีและสภาพแวดล้อมที่ดี

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Schnauzer/3(1).jpg)

 HAPPY2!! ข้อควรจำ

     ชเนาเซอร์เป็นสุนัขที่ชอบความท้าทาย จึงไม่เหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นเท่าไหร่ จะไม่ใช้เวลานานต่อการทำกิจกรรมใด กิจกรรมหนึ่งควรที่จะเปลี่ยนกิจกรรมบ่อยๆ เพื่อฝึกให้เชื่อฟังและจะได้ไม่ทำให้มันเบื่อ


หัวข้อ: ชาเป่ย (Sharpei) สุขุม ซื้อสัตย์ และน่ารัก
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 04, 2014, 02:35:44 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/7_con)

 ping! ลักษณะทั่วไป
 
     ชาเป่ยเป็นสุนัขขนาดกลาง รูปร่างคล้ายกับฮิปโปโปเตมัส ขนสั้น ลักษณะภายนอกที่เห็นแล้วระบุได้ชัดเจนว่า “เจ้าคือชาเป่ย” ก็คือหนังยับๆย่นๆ ปกคลุมบริเวณส่วนศีรษะและลำคอ แต่รอบย่นพวกนี้จะหายไปเมื่อมีอายุมากขึ้น

 ping! ความเป็นมา
 
     สุนัขพันธุ์ชาเป่ยชาร์ไป่ เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองที่เกิดจากหมู่บ้านเล็กๆ เมืองไต้ลี่ มณฑลกวางตุ้ง และมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ในตอนใต้ของประเทศจีน สมัยราชวงศ์ฮั่น

     และชื่อ ชาเป่ย หมายความว่า ผิวของดิน แต่ก็มีการตีความผิดไปว่า ผิวของกระดาษทราย หรือผิวหนังที่หยาบกร้านคล้ายกระดาษทราย จากการตีความหมายนี้ได้กลายเป็นคุณสมบัติเฉพาะของสุนัขพันธุ์ชาเป่ย ที่มีผิวหนังคล้ายสีของพื้นดิน น้ำตาลบ้าง ดำ-น้ำตาลบ้าง แต่ทุกสีจะมีลักษณะเดียวกันคือ ขนสั้น

     ทั้งนี้ มีการสันนิษฐานว่า ชาเป่ย น่าจะเกี่ยวโยงกับเชา เชา เพราะมีลักษณะร่วมกัน คือมีลิ้นสีน้ำเงินเข้ม หรือม่วง เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุด และถึงกับเคยถูกบันทึกให้เป็นสุนัขที่หายากที่สุดมาแล้ว แต่ปัจจุบันได้มีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย แต่เดิม ชาเป่ย ไม่ได้หน้าตาแบบที่เราๆ เห็นกัน เพราะกว่าเราจะได้เห็นหมาย่นเหมือนผ้าห่มไปทั้งตัวอย่างนี้ ก็ผ่านการพัฒนาสายพันธุ์มาเป็นะระยะ โดย ชาเป่ย เริ่มจากการเป็นหมาชาวบ้านชาวเมืองทั่วไป เฝ้าบ้าน เฝ้าไร่นาเรือกสวน ชาเป่ย ถูกพัฒนาในด้านความฉลาด และพละกำลัง หลังจากนั้น ชาเป่ยก็ถูกจับไปใช้ในการแข่งขัน คือเอามาต่อสู้กัน ตอนนี้เองที่เอกลักษณ์โดดเด่นของชาเป่ย ได้ถูกพัฒนาขึ้นมา นั่นก็ความยับย่นทั่วตัว ซึ่งว่ากันว่าเกิดขึ้นเพื่อช่วยไม่ให้ถูกคู่ต่อสู้งับไว้ได้ง่ายๆ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Sharpei/1(1).jpg)

 ping! ลักษณะนิสัย

     ชาเป่ยเป็นสุนัขที่ฉลาดและค่อนข้างมีมาดพอสมควร ดูสุขุม นิ่งๆ ไม่ค่อยเป็นทั้งมิตรกับคนแปลกหน้าและสุนัขตัวอื่นๆ แต่มีความซื่อสัตย์กับเจ้าของสุดๆ และที่สำคัญชาเป่ยมีความสามารถในการเฝ้าบ้านเป็นอย่างมาก เชื่อฟังคำสั่งและชอบประจบเจ้าของ ไม่ชอบใช้ความรุนแรงหรือคอยหาเรื่องกับสุนัขตัวอื่น แต่จะสู้ไม่ถอยเมื่อโดนรังแก

 ping! การดูแล

     ในเรื่องของการให้อาหารนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผสมสีสังเคราะห์ (ไม่ใช่สีผสมอาหาร) วัตถุกันเสียและเนื้อแดง หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวโพดและถั่วเหลือง เพราะอาจทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ ส่วนในเรื่องของความสะอาดนั้น สุนัขชาเป่ยเป็นสุนัขที่ต้องการความสะอาดเป็นอย่างมาก เพราะชาเป่ยมีเหงื่อเยอะต้องหมั่นอาบน้ำให้สะอาดอยู่เสมอๆ และต้องคอยดูแลเรื่องการสะสมของสิ่งสกปรกในหูที่จะทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกการที่จะเลี้ยงสุนัขชาเป่ยให้มีสุขภาพดีได้นั้น ผู้เลี้ยงจะต้องพาไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ดูแลเรื่องเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Sharpei/1.jpg)

 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     สุนัขชาเป่ยเหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่ต้องการสุนัขที่ซื่อสัตย์กับเจ้านายเพียงคนเดียว ทั้งนี้ผู้เลี้ยงจะต้องเข้าใจอุปนิสัยของสุนัข ต้องมีเวลาในการดูแลเรื่องของความสะอาด และต้องเข้าใจถึงการแสดงออกของสุนัขด้วย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Sharpei/2.jpg)

 ping! ข้อควรจำ
 
     ชาเป่ยเป็นสุนัขที่มีน้ำลายเยอะมาก ดังนั้นต้องทำใจไว้ก่อนว่าจะเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านจะต้องเต็มไปด้วยน้ำลายของชาเป่ย


หัวข้อ: ชิบะ อินุ ร่าเริงแจ่มใส คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ว่องไว อ่อนโยน
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 05, 2014, 01:52:42 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10031_con)

 ::) ลักษณะทั่วไป

     ชิบะอินุเป็นสุนัขพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด เป็นสุนัขในตระกูลเดียวกันกับพันธุ์อะคิตะ (Akita) รูปร่างกระทัดรัด หูตั้ง กล้ามเนื้อกระชับ ขนสั้น 2 ชั้น มีทั้งสีดำผสมสีน้ำตาล สีแดง หรือ สีงาแดง ดวงตาสดใสและรูปริมฝีปากโค้งเหมือนกับกำลังยิ้ม ชิบะอินุ เป็นสุนัขอารมณ์ดี เป็นมิตร ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม  มีอายุเฉลี่ยประมาณ 12-15 ปี แต่มีสายพันธุ์ ชิบะ ปูสุเกะ (Shiba Pusuke) ซึ่งได้รับการออกกำลังอย่างเป็นกระจำจนร่างกายแข็งแรง สามารถอยู่ได้ยืนยาวถึง 26 ปี

 ::) ความเป็นมา

     ชิบะ อินุ มีต้นกำเนิดสายพันธุ์มาจากสุนัขล่าสัตว์ที่เติบโตอยู่ในบริเวณภูเขาของประเทศญี่ปุ่น ถือว่า เป็นสุนัขพื้นเมืองของชาวญี่ปุ่น เลี้ยงไว้ล่าสัตว์เล็กๆ  คำว่า “ชิบะ” หมายถึงพุ่มไม้หนา “อินุ” หมายถึง สุนัข ชิบะ อินุเป็นสุนัขที่ได้รับมาตรฐานสายพันธุ์แรกของญี่ปุ่น และได้รับการยอมรับและตั้งเป็นอนุสาวรีย์ของญี่ปุ่นผ่านกฎหมายทางทรัพย์สินทางวัฒนธรรม เพื่อการอนุรักษ์ของสุนัขญี่ปุ่น  ชิบะ  อินุเคยเกือบจะสูญพันธุ์เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลมาจากระเบิด สารเคมีและเชื้อโรค แต่หลังจากสงครามได้มีการนำชิบะ อินุที่เหลืออยู่ 3 สายเลือดคือ ชินชุ ชิบะ จากจังหวัดนากาโน่  มิโน ชิบะ จากจังหวัดไอจิ และ ซานอิน  ชิบะ จากจังหวัดทตโตะริและจังหวัดชินามิ มาผสมพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์มาเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Shiba_Inu.jpg)

 ::) ลักษณะนิสัย

     ชิบะ อินุ เป็นสุนัขที่ร่าเริงแจ่มใส คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ว่องไว ขี้เล่น ฉลาด รักอิสระซื่อสัตย์ กล้าหาญ ใจดี อ่อนโยน รักและผูกพันกับสมาชิกในครอบครัวมากๆ และเป็นมิตรที่ดีกับเด็กๆ พวกเขาเข้ากับคนแปลกหน้าและสัตว์อื่นๆ ให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างดีเยี่ยม ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่รักการเข้าสังคมมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง แต่ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหนู หรือกระต่ายเท่าไหร่นัก  อย่างไรก็ตามชิบะ อินุ มีข้อเสียก็ตรงค่อนข้างเอาแต่ใจโดยเฉพาะ ขณะฝึกวินัย บางครั้งถึงกับทำให้เจ้าของปวดหัวกับอาการดื้อของพวกเขา ดังนั้นต้องฝึกฝนพวกเขาเป็นประจำอย่างอดทน 

 ::) การดูแล

     ชิบะ อินุ เป็นสุนัขขนสั้น หนา ง่ายต่อการดูแลรักษา ผู้เลี้ยงควรแปรงขนให้เขาเป็นประจำ เพื่อแปรงเอาขนที่หลุดล่วงออก ส่วนการอาบน้ำควรอาบให้อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะถูกเลี้ยงไว้อยู่ในบ้าน จึงไม่สกปรกมาก การอาบน้ำให้แต่ละครั้งมักมีจุดประสงค์เพื่อชำละล้างชั้นขนที่หลุดล่วงตามฤดูกาล นอกจากขนที่ผู้เลี้ยงต้องดูแลแล้ว ฟันก็ควรได้รับการดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้พวกเขามีฟันไว้บดเคี้ยวอาหารให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ส่วนการดูแลช่องหู ควรใช้น้ำมัน (Baby oil) และสำลีทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อในช่องหู เป็นสาเหตุของหูอักเสบ หรือเกิดการทำลายหูชั้นใน

     ในส่วนของการออกกำลังกาย ควรพาเขาออกไปเดินหรือวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวัน  แต่ควรให้ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะไม่หักโหมจนเกินไป  เพราะโดยปกติแล้วชิบะ อินุเป็นสุนัขที่มีความตื่นตัวอยู่ตลอด สามารถวิ่งเล่น ออกกำลังกายด้วยตัวของมันเอง เพียงแต่การพาไปออกกำลังร่วมกับเจ้าของ เป็นเสมือนการฝึกวินัย และสร้างความผูกพันต่อเจ้าของไปด้วยในตัว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Japanese_shiba_inu__shiba_dog__by_MogamiJ.jpg)

 ::) ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ชิบะ อินุพวกเขาเป็นสุนัขที่ปรับตัวได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม สามารถอยู่ในอพาร์ตเม้นท์ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่อาจต้องพาเขาไปออกกำลังกายนอกบ้านเป็นประจำ ยิ่งถ้าเป็นพื้นที่โล่งกว้างให้เขาได้วิ่งเล่นเขาจะรู้สึกดีมากๆ แต่ควรมีรั้งรอบขอบชิด พวกเขาต้องการความรักและอยู่ร่วมกับครอบครัว ไม่ควรเลี้ยงเขาไว้นอกบ้าน ฝึกวินัยยาก ผู้เลี้ยงจึงต้องมีความอดทนต่อการฝึกพวกเขา

 ::) ข้อควรจำ

     ชิบะ อินุมีโรคทางกรรมพันธุ์ คือโรคต้อหิน ต้อกระจก ประสาทตาเสีย สะโพกเสื่อม กระดูกสะบ้าเสื่อม รวมทั้งเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ ดังนั้นผู้เลี้ยงควรสังเกตดูอาการที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพาพวกเขาไปตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคอาจเกิดขึ้นทั้งก่อนหรือตามช่วงวัย


หัวข้อ: ชิวาวา น้องหมาตัวจิ๋ว ขนาดกะทัดรัด ฉลาดและร่าเริง
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 05, 2014, 01:58:45 PM

(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/9_con)

 smiley4 ลักษณะทั่วไป

     ชิวาวา เป็นสุนัขขนาดเล็ก ถือว่าตัวเล็กที่สุดในโลก!! หูมีขนาดใหญ่ ดวงตากลมโต เหมาะที่จะใช้เลี้ยงเป็นเพื่อน ชอบออกไปเดินเล่นกับเจ้าของ เห่าเสียงดัง ค่อนข้างติดเจ้าของและไม่ทำลายข้าวของ

 smiley4 ความเป็นมา

     ชิวาวาหรือเจ้าชิวาว่ามีต้นกำเนิดที่ประเทศเม็กซิโก ชาวพื้นเมืองนิยมเลี้ยงเพราะมีความเชื่อถือในเรื่องโชคลางต่างๆ จนถึงขั้นมีการนำชิวาวาไปใช้ในพิธีบูชายันต์!!

 smiley4 การดูแล
   
     วงอายุที่ต้องการเอาใจใส่มากที่สุดในการเลี้ยงชิวาวาเพราะสุนัขจะตายมากที่สุดคือช่วงอายุระหว่าง 2-3 เดือน เนื่องจากวัยนี้เป็นช่วงที่สุนัขเพิ่งเริ่มอดนมใหม่ๆ ซึ่งหากลูกสุนัขกินอาหารอะไรที่ผิดไปเพียงนิดเดียว ก็จะส่งผลให้สุนัขท้องเสียได้ โดยถ้าสุนัขตัวไหนไม่มีภูมิต้านทานได้รับเชื้อก็อาจจะถึงตายได้เหมือนกัน แต่หลังจากช่วงอายุ 2-3 เดือนไปแล้ว ก็สามารถที่จะเอาใจใส่น้อยลงได้

     แล้ววิธีสังเกตง่ายๆ ว่าสุนัขมีอาการผิดปกตินั้นให้สังเกตจากการที่สุนัขไม่ค่อยกินข้าวหรือกินข้าวน้อยลงก็ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าสุนัขกำลังจะไม่สบาย และส่วนการให้อาหารนั้นผู้เลี้ยงสามารถเลือกซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดมาให้กับสุนัขกินได้เพียงแต่เลือกให้เหมาะสมกับสุนัขเท่านั้น

     ในเรื่องของการออกกำลังกาย ผู้เลี้ยงสามารถปล่อยให้ชิวาวาไปออกกำลังกายได้เองภายในสวนหรือพื้นที่จำกัด แต่ชิวาวาชอบที่จะออกไปเล่นกับเจ้าของมากกว่า

     ส่วนเรื่องสุขภาพนั้นโรคที่จะเกิดขึ้นกับชิวาวาก็จะเหมือนกับสุนัขพันธุ์อื่นทั่วๆ ไป ซึ่งโรคที่พบบ่อยคือ โรคลำไส้อักเสบกับไข้หัด สาเหตุของโรคทั้งสองเป็นโรคติดต่อซึ่งหากสุนัขตัวไหนไม่มีการฉีดวัคซีนแล้วไปถูกเชื้อเข้าก็จะติดต่อได้

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Chihuahua/1(1).jpg)

 smiley4  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     ผู้เลี้ยงชิวาวาต้องมีเวลาพาสุนัขไปออกกำลังกายบ่อยๆ เพื่อควบคุมน้ำหนัก และต้องมีความรอบคอบในการดูแลสุนัข เนื่องจากชิวาวาเป็นสุนัขพันธุ์เล็กหากผู้เลี้ยงไม่มีความระมัดระวังอาจจะเผลอถอยรถเหยียบหรือพลัดหล่นจากมือตกลงมาตายหรือกัดสายไฟถูกไฟช๊อตตายได้ ดังนั้นการป้องกันอุบัติเหตุที่ดีที่สุดคือการใส่สุนัขไว้ในกรงตลอดเวลา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Chihuahua/2.jpg)

 smiley4 ข้อควรจำ

     ระวังอย่าให้ศีรษะได้รับการกดหรือการกระแทก เพราะน้องชิวาวามีความเสี่ยงที่กระโหลกหน้าผากจะปิดไม่สนิทแม้จะอยู่ในช่วงโตเต็มวัย นอกจากนี้ ฟันของชิวาวามักมีหินปูนจับบ่อย จึงต้องพาไปหาสัตวแพทย์ ปีละ1-2ครั้ง


หัวข้อ: ชิสุ (Shih-Tzu) ตัวเล็ก อดทน แข็งแรง และมีเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 05, 2014, 02:02:36 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/6_con)

 lv! ลักษณะทั่วไป
 
     ชิสุเป็นสุนัขที่แข็งแรง ร่าเริง กระตือรือร้น บรรพบุรุษเป็นสุนัขของชนชั้นสูงในจีน จึงมีลักษณะสง่างาม หัวเชิด หางโค้งงอมาถึงหลัง ถึงแม้จะมีขนาดแตกต่างกันแต่โดยทั่วไปชิสุจะต้องตัวเล็กกะทัดรัด กระนั้นก็ไม่ถึงกับบอบบาง ต้องมีสุขภาพดีและมีโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน

 lv! ความเป็นมา
 
     ชิสุ ชื่อของสุนัขพันธุ์นี้มาจากภาษาจีน แปลว่า สุนัขสิงโตเป็นสุนัขในสามสายพันธุ์ชั้นสูง พวกเดียวกับปักกิ่งและปั๊ก เป็สุนัขที่หรูหราที่สุดจากจักรพรรดิจีน โดยกล่าวว่าพระทิเบตมอบสุนัขพันธุ์ชิสุให้จักรพรรดิจีนเป็นของกำนัล สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักนอกอาณาจักรจีนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 เริ่มจากอังกฤษ ฝรั่งเศส ชิสุเป็นสุนัขตัวเล็กขนยาว เจ้าเสน่ห์มีหางไม่ยาวนักยกสูงขึ้นเหนือหลัง ขนที่หัวมักจะโดนรวบขึ้นแล้วผูกโบว์สีแดงดูสะดุดตามาก มีท่วงทำนองการเดินสูงศักดิ์แบบขุนนาง แต่ลักษณะการเห่าของชิสุจะมีความเป็นเฉพาะตัวอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่มันจะเห่าทักทายด้วยเสียงใหญ่ดังน่ากลัวมากตลอดเวลาจนกว่าเจ้าของจะปรามถ้าเป็นแบบทีคัพก็จะยังดังอยู่มากด้วย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Shih%20Tzu/1.jpg)

 lv! ลักษณะนิสัย

     ปกติชิสุจะมีนิสัย ดุ เห่าเก่งมากและดังมากดูจะเป็นสุนัขอารมณ์ศิลปินซะด้วย หลายครั้งที่พบว่ามันจะไม่เชื่อฟังเจ้าของถ้ามันไม่อยากทำซะอย่าง ขี้ประจบ ตื่นตัว รักษาสะอาด เป็นมิตร ทำให้ปรับตัวได้ดี ชิสุชอบวิ่งและรักความสนุกซึ่งเจ้าของจำเป็นจะต้องพามันออกไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง

 lv! การดูแล 

     ชิสุเป็นสุนัขที่เหมาะจะเลี้ยงไว้ในบ้าน ผู้เลี้ยงควรจูงเขาเดินเล่นเป็นประจำวัน ควรอาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเป่าขนให้แห้งทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ กำจัดเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อขนของชิสุ ยาว ผู้เลี้ยงควรพาไปตัดแต่งขนและดเล็บอย่งสม่ำเสมอ ส่วนอาหารนั้นผู้เลี้ยงควรให้อาหาร 2 ครั้งต่อวัน ควรให้อาหารตรงเวลา และอาหารที่ให้ควรเป็นอาหารเม็ดมากกว่าอาหารกระป๋อง เพราะชิสุมีขนยาว หากให้กินอาหารกระป๋องจะทำให้เลอะและมีกลิ่นปากได้ ด้านการดูแลสุขภาพผู้เลี้ยงควรพาชิสุไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคสุนัขบ้าและวัคซีนอื่นๆ ตามตารางที่สัตว์แพทย์ได้กำหนด และควรดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้อยู่ในบ้านตัวเดียวนานๆ เพราะสุนัขอาจมีอาการซึมเศร้าได้

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Shih%20Tzu/2.jpg)

 lv! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ชิสุ มีบุคลิกกระฉับกระเฉง สามารถให้ความรักกับสุนัขได้ มีเวลาในการดูแลเอาใจใส่ เช่น เล่น แปรงขน ฝึกให้เข้าสังคม เป็นต้น ไมม่จำเป็นต้องมีพื้นที่กว้าง สามารถอยู่ได้ที่อพาร์ตเม้นท์ แต่ควรจะมีเวลาพาไปออกกำลังกาย เผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และให้ได้มีโอกาสพาออกไปรู้จักสังคม จะได้ไม่ดุ และอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายเมื่อพบเจอคนแปลกหน้า

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Shih%20Tzu/4.jpg)

 lv! ข้อควรจำ

     ชิสุมีปัญหาเรื่องโรคผิวหนังได้ง่าย ควรใช้แชมพูสำหรับแพ้ง่าย ไม่ควรใช้แชมพูของคนเด็ดขาด ควรแปรงขนเป็นประจำทุกวันเพื่อขจัดขนที่ตายแล้ว รวมทั้งรังแค นอกจากนี้ชิสุยังมีโรคประจำสายพันธุ์คือ โรคหลอดลมตีบ โรคตาแห้ง โรคเชอร์รี่อาย และ โรคหูอักเสบ หากพบมีว่าผิวหนังมีอาการผิดปกติควรปรึกษาสัตวแพทย์


หัวข้อ: เชดแลนด์ชิพด๊อก แข็งแรง สง่างาม
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 05, 2014, 02:08:30 PM

(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10000_con)

 laugh2 ลักษณะทั่วไป

     เป็นสุนัขที่มีความกระตือรือล้นสูง มีความแข็งแรงมาก เพราะมีคุณลักษณะในแบบสุนัขดูแลแกะ เป็นสุนัขที่มีความเฉลียวฉลาด เชดแลนด์ชิพด๊อกอาจจะเรียกได้ว่าเป็นคอลลี่รุ่นเล็ก คนยาวปานกลาง แลดูสวยงาม ขนหนา รูปร่างดูปราดเปรียวว่องไว เหมาะกับเป็นน้องหมาต้อนแกะ

 laugh2 ความเป็นมา

     เป็นการผสมกันระหว่างสุนัขพันธุ์คอลลี่ (Collie) กับสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนเกาะเซทแลนด์ที่เป็นกลุ่มสายพันธุ์สปิตซ์ (Spitz Type) และมีส่วนผสมของสายพันธุ์ ไอซ์แลนด์ดิก ชีพด็อก สำหรับ สุนัข เชทแลนด์ ชีพด็อก ตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมสุนัข ประเทศอังกฤษ ในปี 1909 เป็นสุนัขเพศเมีย ชื่อ Badenock Rose และ เชทแลนด์ ชีพด็อก ตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมสุนัข ประเทศอเมริกา ในปี 1911 คือ Lord Scott

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Shetland_Sheepdog_sable.jpg)

 laugh2 ลักษณะนิสัย

     มีความเฉลียวฉลาด รักเด็ก มีความรับผิดชอบ มีสัญชาตญาณที่ดี ซื่อสัตย์ ชอบความสงบ สามารถฝึกได้โดยง่าย ไม่ใส่ใจกับคนแปลกหน้าโดยจะแสดงอาการไม่ใส่ใจ ร่าเริง วิ่งเร็วและกระโดดเก่ง

 laugh2 การดูแล

     พาไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ต้องอาบน้ำบ่อย แต่ถ้าอยู่ในเมืองไทย ออกกลางแจ้งบ่อยๆ ก็ควรอาบ 1ครั้งต่อ 1-2 สัปดาห์ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับการดูแลสุขภาพขนคือการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันขนพันกัน ติดเป็นสางกะตัง

 laugh2 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่ต้องการเลี้ยง เชดแลนด์ชิพด๊อกควรมีบ้านที่มีอาณาบริเวณ มีรั้วรอบขอบชิดให้พวกเขาได้วิ่งเล่น เพราะพวกเขาเคยเป็นน้องหมาต้อนเก็บมาก่อน ธรรมชาติจะชอบอยู่อย่างอิสระ มีพื้นที่ให้ได้วิ่งไปมา นอกจากนี้ผู้ต้องการเลี้ยงพวกเขาควรเวลาดูแลเรื่องขนให้แก่เขาเป็นประจำทุกวัน พาไปตัดแต่งทรงขน ทำความสะอาดหู เล็บเท้า เพื่อให้พวกเขาเป็นสุนัขที่สวยงาม สุขภาพดี

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/billy-the-shetland-sheepdog_33884_2009-09-05_w450.jpg)

 laugh2 ข้อควรจำ
       
      เชดแลนด์ชิพด๊อกต้องระวังเรื่องโรคสะบ้าเคลื่อน โรคสะโพกเคลื่อน หูอักเสบ โรคต่างๆ เกี่ยวกับดวงตา และอาจจะต้องระวังสำหรับบางตัวที่อาจมีอาการเลือดหยุดออกยาก จึงควรระวังเรื่องการเคลื่อนที่ของพวกเขา ทำความสะอาดหูอย่างสม่ำเสมอ ควรพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ หากมีอะไรผิดปกติควรไปพบแพทย์


หัวข้อ: เชา เชา ขนฟูตัวใหญ่ ดมกลิ่นเก่งสุดๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 05, 2014, 02:15:40 PM

(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/8_con)

 tongue3  ลักษณะทั่วไป
 
     เชาเชาเป็นสุนัขที่มีพละกำลังเยอะมาก คล่องแคล่วว่องไวและตื่นตัวอยู่เสมอ มีขนหนาแน่นโดยเฉพาะที่รอบคอ ขนมีความมันวาวเป็นประกาย ทำให้ดูมีความสง่างามและมีความเป็นธรรมชาติ หน้าตาดุดัน ออกจะวางท่าสุขุมพอสมควร

 tongue3 ความเป็นมา
 
     เชาเชา มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน เป็นพันธุ์ผสมระหว่าง มาสตีฟและชามอย และภายหลังเริ่มมีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษด้วยเพราะได้รับความสนใจจากพระนางวิคตอเรีย ปัจจุบันเป็นที่นิยมไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Chow%20Chow/1.jpg)

 tongue3 ลักษณะนิสัย
 
     เป็นสุนัขที่มีความเฉลียวฉลาด มีการตัดสินใจที่ดี รักสงบและความอิสระ ที่สำคัญเชาเชาชอบวางท่าสุขุมเป็นผู้ดี มีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเลิศ อารมณ์ดี รักอิสระและซื่อสัตย์มาก และชอบเล่นกับคนในครอบครัวมากกว่าคนแปลกหน้า

 tongue3 การดูแล
 
     เรื่องของความสะอาด ผู้เลี้ยงควรหมั่นอาบน้ำให้บ่อยๆ เพราะเป็นเชาเชาเป็นสุนัขที่รักความสะอาดมาก การแปรงและหวีขนเป็นประจำเพื่อทำให้ขนดูสวยอยู่เสมอ และช่วยป้องกันไม่ให้ในบ้านไม่เต็มไปด้วยขน ที่เกิดจากการผลัดขนของสุนัข ... ในเรื่องของสุขภาพผู้เลี้ยงจะต้องมีเวลาพาเชาเชา ไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงยังต้องหมั่นดูและเรื่องสุขภาพผิวหนังของสุนัข เนื่องจากสุนัขเชาเชามีโรคประจำตัวคือผิวหนังอักเสบ มีน้ำเหลืองเยิ้ม กระดูกข้อต่อของช่วงขาไม่แข็งแรง และการม้วนกลับของหนังตา ทำให้ขนตากลับไปทิ่มแทงลูกตา แต่ก็สามารถแก้ไขโดยการผ่าตัด

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Chow%20Chow/3.jpg)

 tongue3 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     ผู้เลี้ยงที่จะเลี้ยงสุนัขเชาเชาได้ดีนั้นคนที่มีเวลาเรื่องการตัดแต่งขนและการออกกำลังกายให้กับเชาเชาได้ และสุนัขเชาเชาจะรู้สึกว่าผู้เลี้ยงเหมือนเพื่อนเล่นมากกว่าเจ้าของ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Chow%20Chow/2.jpg)

 tongue3 เกร็ดความรู้
 
   เชาเชาเป็นสุนัขที่รักสะอาดอย่างมากและมักจะทำความสะอาดหน้าของเขาเองหลังจากการกินด้วย


หัวข้อ: ซามอยด์ ฉลาด อ่อนโยน เชื่อฟัง ซื่อสัตย์ ปรับตัวง่าย
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 08, 2014, 08:23:52 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10030_con)

 kiss6 ลักษณะทั่วไป

     โดยธรรมชาติแล้ว ซามอยด์เป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน มีความแข็งแรง กระตือรือร้นและตื่นตัว ดูแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกออกจะสวยและสง่างาม ขนหนาเหมาะกับอากาศหนาว สีขนมีทั้งสีขาวบริสุทธิ์ สีขาวผสมขนมปังกรอบ สีครีม หรือสีขนมปังกรอบ ซามอยด์เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีริมฝีปากดำ หยักนิดๆ ที่มุมปาก จนได้รับขนานนาม “รอยยิ้มซามอยด์”  ซามอยด์เพศผู้จะมีช่วงหลังไม่ยาวนักเพราะความยาวที่มากจะทำให้หลังอ่อนแอ บาดเจ็บได้ง่าย แล้วด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่ค่อยเหมาะกับการทำงานที่หนักหน่วงจนเกินไป แต่สำหรับเพศเมียช่วงหลังจะยาวกว่าเพศผู้นิดหน่อย พวกเขามีความสามารถทั้งในเรื่องของการลากเลื่อน การจูงลากดึงของที่มีน้ำหนัก ต้อนสัตว์ หรือแม้แต่แบกของให้แต่นักไต่เขา มีอายุได้ถึง 12-14 ปี

 kiss6 ความเป็นมา

     ซามอยด์เป็นสายพันธุ์สุนัขใช้งานที่เก่าแก่ มีเชื้อสายใกล้กับสุนัขพื้นเมือง ซึ่งการผสมพันธุ์ร่วมกับหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก แล้วได้รับการพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวซามอยด์ของไซบีเรีย เพื่อใช้ต้อนกวางเรนเดียร์ ลากเลื่อน  ซามอยด์ได้รับการดูแลจากชาวพื้นเมืองเป็นอย่างดี ถึงขนาดอนุญาตให้เข้าไปนอนในเต้นท์ได้ เพราะความเป็นความตายของพวกเขาขึ้นอยู่กับสุนัขสายพันธุ์นี้

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/NZ_Samoyed.jpg)

 kiss6 ลักษณะนิสัย

     ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีความฉลาด อ่อนโยน เชื่อฟัง ซื่อสัตย์ เป็นมิตร กระตือรือร้น ปรับตัวง่าย พร้อมที่จะรับใช้เจ้าของ รักที่จะอยู่กับครอบครัวมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ต้องการความรักและการเอาใจใส่จากมนุษย์เป็นพิเศษ เข้ากันได้ดีกับเด็กๆ สามารถเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต แต่เนื่องจาก ได้รับมรดกตกทอดจากเชื้อสายสุนัขใช้งาน พวกเขาจึงต้องคิดหา สร้างสรรค์กิจกกรมที่ทำให้เขาเพลิดเพลินด้วยตัวเอง เช่น ไล่จับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะสิ่งของ หนู หรือแมว อะไรก็ตามที่ตัวเล็กๆ ชอบวิ่ง และชอบเห่า เพื่อเป็นหนทางในการปลอดปล่อยพลังงาน แทนการทำงานหรือกิจกรรมหนักๆที่พวกเขาไม่ได้ทำ

 kiss6 การดูแล

     การทำความสะอาดซามอยด์ควรอาบน้ำให้ประมาณเดือนละครั้ง ไม่ควรอาบบ่อยจนเกินไป เพราะจะล้างน้ำมันที่ขนและผิวหนังซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติออกไป ทำให้ผิวแห้งและก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมา  ขนของพวกเขา มักจะพันกันยุ่งเหยิง ควรแปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์ และแปรงบ่อยครั้งขึ้นช่วงฤดูผลัดขน

     อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีไว้ใช้งาน เมื่อนำมาเลี้ยงตามบ้าน จึงมีพลังงานเหลือเฟือ ดังนั้นการออกกำลังกายทุกวันเป็นประจำจึงจำเป็นมากๆ สำหรับพวกเขา เพื่อเผาผลาญพลังงาน เพราะถ้าพวกเขารู้สึกเบื่อหน่าย จะเกิดอาการพาล อารมณ์ไม่ดี วิ่งไปมา หรือเห่า อาจถึงขั้นทำลายข้าวของ เช่นเดียวกับเวลาที่เขาเกิดความวิตกกังวลกระวนกระวาย จึงควรพาเขาไปวิ่งหรือออกกำลังกายในพื้นที่กว้างๆ เช่นสนามหญ้าหรือสวนสาธารณะ แต่ซามอยด์ค่อนข้างตื่นตระหนกได้ง่าย และชอบเห่า จึงไม่ควรพาเขาออกไปอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน

     ซามอยด์ต้องการความรักและต้องการอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงไม่ควรทิ้งเขาให้อยู่บ้านตัวเดียว พวกเขาไม่สามารถอยู่ได้ตามลำพังนานจนเกินไป

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Samoyed-2.jpg)

 kiss6 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่ต้องการเลี้ยงซามอยด์ ต้องมีเวลาให้เขาเป็นอันดับแรก เพราะพวกเขารักที่จะอยู่กับคนในครอบครัว การทิ้งให้เขาอยู่ตามลำพังเกินหนึ่งชั่วโมง สามารถทำให้เขารู้สึกไม่มั่นคง และไม่มีความสุข และอาจทำลายข้าวของเวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ แล้วถึงแม้พวกเขาจะสามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่แคบๆ นอนอยู่ในห้องบนโซฟากับเจ้าของ แต่การออกกำลังกายทุกวันก็ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับซามอยด์ เพื่อจัดการกับพลังงานที่เหลือใช้ได้มีทางปลดปล่อย เผาผลาญพลังงาน จะได้ไม่วิ่งซนไล่กัดสัตว์ตัวเล็ก หรือเห่าไม่ยอมหยุด จนกลายเป็นปัญหาของครอบครัว

 kiss6 ข้อควรจำ

     ซามอยด์ต้องการความรักและการเอาใจใส่จากครอบครัวอย่างมาก อีกทั้งควรระวังโรคเกี่ยวกับสะโพกเสื่อม ต้อกระจก ต้อหิน ประสาทตาเสีย ซึ่งอาจมีผลทำให้ตาบอดได้ และโรคเบาหวาน ดังนั้นจึงควรพาไปตรวจร่างกายเป็นประจำ


หัวข้อ: ซาลูกิ สง่างาม เฉลียวฉลาด คล่องแคล่ว ว่องไว
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 08, 2014, 08:35:42 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10029_con)

 shocked2 ลักษณะทั่วไป

     แม้ว่าซาลูกิจะมีความสง่างาม บอบบาง แต่มีความเฉลียวฉลาด คล่องแคล่ว ว่องไว แข็งแรง ทนทาน สมกับที่มีสายเลือดสุนัขล่าเนื้อ ซาลูกิมีขนยาวสลวยปกคลุมถึงช่วงขา  สีขนมีทั้งสีขาว สีครีม สีทอง สีแดง สีน้ำตาลลูกกวาง สีเทาผสมน้ำตาลแทน สีดำผสมสีน้ำตาลแทน หรือมีปนกัน 3 สี อายุโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12 – 14 ปี

 shocked2 ความเป็นมา

     ซาลูกิมีถิ่นกำเนิดในประเทศอียิปต์  ในฐานะสุนัขของราชวงศ์แห่งอียิปต์  พวกเขาเป็นสุนัขที่ได้รับความชื่นชมและภาคภูมิใจว่ามีรูปร่างที่สง่างามมาก เฉกเช่นรูปลักษณ์ของกษัตริย์ฟาโรห์  แต่เดิมชาวอาหรับนำซาลูกิไปใช้ล่ากวาง เนื่องจากพวกเขาทนกับ สภาพอากาศแบบทะเลทราย ได้ดี สายตาว่องไว มีความสามารถในการล่าสัตว์ ซึ่งในปีค.ศ. 1840 ได้มีการนำเข้าซาลูกิยังประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยถูกนำไปเลี้ยงไว้เพื่อล่ากระต่ายป่า

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/saluki_1.JPG)

 shocked2 ลักษณะนิสัย

     ซาลูกิมีนิสัยรักอิสระเหมือนแมว ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่มีอ่อนไหวบ้าง เป็นมิตรกับผู้คน โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ไม่ก้าวร้าว ซาลูกิมีเชื่อสายของสุนัขล่าเนื้อ จึงเป็นสุนัขที่สามารถฝึกสอนให้เชื่อฟังได้ดี แต่ต้องอาศัยความอดทน พวกเขาต้องการพื้นที่โล่งกว้างสำหรับวิ่งเล่น ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/1_Saluki_Centre.jpg)

 shocked2 การดูแล

     แม้ว่าซาลูกิจะอยู่ได้ดีภายในบ้าน แต่พวกเขาก็ต้องการออกไปนอกห้องหรือนอกบ้านบ้าง มีพื้นที่กว้างๆ ให้ได้ออกกำลังกาย โดยเฉพาะช่วงขาที่ยาวเป็นพิเศษ ซาลูกิชอบอยู่ในอากาศอบอุ่น แต่พวกเขาก็สามารถเจริญเติบโตได้ทุกที่ ควรแปรงขนให้อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์  นอกจากขนแล้วยังต้องดูแลความสะอาดบริเวณตา หู และเท้า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรอาบน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ผิวหนังพวกเขาบอบบาควรใช้ยาสระขนชนิดอ่อน ควรปล่อยให้แห้งโดยแสงแดดตามธรรมชาติ และหมั่นดูแลดูบาดแผลที่เล็บซึ่งอาจเกิดขึ้นเวลาวิ่งเล่น

 shocked2 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     มีพื้นที่สนามหญ้ารอบบริเวณบ้านให้เขาได้วิ่งเล่น ออกกำลังกายช่วงขา พาเขาวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวัน อีกทั้งควรจะมีเวลาดูแลรายละเอียดในการรักษาทำความสะอาด  ผิวหนังของสุนัขพันธุ์ซาลูกิบอบบางมากต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Saluki-2.jpg)

 shocked2 ข้อควรจำ

     35.6 เปอร์เซ็นต์ของซาลูกิ เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถัดลงมาเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เช่น โรคหัวใจล้มเหลว ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรดูแลเรื่องการกินและสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาเป็นอย่าง หมั่นพาไปตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีน เป็นประจำ


หัวข้อ: เซนต์เบอร์นาร์ด ตัวใหญ่ใจดี มีพละกำลังเยอะ ช่วยกู้ภัยได้
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 08, 2014, 08:41:37 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10_con)

 laugh2 ลักษณะทั่วไป
 
     สุนัขที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตาซึม ๆ คล้ายดูจะอึดอาด ต้องยกให้กับพันธุ์นี้เลย “เซนต์เบอร์นาร์ด” หน้าของมันจะมีเหมือนหน้ากากขนสีดำปกคลุมไว้ จึงทำให้ดูน่าเกรงขาม จะว่าไปเจ้าเซนต์นั้นก็เป็นสุนัขที่มีพละกำลังอยู่มาก มากพอที่จะลากคนได้ตัวปริวเลยทีเดียวล่ะ ยังไม่แค่นั้นเจ้าเซนต์ยังมีรูปร่างสูง ใหญ่ กำยำ มีกล้ามเป็นมัดๆ โดยเฉพาะบริเวณขาและแขน ที่เกิดจาการออกกำลังกายการฝึกฝนอยู่เสมอ หากอยู่ในท่ายืนตัวจะสูงกว่าหรือเท่าคนเลยนะจะบอกให้ จัดอยู่ในกลุ่ม Working Group หรือ สุนัขที่มีประโยชน์ในการกู้ภัย เฝ้าบ้านและงานด้านตำรวจ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Saint%20Bernard/3.jpg)

 laugh2 ความเป็นมา
 
     ประวัติของยังไม่เป็นที่แน่ชัดในต้นกำเนิดที่แท้จริงใน 700 ปีก่อนคริสตกาล แต่เจ้าเซนต์เบอร์นาร์ดนี้มีความเป็นมาที่ยาวนานมากๆ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1660 – 1670 นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุบันระยะเวลาประมาณได้กว่า 1,000 ปี ถิ่นกำเนิดของเซนต์เบอร์นาร์ด คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในบริเวณช่องภูเขาเซนต์เบอร์นาร์ดที่ปกคลุมด้วยหิมะ แห่งเทือกเขาแอลป์(Alps) เป็นสุนัขภูเขาที่มีไว้รักษาความปลอดภัยให้กับพระและช่วยเหลือ กู้ภัยชีวิตมนุษย์ เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1048
 
     นักบวชชาวคริสต์ศาสนา ชื่อว่า เบอร์นาร์ดได้ไปยังบริเวณช่องภูเขาเซนต์เบอร์นาร์ด เพื่อทำการขับไล่พวกโจรชาวฮังการีและซาราเซที่มักจะปล้น และฆ่าคนเดินทางหรือยึดตัวไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ให้ออกจากบริเวณนั้น เพื่อให้เกิดความสงบสุขและปลอดภัยต่อนักเดินทาง ซึ่งนักบุญเบอร์นาร์ดและเหล่าฤษีได้สร้างสถานที่พำนักไว้ช่วยเหลือ เหล่านักเดินทางถึงแม้จะกำจัดโจรได้อย่าง เส้นทางของช่องเขาเซนต์เบอร์นาร์ดก็เต็มไปด้วยอันตรายกับการเดินทางด้วยเท้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอากาศเหน็บหนาว ทั้งพายุหิมะหรือหิมะถล่มที่เป็นอันตรายต่อผู้เดินทางสัญจรไปมา หลายครั้งที่มีคนติดอยู่ใต้หิมะที่ถล่มลงมา เมื่อเป็นอย่างนี้นักบุญเบอร์ดนาร์ดได้นำสุนัขเซนต์เบอร์นาร์ด มาฝึกฝนในการเพื่อช่วยเหลืองานผู้ประสบภัย จมูกของมันนั้นไวและสามารถดมกลิ่นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายใต้หิมะได้เหลายๆฟุต

     โดยทุกครั้งที่จะออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่คอของมันจะมีถังไม้เล็กๆ ที่บรรจุเหล้าองุ่นหรือยาให้ผู้ประสบภัยเปิดกินและใช้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเซนต์เบอร์นาร์ด บางตัวอาจมีผ้าห่มผูกติดหลังเอาไว้เพื่อให้ผู้ประสบภัยห่มกันหนาวด้วย จึงได้รับสมญานามว่าเป็น “หมานักบุญ(SAINT)” ต่อมาได้มีการนำเซนต์เบอร์นาร์ดเข้าสู่เมืองและมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้แข็งแรงมากขึ้น พร้อมทั้งได้รับการยอมรับและยกย่องว่า เป็นสุนัขเซนต์เบอร์นาร์ดนั้นเป็นสายพันธุ์แท้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการประกาศให้เป็นสุนัขประจำชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้นมา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Saint%20Bernard/2.jpg)

 laugh2 ลักษณะนิสัย
     
     เป็นสุนัขที่ใจดีที่สุดในบรรดาเหล่าสุนัขทั้งหลาย(โดยเฉพาะกับเด็กๆ) ฉลาด ไม่ก้าวร้าวและขี้กลัว เป็นมิตรกับคน ถ้าคนไหนไม่รู้จักก็จะต้องแนะนำให้รู้จักก่อนนะ เพื่อมันจะได้ไม่ระแวงคนๆนั้น จริงๆแล้วมันจะได้โชว์ความน่ารักของมันต่างหากล่ะ บางตัวก็จะมีนิสัยเงียบขรึม บางตัวก็จะมีนิสัยร่าเริง บางครั้งอาจร่าเริงเกินเหตุจนอยู่ไม่เป็นสุขอีกด้วย แต่เจ้าเซนต์นี้มันเป็นสุนัขที่ขี้ร้อนเอาการเลยนะ เพราะรูปร่างลักษณะของตัวมันทำให้ต้องมีการระบายความร้อนอยู่เสมอ แต่ถึงจะขี้ร้อนก็เถอะเจ้าเซนต์ยังชอบฝึกฝนและออกกำลังกายอีกด้วย

 laugh2 การดูแล

ในเรื่องของการทำความสะอาด ควรดูแลอย่างประจำ ไม่ควรใช้น้ำที่เย็นมากเกินไป ในการอาบน้ำ สำหรับสุนัข ควรอาบน้ำ ให้เขาในช่วงกลางวันขณะที่น้ำและอากาศไม่เย็นมาก หลังจากอาบเสร็จ ให้เช็ดตัวสุนัขให้แห้ง และแปลงขนเพื่อกำจัดขนที่หมดอายุ เห็บ หมัดและทำให้ขนดูมีระเบียบเรียบร้อย

     ส่วนเรื่องของสุขภาพ ควรหมั่นคอยดูแลรักษาน้ำหนักในช่วงที่ยังเป็นลูกสุนัขเพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มมากเกินไป เพราะจะเพิ่มแรงกดและเป็นภาระต่อกระดกและข้อต่อที่กำลังเจริญเติบโต ที่สำคัญหากเลี้ยงในบริเวณบ้านควรมีรั้วสูงอย่างน้อย 2 เมตร เพื่อกันไม่ให้สุนัขหนีเที่ยว และวครจะให้สุนัขออกกำลังกายอย่างมีขอบเขต สม่ำเสมอ ไม่ควรหักโหมมากเกินไป เพราะ กระดูกของสุนัขแต่ละวัยจะรับน้ำหนัก แรงกดได้ไม่เหมือนกัน ต้องค่อยๆ ฝึกออกกำลังกายไปตามลำดับ เมื่อสุนัขเติบโตเต็มวัยควรออกกำลังกายแค่พอประมาณเท่านั้น

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Saint%20Bernard/1.jpg)

 laugh2 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     ไม่ว่าจะผู้อยู่คนเดียว หรือครอบครัวก็สามารถเลี้ย'ได้ เซนต์เบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีการดูแลเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ผู้เลี้ยงที่เหมาะสมก็จะต้องมีเวลาในการดูแล และมีกำลังทรัพย์พอต่อการเลี้ยง

 laugh2 ข้อควรจำ
 
     สุนัขพันธุ์นี้ลักษณะรูปร่างใหญ่ มีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคต่างๆได้ง่าย จึงต้องใส่ใจต่อการดูแลอย่างมาก เพื่อไม่ให้ลดเวลาการใช้ชีวิตของมันสั้นลง และที่สำคัญมั่นตรวจสอบสุขภาพมันอยู่เสมอ เพื่อสามารถรักษาอาการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ


หัวข้อ: เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เฝ้าไร่นา ดูแลปกป้องครอบครัว
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 08, 2014, 08:46:32 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10018_con)

 ju_ju!! ลักษณะทั่วไป

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่เช่นเดียวกับสายพันธุ์มาสทิฟฟ์อื่นๆ  แข็งแรง มั่นใจในตัวเอง ศรีษะใหญ่ ผิวหนังของพวกเขาควรจะเป็นสีดำที่บริเวณใต้ท้อง ใต้ขน และหรือปาก ซึ่งจะช่วยป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ ขนของเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์จะสั้น หนาแน่น มีทั้งสีน้ำตาลเหลือง สีน้ำตาล สีครีม และสีน้ำตาลแดง ส่วนที่มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า “Boerboel” นั้น มีความหมายว่า สุนัขฟาร์ม พวกเขาถูกเลี้ยงไว้เพื่อใช้ในการทำงานในฟาร์มตามชนบทของแอฟริกาใต้ และเป็นเพื่อนที่ดีกับคน

 ju_ju!! ความเป็นมา

     ชอง แวน รีบีค เดินทางไปยังช่องแคบแอฟริกัน ในปี ค.ศ. 1652 และนำสุนัขของเขาติดไปด้วยเพื่อปกป้องครอบครัว จากป่าเขาหรือชนบทที่เขาไม่รู้จัก ซึ่งสุนัขของเขาเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “บูลเลนบิทเจอร์” สุนัขสายพันธุ์มาสทิฟฟ์ร่างหนาใหญ่ ได้ผสมพันธุ์กับสุนัขพันธุ์พื้นเมืองของแอฟริกาใต้ แล้วให้ชื่อสายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์นี้ว่า “บัวโบว์” (ชื่ออย่างเป็นทางการคือ เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์) เพื่อนำมาใช้งานในฟาร์ม ล่าสัตว์ที่มารุกล้ำพื้นที่ หรือนำพวกเขาไปใช้ในเกมการล่าสัตว์อื่นๆ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/south_african_boerboel_e.jpg)

 ju_ju!! ลักษณะนิสัย

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขที่เอาไว้เฝ้าบ้า เฝ้าไร่นา ดูแลปกป้องครอบครัวได้ดี พวกเขาจะเห่าคนแปลกหน้าหรือสัตว์แปลกๆที่มาบุกรุกให้ผู้เลี้ยงได้รู้ แต่ถ้าพวกเขาได้รับการแระนำให้รู้จักคนแปลกหน้า พวกเขาก็เรียนรู้ได้ดีว่านี่คือเพื่อนใหม่ หรือใครที่สามารถต้อนรับเข้ามาในบ้านได้ อย่างไรก็ตามแม้เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์จะดูดุดันกับคนแปลกหน้า แต่พวกเขาก็รักรักครอบครัวมาก ชอบใช้เวลาร่วมกับครอบครัว พวกเขาสามารถเข้ากันได้ดีกับเด็กๆ ได้ทุกช่วงวัยเพราะทนทานต่อสภาพการเล่นอันรุนแรงของเด็กๆ ได้ ทว่าก็ไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่กับเด็กๆเพียงลำพัง ควรอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ นอกจากนี้พวกเขายังเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อีกด้วย

 ju_ju!! การดูแล

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นน้องหมาขนสั้น หนา จึงทำความสะอาดง่าย ควรแปรงขนครั้ง  - สองครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อผลัดขนเก่าทิ้งไป นอกจากนี้บริเวณด้านในขา ช่วงปลอกคอ และตามจุดอับต่างๆ ตามผิวหนังอาจมีเห็บกัดเกาะอยู่ ควรเชคดูเป็นประจำทุกๆ เดือน โดยแป้งกันเห็บหมัดให้เขาอย่างสม่ำเสมอ การน้ำควรอาบให้เดือนละครั้ง หากอาบมากเกินไปจะทำให้ผิวหนังแห้ง เป็นสะเก็ดได้ นอกจากนี้เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์มีแนวโน้มที่จะแพ้แชมพูและครีมนวด ดังนั้นควรเลือกแชมพูสำหรับผิวแพ้ง่ายให้เขาโดยเฉพาะ อีกส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษคือฟัน ควรทำความสะอาดฟันให้เขาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในปาก ฟันร่วง และมีกลิ่นปาก

     สำหรับการออกกำลังกาย แม้เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์เป็นสุนัขตัวใหญ่แต่พวกเขาก็ไม่ได้ต้องการการออกกำลังกายมากเป็นพิเศษ เพียงมีพื้นที่วิ่งเล่น  หรือเล่นกับสุนัขตัวอื่นภายในบ้านก็เพียงพอ พวกเขาเป็ฯสุนัขที่สามารถหากิจกรรมเพื่อออกกำลังให้ตัวเองได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ชอบที่จะเดินเล่นออกกำลังกายร่วมกับเจ้าของ และสมาชิกในครอบครัว พวกเขาชอบเล่นวิ่งไล่ลูกบอลร่วมกับเด็กๆ ในครอบครัว แต่การพาเขาไปข้างนอก ผู้เลี้ยงก็ต้องมั่นใจว่าเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ที่เลี้ยงไว้จะอยู่ภายใต้การควบคุมได้แน่นอน ไม่เป็นอันตรายต่อคนที่วิ่งสวนไปมา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/boerboel-at-lake-wallpaper.jpg)

 ju_ju!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่กว้างๆ ในบ้านก็ควรมีห้องหลายห้องให้เขาไปเดินไป เดินมา  มีสนามหญ้าให้เขาวิ่งเล่น ออกกำลังกายแต่ก็ควรมีรั้วรอบขอบชิด การทำความสะอาดไม่ยุ่งยากนัก อาบน้ำให้  2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง แปรงขึ้นให้เป็นประจำ พวกเขาเป็นน้องหมานักพิทักษ์ปกป้องครอบครัว หากมีคนแปลกหน้ามาบ้าน ผู้เลี้ยงควรให้เขาทำความรู้จัก คุ้นเคยเพื่อให้เขายอมรับว่าคนที่เข้ามาในบ้านเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่สำคัญถึงเขาจะตัวใหญ่แต่ก็ต้องการความรักจากครอบครัวมากๆ ไม่ควรปล่อยให้เขารู้สึกขาดความรัก ควรเอาใจใส่เขา และให้เขามีส่วนร่วมในครอบครัว

 ju_ju!! ข้อควรจำ

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง แทบจะไม่ต้องหาไปสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาอาการใดๆ เป็นพิเศษ  แต่ก็สภาวะอาการ 2 ลักษณะที่อาจเกิดขึ้นกับเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์โดยกรรมพันธุ์  นั่นก็คือ ช่องคลอดขยายซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะเพศเมียเท่านั้น  และ อีกอาการหนึ่งคือสะโพกเสื่อม ดังนั้นผู้เลี้ยงควรพาเขาไปตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อป้องกันสภาวะหรือโรคดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้น   


หัวข้อ: ไซบีเรียน ฮัสกี้ สวยสง่า มีหน้าตาเป็นอาวุธ
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 08, 2014, 08:55:59 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/11_con)

 tongue3 ลักษณะทั่วไป

     ไซบีเรียน ฮัสกี หรือเรียกสั้นๆว่า ไซบีเรียน สุนัขขนาดกลาง ขนฟูแน่น แข็งแรง คล่องแคล่ว มีหน้าตาเป็นอาวุธ เพราะ หน้าดุ ทำให้คนสามารถกลัวได้ ลักษณะจะเหมือนหมาป่า แต่จริงๆแล้วไม่ดุอย่างหน้าตาหรอกนะ เป็นมิตรกับคนและเข้ากับคนได้ง่าย สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนนี้จะรู้จักกันดีในกีฬาลากเลื่อนที่เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยม

 tongue3 ความเป็นมา

     ไซบีเรียน อัสกีนี้มีต้นกำเนิดในตะวันออกของไซบีเรีย คำว่า “ฮัสกี้” ได้มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวอินนูอิต(Inuit) โดยเพาะพันธุ์มากจากสุนัขในวงศ์สปิตซ์(สุนัขขนยาวและหนา)ของชาวชุกซี ต่อมาได้ถุกนำเข้ามาในอลาสกาและแพร่พันธุ์เข้าสู่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา จนพัฒนามาเป็นสุนัขลากเลื่อนเมื่อประมาณ ค.ศ.1900 ต่อมาจึงนำมาไซบีเรียนเลี้ยงเป็นสุนัขตามบ้าน

http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Running-huskies-849x563333.jpg

 tongue3 ลักษณะนิสัย
 
     ไซบีเรียนเป็นสุนัขที่ฉลาด ไฮเปอร์ตื่นตัว พลังงานสูง สมาธิค่อนข้างสั้น รักอิสระ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เข้าขั้นเรียก่า ดื้อ ขี้บ่น ขี้เถียง ฝึกยาก เป็นนักทำลายข้าวของตัวยง แต่ไซบีเรียนเป็นน้องหมาที่เป็นมิตรกับทุกคน ไม่ว่าจะคุ้นหน้า หรือแปลกหน้า ไหวพริบดี ฉลาดแกมโกง ซึ่งไหวพริบกับความฉลาดที่มีของพวกเขานั้นไม่ค่อยได้เอาไปใช้ประโยชน์สักเท่าไหร่ โดยส่วนมากจะเป็นเล่ห์เหลี่ยมเพื่อหาทางซุกซนเสียมากกว่า ไซบีเรียนฮัสกี้ชอบหอนมากกว่าเห่า จนกลายเป็นปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวและเพื่อนบ้าน พวกเขาค่อนข้างฝึกยาก จึงควรได้รับการฝึกอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุกวัน วันละ 10 - 15 นาที แต่ควรได้รับการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันมากกว่า 15 นาที โดยการวิ่ง เพื่อให้พวกเขาได้เผาผลาญพลังงาน ไม่ซุกซนจนเกินควร

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Siberian%20Husky/1.jpg)

 tongue3 การดูแล
 
     การให้อาหารสุนัขไซบีเรียนนั้น จะให้ 2-3 ครั้ง/วัน ได้ แต่สุนัขพันธุ์นี้จะค่อนข้างกินอะไรยากอยู่เช่นกันหากไม่ถูกปาก มันจะยอมอดอาหารได้ 3-4 วัน ดังนั้นวิธีการที่จะกระตุ้นความอยากอาหารได้คือการพาสุนัขไปออกกำลังกาย ส่วนของอาหารนั้นผู้เลี้ยงสามารถสามารถนำอาหารสำเร็จรูปมาผสมกับอาหารอื่นได้เพื่อเพิ่มรสชาติและอรรถรสในการกินมากขึ้น อาหารที่สุนัขไซบีเรียนโปรดปรานที่สุด คืออาหารที่มีปลาผสมอยู่ในอาหาร สุนัขจะกินหมดได้อย่างรวดเร็ว

     ส่วนเรื่องของการทำความสะอาดนั้น ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินไป อาบ2-3 สัปดาห์ต่อครั้งก็พอ เพราะไซบีเรียนนั้นเป็นสุนัขสะอาด ไม่มีกลิ่นตัว หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สกปรกก็ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยๆ ก็ได้ ที่สำคัญเวลาอาบน้ำต้องใช้แชมพูอาบน้ำสุนัขโดยเฉพาะ ควรมีความอ่อนโยนมากๆ และหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วจะต้องใช้ไดร์เป่าขนให้แห้งสนิท อาจใช้ระยะเวลานาน แต่เพื่อไม่ทำให้น้องไซบีเรียนเป็นโรคผิวหนัง

     เรื่องของขนสุนัขไซบีเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญที่ผู้เลี้ยงควรใส่ใจ หากอยู่ในช่วงฤดูผลัดขนนั้น มันจะมีปริมาณขนที่ผลัดออกมาเยอะมากๆ ฉะนั้นผู้เลี้ยงควรจะต้องมั่นดูแล และแปรงขน เพื่อไม่ให้เกิดขนพันกัน ส่วนเรื่องของสุขภาพของสุนัขก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและผู้เลี้ยงควรจะให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างสุขภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพจิตของสุนัขดีขึ้นด้วย ควรใช้เวลาการออกกำลังกาย 15 นาที/วัน ดีที่สุดและทำทุกๆวัน

     ผู้เลี้ยงจะต้องทราบว่าหากไม่ได้พาสุนัขไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไซบีเรียนจะกลายเป็นตัวยุ่ง ก่อความรำคาญในทันที เพราะมันจะเกิดความเบื่อหน่าย จึงต้องหาอะไรทำเพื่อลดออาการเบื่อหน่ายลงไป อีกทั้งการออกกำลังกายยังเป็นการช่วยกนะตุ้นให้ไซบีเรียนนั้นอยากอาหารไปในตัวอีกด้วย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Dog-Animal-Picture-Siberian-Husky-Puppies-HD-Wallpaper.jpg)

 tongue3 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ไซบีเรียนเหมาะสำหรับคนที่พร้อมจะดูแล มีเวลาให้ และให้ทุกอย่างที่มันต้องการได้ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย และมิตรภาพจากเจ้าของ เพื่อสร้างมิตรภาพระหว่างเจ้านายกับสุนัข จะทำให้สุนัขเชื่อฟังและไม่ดื้อกับเจ้าของของมัน

2c8MMiytwNs


หัวข้อ: ดัชชุน (Dachshund) กระทัดรัด ฉลาด ขี้ประจบ
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 08, 2014, 09:01:52 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/13_con)

 HAPPY2!! ลักษณะทั่วไป

     ดัชชุน รูปร่างเตี้ย ขาสั้น ตัวยาว แต่มีการพัฒนาของกล้ามเนื้อที่แน่นและแข็งแรง ลักษณะการเชิดศีรษะเต็มไปด้วยความกล้าหาญและมั่นใจ สีหน้าของดัชชุนแสดงออกซึ่งความฉลาด ทั้งๆ ที่ขาสั้นเมื่อเทียบกับความยาวของลำตัว แต่ดัชชุนด์ไม่เคยแสดงออกถึงลักษณะของความพิการ งุ่มง่ามหรือยืดยาดในการเคลื่อนไหว มีความฉลาด สดใสและกล้าหาญโดยไม่คำนึงถึงอันตราย มุ่งมั่นในการทำงานทั้งบนดินและใต้ดิน ประสาทสัมผัสทั้งหมดพัฒนาอย่างดี มีคุณสมบัติพิเศษสำหรับเกมการล่าสัตว์ใต้ดิน นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณในการล่าสัตว์ รูปร่างและจมูกที่เหมาะสม ทำให้ได้เปรียบเหนือพันธุ์อื่นทั้งหมดของสุนัขที่ใช้ในกีฬาการสะกดรอย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Dachshund/5.jpg)

 HAPPY2!! ความเป็นมา

     สุนัขดัชชุน เป็นสุนัขที่อยู่ในกลุ่มฮาวด์มีรูปร่างที่กระทัดรัด ฉลาด ขี้ประจบ ลำตัวยาวดูแปลกตาจึงเป็นที่รู้จักกันในนาม "สุนัขไส้กรอก" ชื่อดัชชุน (dachs หมายถึงสัตว์ชนิดหนึ่ง hund หมายถึงสุนัข ) ปรากฎในหนังสือเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในยุโรปสมัยกลาง เป็นสุนัขที่มีความคล้ายคลึงสุนัขฮาวด์ในการแกะรอย และมีรูปร่างและอารมณ์คล้ายสุนัขเทอร์เรียร์ มีความสามารถในการติดตามตัวแบดเจอร์ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ใต้ดินและมักจะออกมาหาอาหารตอนกลางคืน จึงมักถูกเรียกว่าสุนัขแบดเจอ
 
(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Dachshund/2.jpg)

     ด้วยความแข็งแรงและทรหด บวกกับความฉลาดและกล้าหาญ ทั้งบนและใต้พื้นดิน สุนัขดัชชุน หลายตัวรวมกันสามารถเข้าต่อกรกับหมีป่าได้อย่างสบาย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงมีการปรับปรุงพันธุ์เพื่อใช้ในเกมล่าสัตว์แบบอื่นๆ สุนัขดัชชุนด์ขนาดเล็กที่มีน้ำหนัก 16 - 22 ปอนด์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับสุนัขจิ้งจอก และในการแกะรอยกวางที่ได้รับบาดเจ็บ สุนัขขนาดนี้ได้กลายมาเป็นที่รู้จักกันดีในอเมริกา สุนัขที่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีน้ำหนัก 12 ปอนด์ ถูกนำมาใช้ล่าสัตว์ป่าชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "Stoat" มีขนาดเล็ก มีขนสีน้ำตาล อาศัยอยู่ในยุโรปตอนเหนือ
 
     การนำเข้าสุนัขพันธุ์ดัชชุนด์มายังประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นมาก่อนการจัดโชว์สุนัขอเมริกาครั้งแรก สุนัขที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกใช้ในการล่าสัตว์น้อยมากเพราะว่าไม่ค่อยมีตัวแบดเจอร์และหมีป่า และไม่มีการล่ากวางด้วยสุนัข รวมทั้งไม่มีการล่าสุนัขจิ้งจอกด้วยการดมกลิ่น ลักษณะและรูปร่างที่ถูกต้องของสายพันธุ์ได้รับการส่งเสริม โดยการนำเข้าสายพันธุ์ที่ใช้ในการล่าสัตว์ของเยอรมันและเพื่อส่งเสิรมความสามารถในการล่าสัตว์ รวมถึงรูปร่างและอารมณ์ที่ดีเลิศ ความสามารถในภาคสนามตามกฎของ AKC ได้รับการกำหนดขึ้นในปี 1935

 HAPPY2!! ลักษณะนิสัย

     ดัชชุนเป็นสุนัขฉลาด ขี้สงสารและไม่ค่อยสร้างความ ยุ่งยาก ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน หากได้ รับการ ฝึกอย่างดี อย่างถูกวิธี มันจะเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังคำสั่ง เข้ากับเด็กได้ดี ทีเดียว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Dachshund/3.jpg)

 HAPPY2!! การดูแล
 
     สุนัขพันธุ์ดัชชุนมีสัญชาตญาณของความเป็น นักล่ามันชอบขุดดินเป็นนิสัยในสายพันธุ์ มันชอบที่จะ ขุดดินนอกบ้าน และตะกรุยพื้นในบ้าน หากไม่ได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ มีแนวโน้มที่จะอ้วนเพราะสุนัขพันธุ์ดัชชุนตัวเตี้ยเล็กนี้ จะมีขาสั้นแต่ลำตัว ยาว อันจะเป็นสาเหตุทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับหลัง กำลังศูนย์ถ่วงที่น้ำหนักตกลงบนลำตัว หากกินมากเกินไป จนอ้วนจะทำให้หลังแอ่นอาจจะมีปัญหากับกระดูกสันหลังได้ ผู้เลี้ยงควรใส่ใจกับปัญหาดังกล่าวด้วย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Dachshund/1.jpg)

 HAPPY2!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่จะเลี้ยงดัชชุน ควรเป็นผู้เลี้ยงที่มีเวลาพาสุนัขไปออกกำลังกาย และให้ความสำคัญกับการควบคุมดูแลสุขภาพของสุนัข

lDDyB4eHmqU


หัวข้อ: ดัลเมเชียน (Dalmatian) ร่าเริง กระฉับกระเฉง และตลก
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 08, 2014, 09:10:49 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/14_con)

 THANK!! ลักษณะทั่วไป

     ดัลเมเชียนเป็นสุนัขที่มีจุดโดดเด่น ตื่นตัว แข็งแรง เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระฉับกระเฉง ไม่ขี้อาย เฉลียวฉลาด เป็นสุนัขที่มีความทรหดอดทนผนวกกับการวิ่งที่ค่อนข้างเร็ว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Dalmatian/2.jpg)

 THANK!! ความเป็นมา
 
     เป็นสุนัขที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน มีประวัติและตำนานอันยาวนาน รูปร่างของเขาเป็นการผสมผสานระหว่าง สุนัขพันธุ์พ้อยเตอร์และสุนัขพันธุ์ฮาวนด์ที่มีใบหูเล็กและผิวหนังที่ตึงของทวีปยุโรปตะวันออก เนื่องจากมันไม่ได้ถูกใช้เป็นสุนัขดมกลิ่นหรือช่วยในการล่าสัตว์ จึงเป็นการยากที่จะรู้ถึงเทือกเถาเหล่ากอที่แน่ชัด ตามตำนานได้เล่าขานว่า เล่าขานว่ามาจากทางตอนเหนือของประเทศอินเดียเมื่อนานมาแล้ว แล้วถูกนำเข้าทวีปยุโรปตะวันออกโดยชาวยิปซี เนื่องจากพบบันทึกเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์นี้ในเมืองดัลเมเชียในยุคแรกๆ จึงมีการตั้งชื่อสุนัขพันธุ์นี้ว่าดัลเมเชียน
     ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดอย่างไร เจ้าที่คอยวิ่งตามม้าเทียมรถตั้งแต่ยุคกลาง เพื่อปกป้องนักท่องเที่ยวจากโจรที่ปล้นคนเดินทาง แต่ในที่สุดมันก็กลายมาเป็นเครื่องประดับของผู้รากมากดี จากภาพที่สุนัขพันธุ์นี้วิ่งไปตามถนนของกรุงลอนดอน เพื่อกันผู้คนไม่ให้ไปเกะกะเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงมีชื่อเล่นว่าสุนัขดับเพลิง ดัลเมเชียนเป็นสัตว์เลี้ยงที่สะอาด สงบเสงี่ยมและมองได้ไกล กลายเป็นสุนัขที่คอยระแวดระวังเกี่ยวกับเพลิงไหม้ เป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเห่ายกเว้นจะมีอะไรหลงเข้ามา สุนัขพันธุ์นี้มีความอดทนอย่างเหลือเชื่อ สามารถที่จะวิ่งในความเร็วปานกลางแบบไม่มีกำหนด ความจำเป็นในการออกกำลังกายจึงมีมาก

 THANK!! ลักษณะนิสัย
 
     ร่าเริง รักสะอาด ตื่นตัว แข็งแรง เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระฉับกระเฉง ไม่ขี้อาย เฉลียวฉลาด เป็นสุนัขที่มีความทรหดอดทนผนวกกับการวิ่งที่ค่อนข้างเร็ว ดัลเมเชียนเป็นสุนัขรักสนุกที่แม้จะติดตลกด้วย แต่ก็ยังมีความสง่างามในตัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ประจำของสุนัขพันธุ์นี้คือ "รอยยิ้ม" ของเขาที่เราเห็นบ่อยมักจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นการแยกขี้ยวคำรามถ้าไม่เหลือบไปเห็นหางระริกระรี้ที่กระดิกอยางเป็นมิตรอย่ด้วยวามที่เป็นสุนัขอ่อนไหวเขาจะคอยตามติด และคอยอ้อนขอความรักจากผู้เลี้ยงเสมอ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Dalmatian/1.jpg)

 THANK!! การดูแล
 
     ไม่ต้องการการดูแลเรื่องความสะอาดและการตัดแต่งขนมากนัก ไม่เหมือนกับพันธุ์อื่น เนื่องจากมีที่ขนสั้นแน่น ดัลเมเชียน ต้องการการแปรงบ้างในบางครั้งเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดี ด้วยความที่เป็นสุนัขที่แข็งแรงและตื่นตัว ดังนั้นต้องคอยฝึกให้เขาเชื่อฟังคำสั่งของเราด้วย รวมทั้งต้องพาพวกเขาไปเดินเล่นเดินทุกๆ วันและต้องให้เขาอยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด   

 THANK!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ดัลเมเชียน เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยม สุนัขเฝ้ายาม และเป็นสัตว์เลี้ยงมหัศจรรย์ประจำครอบครัว แต่ด้วยความที่พวกเขาแข็งแรงและร่าเริงจนออกจะซนไปสักหน่อยจึงต้องมั่นใจว่าคุณจะสอนเขาให้อยู่คำสั่งผู้เลี้ยงได้

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Dalmatian/3.jpg)

 THANK!! ข้อควรจำ

     ดัลเมเชียน มีความเสี่ยงที่จะเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ง่าย และบางตัวอาจมีปัญหาโรคผิวหนัง ขณะที่บางตัวอาจหูหนวกตั้งแต่เกิด     

UY-Z9V3b2rE


หัวข้อ: โดเบอร์แมน มาดเท่ แข็งแรง สง่างาม
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 10, 2014, 10:26:14 AM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/15_con)

 ping! ลักษณะทั่วไป

     โครงร่างสง่างาม กล้ามเนื้อเห็นชัดเจน รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สังเกตุได้จากความสูงจากหัวไหล่ถึงปลายเท้าหน้าเท่ากับความยาวจากหน้าอกถึงบั้นท้าย หัวยาวเรียว กะโหลกด้านบนแบน โคนหูอยู่สูง ใบหูค่อนข้างเล็ก ตามธรรมชาติหูจะปรกลง แต่ถ้าได้รับการตัดแต่งหูจะต้องตั้งตรงได้สัดส่วนกับความยาวของส่วนหัว และตัดหางให้มันดูสง่าขึ้น คอยาวพอดี ตั้งตรงได้สัดส่วนกับลำตัว ความลึกของหน้าอกต้องไม่เกินครึ่งหนึ่งของความสูงทั้งหมด โคนขาใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

 ping! ความเป็นมา
     
         โดเบอร์แมน หรือ โดเบอร์แมนน์ มีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมนีในศตวรรษที่ 19 นายฮอร์ ลูอิส โดเบอร์แมนน์ อาศัยย่ในเมืองอพอลโด(เยอรมันตะวันออก)ในอาณาจักรของเธอริงเจนเขารับราชการเป็นผู้เก็บภาษีที่มีสุนัขคอยดินตามปกป้องเขา นายฮอร์โดเบอร์แมนน์ต้องการสุนัขเฝ้ายามที่ปราศจากความกลัวจึงเริ่มต้นคัดเลือกสุนัขเพื่อทำการเพาะพันธุ์ให้ได้สุนัขตามที่เขาต้องการ ไม่มีใครรู้แน่ว่าเขาผสมโดยใช้สายันธุ์ใดบ้างแต่ได้ยินว่าอาจเป็นเกรตเดน เยอรมันเชพเพิร์ดสายดั้งเดิมไม่ใช่เยอรมัน เชพเพิร์ดที่เรารู้จักในปัจจุบัน) ไวมาราเนอร์ แมนเชสเตอร์เทอร์เรีย์เกรยฮาวนด์และพันธุ์อื่นๆ อีกมากมายลอดชีวิต60 ปีกับการผสมข้ามสายพันธุ์นายเฮอร์โดเบอร์แมนน์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อใช้เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ต้องการหน่วยเมริกันมารีนส์รู้จักโดเบอร์แมน กันในนาม"สุนัขปีศาจ"และใช้มันเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในแปซิฟิค โดยถูกนำขึ้นฝั่งพร้อมกับทหารเรือเพื่อไล่ล่าศัตรู

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Doberman%20Pinscher/1.jpg)

 ping! ลักษณะนิสัย
 
     โดยทั่วไปแล้วธรรมชาติของ โดเบอร์แมน เป็นสุนัขที่ไว้ใจได้และเป็นเพื่อนที่ภักดีกับเจ้าของ นิสัยสุภาพ แต่แข็งแรงและอึดเท่าที่คุณใส่ใจฝึกฝนเขาเป็นเพื่อนเล่นที่ดีกับเด็กใน"ครอบครัว" เท่านั้น เขาจะชอบร่วมกิจกรรมต่างๆของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นที่โต๊ะอาหารหรือจะขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยความจริงแล้วเขาอาจลืมไปนึกว่าตัวเองก็เป็นคนด้วย แม้จะรักและเชื่อฟังเจ้าของโดเบอร์แมน ก็สามารถวางปึ่งทำเหมือนไม่สนใจเราได้เช่นกันอย่างไรก็ตามในภาวะปรกติแล้วไม่ควรแสดงอาการฉุนเฉียวหรือก้าวร้าวแต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ก็ไม่น่าไว้ใจและอาจแสดงนิสัยที่ไม่ดีเหล่านี้เวลาเครียดได้

 ping! การดูแล
 
     โดเบอร์แมน เป็นสุนัขขนาดใหญ่ ร่าเริงฉลาดคุณต้องตั้งใจพาเขาไปออกกำลังกายและใส่ใจความต้องการของเขาคนทีคิดจะเลี้ยงโดเบอร์แมนควรมีเวลาพาเขาไปออกกำลังกายและฝึกฝนเขาเป็นประจำทุกวัน ถ้าอยากให้เขาอยู่กับเราอย่างมีความสุข เราจำเป็นต้องสอนเขาให้เชื่อฟังคำสั่งและอยู่ในการ ควบคุมได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเพียงขั้นพื้นฐาน หรือขั้น สูงสุดจนได้รับใบประกาศ ทั้งคุณและสุนัขของคุณมี ความสุข และได้ประโยชน์จากกิจกรรมนี้โดเบอร์แมน ต้องเลี้ยงในบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ   

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Doberman%20Pinscher/3.jpg)

 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้เลี้ยงทุกคนที่มีเวลาพาสุนัขไปฝึกฝน พาเข้าสังคมและพาไปออกกำลังกายได้

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Doberman%20Pinscher/2.jpg)

 ping! ข้อควรจำ

     เพราะว่า โดเบอร์แมน ถูกเพาะพันธุ์เป็นสุนัขใช้งาน สภาพจิตใจและความพร้อมในการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญพอๆ กับ ความสามารถในการปฎิบัติตามคำสั่ง การประเมินความสามารถในการทำงาน (Working Aptitude Evaluation) มีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบสุนัขว่าเหมาะกับลักษณะงานหรือไม่ เหมาะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน หรือเป็นผู้คุ้มกันเรา 


หัวข้อ: ไทยบางแก้ว สุดยอดแห่งความซื่อสัตย์ เฝ้าบ้านได้หายห่วง
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 10, 2014, 10:39:04 AM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/16_con)

 smiley4 ลักษณะทั่วไป

     บางแก้วเป็นสุนัขขนาดกลาง รูปร่างคล้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีสัดส่วนที่กลมกลืน มีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีการเลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว รวดเร็ว ปราดเปรียว

 smiley4 ความเป็นมา
 
     สำหรับประวัติของสุนัขพันธุ์บางแก้วนั้นได้มีข้อสันิฐานว่า เกิดจากสุนัข 3 พันธุ์ด้วยกันผสมกันแล้วก็กลายมาเป็นบางแก้วนั่นก็คือ พันธุ์ไทย พันธุ์สุนัขจิ้งจอก และสุนัขป่า ซึ่งพอผสมสมกันแล้วจะมีลักษณะ ขนยาวปลานกลาง ปากแหลม หางเป็นพวง ซึ่งเป็นลักษระของสุนัข จิ้งจอก กะโหลกเป็นสามเหลี่ยม ใบหูตั้งสั้นปลายแหลม โคนหูห่างกันมากเป็นลักษณะของสุนัขป่าส่วนลักษณะของสีหรือรูปร่างก็คล้ายสุนัขพันธุ์พื้นบ้านของไทยทั่วไปนั้นเอง
 
     สุนัขพันธุ์บางแก้ว เป็นสุนัขที่ต้นกำเนิดจาก ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งในอดีตชาวบ้านอาศัยเรือนแพอยู่สองฝั่งคลอนบางแก้ว และมีอาชีพประมงแทบทุกครัวเรือน

สุนัขพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขไทยพันธุ์หนึ้งที่มีความสวยงามคล้ายสุนัขพันธุ์ต่างประเทศมีขนยาวสวยงาม หางเป็นพวง มีรูปร่างขนาดปานกลางรูปทรงของลำตัวตั้งแต่ช่วงขาหน้าถึงขาหลังเป็นรูปสี่เหลี่ยม
 
     ในระยะแรกๆ การเลี้ยงสุนัขบางแก้ว  มีกเลี้ยงกันภายในบริเวณเรือนแพต่อมาได้มีการเลี้ยงแพร่หลายออกไปจากบ้านบางแก้วไปบริเวณใกล้เคียงเช่นบ้านชุมแสงสงคราม  บ้านห้วยชัน  บ้างวังแร่  บ้านบางระกำ  เป็นต้น
 
     ปัจจุบันสุนัขพันธุ์บางแก้วไก้มีการเลี้ยงแพร่พันธุ์ออกไปทั่วประเทศ  ด้วยจุดเด่นและเป็นเสน่ห์คือเป็นสุนัขที่มีอุปนิสัยรักเจ้าของ รักถิ่นฐาน ซื่อสัตย์ ฝึกง่าย ฉลาดว่องไว และมีนิสัยดุกว่าสุนัขพันธุ์ไทยอื่นๆ ซึ่งมี  ประโยชน์ต่อการใช้งานในด้านการพิทักษ์รักษาทรัพย์ภายในบ้าน ไร่นาและสวนหรือโกดังต่างๆ ได้ดีอีกด้วย ทั้งยังมีลัษณะที่สวยงามเป็นจุดเนกว่าสุนัขไทยอื่นๆ อีกด้วย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Thai%20Bangkaew/1.jpg)

 smiley4 ลักษณะนิสัย

     บางแก้วมีนิสัยที่ค่อนข้างตื่นตัว ร่าเริง เชื่อมั่นในตัวเอง จิตประสาทมั่นคงไม่ขี้กลัวหรือตื่นตกใจง่าย ซื่อสัตย์ หวงของ ฉลาด กล้าหาญ สามารถฝึกใช้งานได้ หวงสิ่งของและหวงเจ้าของ และมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ

 smiley4 การดูแล

     การให้อาหารสุนัขไทยบางแก้ว นั้นส่วนใหญ่แล้วสุนัขบางแก้วจะชอบกินเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อปลา อาจให้กินข้าวสลับกับอาหารเม็ด และควรให้กินน้ำอย่างสม่ำเสมอ (ควรเปลี่ยนน้ำทุกวันด้วย) ส่วนเรื่องการดูแลทำความสะอาดนั้น สุนัขบางแก้วเป็นสุนักที่มีขนยาวในระดับปานกลาง ควรอาบน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างสม่ำเสมอ และควรแปรงขนบ่อยๆ ด้วย ส่วนเรื่องของการออกกำลังกายนั้น หากผู้เลี้ยงมีเวลาว่าง ควรพาสุนัขออกไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง เพื่อเป็นการเสริมสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับสุนัข และเป็นการผ่อนคลายความเครียดให้กับสุนัขด้วย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Thai%20Bangkaew/2.jpg)

 smiley4 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ควรเป็นผู้ที่มีเวลาในการดูแลสุนัขทั้งในเรื่องของความสะอาดและสุขภาพ ทั้งนี้ผู้เลี้ยงยังต้องมีความเข้าใจถึงอุปนิสัยของสุนัขบางแก้วด้วยว่า เป็นสุนัขที่ค่อนข้างดุแต่สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ หากผู้เลี้ยงมีความเข้าใจในอุปนิสัยของสุนัขว่ามีนิสัยที่ค่อนข้างหวงถิ่นที่อยู่ และหวงสิ่งของ รวมไปถึงหวงเจ้าของ และมีการฝึกให้สุนัขอยู่ในกฏระเบียบและเชื่อฟังคำสั่งก็จะไม่มีปัญหาในการเลี้ยง

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Thai%20Bangkaew/4.jpg)

 smiley4 ข้อควรจำ
 
    ควรระวังหากมีคนภายนอกมาเข้ามาแตะต้อง มันจะทำร้ายทันที

UuywlKWfod4


หัวข้อ: ไทยหลังอาน มีความเป็นนักล่าสูง แข็งแรง และซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 10, 2014, 11:15:43 AM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/17_con)

 olleyes2 ลักษณะทั่วไป
 
     ไทยหลังอานเป็นสุนัขขนาดกลาง ขนสั้น หูตั้งเป็นรูปสามเหลี่ยม ปลายจมูกสีดำและมีขนย้อนกลับที่กลางหลังเป็นรูปต่างๆกัน ยาวไปตามแผ่นหลัง ซึ่งถือเป็นลักษณะเด่น สุนัขไทยหลังอานมีความแข็งแรงมาก อดทนต่อสภาพภูมิอากาศได้โดยทั่วไป ทั้งร้อนและหนาว และยังเป็นสุนัขที่มีสัญชาตญาณของความเป็นนักฆ่าสูง และมีความจงรักภักดีต่อผู้เลี้ยงอีกด้วย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Thai%20Ridgeback/3.jpg)

 olleyes2 ความเป็นมา

     สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานมีแหล่งกำเนิดในประเทศไทยนี่เอง มีการสันนิษฐานว่าไทยหลังอานมาจากสุนัขในกลุ่มพวกหมาป่า และเป็นสุนัขพื้นเมืองในโซนเขตร้อน แต่ไทยหลังอานมีลักษณะพิเศษเฉพาะคือมีขนเป็นเส้นย้อนกลับที่เส้นกลางหลัง ในขณะที่สุนัขสายพันธุ์อื่นๆในกลุ่มเดียวกันไม่มี

 olleyes2 ลักษณะนิสัย

     ไทยหลังอานมีนิสัยของการเป็นนักล่าชัดเจน เป็นนักล่าที่ดี มีความระแวดระวังสิ่งแปลกปลอมเป็นอย่างดี มีความสามารถในการกระโดดดีเยี่ยม ฉลาด มีความมั่นคง กล้าหาญเด็ดเดี่ยว รักอิสระ มีท่วงท่าที่สง่า และเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ซึ่งไทยหลังอานมีความขึ้นชื่อในเรื่องของความจงรักภักดี

 olleyes2 การดูแล

     สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานควรมีกรงนอนให้ด้วย ซึ่งถือเป็นการฝึกวินัยไปในตัว การให้อาหารสุนัขไทยหลังอานนั้นผู้เลี้ยงสามารถให้อาหารได้ตามปกติ แต่ควรสลับมาให้อาหารเม็ดด้วย และไม่ควรลืมที่จะให้น้ำดื่ม ส่วนน้ำที่จะให้สุนัขดื่มนั้นจะต้องเปลี่ยนทุกวัน ด้านการดูแลทำความสะอาด สุนัขไทยหลังอานอาบน้ำเดือนละ 2 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผิวแห้ง และในเรื่องของสุขภาพควรให้ความระมัดระวังเรื่องโรคผิวหนัง เพราะสุนัขไทยหลังอานมีขนสั้น ยุงหรือเห็บหมัดอาจเป็นพาหะนำโรคมาสู่สุนัขพันธุ์นี้ได้     
 
(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Thai%20Ridgeback/2.jpg)

 olleyes2 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่อยากจะเลี้ยงไทยหลังอานต้องเป็นผู้ที่ให้ความรักและความเอาใจใส่ได้ดีควรเป็นผู้ที่มีเวลาในการดูแลสุนัข เนื่องจากไทยหลังอานต้องการการออกกำลังการ ผู้เลี้ยงควรพาออกไปวิ่งเล่นภายในบริเวณบ้านหรือสวนสาธารณะบ่อยๆ (ทุกครั้งที่พาออกไปวิ่งควรใส่สายจูงด้วย) และที่สำคัญผู้เลี้ยงควรหมั่นตรวจดูสุขภาพของสุนัขโดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพผิวหนัง

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Thai%20Ridgeback/4.jpg)

 olleyes2 ข้อควรจำ
     เวลาที่สุนัขไทยหลังอานขัดขืน ให้รีบห้ามทันทีด้วยคำว่า “ไม่” เพราะหากปล่อยไปหลังจากนั้น เขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

M1NUpZn-qJo


หัวข้อ: บลัดฮาวด์ นิสัยดี อ่อนโยน มีความอดทนสูง ต้องการความรัก
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 10, 2014, 11:23:05 AM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10017_con)

 tongue3 ลักษณะทั่วไป

     บลัดฮาวด์เป็นสายพันธุ์นักล่า “กลิ่น” ที่เก่าแก่มากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง พวกเขาต้องการความรักมาก แต่ก็สามารถควบคุมความขี้อายที่มีมาโดยธรรมชาติ ความอ่อนไหวต่างๆได้ พวกเขาเป็นสุนัขที่มีอารมณ์ขัน และเข้มแข็ง รูปร่างลักษณะของบลัดฮาวด์ มีร่างกายใหญ่มาก สีมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะดี สีดำกับสีน้ำตาลแทน, สีน้ำตาลเหลือกับสีน้ำตาลแทน, และสีแดง ตาลึก หน้าย่น

 tongue3 ความเป็นมา

     บลัดฮาวด์กำเนิดขึ้นในทวีปยุโรปมานานก่อนสงครามครูเสดซึ่งเป็นสุนัขที่มีความสามารถในการดมกลิ่นมากกว่าสุนัขพันธุ์อื่น   โดยบลัดฮาวด์กลุ่มถูกนำมาจากคอนสแตนติโนเพิลสองสายพันธุ์คือดำและขาว สีดำรู้จักกันดีที่เซ็นต์ฮูเบิร์ตส์ นำเข้ามาครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ ส่วนสีขาวกลายมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เซาเทิร์นฮาวด์ แต่ถึงแม้ว่าบลัดฮาวด์สายพันธุ์ใหม่ในประเทศอังกฤษ ก็ยังเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากในประเทศสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลากว่าทศวรรษ พวกมันทำงานอย่างหนักให้กับศาล เพื่อค้นหาหลักฐานในการดำเนินคดีต่างๆ  และในทุกวันนี้บลัดฮาวด์ก็เป็นที่พึงพอใจของคนที่ต้องการสุนัขที่มีรูปร่างโครงสร้างดี ฝึกได้ เชื่อฟัง และ มีความสามารถในการดมและติดตามกลิ่น

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/BH81.jpg)

 tongue3 ลักษณะนิสัย

     บลัดฮาวด์เป็นที่สุนัขที่น่ารัก นิสัยดี อ่อนโยน มีความอดทนสูง ต้องการความรัก ชอบออกไปเดินเล่นนอกบ้าน และรักเด็ก ชอบให้เด็กๆปีนป่าย แต่ก็ต้องระวังไม่ให้เด็กแกล้งพวกเขา หรือแย่งอาหาร ของเล่น เพราะจะทำให้เขาแสดงอาการหวงของขึ้นมาทันที บลัดฮาวด์ค่อนข้างรักอิสระ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องการวินัย การฝึกที่นุ่มนวล ไม่เช่นนั้นเขาอาจมีแนวโน้มดื้อ หัวแข็ง นอกจากนี้พวกเขาค่อนข้างจะก้าวร้าวกับสุนัขเพศเดียวกัน แต่โดยธรรมชาติจริงๆแล้ว พวกเขารักทุกคนเลย และต้อนรับผู้มาเยี่ยมยืนด้วยอาการสดใสรื่นเริง

     อย่างไรก็ตาม แทบจะ 90 เปอร์เซ็นต์ของบลัดฮาวด์ไม่ควรพาออกเดินนอกบ้านโดยไม่ได้ใส่สายจูง เพราะพวกเขาจะเดิมดมโน่นนี่ไปเรื่อยๆตลอดทางจนกว่าจะหาสิ่งที่เขาได้กลิ่นเจอ และความสามารถพิเศษนี้เองที่ทำให้เขาสามารถเดินตามกลิ่นได้เป็นเวลากว่าร้อยชั่วโมงได้อย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย ไม่ว่าหนทางจะยาวไกลขนาดไหน เขาต้องหาต้นตอกลิ่นนั้นให้เจอ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%8C-Bloodhound.jpg)

 tongue3 การดูแล

     การทำความบลัดฮาวด์ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ขัดขนเขาเบาๆ เพราะผิวหนังเขาง่ายต่อการระคายเคือง และควรแปรงขนเป็นประจำเผื่อผลัดขนเก่า แล้วยังเป็นการนวดผิวหนังทำให้เขารู้สึกสบายตัว ควรทำความสะอาดหูเป็นประจำ โดยเฉพาะหากอยู่ในสภาพภูมิอากาศร้อน เพราะจะทำให้หูมีกลิ่นและหูติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ควรเช็ดดวงตาของเขาเป็นประจำทุกวัน

     บลัดฮาวด์รัการออกกำลังกายมากเป็นพิเศษ  ไม่ว่าจะวิ่ง จ๊อกกิ่ง หรือปม้กระทั่งปีนเขา เพราะ พวกเขาเป็นสุนัขที่โตเร็วต้องการการพัฒนาความแข็งแรงของกระดูก กล้ามเนื้อและข้อต่อ แต่ทุกครั้งที่พาวิ่งต้องใส่สายจูงเพื่อให้เขาไม่หันเหไปกันกลิ่นต่างๆระหว่างทาง และควรวิ่งอย่างพอเหมาะพอดีไม่ควรให้เขาวิ่งหนักจนเกินไป ระยะเวลาที่ดีที่สุดในช่วงการออกกำลังกายอย่างน้อยที่สุด 20  นาที ต้องให้เดินไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร เนื่องจากพวกเขาไม่ได้สนว่าอากาศดีหรือแย่ แต่สิ่งจำเป็นสำหรับพวกเขาคือการได้ออกกำลังซึ่งความต้องการนี้คือหนึ่งในนิสัยและบุคคลิกภาพประจำตัวของบลัดฮาวด์

     นอกจากนี้การฝึกบลัดฮาวด์ถือว่าจำเป็นมากๆ จำเป็นต้องฝึกวินัยและฝึกให้พวกเขาเชื่อฟังอย่างน้อย 15-30 นาที เป็นประจำเพื่อให้พวกเขาสงบนิ่ง แต่ปฏิภาณไหวพริกเฉียบคม ตื่นตัว มีความสุข เพราะถ้าเขามีความสุข เขาก็จะประพฤติตัวดีไม่ดื้อรั้น

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/bulah-belle-the-bloodhound_52321_2010-11-26_w450.jpg)

 tongue3 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บลัดฮาวด์ต้องการความรักมากเป็นพิเศษ  ผู้ที่เลี้ยงควรจะต้องใส่ใจ รักและดูแลความรู้สึกของเขาเป็นอย่างดี แต่ก็ต้องเป็นหัวหน้าที่มั่นคง ไม่พวกเขาไม่อาจโต้แย้งได้ ส่วนเรื่องการทำความสะอาดควรอาบน้ำให้สัปดาห์ละครั้ง ดูแลเรื่องขาร่วงเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้เขาดูดี รู้สึดี และ กลิ่นดีมากขึ้น

 tongue3 ข้อควรจำ

     แม้บลัดฮาวด์จะสามารถอาศัยอยู่ในอพาร์เม้นท์ได้ แต่จะดีที่สุดถ้ามีสนามหญ้ากว้างๆให้พวกเขาได้วิ่งเล่น เพราะการออกกำลังกายและการวิ่งเล่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการอย่างมาก สายจูงก็เป็นสิ่งจำเป็นถ้าไม่อยากจะตามไล่พวกเขาเวลาเดินดมกลิ่นที่เขาสนใจทางโน้นทีทางนี้ที อย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้เขาเดินหรือวิ่งมากเกินไปเพราะจะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อในภายหลัง แต่ก็ไม่ควรล่ามเขาไว้ทั้งวันเช่นกัน ส่วนโรคประจำตัว บลัดฮาวด์มักเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อย และ ปัญหาเรื่องเกี่ยวกับสะโพกเคลื่อน สะโพกเสื่อม ไหล่เคลื่อน และ ผิวหนังขาดน้ำ จนก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ จึงควรพาเขาตรวจสุขภาพเป็นประจำ   

cRl-zIDt9GQ


หัวข้อ: บ็อกเซอร์ ปกป้องเด็กๆ ได้ รักสนุก ร่าเริง
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 10, 2014, 11:39:11 AM

(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/18_con)

 laugh2 ลักษณะทั่วไป

     บ๊อกเซอร์ที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน มีต้นกำเนิดจากสุนัขพันธุ์บูลเลนไบส์เซอร์ขนาดเล็ก (บูลด๊อกชนิดหนึ่ง)

 laugh2 ความเป็นมา

     บ๊อกเซอร์มีถื่นกำเนิดในประเทศเยอรมนี ผู้เลี้ยงมักนำไปใช้ล่าหมีและวัว ต่อมาบ๊อกเซอร์กลายเป็นสุนัขคุ้มกันและป้องกันภัยในทางการทหารและตำรวจ หรืออาจจะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนในบ้านก็ยังได้

ลักษณะนิสัย

     บ๊อกเซอร์มีความอดทนสูงและปกป้องเด็กๆ ได้ บ๊อกเซอร์ชอบที่จะเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาชิกในครอบครัวที่เป็นเจ้าของ ไม่ว่าตัวมันจะอายุมากแค่ไหน มีนิสัยที่รักสนุก ร่าเริงมาก อารมณ์คงที่ ไม่ก้าวร้าวแม้จะถูกรบกวน ไม่ขี้อาย ค่อนข้างเชื่อฟังคำสั่งและฝึกง่าย มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อเจ้านายและคนในครอบครัว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Boxer/1.jpg)

 laugh2 การดูแล

     ในเรื่องของการให้อาหารนั้น บ๊อกเซอร์เป็นสุนัขที่กินค่อนข้างง่าย ผู้เลี้ยงสามารถให้อาหารทั่วไปได้ตามความเหมาะสม ในเรื่องของการดูแลทำความสะอาดนั้น ควรอาบน้ำสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง หลังอาบหรือพาไปตากฝนแล้วควรเช็ดตัวให้แห้ง เพราะจะเสี่ยงต่อการเป็นโรครูมาติสม์ ผู้เลี้ยงควรมีสถานที่อบอุ่นให้สุนัขบ๊อกเซอร์หลับนอน(ควรเป็นภายในบ้าน) และควรพาสุนัขออกกำลังกายอย่างส่ำเสมอ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Boxer/2.jpg)

 laugh2 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ควรเป็นผู้ที่มีเวลาในการดูแลสุนัขทั้งในเรื่องของความสะอาดและสุขภาพ รวมถึงต้องมีเวลาที่จะเล่นกับสุนัข เพราะบ๊อกเซอร์เป็นสุนัขที่มีความตื่นตัวสูงต้องการเล่นเจ้าของตลอดเวลา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Boxer/3.jpg)

 laugh2 ข้อควรจำ

     ควรหลีกเลี่ยงการผสมเพื่อให้ได้สุนัขบ๊อกเซอร์สีขาว เพื่อไม่ให้เกิดลูกสุนัขที่หูหนวก (สุนัขหูหนวกเป็นข้อบกพร่องร้ายแรง) เพราะบ๊อกเซอร์สีขาวมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งเพราะสภาวะอากาศ

59ZjA7TSNaQ


หัวข้อ: บอร์ซอย บอร์ซอยมีความเฉลียวฉลาด สุภาพ เรียบร้อย ใจดี
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 11, 2014, 11:03:47 AM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10019_con)

 HAPPY2!! ลักษณะทั่วไป

     บอร์ซอยเป็นสุนัขที่มีความสง่างาม ดูผู้ดี สงบนิ่ง มีสายตาเฉียบคมสมกันเป็นสุนัขพันธุ์ล่าสัตว์ และด้วยรูปร่างที่สูง ปราดเปรียวยิ่งช่วยเพิ่งประสิทธิภาพในการวิ่งไล่ล่าเหยื่อจากระยะไกล  พวกเขามีขนยาว เนียนนุ่ม  มีขนเส้นตรง เป็นลอนคลื่น และหยิก สีขนคละกันหลายสี   บแบนกันลำตัว ไม่ฟู ทุกวันนี้ บอร์ซอยเป็นที่นิยมมากในกีฬาสุนัข และงานประกวดงานแข่งขันสุนัขอีกด้วย  อายุโดยเฉลี่ยนของบอร์ซอยอยู่ระหว่าง 10-14 ปี

 HAPPY2!! ความเป็นมา

     บอร์ซอยมาจากคำว่า “borzii” แปลว่ารวดเร็ว ว่องไว มี ถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอาราเบียน  ต่อมาในศควรรษที่ 17 ได้มีถูกนำมายังประเทศรัสเซีย และได้รับการพัฒนาข้ามสายพันธุ์มาจากอาราเบียน  เกรฮาวด์  โดยกลุ่มชนชั้นสูงชารัสเซียนานกว่า 100 ปี เพื่อใช้ในการล่าสุนัขจิ้งจอก หมาป่า และกระต่ายป่าตามทุ่งกว้างของรัสเซีย กระทั่งปี  1936 จึงเริ่มเป็นที่รู้จักในสหรัฐอเมริกาว่าเป็น สุนัขป่าของชาวรัสเซีย (The Russian Wolfhound ) ที่มีไว้สำหรับล่าหมาป่าโดยเฉพาะ และเนื่องจากบอร์ซอยเป็นนักล่าที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จึงเป็นที่นิยมขยายวงกว้างเกือยทั่วทั้งยุโรปภายในหนึ่งปี และเป็นที่รู้จักอย่างดีในแวดวงชนชั้นสูงของอังกฤษ ที่ให้สุนัขพันธุ์บอร์ซอยเป็นของกำนัลแก่ราชวงศ์

 HAPPY2!! ลักษณะนิสัย

     บอร์ซอยมีความเฉลียวฉลาด สุภาพ เรียบร้อย  ใจดี ซื้อสัตย์ ไม่ดุร้าย เป็นมิตรกับสัตว์ที่ตัวขนาดใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเป็นสัตว์พันธุ์เล็กเช่นกันต่าย เลือดนักล่าจะทำงานทันที แต่เป็นมิตรกับเด็ก  พวกเขาต้องการความรักจากเจ้าของ  คอยระวังปกป้องครอบครัว  แต่พวกเขาก็รักอิสระ บางครั้งก็ไม่สุงสิงกับใคร เป็นตัวของตัวเองสูง ถึงขั้นเรียกได้ว่าดื้อจนฝึกยาก นอกจากนี้บอร์ซอยเป็นนักวิ่ง ต้องการพื้นที่กว้างไว้ให้ได้วิ่งเล่นบ้าง

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/2013%20-%20CH%20Aria's%20the%20Quiet%20Man%20small.jpg)

 HAPPY2!! การดูแล

     แม้ว่าบอร์ซอยเป็สุนัขขนาดใหญ่ แต่พวกเขาก็เป็นสัตว์ที่มีไว้เลี้ยงภายในบ้าน  และแม้ว่าเขาจะต้องการความรักของเจ้าของ แต่พวกเขากลับมีนิสัยคล้ายแมว รักอิสระ ไม่แสดงความต้องการ หรือออดอ้อน บอร์ซอยต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน พวกเขามีสัญชาตญาณของนักล่าสูง จึงชอบวิ่งเล่นไล่จับสัตว์ตัวเล็กๆที่เคลื่อนที่ไปมา ดังนั้นควรจะมีรั้วรอบขอบชิด ล้อมบริเวณเฉพาะไว้ให้เขา  การทำความสะอาดควรแปรงขนให้พวกเขาเป็นประจำ อย่างน้อง  3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะขนล่วงเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงพลัดขน  รวมทั้งควรหมั่นดูแลตัดแต่งเล็บ เล็มขนบริวเวณอุ้งเท้า ทำความสะอาดหู  บอร์ซอยจะผลัดเป็นประจำ และผลัดแต่ละครั้งขนร่วงเยอะมาก แต่ ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้บ่อยสอง- สามอาทิตย์ต่อครั้ง  หรืออาบน้ำให้เมื่อเขาสกปรก

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/group7.jpg)

 HAPPY2!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บอร์ซอยเป็นสุนัขรูปร่างใหญ่ หากต้องการเลี้ยง ผู้เลี้ยงควรจะมีห้องแยกให้เขาอยู่โดยเฉพาะ อาจ ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เพียงแค่เป็นห้องเล็กๆให้พวกเขาได้เดินออกกำลังกายไปมาบ้าง  ควรมีมุมให้เขาได้งีบหลับไม่มีใครมารบกวน แต่ก็ต้องมีเวลาพาเขาออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้าง เพื่อให้ได้วิ่งเล่นและได้ออกกำลังกาย ส่วนเรื่องทำความสะอาดควรมีเวลาแปรงขนให้เขาอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์  และอาจต้องมากขึ้นช่วงผลัดขน

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/6-9/a_borzoi.jpg)

 HAPPY2!! ข้อควรจำ

     - บอร์ซอยรักอิสระ รักอิสระ และชอบไล่ล่าสัตว์เล็ก ดังนั้นหากนำมาเลี้ยง ควรให้เวลาเขาได้ทำความรู้จักกับครอบครัว โดยเฉพาะเด็ก เล็ก หรือสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เช่น แมว หรือกระต่าย แต่โดยนิสัยของบอร์ซอยแล้ว เมื่อใดก็ตามที่พวกเขารู้สึกว่าเด็กๆหรือสัตว์เล็กๆในครอบครัวเป็นสมบัติของตน พวกเขาจะดูแลและปกป้องสิ่งนั้นๆอย่างดี
     - บอร์ซอยเป็นสุนัขที่มีช่วงอกลึก มักมีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร  ควรดูแลเรื่องอาหารและการกินเป็นพิเศษ  โดยการให้เขากินอาหารบ่อยๆแต่ปริมาณน้อยลง แทนที่จะให้เขากินอาหาร 2 มื้อใหญ่ๆ ซึ่งจะทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวตลอดทั้งวัน
     - บอร์ชอย  ต้องการพักผ่อนและงีบหลับจากกินอาหารเสร็จ ดังนั้นไม่ควรมีกิจกรรม หรือให้เขาออกกำลังกาย ควรปล่อยให้เขาได้พัก เพื่อลดอาการท้องอืด
     - สุนัขพันธุ์นี้มีโอกาสแพ้ยาชาและยาที่ออกฤทธิ์คล้ายๆ กันได้สูง ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดหลังจากฉีดยา 

3GHi_N6CMtg


หัวข้อ: บอสตัน เทอร์เรียร์ หน้ามึน อารมณ์ดี ขี้เล่น
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 11, 2014, 11:18:51 AM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10002_con)

 ping!  ลักษณะทั่วไป

     สุนัขพันธุ์ บอสตัน เทอร์เรียร์ ลักษณะท่าทาง ของสุนัขสามารถบอกความมุ่งมั่น ความแข็งแรงและมีความตื่นตัว แม้จะเป็นสุนัขตัวเล็กแคระ แต่เขามีโครงสร้างได้สัดส่วน มีความสง่างาม โดยเฉพาะดวงตาโตใหญ่ที่บ่งบอกความรู้สึกได้

 ping! ความเป็นมา

     บอสตัน เทอร์เรียร์พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา แมสซาชูเซ็ตต์ มีบรรพบุรุษของเขาคือสายพันธ์อิงลิช บูลด็อก และอิงลิช ไวท์ เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่เลี้ยงกันในกลุ่มคนรวย ได้รับจดทะเบียนโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1893

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Boston-Terrier1.jpg)

 ping! ลักษณะนิสัย
 
      บอสตันเทอร์เรียนเป็นสุนัขที่เป็นมิตรทั้งกับคนและสัตว์อื่นๆ ร่าเริง กระตือรืร้น ฉลาดหลักแหลม ต้องการความรัก และการเอาใจใส่จากสมาชิกในครอบครัว แต่ก็พร้อมจะมอบความรัก ทุ่มเทให้แก่คนในครอบครัวเช่นกัน พวกเขาเป็นสุนัขที่มีความมุ่งมั่น รักการทำกิจกรรมเกือบทุกชนิด อีกทั้งยังรักความสะอาด ชอบอยู่เงียบๆ ข้างๆ เจ้าของ ไม่ไฮเปอร์ ซนและวุ่นวายให้ปวดหัว

 ping! การดูแล

     
     บอสตัน เทอร์เรียเป็น้องหมาขนสั้น เรียบเนียน ทำความสะอาดง่าย เน้นการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน อาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เน้นดูแลรอบใบหน้า หู และดวงตาเป็นพิเศษ ส่วนการออกกำลังกายควรพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เดินเล่น วิ่ง หรือหากิจกรรมให้ทำร่วมกับครอบครัว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Boston_Terrier_Eden_Forever.JPG)

 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บอสตัน เทอร์เรีย เลี้ยงไม่ยาก สามารถอยู่ได้ในพื้นที่แคบอย่างเช่นอพาร์ตเม้นท์ การทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยาก แต่อาจจะต้องพาไปออกกำลังกายบ้างเพื่อควบคุมน้ำหนักและจะการกับพลังงานส่วนเกิน ไม่ควรเลี้ยงพวกเขาให้อยู่แยกจากคน หรือเลี้ยงไว้นอกบ้าน เพราะพวกเขาต้องการความรักและต้องการอยู่ใกล้คิดกับคนในครอบครัว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/boston-terrier-howie-catches-frisbee-7.jpg)

 ping! ข้อควรจำ
 
     บอสตัน เทอร์เรียน มีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับดวงตาและหู ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่อาย ต้อกระจก ภาวะตาแห้ง หูอักเสบ หูหนวก ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติควรพาไปปรึกษาสัตวแพทย์ทันที

2DJyCEsyBtY


หัวข้อ: บาเซ็นจิ (Basenji) ปราดเปรียว รักอิสระ ดูแลง่าย
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 11, 2014, 11:50:18 AM

(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/19_con)

 lv! ลักษณะทั่วไป

     บาเซ็นจิเป็นสุนัขขนสั้น รูปร่างปราดเปรียว สง่างาม หลังตรง รูปร่างถือว่าไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับสุนัขล่าเนื้อชนิด อื่น ๆ

 lv! ความเป็นมา

     บาเซ็นจิเป็นสุนัขสายพันธุ์อัฟริกา ที่หลายๆ ชนเผ่าเลือกที่จะใช้เป็นสุนัขล่าเนื้อ และถ้าหากว่าใครก็ตามที่ไม่มี บาเซ็นจิเป็นสุนัขคู่กายก็จะไม่ได้รับยกย่องว่าเป็นนักล่าสัตว์เลยทืเดียว ทั้งนี้บาเซ็นจิมีต้นกำเกิดตั้งแต่สมัยยุค ฟาโรห์ เชื่อกันว่าสายพันธุ์ของบาเซ็นจินี้มีมานานกว่าปิรามิดเสียอีก แต่อารยธรรมตะวันตกเพิ่งค้นพบสุนัขสาย พันธุ์บาเซ็นจิในราวปี ค.ศ. 1985 ในดินแดนคองโก และคำว่า บาเซ็นจิ เป็นภาษาสวาฮีลีแปลว่า "สิ่งที่อยู่ใน พุ่มไม้"

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Basenji/2.jpg)

 lv! ลักษณะนิสัย

     บาเซ็นจิเป็นสุนัขฉลาด ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเห่าแต่ก็สามารถใช้เฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี บาเซ็นจิมีสัญชาติญาณ ความเป็นนักล่าสูงอันเป็นลักษณะนิสัยประจำสายพันธุ์ และรักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับขู่เข็ญ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Basenji/1(1).jpg)

 lv! การดูแล 

     อาหารที่ให้สุนัขบาเซ็นจิควรเป็นอาหารของคน ควรควบคุมปริมาณอาหารและ จำนวนมื้อให้เหมาะสม และควรหมุน เวียนวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารเพื่อให้ ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและหลากหลาย บาเซ็นจิเป็นสุนัขที่ดูแลง่าย ไม่ต้อง คอยเแปรงขน และไม่ต้องอาบน้ำให้ บ่อยๆ เพราะว่าบาเซ็นจิจะใส่ใจความ สะอาดของตัวเองมาก โดยบาเซ็นจิจะ ใช้อุ้งเท้าทำความสะอาดให้ตัวเองคล้ายกับแมว

แต่ถึงอย่างไรก็ตามในการดูแลการทำ ความสะอาดสุนัขพันธุ์บาเซ็นจินั้นก็มีราย ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มาอยู่พอสมควร ช่องหู ของบาเซ็นจิควรใช้สำลีพันปลายไม้ ชุมน้ำอุ่น หรือใช้น้ำยาเช็ดหูสำหรับสุนัข ทำความสะอาดซอกหูและช่องหู ใช้สำสี สะอาดชุมน้ำบิดให้แห้งเช็ดทำความสะอาด บริเวณขอบตาให้กับบาเซ็นจิเมื่อมี ขี้ตาบริวเรณตา และควรตรวจสุขภาพฟัน เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหา เหงือก อักเสบหรือคราบหินปูนกาะฟัน

     ส่วนเรื่องของการออกกำลังกาย บาเซ็นจิเป็นสุนัขที่แข็งแรง อยากรู้อยากเห็นตามสัญชาติญาณของสุนัขล่าเนื้อ จึงควรให้บาเซ็นจิได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อว่าบาเซ็นจิจะได้ไม่อ้วนและไม่เครียด

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Basenji/4.jpg)

 lv! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เหมาะสำหรับคนเลี้ยงที่สามารถให้อิสระกับบาเซ็นจิได้เท่าที่ต้องการ สามารถพาเขาไปออกกำลังกายเป็นกระจำทุกวัน มีพื้นที่ให้เขาได้วิ่งเล่น

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Basenji/3.jpg)

 lv! ข้อควรจำ

     เนื่องจากบาเซ็นจิเป็นสุนัขที่รักอิสรภาพสูงทำให้บางที บาเซ็นจิจะอยู่กับเจ้าของได้ยาก     

tufBXaoUNM8


หัวข้อ: บาสเซ็ต ฮาวด์ อ่อนโยน สุภาพ รักสงบ
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 11, 2014, 12:00:05 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10016_con)

 kiss6 ลักษณะทั่วไป

     บาสเซ็ต ฮาวด์มีลำตัวยาว หูยาว  กระดูกใหญ่ หนา แต่ขาสั้น เคลื่อนไหวได้ลคล่องแคล่วสมกับมีสายเลือดสุนัขนักล่าสายพันธุ์ฮาวด์  ขนสั้นเกรียน สีอะไรก็ได้ตามลักษณะสีขนตามสายพันธุ์ฮาวด์ เช่น สีดำ ปนกับสีขาว สีน้ำตาลแทน หรือสีอื่นๆ บาสเซ็ต ฮาวด์เป็นสุนัขที่มีจิตใจดี สุภาพ ไม่ดุร้าย เกรี้ยวกราด และเนื่องจากพวกเขาเป็นสุนัขที่มีสายเลือดนักล่า จึงไวต่อกลิ่น และการไล่ล่าสัตว์ต่างๆ จึงเหมาะกับการนำไปใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเฝ้าเรือกสวน ไร่นา แกะรอย และ ล่าสัตว์

 kiss6 ความเป็นมา

     บาสเซ็ต ฮาวด์ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฝรั่งเศส  เพื่อใช้ในเกมการล่าสัตว์ จนกระทั่งเริ่มเป็นที่นิยมกว้างขวางมากขึ้นในหมู่ราชวงศ์ของฝรั่งเศส ยุคสมัยของสมเด็จมหาจักรพรรดินโปเลียน และในปีค.ศ. 1880 สมเด็จกระราชินีอเล็กแซนดราเลี้ยงเหล่าบาสเซ็ต ฮาวด์ ไว้ในคอกของราชสำนัก และด้วยคุณสมบัติการดมกลิ่นเป็นเลิศของบาสเซ็ต ฮาวด์ จึงถูกนำไปเป็นของขวัญให้แก่เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้ในเกมล่าสัตว์ จนกลายเป็นที่นิยมในเลาต่อมา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/Breed/04335-Basset-Hound-walking-white-background.jpg)

 kiss6 ลักษณะนิสัย

     บาสเซ็ต ฮาวด์เป็นสุนัขอ่อนหวาน อ่อนโยน สุภาพ รักสงบ เป็นเพื่อนที่ดีกับผู้คน  แต่ภายในจิตใจเข้มแข็ง  เป็นสุนัขที่เหมาะนำมาเลี้ยงอยู่ร่วมกับครอบครัว เป็นมิตรกับเด็ก ต้องการความรักจากคนในครอบครัวสูง รักการกินอาหารเป็นชีวิตจิตใจ ต้องระวังเรื่องน้ำหนักเกิน หากต้องการฝึกวินัยกับพวกเขาควรฝึกด้วยความรัก ความอ่อนโยน  ไม่ควรใช้ความรุนแรง หรือบังคับ เพราะพวกเขาอาจจะดื้อ หรือเกิดอาการต่อต้าน  และเนื่องจากพวกเขามีสัญชาตญาณของนักล่า บางครั้งเขาอาจเสียสมาธิขณะฝึก หากเจอสัตว์ตัวเล็กๆ ผู้เลี้ยงต้องมีความอดทน และให้เวลาพวกเขาในการฝึกวินัย

 kiss6 การดูแล
 
     บาสเซ็ต ฮาวด์เป็นสุนัขขนสั้น หนา เรียบไม่ชี้ฟู จึงง่ายต่อการดูแลรักษาความสะอาด แปรงขนเพียง  2 ครั้งต่อสัปดาห์ อาบน้ำ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ในช่วงฤดูผลัดขนควรแปรงขนก่อนอาบน้ำทุกครั้ง  ขนรอบๆ ใบหู และในหูควรเช็ดและทำความสะอาดเป็นพิเศษ เพราะเวลาพวกเขาวิ่งเล่น ดื่มน้ำ กินอาหาร หูจะเปรอะเปื้อน สัมผัสสิ่งต่างๆได้ง่ายจึงเสี่ยวต่อการติดเชื้อ และสะสมเชื้อโรค

     การออกกำลังกาย บาสเซ็ต ฮาวด์ต้องการการออกกำลังเป็นประจำทุกวันอย่างเหมาะสม เพื่อควบคุมน้ำหนัก เสริมสร้างสุขภาพกระดู และข้อต่างๆให้แข็งแรง นอกจากนี้พวกเขายังมีความขี้เกียจอยู่ในตัว การออกกำลังกายจะช่วยให้เขาได้ยืดเส้นยืดสาย และตื่นตัว ผู้เลี้ยงควรใส่สายจูงขณะออกกำลังกาย เพราะพวกเขามักไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง และชอบเดินตามกลิ่นต่างๆ หรือวิ่งไล่สัตว์ตัวเล็กๆ อย่างไรก็ตาม เพียงพาเดินตามทางเท้าถือว่าไม่เพียงต่อต่อการเผาผลาญพลังงานของบาสเซ็ต ฮาวด์ และอาจนำไปสู่โรคอ้วน ความเครียด และโรคข้อกระดูกต่างๆ ดังนั้นนอกจากเดินเฉยๆ แล้ว ควรให้พวกเขาได้วิ่งเล่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรคทั้งทางร่างกายและจิตใจ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/Breed/basset-hound-howard_34698_990x742.jpg)

 kiss6 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บาสเซ็ต ฮาวด์เป็นสุนัขที่สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แต่โดยธรรมชาติของพวกเขาแล้ว เหมาะกับเลี้ยงไว้นอกบ้าน เนื่องจากมีสายเลือดสุนัขล่าสัตว์  จึงไม่เหมาะกับจะเลี้ยงไว้ในอพาร์ต นอกจากนี้ บาสเซ็ต ฮาวด์ยังต้องการการออกกำลังเป็นประจำ ผู้เลี้ยงควรพาเขาออกไปเดินเล่นนอกบ้านหรือหาเกมให้เขาไว่วิ่งไล่ล่าบริเวณสนามหญ้าจะถูกใจพวกเขาเป็นพิเศษ การดูแลทำความสะอาด ผู้เลี้ยงควรมีเวลาแปรงขนให้อย่างน้อง 2 ครั้งต่อสัปดาห์

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/Breed/BassetHound.jpg)

 kiss6 ข้อควรจำ

     โรคหรือปัญหาสุขภาพสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นพิเศษคือ โรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน ซึ่งไม่ได้มีสามารถมาจากการกินอาหารมากเกินไปเท่านั้น แต่ยังเกิดจากหมอนรองกระดูกมีปัญหา  นอกจากนี้ยังมีโรคสะบ้าเคลื่อน โรคหนังตาม้วนกลับ โรคโรคตาซึ่งเกิดจากความดันภายในลูกตาสูง และ โรคกระเพาะอาหารบิดเป็นต้น ดังนั้นผู้เลี้ยงควรสังเกตอาการผิดปกติ พาไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรคที่อาจจะเกิดขึ้น หรือสามารถรักษาได้ตั้งแต่เริ่มเป็นในอาการเบื้องต้น และหากในครอบครัวมีเด็กเล็กก็ควรระวังไม่ให้ขึ้นไปขี่หลังของพวกเขาเล่น เพราะ จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่หลัง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อกระดูกได้ง่าย


หัวข้อ: บิชอง ฟริเซ่ ร่าเริง อ่อนหวาน ปราดเปรียว
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 11, 2014, 12:11:19 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10034_con)

 lsv-smile ลักษณะทั่วไป

     บิชอง ฟริเซ่เป็นน้องหมานิสัยร่าเริง มีความสุข รูปร่างเล็ก ตาสีเข้ม ขี้สงสัย หางปุกปุย ขนเหมือนปุยฝ้าย หยิกฟูกลมเป็นลูกบอล ขนชั้นนอกหยาบ ส่วนขนชั้นในนุ่มเหมือนแพรไหม ขนสีขาว แต่ก็มีเชดสีครีม สีแอปริคอท รอบ ๆ หูหรือขนบนลำตัว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/bichon_frise(1).jpg)

 lsv-smile ความเป็นมา

     บิชอง ฟริเซ่มีการพัฒนาสายพันธุ์ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน  เมื่อสุนัขพันธุ์บาร์เบท (สุนัขสายพันธุ์วอเตอร์สเปเนียลตัวใหญ่)  ผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ กับสุนัขบ้านตัวสีขาวตัวเล็ก ๆ ซึ่งต่อมาบาร์เบทก็ได้พัฒนามาเป็น บาร์บิชอง แคม ซึ่งเรียกสั้น ๆ ว่า บิชอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่คล้ายกัน พัฒนามาจากบาร์เบ็ตไปเป็นพูดเดิล และมอลทีส  แม้ว่าตอนนี้จะเป็นพันธุ์ที่แยกออกจากกัน แต่ก็มีบรรพบุรุษที่เหมือนกัน 
 
     บิชอง ฟริเซ่ ปรากฎขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากวอร์เทอร์ สเปเนียล นำเข้ามาค้าขายโดยกลาสีเรือชาวสเปน ส่งผ่านจากทวีปหนึ่งสู่อีกทวีปหนึ่ง จนท้ายที่สุดกลายมาเป็นที่นิยมในกลุ่มชนชั้นสูงและราชวงศ์ในฝรั่งเศส แล้วก็เป็นพันธุ์ที่เหล่าจิตกรในโรงเรียนศิลปะในสเปนชื่นชอบ แล้วก็มักนำพวกเขาเข้าไปอยู่ในงานศิลปะ รวมทั้งมีคณะละครสัตว์นำบิชอง ฟริเช่ไปใช้ในการแสดงต่าง ๆ เพื่อเอนเตอร์เทนผู้ชม าวันนี้พวกเขาจึงเป็นน้องหมาที่มีความสุขทุกครั้งที่ได้พบปะฝูงชนไม่ว่าจะคนในครอบครัวหรือคนแปลกหน้าก็ตาม

 lsv-smile ลักษณะนิสัย

     บิชอง ฟริเซ่ เป็นสุนัขที่มีนิสัย ร่าเริง อ่อนหวาน ปราดเปรียว กระฉับกระเฉง กระโดดโลดเต้น แอคทีฟ  มีพลังงานเหลือเฟือ สามารถผจญภัยไปได้ไกล ถ้าพลาด สายจูงหลุดเป็นเรื่อง กระโดดข้ามรั้วหายไปนานเลยล่ะค่ะ แต่เขาก็เป็นน้องหมาที่ใจดีสุภาพอ่อนโยน  ขี้เล่น เล่นได้ทั้งวี่ทั้งวัน  รักทุกคนเลยเป็นน้องหมาอารมณ์ “Happy go Lucky” ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนแปลกหน้า เจ้าของ บุรุษไปรษณีย์ ยันคนเก็บขยะ แต่ก็พอจะสามารถเป็นน้องหมาเฝ้าบ้านได้ค่ะ เข้ากันได้ดีกับเด็กคนในครอบครัว  แต่เพราะเขารักทุกคนเขาก็เลยอ่อนไหวและเจ็บปวดได้ง่าย เสียใจได้ง่าย เวลาที่เขาชอบมากที่สุดก็คือ นอนกกอยู่บนตักใครสักคน โดยเฉพาะคนที่เขารัก ชื่นชอบ อ่อนไหวด้วย รักด้วย ตอบสนองด้วย พวกเขาเป็นน้องหมาที่รักอิสระ มีเสน่ห์  แต่ก็เป็นสุนัขเฝ้าบ้านได้นะ ชอบอยู่กับคน

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/bichon_frise_20.jpg)

 lsv-smile การดูแล

     การทำความสะอาด ต้องใช้แชมพูแบบสำหรับผิวแพ้ง่ายเท่านั้น เพราะผิวและขนแพ้ง่ายมาก ขนของบิชอง ฟริเซ่ต้องการการแปรงเป็นประจำทุกวัน คอยตัดแต่งเล็มขนที่ติดเป็นสังกะตังเป็นประจำทุกวัน จะไม่ค่อยผลัดขนแต่ขนจะเป็นแผงสังกะตัง แล้วนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่ควรเลี้ยงเขาไว้นอกบ้าน 
 
     บิชอง ฟริเซ่ ต้องการอาบน้ำบ่อยหากเทียบกับน้องหมาพันธุ์อื่น ๆ ที่มีขนยาวปานกลาง ต้องอาบน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ หรืออย่างนานสุดไม่ควรเกินเดือนค่ะ ถ้าเขาไม่ได้ออกไปข้างนอกบ่อย ๆการอาบน้ำจะล้างน้ำมันบนขนที่เป็นสาเหตุของการทำให้ขนติดเป็นสังกะตัง หูก็ควรดูแลอย่างดี ถ้าเลี้ยงในบ้านก็ควรตัดเล็บ เพราะถ้ายาวเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้
 
     บิชอง ฟริเซ่ต้องการการออกกำลังกาย คนส่วนใหญ่จะแค่ให้อาหาร กับพาไปอาบน้ำ ต้องออกกำลังกายแต่จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับอายุ  บิชอนต้องการการออกกำลังน้อย เพราะตลอดทั้งวันพวกเขาวุ่นวาย กระโดดไปโน่น เล่นไปนี่ ตลอดเวลา มีพลังงานเยอะเกินพิกัด น้องหมาพันธุ์นี้ตัวเล็ก ไม่ต้องการพื้นที่ในการออกกำลังกายมาก ให้เดินเล่นหน้าบ้าน เล่นลูกบอลก็เพียงพอ เพราะไม่ได้เป็นสายพันธุ์ที่ไว้ล่าสัตว์ตลอดทั้งวัน หรือเดินขึ้นภูเขา

 lsv-smile ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เหมาะกับอพาร์ตเม้นท์ อยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แต่พวกเขาก็ต้องการการออกกำลังกาย เพราะมีพลังงานเหลือเฟือมาก แต่ก็ไม่ควรถูกทิ้ง หรือเลี้ยงไว้นอกบ้าน ไม่ต้องการพื้นที่ในบ้านมากมาย พวกเขาปรับตัวได้กับทั้งอุณหภูมิหนาวหรือร้อน แต่ก็ไม่ควรหนาวหรือร้อนจนเกินไป


 lsv-smile ข้อควรจำ
 
     ความผิดปกติของกระดูกสะบ้าหัวเข่า มีผลทำให้เคลื่อนไหวไม่ดี กะเผลก บางทีก็เข่าล็อก ฟันร่วง ต้อกระจก ติดเชื้อที่หู ผู้เลี้ยงควรสังเกตอย่างใกล้ชิดเมื่อมีอาการผิดปกติ และควรพาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

7bCkNLzfTi0


หัวข้อ: บีเกิล เฉลียวฉลาด ซุกซน คล่องแคล่วว่องไว
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 03:46:23 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/20_con)

 THANK!! ลักษณะทั่วไป

     บีเกิลถูกจัดอยู่ในกลุ่ม "สุนัขไล่หมาจิ้งจอกขนาดเล็ก" ขนสั้นเรียบลำตัวมีความยาวของลำตัวมากกว่าด้านสูงเล็กน้อย หูชิดกับหัว ปกติสีของบีเกิ้ลมี 3 สี ขาว ดำและแทน แต่สีที่เด่นและเป็นที่ยอมรับ คือสีผสมกันทุกสีจะเป็นที่ยอมรับ สุนัขบีเกิ้ลเป็นสุนัขที่อยู่ในกลุ่มต้นๆ ของสุนัขล่าสัตว์ แผลเป็นส่วนใหญ่มักเกิดจากการล่าสัตว์ รอยตัด รอยแหว่งที่หู ที่อาจเกิดจากหญ้า หนาม ใบไม้เป็นพิษ เป็นต้น

 THANK!! ความเป็นมา

     ต้นกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์บีเกิลนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าสุนัขกลุ่ม Hound สายพันธุ์นี้น่าจะมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษตั้งแต่ยุคสมัยก่อนที่จักรวรรดิโรมันจะเข้ายึดครอง บางรายงานกล่าวว่ามีการพบสุนัขสายพันธุ์นี้ในสมัยฝรั่งเศสและกรีกโบราณ และมีหลักฐานที่แน่ชัดชิ้นหนึ่งซึ่งบ่งชี้ว่ามีการใช้สุนัขสายพันธุ์บีเกิลนี้สำหรับล่าสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างกระต่าย ตั้งแต่ยุคสงครามครูเสด

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Beagle/1.jpg)

     สุนัขสายพันธุ์บีเกิลสามารถพบเจอได้เกือบทุกพื้นที่ของประเทศอังกฤษเนื่องจากเป็นสายพันธุ์ซึ่งชาวอังกฤษนิยมเพาะมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง ความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของพวกเค้าคือมีความคล่องแคล่วปราดเปรียวอย่างสูงในการไล่ล่าและแกะรอยกระต่ายป่า ดังนั้นนายพรานชาวอังกฤษจึงมักพาเจ้าบีเกิลออกไปเป็นฝูงๆ แต่เช้ามืดเพื่อดมกลิ่นหาเหยื่อ เมื่อพวกเค้าได้กลิ่นเป้าหมายก็จะเห่าบอกเจ้านายและตามตีวงล้อมอย่างไม่ลดละ บีบให้เหยื่อเหลือทางหนีน้อยที่สุด (และหากเจ้ากระต่ายตัดสินใจหนีออกทางที่เหลืออยู่ก็มักต้องพบนายพรานดักรออยู่นั่นเอง) ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมของนายพรานชาวอังกฤษเป็นอย่างมาก

     ในเวลาต่อมา ได้มีผู้นำสุนัขสายพันธุ์บีเกิลไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมในระดับหนึ่ง หากแต่บีเกิลที่เข้ามาในสหรัฐอเมริกาช่วงแรกๆ นั้นก็ยังไม่มีรูปร่างสวยงามตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์เหมือนอย่างบีเกิลของประเทศอังกฤษ กระทั่งถึงปี ค.ศ.1870 จึงมีนักพัฒนาสายพันธุ์สุนัขชาวสหรัฐฯ กลุ่มหนึ่งเริ่มหันมาสนใจพัฒนาสายพันธุ์ของบีเกิลอย่างจริงจัง จนทำให้ได้บีเกิลซึ่งมีลักษณะดี เป็นที่ยอมรับ ถูกต้องตามมาตรฐานในที่สุด ซึ่ง American Kennel Club ก็ได้ทำการจดทะเบียนรับรองสุนัขสายพันธุ์บีเกิลตัวแรกเมื่อปี ค.ศ.1885 และต่อมาในปี ค.ศ.1888 จึงได้มีการก่อตั้งชมรมผู้เพาะพันธุ์บีเกิลแห่งสหรัฐฯ ขึ้นอย่างเป็นทางการ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Beagle/4.JPG)

     ปัจจุบันสุนัขสายพันธุ์บีเกิลยังคงเป็นสุนัขซึ่งมีผู้นิยมเลี้ยงเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยความน่ารัก คล่องแคล่ว และเป็นมิตรกับทุกคน อย่างไรก็ตามบีเกิลอาจไม่เหมาะนักสำหรับการเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เพราะความที่เค้าต้องการสังคมสูง ชอบเล่นสนุก ชอบผูกมิตรกับสมาชิกในครอบครัวและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ดังนั้นหากปล่อยให้เค้าต้องอยู่ตามลำพังเป็นเวลานานจนเกินไปอาจทำให้เค้าเกิดความเครียดและนำไปสู่พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์หลายๆ ประการ

 THANK!! ลักษณะนิสัย
       บีเกิลเป็นสุนัขที่เป็นมิตร ร่าเริง ไม่ขี้อาย ไม่ขี้กลัว และไม่ก้าวร้าว ต่อคนหรือสัตว์อื่นๆ ด้วยขนาดที่กระทัดรัด และด้วยที่เค้าชอบคน บีเกิลจึงเป็นสุนัขที่เข้ากับเด็กๆได้ดี บีเกิ้ลสามารถปรับตัวเข้ากับคนได้เป็นอย่างดีจนเค้าไม่เหมาะจะเป็นสุนัขกลางแจ้ง การที่ถูกทิ้งไว้หลังบ้านตลอดเวลา จะทำให้เค้าเบื่อซึ่งจะแสดงออกโดย การเห่า หอน ขุด และพยายามหนี้

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Beagle/2.jpg)

 THANK!! การดูแล

     การดูแลทำความสะอาดให้สุนัขขนสั้นอย่างบีเกิลนั้นแสนง่าย แค่อาบน้ำให้เค้าอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ จากนั้นก็เช็ดหรือเป่าตัวของเค้าให้แห้งพร้อมๆ กับแปรงขนไปด้วย หรือถ้าไม่สกปรกมากอาจใช้แค่ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดตัวให้เค้าก็ได้ ส่วน เรื่องการแปรงขนให้บีเกิลสามารถทำได้โดยง่าย เนื่องจากว่าเค้ามีขนสั้นและสีเข้ม ควรแปรงขนให้แก่น้องบีเกิลทุกๆ 3-4 วัน เพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วออกไปและช่วยเพิ่มความเงางามแข็งแรงแก่เส้นขน

และถึงแม้ว่าสุนัขสายพันธุ์บีเกิลนี้จะมีขนาดเล็ก แต่ด้วยเหตุที่จุดประสงค์ดั้งเดิมที่เค้าถูกพัฒนาขึ้นมาคือการเป็นสุนัข สำหรับล่าสัตว์ ทำให้พวกเค้ามีพลังงานในตัวมากและชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง จึงควรพาน้องบีเกิลไปออกกำลังกายบ้างอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น และหากอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งไม่มีบริเวณกว้างขวางนัก อย่างเช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนต์ ก็จะต้องพิจารณาให้ดีว่าพอมีเวลาและมีสวนสาธารณะใกล้เคียงที่สามารถพาเค้าไปเดินเล่นออกกำลังได้หรือไม

 THANK!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บีเกิลเป็นสุนัขที่เหมาะกับเด็กๆ ดังนั้นครอบครัวที่มีเด็กจึงเหมาะกับการเลี้ยงสุนับพันธุ์นี้มากๆ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Beagle/2.jpg)

 THANK!! ข้อควรจำ

     บีเกิลไม่ชอบและจะเบื่อถ้าถูกทิ้งอยู่ตามลำพัง ตัวเดียวได้เป็นเวลานานๆ ถ้าพวกเขารู้สึกเบื่อ เขาจะซนมาก คอยจะขุดหลุม หลีกหนี หรือดึงเสื้อผ้าที่ตากบนราวลงมาเล่น   

BAf7lcYEXag


หัวข้อ: บูลล์เทอร์เรีย น่ารัก อารมณ์ดี และมีจิตนาการสูง
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 04:03:41 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/21_con)

 ju_ju!! ลักษณะทั่วไป

      บูลเทอร์เรีย เป็นสุนัขในกลุ่ม (Terrier Group) คือ หนึ่งในสุนัขประเภทเทอร์เรีย 4 สายพันธุ์ ที่ใช้ในการกัดสุนัข ได้แก่ American Pittbull Terrier, Staffordshire Bull Terrier, Miniature Bull Terrier, และ Bull Terrier ทั้งนี้ สุนัข บูลเทอร์เรีย จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 15 ปี น้ำหนักมาตรฐานอยู่ระหว่าง 52-62 ปอนด์ ส่วนสูงอยู่ที่ 21-22 นิ้ว บูลเทอร์เรีย ดูแลง่าย ขนสั้น มีหลายสี ทั้งสีขาวล้วน ขาวแต้มดำหรือสีน้ำตาล และลายเสือ บูลเทอร์เรีย นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพละกำลัง และความงดงาม มีลําตัวและโครงสร้างที่แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มีส่วนสัดที่รับกันอย่างพอดี มีลักษณะปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว กระตือรือร้น มีไหวพริบและความฉลาด แบบฉบับของ สุนัข บูลเทอร์เรีย อันเป็นที่ยอมรับกันนั้นต้องขาวบริสุทธิ์ คือขาวปลอด จมูกดำปิ้ด รูปร่างสันทัดล่ำสัน ขากรรไกรแข็งแรง และนัยน์ตาเป็นรูปสามเหลี่ยม นั่นแหละเขาหละ

 ju_ju!! ความเป็นมา

    สุนัข บูลเทอร์เรีย จัดอยู่ในกลุ่มเทอร์เรีย มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ราวปี ค.ศ.1835 เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง บูลด็อก (Bulldog)กับ อิงลิชเทอร์เรียสีขาว (English White Terrier )ได้ออกมาเป็น "บูลแอนด์เทอร์เรีย" แต่เนื่องจากตัวเล็กเกินไป สองสามปีต่อมาจึงมีคนเอา บูลแอนด์เทอร์เรีย ไปผสมกับ สแปนิช พอยน์เตอร์ (Spanish Pointer Blood) ทำให้ได้บูลเทอร์เรียที่ตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งการพัฒนาสายพันธุ์ก็มีมาเรื่อยๆ กระทั่งในปี ค.ศ. 1850 มีการผสมพันธุ์ให้ขนสั้นลงมีสีขาวล้วน

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Bull%20Terrier/1.jpg)

 ju_ju!! ลักษณะนิสัย

     สุนัขบลูเทอร์เรีย เป็นนักสู้ที่อ่อนหวานโดยธรรมชาติ เป็นนักสู้ที่ใจถึง เป็นสุนัขอารักขาที่กระฉับกระเฉง รักครอบครัวและอาณาเขตของเขาโดยสัญชาติญาณ ผู้ที่อาศัยอยู่ตามอพาร์ทเม้นท์ซึ่งมีเนื้อที่จำกัด จะนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อช่วยอารักขา เนื่องจากเป็นสุนัขอารักขาที่ดี แล้วยังเป็นสุนัขที่ประหยัดอีกด้วย บางครั้งอาจจะดื้อรั้นไปบ้าง แต่ก็เป็นสุนัขที่เข้ากับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เขาอยู่ในโอวาทควรมีการฝึกปรือตั้งแต่วันแรกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจะเลี้ยงเขารวมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น โดยธรรมชาติแล้วจะก้าวร้าวกับสุนัขที่ทำตัวเป็นเจ้าถิ่น

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Bull%20Terrier/2.jpg)

 ju_ju!! การดูแล

     บูล เทอร์เรียร์ จะมีการผลัดขน 2 ครั้งต่อปี ขนที่หมดอายุสามารถเอาออกได้เป็นประจำทุกวันโดยการแปรงขน ควรตรวจเล็บและนิ้วติ่ง เป็นประจำทุกเดือนและคอยตัดเล็บโดยใช้กรรไกรตัดเล็บสุนัข บูล เทอร์เรียร์ โดยธรรมชาติผิวหนังจะค่อนข้างแพ้แสงแดดดังนั้นควรเอาใจใส่ดูแลในเดือนที่มีอากาศร้อนเป็นพิเศษ บูล เทอร์เรียร์ ต้องการรั้วรอบขอบชิดเพื่อ ความปลอดภัย บริเวณสนามวิ่งเล่นที่มีขนาดใหญ่สักหน่อยเพื่อจะได้ไม่ต้องล่ามโซ่หรือผูกเขาไว้กับที่ และสิ่งสำคัญที่พวกเขาต้องการคือมิตรภาพจากพวกเรา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Bull%20Terrier/3.jpg)

 ju_ju!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บูล เทอร์เรียร์ สามารถทนพฤติกรรมของของเด็กได้มาก แต่จะไม่ทนหากถูกแหย่และสามารถเกเรถ้าถูกแหย่ให้โกรธเสมอๆ เจ้าของ บูล เทอร์เรียร์ ต้องมีความรับผิดชอบสูงและการผสมพันธุ์ควรจะอยู่ในความรับผิดชอบและการดูแลของผู้เป็นเจ้าของสุนัขเท่านั้น

 ju_ju!! ข้อควรจำ

     แม้ว่าโดยทั่วไปสุขภาพจะดีก็ตาม แต่ บูล เทอร์เรียร์ ก็มีแนวโน้มเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังได้ง่าย โดยเฉพาะแผลจากการถูกแมลงกัด ส่วนในลูกสุนัขควรตรวจดูว่าหูหนวกหรือไม่

onquT6s3X-s


หัวข้อ: บอร์นีส เมาน์เทนด็อก มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 04:13:48 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10015_con)

 tongue3 ลักษณะทั่วไป

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกเป็นหนึ่งในกลุ่มสายพันธ์สวิสส์  เมาน์เทนด็อก  แต่เป็นพันธุ์เดียวเท่านั้นที่มีขนยาวสลวยราวแพรไหม เติบโตในสภาพอากาศหนาวเย็น  ฉลาดหลักแหลม ร่างกายแข็งแรงและแข็งแกร่งสามารถทำงานหนักและทำงานได้ดีบนภูเขา ซึ่งเป็นถิ่นต้นกำเนิดของเขานั่นเอง เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่โครงสร้างแข็งแรง มีขนสีดำ สีสนิมและสีขาวอยู่บนตัว และมีความโดดเด่นเฉพาะตัว  เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกตัวผู้จะดูแข็งแกร่งทะมัดทะแมง  ในขณะที่ตัวเมียจะดูแจ่มใสร่าเริง อายุโดยเฉลี่ย 14 ปี

 tongue3 ความเป็นมา

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงก่อนคริสตวรรษที่ 17  ซึ่งชื่อสายพันธุ์ได้รับการตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขตการปกครองแห่งเบิร์น  จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าว ด้วยลักษณะรูปร่างที่ใหญ่ มั่คง แขงแรง สุขุม มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ทำให้พวกเขาถูกเลือกนำไปใช้ในการทำงาน เพื่อการขนส่ง หรืองานดูแลฟาร์ม พื้นที่การเพาะปลูก อีกทั้งยังเป็นมิตรที่ดีเยี่ยมกับชาวไร่ชาวนา ด้วยเหตุนี้เองจุดประสงค์หลักของการเลี้ยง เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกแรกเริ่มเดิมทีจึงเลี้ยงไว้เพื่อเป็นสุนัขในฟาร์ม

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/Breed/bernese-mountain-dog-01.jpg)

 tongue3 ลักษณะนิสัย

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง กล้าหาญ ซื่อสัตย์  ตื่นตัว ฉลาด เป็นมิตร อ่อนโยน  ใจดีมีเมตตาเข้ากับสัตว์อื่นๆได้ง่าย  ไม่ก้าวร้าวหรือขี้อาย ยืนตั้งตัวตรงสง่าแม้จะพบเจอคนแปลกหน้าก็ตาม  แต่ง่ายที่จะถูกยั่วยุจากสัตว์หรือวัตถุขนาดเล็กที่เคลื่อนไหวไปมา เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกชอบอยู่และเป็นส่วนหนึ่งกับคนในครอบครัว ต้องการความรักและความอบอุ่นมากๆ

 tongue3 การดูแล
 
     การออกกำลังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเบอร์นีส เมาน์เทนด็อก  เพราะพวกเขาสืบเชื้อสายสุนัขฟาร์มมาแต่กำเนิด อย่างไรก็ตามการฝึกฝนวินัยก็จำเป็นมากเช่นกัน โดยวิธีการออกกำลังการที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา คือการพาเดินช้าๆระยะทางยาวๆ รอบเมืองหรือในสวนสาธารณะ นอกจากนี้ เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก ยังรักและต้องการเวลาอยู่กับคนในครอบครัว พวกเขาจะมีความสุขมากๆถ้าได้อยู่ใกล้และมีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ในส่วนการดูแลความสะอาด เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก  มีแนวโน้มว่าจะพลัดขนบ่อยเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนให้เขาอย่างสม่ำเสมอ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/Breed/BerneseMountainDogKLEOPATRAHERUSPOSEIDONAS.JPG)

 tongue3 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่สนใจเลี้ยงเบอร์นีส เมาน์เทนด็อก  จำเป็นต้องมีเวลาให้พวกเขาค่อนข้างสูง ทั้งการพาออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ สภาพขน และ เวลาที่จะอยู่เป็นเพื่อนกับเขาอย่างใกล้ชิด

 tongue3 ข้อควรจำ

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกบริเวณสะโพกและข้อขา นอกจากนี้สิ่งที่ผู้เลี้ยงจะต้องระวังก็คือ ถึงแม้เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก จะไม่ได้มีสัญชาตญาณนักล่ามาแต่กำเนิด แต่บ่อยครั้งที่พวกเขาวิ่งไล่กัดสัตว์หรือสิ่งทีชีวิตตัวเล็กๆ และบางตัวก็มีแนวโน้มจะเป็นนักขุด เรื่องการฝึกวินัยจึงจำเป็นสำหรับพวกเขา 

r1xZbxVHGw0


หัวข้อ: ปอมเมอเรเนียน ตัวเล็ก เห่าเก่ง และสวยงาม
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 04:35:00 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/22_con)

 smiley4 ลักษณะทั่วไป

     สุนัขปอมเมอเรเนียนหรือเรียกสั้นๆ ว่า น้องปอมอยู่ในกลุ่ม Toy Group มีขนาดกระทัดรัด หลังสั้น ขนชั้นล่างอ่อนนุ่ม แน่นทึบ ขนชั้นนอก ยาว ฟู มีมาก ค่อนข้างหยาบ ตำแหน่งโคนหางสูง ขนหางแน่น เป็นพวง หางวางราบบนหลัง ปอมส่วนใหญ่ ท่าทางตื่นตัว ร่าเริง อยากรู้อยากเห็น แสดงความฉลาดให้เห็นได้เสมอ มีย่างก้าวที่คล่องแคล่ว สง่างาม และมั่นคง

 smiley4 ความเป็นมา

     บรรพบุรุษของน้องปอมย้อนกลับไปถึงยุคก่อนคริสตกาล พบภาพวาดในแผ่นหินและรูปหล่อสัมฤทธิ์ตามโลงศพที่พบในอียิปต์ พบโครงกระดูกสุนัขพันธุ์เล็กคล้ายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ในอุโมงค์ที่บรรจุศพสมัยโบราณของชาวอียิปต์

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pomeranian/3.jpg)

     เชื่อกันว่า ปอมเมอเรเนียนได้รับการพัฒนาให้เป็นน้องปอมในปัจจุบัน ครั้งแรกที่เมืองปอมเมอเรเนีย ประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในยุโดรเหนือแถบทะเลบอลติก ดินแดนกว้างใหญ่จากตะวันตกของเกาะรูเกนถึงแม่น้ำวิทูลา ที่แห่งนี้มีการเลี้ยงสุนัขอย่างแพร่หลาย ทั้งเพื่อให้เป็นสัตว์และเพื่อให้เป็นสุนัขอารักขา ปอมเมอเรเนียนมีต้นกำเนิดจากพันธุ์สปิทซ์ในสมัยโบราณ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมเมอเรเนียนพัฒนาจากสุนัขพันธุ์ซามอยด์

     ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศรัสเซียแถบไซบีเรีย บางคนเชื่อว่าพัฒนามาจากสุนัขป่า ซึ่งอาศัยอยู่ตามถ้ำในประเทศเยอรมัน และถูกนำมาใช้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะในทวีปยุโรปตอนกลางและตอนล่าง นำมาพัฒนาในยุโรปเพื่อช่วยในการเลี้ยงแกะ ซึ่งบรรพบุรุษของปอมฯ น่าจะมีน้ำหนักมากถึง 30 ปอนด์ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมฯ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีซ โดยอ้างหลักฐานจากภาพวาดสมัยโบราณหลายภาพที่มีอายุ 400 ปีก่อนคริสตกาล หรือเกือบประมาณ 2500 ปีมาแล้ว มีภาพของสุนัขขนาดเล็กที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนสุนัขปอมฯ ในปัจจุบัน คือ Stop ที่เด่นชัด ช่วงปากแหลม หูสั้น ลักษณะการเดินและการแสดงออกเหมือนกับที่พบได้ในปัจจุบันทุกประการ ยกเว้นแต่ตำแหน่งของหางที่อยู่ต่ำเกินไปเท่านั้น

     แสดงว่าสุนัขพันธุ์ปอมนี้มีขนาดเล็กมากตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ไม่ใช่เพิ่งพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมาตามที่มีคนในประเทศอังกฤษอ้างเสมอ ประมาณปี 1800 สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย ทรงมีความชื่นชอบในสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนและส่งสุนัขของพระองค์ลงประกวด ทำให้เกิดความนิยมปอมเมอเรเนียนอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษ และเพราะความที่พระองค์โปรดปรานสุนัขที่มีขนาดเล็ก

     ผู้เพาะพันธุ์หลายคนเริ่มที่จะคัดสุนัขที่มีขนาดเล็ก ปัจจุบันปอมฯ ที่เราเห็นอยู่มีขนาดที่เล็กลงจากปอมฯ ที่เป็นต้นตำรับ 4-5 ปอนด์ ความฉลาดและความสามารถของปอมฯ ทำให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นพระเอกในคณะละครสัตว์อย่างต่อเนื่อง ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเยอรมัน นิยมเลี้ยงกันเป็นฝูง บางแห่งทำเป็นสุนัขลากเลื่อนก็มี ปอมฯ เข้าสู่อังกฤษช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น มีการตั้งชมรมคือ English Pomeranian Club ในปี 1891 ภายหลังสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียทรงออกงานพร้อมสุนัขพันธุ์นี้บ่อยครั้ง ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว

ส่วนในประเทศอเมริกามีการปรากฎตัวครั้งแรกของปอมฯ ที่งานกระกวดสุนัขแห่งหนึ่งประมาณปี 1892 ไม่กี่ปีหลังจากนั้นมีการสั่งนำเข้าอีกเกือบ 200 ตัว มาตรฐานของปอมฯ โดยทั่วไป รูปรางจะเหมือนสุนัขจิ้งจอก มีขนาดกลาง ตาเป็นวงรีสีดำ หูเล็กตั้งตรง ลำตัวสั้นขนาดกระทัดรัด หางเป็นพวงแผ่อยู่บนส่วนหลัง

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pomeranian/1.jpg)

 smiley4 ลักษณะนิสัย

     น้องปอมส่วนใหญ่มีการแสดงออกถึงความเฉลียวฉลาด ร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ขี้ประจบ แต่เป็นสุนัขค่อนข้างตกใจง่าย เห่ามาก ยิ่งตัวเล็กยิ่งเห่าเก่ง

 smiley4 การดูแล

     การที่จะรักษาขนของสุนัขปอมเมอเรเนียน ให้สวยงามนั้นทำได้ง่ายมาก เจ้าของสุนัขใหม่ๆส่วนใหญ่จะเชื่อว่า จะต้องอาบน้ำให้สุนัขทุกสัปดาห์ และต้องคอยแปรงขนตลอด ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด และจะทำให้ขนของเค้าเสียอีกด้วย

     การอาบน้ำบ่อยเกินไป จะทำให้ขนของปอมเมอเรเนียนแห้ง บาง และทำให้ขนร่วงตลอดเวลา การใช้โลชั่น และน้ำยาทำความสะอาดชนิดต่างๆ ติดต่อกันก็จะทำให้ผิวหนังอักเสบได้ ส่วนใหญ่แม้ว่าขนชั้นนอกจะสกปรกแล้ว แต่ขนชั้นในก็จะยังคงสะอาดอยู่ ด้งนั้นการแปรงขน เพียงสัปดาห์ละครั้ง และใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่อุ่นๆ ลูบขน จากนั้นจึงเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดอุ่นๆ ซึ่งบิดพอหมาดๆ ก็นับว่า เพียงพอที่จะทำให้ขน ของปอมเมอเรเนียนอยู่ในสภาพดีแล้ว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pomeranian/2.jpg)

    แชมพูที่ใช้อาบน้ำให้สุนัขควรเป็นแชมพูที่ผลิตโดยเฉพาะ เพราะจะไม่ส่งผลกระทบต่อการระคายเคืองของผิวหนังและสภาพขน ในขณะอาบน้ำอาจจะใช้สำลีอุดรูหูทั้งสองข้างก่อนอาบ หรือใช้มือกดใบหูทั้งสองข้างให้หลุบลง เวลาอาบน้ำควรราดน้ำให้เปียกทั่วตัวก่อนแล้วจึงเทแชมพูลงไปแล้วเกาให้ทั่วลำตัว หลังจากนั้นก็ใช้น้ำล้างสบู่ออกให้สะอาดหมดจด เมื่ออาบเสร็จก็ต้องเช็ดตัวให้แห้งพร้อมกับแปรงขนทุกครั้ง การเช็ดตัวให้แห้งเป็นการป้องกันความอับชื้นซึ่งเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค และช่วยป้องกันโรคปอดบวมได้

     ส่วนในด้านของการออกกำลังกายนั้น การออกกำลังกายมากๆ หรือใช่พื้นที่เยอะๆ ไม่ค่อยจำเป็นสำหรับปอมเมอเรเนียน แต่เราควรหันมาใส่ใจสักนิด ควรเริ่มพาปอมฯออกกำลังกายตั้งแต่ยังเล็กเพราะจะสามารถควบคุมเวลาในการออกกำลังกายไ ด้ ควรให้เดินเล่นวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15 นาที ถ้าปล่อยให้วิ่งเล่นกลางแจ้งนานเกินไป(โดยเฉพาะเวลาที่แดดจัด)อาจทำให้สุนัขเกิดอาการช็อค อาการนี้อาจส่งผลให้สุนัขเสียชีวิตได้

     การพาน้องปอมไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ปอมท้องไม่ผูก และสามารถป้องกันโรคได้อีกหลายๆชนิด การที่สุนัขได้วิ่งด้วยความเร็วและสนุกสนาน มีผลดีต่อหัวใจ หลอดเลือด กล้ามเนื้อ ต่อมขับต่างๆ ได้อุ่นเครื่องจนร้อน เมื่อกลับจากการออกกำลังกายก็สามารถกินอาหารได้มากขึ้น ยิ่งถ้าได้อาหารที่ถูกต้องยิ่งทำให้สุนัขมีสัดส่วนที่ดี ร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงมันจะมี step การเคลื่อนไหวที่ดี และสวยงาม อย่างไรก็ดีไม่ควรให้สุนัขออกกำลังกายหลังจากที่กินอาหารอิ่มเต็มที่

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pomeranian/4.jpg)

 smiley4 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่มีเวลาเอาใจใส่ดูแลเรื่องความสวยงามของสุนัข จำเป็นต้องมีการดูแลตัดแต่งขนของสุนัขอยู่เสมอเพื่อความสวยงาม นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้เลี้ยงที่มีพื้นที่ในการเลี้ยงที่จำกัด

7ZYJGBw0Z5Y


หัวข้อ: ปักกิ่ง ปราดเปรียว รักอิสระ สวย เริ่ด เชิด
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 04:43:00 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/24_con)

 kiss6 ลักษณะทั่วไป

   สุนัข พันธุ์ปักกิ่งมีบุคลิกแบบสวย เริ่ด เชิด และหยิ่งในศักดิ์ศรี พร้อมด้วยอาการดื้อดึงแต่พองาม เป็นสุนัขที่มีความเป็นตัวของตัวเอง มีท่าทีการเคลื่อนไหวอย่างสง่างามระเหิดระหง อารมณ์ดีแต่สงบเงียบ ไม่เอะอะโวยวายหรือร่าเริงเกินเหตุ แต่ก็ใช่ว่าจะนิ่งจนน่าเบื่อ ถ้าอยู่กับเจ้านายหรือผู้ที่คุ้นเคยมันก็จะเล่นด้วยอย่างสนุกสนานน่ารัก นอกจากนี้ปักกิ่งยังเป็นสุนัขที่กล้าหาญ ไม่เคยมีประวัติเรื่องวิ่งหนีหางจุกตูด เป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง ทรหดอดทนและเลี้ยงง่าย ทั้งยังเป็นมิตรและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่างยิ่งด้วย

 kiss6 ความเป็นมา

   มีหลักฐานว่าคนจีนเลี้ยงสุนัขขนาดเล็กมาตั้งแต่ 1500 ปีก่อนแล้ว ในปี ค.ศ. 565 พระเจ้าจักรพรรดิประเทศจีนทรงพระราชทานนามสุนัขของพระองค์ว่า "ชิ ซู" หรือ "เสือแดง" เป็นสุนัขเปอร์เซียน เมื่อพระเจ้าจักรพรรดิทรงม้า "เสือแดง" จะขึ้นไปนั่งบนตะกร้าที่ผูกไว้ด้านหน้าอานม้า ในปี ค.ศ. 620 มีบันทึกว่าสุนัขตัวผู้ตัวเมียคู่หนึ่ง สูงประมาณ 6 นิ้ว ถูกนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายจักรพรรดิเกาสู

     บันทึกอ้างว่าสุนัขคู่นี้มีความเฉลียวฉลาดมาก สามารถนำทางม้าในเวลากลางคืน หลักฐานทำนองนี้สืบเนื่องกันมากจนกระทั่งกลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมื่อราชวงศ์ของกุบไลข่านถูกพิชิตลง บันทึกหลักฐานต่างๆ ก็หมดสิ้นลงไปด้วย เป็นเวลาสืบเนื่อง 33 ปี เรารู้แต่ว่าคนจีนหันมานิยมเลี้ยงแมวแทนสุนัข โดยเฉพาะในสังคมชั้นสูง ธรรมเนียมการเลี้ยงสุนัขขนาดเล็กของจีนมาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดระหว่างปี ค.ศ. 1820 ถึง 1850 ในช่วงเวลานั้นมีสุนัขอยู่หลายพันธุ์ในนครปักกิ่ง พวกขันที 4000 คน ยังมีหน้าที่เฉพาะในการผลิตเพาะสุนัขแบบที่เราเรียกว่า "พันธุ์ปักกิ่ง" ด้วย

     พระนางซูสีไทเฮาทรงเป็นผู้ทำนุบำรุงกิจกรรมนี้ พระนางยังทรงกระตุ้นให้สร้างรูปแบบพันธุ์คล้ายกับ "สุนัขสิงห์โต" แบบเก่า กิจกรรมข้อหนึ่งก็คือจัดร่างกฎเกณฑ์แบบเฉพาะของสุนัข ข้อความที่นำมาเสนอแบบย่อๆ มีดังนี้ "จงให้มันสวมคลุมขนแห่งความสง่ารอบๆ คอ ขาคู่หน้าของมันจะต้องโค้ง เพื่อไม่ให้มันเดินออกไปไกลๆ หรือเดินออกนอกเขตพระราชฐาน จงสอนมันให้ละเว้นการเตร็ดเตร่ไปมา ให้มันมีขนเหมือนสิงห์โต เหมาะที่จะอุ้มไว้ในชายแขนเสื้อคลุม …" กฤษฎีกานี้ยังกำหนดต่อไปถึงอาหารของสุนัข เช่น "หูฉลาม" "ตับนก" และ "ส่วนอกนกกระทา" เราอาจจะไม่ถือเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจังนัก อย่างไรก็ตามหลักฐานนี้ ทำให้เรารู้ว่ามีสุนัขพันธุ์ปักกิ่งเกิดขึ้นมาแล้ว และมักจะพบสุนัขพันธุ์นี้ในพระราชวังเท่านั้น ในสมัยก่อนผู้ใดขโมยสุนัขนี้จะได้รับโทษถึงประหารชีวิต

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pekingese/3.jpg)

     พระราชวังแห่งปักกิ่งถูกชาวต่างชาติบุกเข้ายึดครองเมื่อปี ค.ศ. 1860 ก่อนการสูญเสียมีคำสั่งจากพระราชวงศ์ว่า  ให้สุนัขตายไปเสียดีกว่า จะให้ตกอยู่ในมือของคนต่างชาติ เจ้าฟ้าหญิงพระองค์หนึ่งไม่ยอมเสด็จหนี ทั้งไม่ยอมให้ทหารดรากูนเข้าจับกุมด้วย ทรงปลงพระชนม์ชีพของพระองค์เอง แต่ไม่ได้ทำลายสุนัขที่เลี้ยงไว้ สุนัขปักกิ่งสี่ตัวถูกทหารยึดได้ ตัวหนึ่งถูกส่งขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระราชินีวิคตอเรีย อีก 3 ตัวที่เหลือยุคแห่งริชมอนด์เลี้ยงดูไว้ ต่อมาก็มีผู้นำตัวอื่นๆ เข้าสู่อังกฤษอีก ตัวหนึ่งได้นำถวายควีนวิคตอเรีย ส่วนอีก 3 ตัวมอบให้ LORD HAY และได้แพร่พันธุ์กระจายไปทั่วไปโลก ซึ่งก็หมายถึงการเลี้ยงดูเพาะสร้างสายพันธุ์ที่ตามมา

เรื่องราวเหล่านี้อ่านแล้วเหมือนนิยาย แต่ก็เป็นเรื่องจริง เรื่องคล้ายนิยายและความเกี่ยวพันกับราชวงศ์ซึ่งเป็นของสูงนี้ ทำให้พันธุ์ปักกิ่งได้รับความนิยมอย่างใหญ่หลวง ตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น LION DOG SUN DOG หรือ STEEVE DOG ปักกิ่งเป็นสุนัขขนาดเล็กที่น่าสนใจที่สุด และมีบุคลิกลักษณะที่ผิดธรรมดาที่สุด มันมีลักษณะผสมกันประหลาดๆ ของความขบขันและความทรนง เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ด้วยทั้งยังมีความหัวแข็งดื้อรั้นอย่างน่าทึ่ง บางครั้งก็ไม่ยอมรับคำสั่งโดยเด็ดขาด พวกมันชอบเก้าอี้นวมบุแพรไหม แต่ถ้ามีอารมณ์สนุกแล้วก็อกไปวิ่งไล่จับกระต่ายเลย

     ลักษณะเฉพาะตัวเหล่านี้ทำให้สุนัขพันธุ์นี้พุ่งขึ้นไปสู่ระดับสุดยอด พันธุ์ปักกิ่งไม่เคยหลุดออกจากยี่สิบอันดับแรกสุนัขยอดนิยมของอังกฤษ (Top Twenty) และยังคงติดอันดับสูงมาจนทุกวันนี้ สำหรับในสหรัฐอเมริกานั้นทั้งๆ ที่พันธุ์ปักกิ่งเพิ่งเข้าไปเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่ก็เป็นสุนัขระดับยอดนิยมแล้ว

 kiss6 ลักษณะนิสัย

     สุนัขพันธุ์ ปักกิ่ง ปราศจากความกลัวต่อทุกสิ่งที่ทำให้ เขาโกรธ ไม่สนใจแม้กระทั่งขนาดสุนัขตัวอื่นหรือแม้แต่คนแปลกหน้า ความภักดีคือสิ่งที่บ่งบอกคุณลักษณะสุนัขพันธุ์นี้ได้ดีที่ สุดพวกเขาจะป้องกันทุกสิ่งที่พวกเขาคิดเป็นของพวกเขา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pekingese/1.jpg)

 kiss6 การดูแล

     ปักกิ่ง ต้องการการเอาใจใส่ดูแลสัปดาห์ละครั้ง เพราะมีขนที่หนาและมีจำนวนมาก จึงต้องได้รับการแปรงขน และต้องทำความสะอาดขนเป็นประจำ นอกจากนั้นยังต้องทำความสะอาดบริเวณตา หู และบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ของตัวผู้ สัปดาห์ละครั้ง และตัดเล็บนิ้วเท้าให้สั้นอยู่เสมอ ปักกิ่ง ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงนอกบ้าน เนื่องจากเป็น สุนัขกลุ่มทอยซึ่งจะรักความสะดวกสบาย และความอบอุ่นของการใช้ชีวิตภายในบ้าน ควรจูงสุนัขเดินบนแข็งๆ สม่ำเสมอแต่ไม่ต้องไกลมาก

 kiss6 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     สุนัขปักกิ่งเหมาะกับผู้เลี้ยงทุกเพศทุกวัย

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pekingese/2.jpg)

 kiss6 ข้อควรจำ

     ปักกิ่ง ไม่ใช่สุนัขที่จะนอนเล่นบนตักคุณอยู่นิ่งๆ แม้ว่าเขาจะชอบถูกกอดรัดเป็นครั้งคราวและอาจจู้จี้ บ้าง เขาอยู่ได้กับคนทุกวัยและสามารถเป็นเพื่อนไป ได้ตลอดชีวิต รักสนุกและชอบเล่น ตอนเป็นลูกสุนัขควรมีของเล่นให้เขาได้เล่น และเมื่อพวกเขาโตขึ้นพวกเขาก็จะเล่นกับของเล่น หรือลูกบอลบนสนามหญ้าภายในบ้าน ปักกิ่ง ยอมรับสภาพแวดล้อมทุกแบบแต่ชอบอยู่ในพื้นที่ของตนมากกว่า


หัวข้อ: ปั๊ก ซุกซน สนุกสนาน ชอบอยู่กันเป็นกลุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 07:30:19 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/23_con)

 shocked2 ลักษณะทั่วไป

     สุนัขพันธุ์ปั๊ก เป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบของสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ดึงดูดให้ต้องหลงใหลทั้งความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ ที่มีอยู่ในปั๊กสุนัขที่น่ารักพันธุ์นี้ ถ้ามีพื้นที่น้อยหรืออาศัยในห้องชุด ปั๊ก จะเป็นคำตอบสำหรับคุณ พวกเขาไร้ซึ่งกลิ่นอับที่อาจพบในสุนัขเล็กพันธุ์อื่น มีขนที่สั้นและไม่ค่อยมีการผลัดขน จึงเป็นสุนัขที่ค่อนข้างสะอาด

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pug/3.jpg)

 shocked2 ความเป็นมา

     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน เป็นสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง มีกำเนิดตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลในสมัยโบราณนิยมเลี้ยงไว้ในวัดจีน ต่อมาสุนัขพันธุ์ ปั๊ก กระจายไปอยู่ส่วนต่างๆของยุโรป ในประเทศฮอลแลนด์ให้เกียรติสุนัขนี้มาก

     เนื่องจากปั๊กได้ช่วยชีวิตของเจ้าชายวิลเลียม โดยการเตรียมให้รู้ว่าพวกสเปนได้ยกทัพเข้ามาใกล้แล้ว ส่วนฝรั่งเศส มเหสี นโป-เลียนได้ซ่อนจดหมายไว้ที่ปลอกคอของ ปั๊ก ไปให้นโปเลียนเพื่อบอกว่า พระนางถูกจับขังไว้ที่ LESCARMES เหตุการณ์นี้เกิดในปี 1970

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pug/1.JPG)

 shocked2 ลักษณะนิสัย

 
     ปั๊ก นั้นโดยส่วนใหญ่จะซน สามารถอยู่ในที่เล็กๆได้หรือสามารถอยู่ร่วมกันหลายตัวได้

 shocked2 การดูแล

     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก โดยส่วนมากจะขี้เกียจ ถ้าปล่อยให้อยู่ตามลำพัง หรือไม่มีอุปกรณ์ฝึกเขา ให้พาเขาเดินหรือเล่นเกม โยนของไปให้เขาเก็บทุกวัน แต่อย่าให้เขาออกกำลัง กายหนักๆในช่วงที่ มีอากาศร้อนหรือหลังกินอาหารเสร็จ

     ปั๊ก เป็นสุนัขที่ฉลาด และมีแนวโน้มที่จะดื้อไม่ค่อย เชื่อฟังคำสั่ง ไม่ง่ายเลยที่จะฝึกสุนัขพันธุ์ปั๊ก แต่ก็สามารถฝึกได้ และจะทำให้พวกเขาเป็นสุนัขที่ ดีต่อไป ชมรมผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้หรือศูนย์ฝึก ที่สามารถฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งจะช่วย แนะนำคุณได้ และจะแนะนำทุกอย่าง ที่เจ้าของสุนัขควรรู้ เพื่อทำให้ ปั๊ก ตัวน้อยเป็นเพื่อนกับเรา ไม่ใช่แค่เป็นสัตว์เลี้ยงผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เนื่องจากปั๊กเป็นสุนัขที่ชอบอยู่กับคนดังนั้นเขาจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ปั๊กเป็นสุนัขตัวเล็กๆ ที่แข็งแกร่ง เป็นตัวตลกโดยธรรมชาติและจะทำให้ คุณหัวเราะได้เสมอ พวกเขานอนกรน หายใจเสียงดัง ทำเสียงฟึดฟัดในจมูก หายใจออกแรง และจามใส่หน้าของคุณ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pug/2.jpg)

 shocked2 ข้อควรจำ

     เนื่องจากรูปทรงของตาและหน้าทำให้ ปั๊ก มีแนวโน้มที่จะเกิดการบาดเจ็บที่ตาได้ง่าย ถ้าปั๊กของคุณกำลังถูตาอยู่ กระพริบตาถี่ๆ มีน้ำตาไหลมากเกิน หรือตามีการเปลี่ยนสีไป ควรปรึกษาสัตว์แพทย์ของคุณโดยทันที และการที่เป็นสุนัขจมูกสั้น ปั๊ก จึงมีปัญหาเกี่ยวกับเพดานปากอ่อน และจำเป็นต้องตรวจสอบอยู่เสมอ

8Kkrmubsgf8


หัวข้อ: ปั๊ก ซุกซน สนุกสนาน ชอบอยู่กันเป็นกลุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 15, 2014, 03:26:48 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/23_con)

 ju_ju!! ลักษณะทั่วไป

     สุนัขพันธุ์ปั๊ก เป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบของสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ดึงดูดให้ต้องหลงใหลทั้งความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ ที่มีอยู่ในปั๊กสุนัขที่น่ารักพันธุ์นี้ ถ้ามีพื้นที่น้อยหรืออาศัยในห้องชุด ปั๊ก จะเป็นคำตอบสำหรับคุณ พวกเขาไร้ซึ่งกลิ่นอับที่อาจพบในสุนัขเล็กพันธุ์อื่น มีขนที่สั้นและไม่ค่อยมีการผลัดขน จึงเป็นสุนัขที่ค่อนข้างสะอาด

 ju_ju!! ความเป็นมา

     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน เป็นสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง มีกำเนิดตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลในสมัยโบราณนิยมเลี้ยงไว้ในวัดจีน ต่อมาสุนัขพันธุ์ ปั๊ก กระจายไปอยู่ส่วนต่างๆของยุโรป ในประเทศฮอลแลนด์ให้เกียรติสุนัขนี้มาก

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pug/1.JPG)

     เนื่องจากปั๊กได้ช่วยชีวิตของเจ้าชายวิลเลียม โดยการเตรียมให้รู้ว่าพวกสเปนได้ยกทัพเข้ามาใกล้แล้ว ส่วนฝรั่งเศส มเหสี นโป-เลียนได้ซ่อนจดหมายไว้ที่ปลอกคอของ ปั๊ก ไปให้นโปเลียนเพื่อบอกว่า พระนางถูกจับขังไว้ที่ LESCARMES เหตุการณ์นี้เกิดในปี 1970

 ju_ju!! ลักษณะนิสัย

 
     ปั๊ก นั้นโดยส่วนใหญ่จะซน สามารถอยู่ในที่เล็กๆได้หรือสามารถอยู่ร่วมกันหลายตัวได้

 ju_ju!! การดูแล

     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก โดยส่วนมากจะขี้เกียจ ถ้าปล่อยให้อยู่ตามลำพัง หรือไม่มีอุปกรณ์ฝึกเขา ให้พาเขาเดินหรือเล่นเกม โยนของไปให้เขาเก็บทุกวัน แต่อย่าให้เขาออกกำลัง กายหนักๆในช่วงที่ มีอากาศร้อนหรือหลังกินอาหารเสร็จ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pug/2.jpg)

     ปั๊ก เป็นสุนัขที่ฉลาด และมีแนวโน้มที่จะดื้อไม่ค่อย เชื่อฟังคำสั่ง ไม่ง่ายเลยที่จะฝึกสุนัขพันธุ์ปั๊ก แต่ก็สามารถฝึกได้ และจะทำให้พวกเขาเป็นสุนัขที่ ดีต่อไป ชมรมผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้หรือศูนย์ฝึก ที่สามารถฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งจะช่วย แนะนำคุณได้ และจะแนะนำทุกอย่าง ที่เจ้าของสุนัขควรรู้ เพื่อทำให้ ปั๊ก ตัวน้อยเป็นเพื่อนกับเรา ไม่ใช่แค่เป็นสัตว์เลี้ยงผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เนื่องจากปั๊กเป็นสุนัขที่ชอบอยู่กับคนดังนั้นเขาจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ปั๊กเป็นสุนัขตัวเล็กๆ ที่แข็งแกร่ง เป็นตัวตลกโดยธรรมชาติและจะทำให้ คุณหัวเราะได้เสมอ พวกเขานอนกรน หายใจเสียงดัง ทำเสียงฟึดฟัดในจมูก หายใจออกแรง และจามใส่หน้าของคุณ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Pug/3.jpg)

 ju_ju!! ข้อควรจำ

     เนื่องจากรูปทรงของตาและหน้าทำให้ ปั๊ก มีแนวโน้มที่จะเกิดการบาดเจ็บที่ตาได้ง่าย ถ้าปั๊กของคุณกำลังถูตาอยู่ กระพริบตาถี่ๆ มีน้ำตาไหลมากเกิน หรือตามีการเปลี่ยนสีไป ควรปรึกษาสัตว์แพทย์ของคุณโดยทันที และการที่เป็นสุนัขจมูกสั้น ปั๊ก จึงมีปัญหาเกี่ยวกับเพดานปากอ่อน และจำเป็นต้องตรวจสอบอยู่เสมอ

8Kkrmubsgf8


หัวข้อ: ปาปิยอง เจ้าหญิง หรูเริศ แต่เป็นมิตรกับคน
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 15, 2014, 03:31:10 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10003_con)

 laugh2 ลักษณะทั่วไป

     สุนัขขนาดเล็กขาวยาวสลวยเหมือนเส้นไหม หูตั้งสวยรูปทรงคล้ายปีกผีเสื้อ ต้องการการดูแลมากกว่าสุนัขพันธุ์เล็กทั่วไป เนื่องจากมีคนยาวเป็นจุดเด่น เป็นมิตรรักเจ้าของ ชอบออกกำลังกาย หูลักษณะคล้ายกับปีกผีเสื้อ (Papillon ในภาษาฝรั่งเศส หมายถึงผีเสื้อ)

 laugh2 ความเป็นมา
    ปาปิยองเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่มากที่สุดสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของยุโรป มีการสันนิษฐานถิ่ยกำเนิดว่าอยู่ในประเทศฝรั่งเศส บ้างสันนิษฐานว่ามีต้นกำเนิดในจีนแต่มีการนำไปค้าขายและขยายพันธุ์กันอย่างกว้างขวางในประเทศเสปน ซึ่งเดิมปาปิยองเป็นน้องหมาหูตก มีชื่อเรียกว่า สเปเนียลแคระ เป็นที่นิยมนำมาเป็นแบบวาดรูปของอิตาลีช่วงคริสศตวรรษที่ 13 ถึงคริสศตวรรษที่ 15 นอกจากนี้ยังพบในภาพวาดของฝรั่งเสศและเสปน ส่วนมากจะเป็นรูปน้องหมาปาปิยองนั่งอยู่บนตักของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ โดยทางสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขFCI ได้ตั้งชื่อพวกเขาอย่างเป็นทางการว่า "ทอย สเปเนียล" ต่อมามีการพัฒนาสายพันธุ์กลายมาเป็นปาปิยองหูตั้ง ขนหูแผ่ยาวสบายคล้ายปีกผีเสื้อ จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นปาปิยอง ที่แปลว่า ผีเสื้อในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข AKC เลือกที่จะเรียกพวกเขาว่า "ปาปิยอง"  ส่วนปาปิยองหูตกจะเรียกเป็นอีกชื่อว่า "ฟาแลน" (Phalène) ซึ่งปาปิยองได้รับการจดทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข AKC เมื่อปีค.ศ. 1915

 laugh2 ลักษณะนิสัย

     เป็นน้องหมาที่มีความฉลาดเฉลียว มีไหวพริบเป็นเลิศ หูไว ตาไว เป็นน้องหมาเฝ้าเวรยามได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พวกเขายังเป็นมิตร รักเด็ก รักครอบครัว เชื่อฟังคำสั่ง มีความสามารถในการทำโชว์การแสดงต่างๆ รักรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ของคนในครอบครัว หรือคนแปลกใหม่ เก่งการสร้างความประทับใจ ขี้เล่น เหมาะกัลเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนรักของครอบครัว แต่ในบางอารมณ์ก็เอาแต่ใจตัวเอง เรียกร้องความสนใจ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และดื้อเงียบ

 laugh2 การดูแล
 
      ปาปิยองมีขนที่ค่อนข้างยาว พลัดขนบ่อย รักความสะอาดจำเป็นต้องได้รับการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน โดยแปรงที่ใช้ควรเป็นแปรงที่มีความอ่อนนุ่ม ควรอาบประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และทำความสะอาดที่หูเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดการอักเสบได้ง่าย

     ส่วนการออกกำลังกาย ควรพาพวกเขาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือหากิจกรรมเกมสนุกๆ ให้พวกเขาได้เล่น พาเข้าสังคมบ้านจะได้ไม่กลัวหรือหวาดระแวงคนแปลกหน้า ที่สำคัญควรฝึกเอ็นเตอร์เทน เช่น ยืน 2 ขา เต้นระบำ หมุนตัว เป็นต้น พวกเขารักและมีความถนัดในด้านนี้มากๆ

 laugh2 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ปาปิยองเป้น้องหมาน่ารักชอบอยู่กับคน แต่ก็ซุกซนมากๆ ก็ควรมีรั้วรอบขอบชิด หมั่นพาออกไปเดินเล่น พาไปออกกำลังกาย ที่สำคัญผู้เลี้ยงจะต้องคอยให้ความรัก ความเอ็นดูสุนัขด้วยนะ

     การพาปาปิยองเข้าสังคมก็เป็นอีกสิ่งที่จำเป็นถึงธรรมชาตินิสัยจะเป็นน้องหมาจิตใจดี อ่อนโยนก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้พวกเขาหวาดกลัวคนแปลกหน้า เกิดพฤติกรรมก้าวราว จึงไม่ควรเก็บเขาไว้แต่ในบ้านไม่ให้พบปะเจอใคร อาจส่งผลให้พวกเขารู้สึกเหงา และรู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณืได้ และที่สำคัญควรหมั่นแปรงขน และทำความสะอาดขนให้พวกเขาอย่างสม่ำเสมอ

 laugh2 ข้อควรจำ

     ปาปิยองมีกระดูกขาที่ค่อนข้างเล็กและเปราะบางควรระมักระวังเรื่องอุบัติเหตุ วิ่งชนตู้ โต๊ะ เตียง นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มมีปัญหาเกี่ยวกับข้อกระดูกขาหลัง ไม่ควรให้พวกเขาวิ่งกับพื้นลื่นๆ เป็นเวลานาน อีกตำแหน่งหนึ่งที่ควรระมักระวังคือบริเวณกลางกะโหลกศีรษะ ที่จะมีช่องเปิดตรงส่วนกลาง กะโหลกศีรษะค่อนข้างบาง ควรป้องกันไมให้ได้รับการกระทบกระเทือน แล้วถ้าดูแลรักษาสุขภาพเขาได้ดีก็จะสามารถมีอายุได้ยืนยาวเฉลี่ย 16 ปี

S-ZV5CCY1JY


หัวข้อ: พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว แต่ใจดี
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 15, 2014, 03:35:09 PM

(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/10012_con)

 smiley4 ลักษณะทั่วไป

     พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้มีลำตัวขนาดกลาง ลำตัวล่ำ ช่วงขาสั้น  ส่วนหัวคล้ายกับสุนัขจิ้งจอก ใบหูตั้งชัน มีขนทั้งสีแดง สีชา น้ำตาลอ่อน น้ำตาลแดง และสีดำ หางสั้น ชอบอยู่ในพื้นที่เล็กๆแคบๆ จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงไว้ในบ้าน  นอกจากนี้ยังเป็นขวัญใจในการประกวดสุนัขและการแข่งขันกีฬาสุนัขอีกด้วย เดิมทีพ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะขนาดเล็กเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดี  มีอยู่ด้วยกัน  2  สายพันธุ์  คือ  พันธุ์คาร์ดิแกน  หางยาว ปานกลาง  และพันธุ์เพ็มโบรค  หางสั้น  ตัวจะสั้นกว่า  กระดูกขาเล็กกว่า

 smiley4 ความเป็นมา

     สุนัขสายคอร์กี้สายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในรัฐเพ็มโบรคเชียร์ แคล้นเวล์ส ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสายพันธุ์เก่าแก่เมื่อ  3,000  ปีก่อน  ในช่วงศตวรรษที่ 12 เริ่มด้วยตอนแรกเรียกสุนัขพันธุ์นี้ว่า เวลส์ เคอร์ (Welsh Cur) กระทั่งถึงศตวรรษที่ 19 จึงเปลี่ยนมาเรียกเป็น เวลส์ คอร์กี้ (Welsh Corgi) จนถึงปัจจุบัน โดยในปีค.ศ. 1107 ช่างทอผ้าชาวเฟรมมิช ซึ่งมีรกรากเดิมอาศัยอยู่ในประเทศเบลเยี่ยม ได้นำบรรพบุรุษสายตรงของพ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ข้ามช่องแคบระหว่างเกาะอังกฤษกับประเทศฝรั่งเศส เข้ามายังแคว้นเวล์ส สุนัขสายพันธุ์นี้ เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์หลายพันธุ์คือ คีชอน ,ปอมเมอเรเนียน ซามอยด์ นอร์วีเจียน เอลค์ฮาวนด์ และ ฟินนิช สปิตซ์

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/things_to_do_with_a_pembroke_welsh_corgi.jpg)

 smiley4 ลักษณะนิสัย

     พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ดูภายนอกเหมือนห้าวหาญเด็ดเดี่ยว แต่จริงๆ แล้วใจดีมากๆ เชื่อฟังเจ้านายและฝึกง่าย  สุภาพอ่อนโยน อยากรู้อยากเห็น มีความกล้าหาญเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดี แต่ไม่ก้าวร้าว ไม่ชอบเห่า พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า และน้องหมาตัวอื่นๆ ติดเจ้าของ ไม่ว่าจะเจ้าของจะไปไหนก็อยากไปด้วย

 smiley4 การดูแล

     พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้เดิมเป็นสุนัขที่เติบโตในฟาร์ม เขาจึงต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ เช่นเดียวกันกับการแปรงขนเพื่อให้ขนนุ่มสวยเป็นประจำทุกวัน ควรอาบน้ำ 2 ครั้งต่อเดือน ไม่ควรอาบบ่อยเพราะจะทำให้มีปัญหาเรื่องผิวหนัง นอกจากนี้ ควรพาเข้าสังคม ทำความรู้จักคนแปลกหน้า น้องหมาตัวอื่นๆ เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกหวั่นกลัว เขินอาย ไม่ไว้ใจใคร จนกลายเป็นน้องหมาที่ก้าวร้าวในเวลาต่อมา

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/pembroke-welsh-corgi_34779_990x742.jpg)

 smiley4 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่เหมาะสมจะเลี้ยง พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ จะต้องเป็นผู้ที่มีเวลาพาเขาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูแลสุขพภาพขน มีเวลาเล่น ทำกิจกรรมกับพวกเขา ไม่ปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง เนื่องจากพวกเขาเป็นน้องหมาที่ต้องการความรัก และ การเอาใจใส่จากเจ้าของค่อนข้างสูง

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Welsh%20Corgi%20Pembroke%209M70D-20.JPG)

 smiley4 ข้อควรจำ

     มักมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา และโรคจอรับภาพเสื่อมเฉียบพลัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เนื่องจากพวกเขามีลำตัวที่ค่อนข้างยาว ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนขณะเคลื่อนไหว จึงไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอ้วน เพราะจะส่งผลทั้งต่อการรับน้ำหนักของกระดูสันหลัง และโรคต่างๆ ที่จะตามมา 

iIKE-Yhq_U4


หัวข้อ: พุดเดิ้ล ช่างประจบประแจง ขี้อิจฉา สอนง่าย
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 15, 2014, 03:44:48 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/25_con)

 ping! ลักษณะทั่วไป

     พูเดิ้ลที่มีสายพันธุ์ดีจะเป็นสุนัขที่ฉลาดและตอบสนองไวที่สุดในบรรดาสุนัข ทั้งหมด พูเดิ้ลมีด้วยกัน 3 ขนาด คือ ขนาดมาตรฐาน ขนาดเล็ก และขนาดทอย(ตุ๊กตา) พูเดิ้ลทุกขนาดจะเป็นสุนัขที่น่าหยิกน่าหมั่นไส้ แสนประจบ ซน และขี้เล่น พูเดิ้ลพันธุ์เล็กกับพันธุ์ทอยมีอุปนิสัยที่ไม่ค่อยไว้ใจคนแปลกหน้า และมีความอดทนกับเด็กน้อยกว่าพันธุ์สมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม พูเดิ้ลเป็นสุนัขที่ฝึกง่าย สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ซึ่งคุณก็ควรฝึกสอนตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณจะเห็นว่ามันมีความสามารถในการทำตามคำสั่งที่ยอดเยี่ยมทีเดียว ข้อเสียของมันก็คือมันมีนิสัยชอบเห่า แต่คงเพราะตัวเล็กไปหน่อยจึงได้แต่เห่าอย่างเดียว ทำอะไรใครไม่ได้ สุนัขพันธุ์นี้เหมาะที่จะเลี้ยงในคอนโด แต่ก็ควรให้ได้รับการออกกำลังกายพอสมควรด้วยแต่ถ้าใครคิดจะเลี้ยงเจ้าพุด เดิ้ลขนาดจิ๋ว (เล็กกว่าพันธุ์ทอย) ก็จงระวังให้ดี เพราะมันค่อนข้างขี้โรคและมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย

 ping! ความเป็นมา

     พูเดิ้ล มีชีวิตอยู่หลายศตวรรษ และมีเอกสารอ้างอิงมากมายว่าพบในเยอรมนี อังกฤษ อิตาลีและฝรั่งเศสหลักฐานที่พบเป็นภาพสุนัขที่ถูกตัดขนให้ดูคล้ายสิงห์โต โดยส่วนท้ายของลำตัวจะไม่มีขนปกคลุม ยกเว้นบริเวณรอบขาและหางที่มีขนลักษณะพองฟูขณะที่ลำตัวส่วนหน้าเต็มไปด้วยขนที่หนา ยกเว้นบริเวณใบหน้าและขาหน้าซึ่งเป็นการยืนยันว่าในยุคนั้น พูเดิลถูกใช้เพื่อเกมกีฬาเก็บคาบ แต่ก่อนขน พูเดิล จะหนักมากเวลาตัว เปียกต้องคอยตัดออกบ้าง หางยังยาวเป็นพุ่ม มีริบบิ้นผูกไว้ที่ปลายหาง ในขณะปฏิบัติงานเพื่อแยกพูเดิลออกจาก นกหรือสัตว์อื่นๆ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Poodle/2.jpg)

 ping! ลักษณะนิสัย

      ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ขนาดใด ทุกคนจะรู้ถึงความเฉลียวฉลาดของ พูเดิ้ล เป็นอย่างดีพวกเขาดูมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยมิตรภาพและเป็นผู้คุ้มกันที่ยอดเยี่ยม

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Poodle/3.jpg)

 ping! การดูแล

     พูเดิ้ล เหมือนกับสายพันธุ์อื่นที่มีขนสองชั้นเป็นปุย ดูคล้ายขนแกะ มีการผลัดขนเหมือนสุนัขพันธุ์อื่นๆ แต่จะจับตัวอยู่กับขนชั้นในซึ่งต้องคอยตัดแต่งขน พูเดิล สม่ำเสมอไม่เช่นนั้นขนจะจับตัวกันเป็นก้อน จนดูแลอยาก

      ถึงแม้ว่าเราต้องคอยดูแลเรื่องขนของ พูเดิ้ล เป็นพิเศษ แต่จะเป็นผลดีต่อคนที่มีอาการแพ้ขนสัตว์ และป้องกันขนและกลิ่นของสุนัขไปติดพรม เฟอร์นิเจอร์ หรือเสื้อผ้าได้ นอกจากนี้เรื่องของสุขภาพของพุดเดิ้ลยังสามารถดูแลได้โดยการให้อาหารที่ครบถ้วน คุณค่าสารอาหารและสมดุล รวมทั้งการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นกับสุนัขทุกตัว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/Poodle/1.jpg)

 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เหมาะกับผู้เลี้ยงเกือบจะทุกคน ทอย พูเดิ้ล พัฒนาเพื่อเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนให้กับผู้ที่มีที่อยู่อาศัยขนาดเล็กหรือมีพื้นที่ไม่มากนัก

74mx2OWM6mE


หัวข้อ: เฟรนช์ บูลด็อก อ้วนกลม หน้าย่น และอารมณ์ดี
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 15, 2014, 03:49:49 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/26_con)

 shocked2 ลักษณะทั่วไป
 
     รูปร่างกลม ๆ ป้อม ๆ บวกกับขาสั้น ๆ ทำให้เวลาเดิน สะโพกของ เฟรนช์ บูลด็อก จะส่ายไปมา เมื่อรวมเข้ากับจมูกสั้น ย่น ปากกว้างที่ดูเหมือนยิ้มตลอดเวลา และใบหูอันใหญ่โตที่คล้ายกับหูค้างคาว

 shocked2 ความเป็นมา

     ประมาณปี 1860 มีสุนัข Bulldog มากมายในประเทศอังกฤษและสุนัขชนิดนี้ไม่ค่อยนิยมเลี้ยงเท่าไร สุนัขเหล่านี้บางส่วนถูกส่งเข้าไปในประเทศฝรั่งเศส และได้ผสมกับสุนัขพันธุ์ต่างๆในฝรั่งเศส จนในที่สุดเกิดเป็นสุนัขพันธุ์ เฟรนช์ บูลด็อก ( French Bulldog ) ขึ้นและสุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยง  ในประเทศฝรั่งเศสโดยเฉพาะสุภาพสตรี ปี 1880 ปารีส เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของชาวอเมริกาผู้มั่งคั่ง และเมื่อมีข่าวสุนัขพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น ต่างก็ต้องการอยากจะไปดูด้วยตาตนเอง
   
     สิ่งที่พวกเขาได้พบคือสุนัขพันธุ์ เฟรนช์ บูลด็อก สุนัขพันธุ์นี้มาจากอังกฤษ ความจริงอเมริกามีอิทธิพลในการเลือกเพาะพันธุ์นี้ขึ้นมาให้มีลักษณะอย่าง เฟรนช์ บูลด็อก ในปัจจุบันได้รับการยอมรับที่สามารถให้พัฒนาให้มีหัวอย่างมัสตีฟ ขากรรไกรเป็นรูปสี่เหลี่ยม ลำตัวกะทัดรัดและที่สำคัญคือที่ใบหูเหมือนค้างคาวอย่างที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ เฟรนช์ บูลด็อก เป็นสุนัขพันธุ์เล็กน้ำหนักไม่เกิน 28 ปอนด์ หน้าเหมือน บูลด็อก ทั่วไป ริมฝีปากหนา จมูกหักสั้นเข้าไปด้านใน นัยน์ตาสดใส ลักษณะพิเศษคือใบหูเหมือนค้างคาว ซึ่งไม่มีสุนัขพันธุ์ใดในโลกนี้เหมือนเขาจะเห่าและขู่บ้าง แต่มีความเป็นมิตรชอบทำตัวเป็นเจ้าของบ้านมากกว่าเป็นผู้อารักขา พร้อมที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าเสมอไม่ว่าจะเป็นคนแก่ เด็ก แมว และสัตว์อื่นๆ มีนิสัยขี้เล่น ร่าเริงรักเด็กขนาดใกล้เคียงกับ Pug และ Boston Terrier

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/French%20Bulldog/3.jpg)

 shocked2 ลักษณะนิสัย

     ฉลาด กล้าหาญ ร่าเริง ชอบเล่น ชอบออกกำลังกาย และตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นมิตร เข้ากับคนและสัตว์อื่น ๆ ได้ดี เฟรนช์ บูลด็อก เป็นสุนัขที่เห่าน้อย ไม่ทนต่ออากาศร้อน โดยเฉพาะตัวที่นำเข้าจากต่างประเทศ อาจจะยังปรับตัวไม่ได้ แต่สำหรับสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก ที่เกิดในเมืองไทยจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสภาวะอากาศเท่าไรนัก

 shocked2 การดูแล
     ด้วยความที่เป็นสุนัขขนสั้น เฟรนช์ บูลด็อก  จึงไม่ต้องการการดูแลมาก แต่เขาจะผลัดขนในช่วงหน้าร้อน การออกำลังกายทำได้ง่าย โดยพาเขาเดินเล่นรอบๆ บ้านหรือโยนลูกบอลเล่นกับเขา เขาไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญ กับเรื่องระบบการหายใจของสุนัขด้วย  หายใจทางปากถี่ขึ้นจนผิดปกติ ควรรีบนำเขาเข้าที่ร่มหรือห้องแอร์โดยเร็ว และหากมั่นใจว่าเขาอาจจะเป็นฮีทสโตรก (ชักเนื่องจากความร้อน) ควรลดอุณหภูมิร่างกายของเขาให้เร็วที่สุด เช่น เอาน้ำราด เอาน้ำแข็งไปโปะ แล้วพาไปหาหมอให้ฉีดยากันชักโดยเร็ว

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/French%20Bulldog/2.jpg)

 shocked2 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     เป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเด็กโตได้ดีเยี่ยม

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/meaw/Breeds/French%20Bulldog/1.jpg)

 shocked2 ข้อควรจำ
     เช่นเดียวกับสุนัขที่จมูกสั้นพันธุ์อื่นๆ ที่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจและในช่วงฤดูร้อน ที่มีสภาพอากาศร้อนจัดอาจทำให้เขาเกิดความเครียดได้ 

K5KIqlISk9Y


หัวข้อ: มอลทีส ช่างเอาอกเอาใจ กระตือรือร้น และร่าเริง
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ มิถุนายน 15, 2014, 04:04:19 PM
(http://image.dogilike.com/shareimg/dogthumb_breed/27_con)

 smiley4 ลักษณะทั่วไป

     มอลทีส หรือ มัลทีส เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส เรียบร้อย และเชื่อฟังคำสั่ง สุภาพอ่อนโยน มีความเป็นมิตรกับคนทั่วไปชอบที่จะให้อุ้มหรือกอดอยู่เสมอ ในบางครั้งอาจจะเกรี้ยวกราดบ้างกับสุนัขด้วยกัน มอลทีสเป็นสุนัขที่มีนิสัยอิจฉาชอบประจบเจ้าของ รักเจ้าของมาก ชอบปกป้องเจ้านายหรืออาณาเขตของมันเองออดอ้อนออเซาะ ไม่เป็นรองใครมีความฉลาดแสนรู้ แต่จิตใจกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวไม่ยอมใครดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงรวมไว้กับสุนัขตัวโตๆ เพราะจะมีโอกาสรอดไม่ถึงแก่ตาย โดยปกติแล้วไม่ควรทิ้งให้อยู่ตามลำพังเป็นเวลานานๆ มอลทีส ไม่ใช่สุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน แม้ว่าจริงๆแล้ว เขาก็เฝ้าบ้านได้ดีและก็สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ดีเช่นกัน มอลทีส เป็นสุนัขที่มีความรักให้กับคุณอย่างมากมาย ทำให้คุณชื่นใจทุกครั้งด้วยการคอยต้อนรับคุณที่ประตูเป็นสุนัขที่ฉลาดและชอบให้เอาใจ

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/maltese-ment2.jpg)

 smiley4 ความเป็นมา

     สุนัขมอลทีสมีถิ่นกำเนิดในประเทศ MALTA (แถบทะเลเมอร์ดิเตอริเนียน) มานานเกือบ 2800 ปีแล้ว นักเขียนหรือนักวาดภาพในสมัยโบราณมักนิยมเขียนเรื่องราวหรือภาพของสุนัขพันธุ์นี้ และเป็นที่นิยมเลี้ยงของผู้คนสมัยนั้น และจนกษัตริย์อียิปต์โบราณและ QUEEN VICTORIA ด้วย MALTESE เป็นสุนัขที่มีขนมีขาวสะอาดมีสุขภาพดี คล้ายสุนัขใหญ่กลุ่ม SPANIEL ในปี ค.ศ. 1607 มีการซื้อขายพันธุ์ MALTESE ตัวหนึ่งสูงถึง 2000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 50000 บาท

 smiley4 ลักษณะนิสัย

     มอลทีส ไม่ใช่สุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน แม้ว่าจริงๆแล้ว เขาก็เฝ้าบ้านได้ดีและก็สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ดีเช่นกัน มอลทีส เป็นสุนัขที่มีความรักให้กับคุณอย่างมากมาย ทำให้ผู้เลี้ยงชื่นใจทุกครั้งด้วยการคอยต้อนรับคุณที่ประตูเป็นสุนัขที่ฉลาดและชอบให้เอาใจ และถึงแม้จะตัวเล็กแต่ก็กล้าหาญ ซื่อสัตย์และน่ารัก ถือเป็นสุนัขที่สุภาพอ่อนโยนมากในหมู่สุนัขเล็กด้วยกัน แต่ก็กระตือรือร้น ร่าเริง กระฉับกระเฉงและขี้เล่น

(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/aaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaa.jpg)

 smiley4 การดูแล

     มอลทีส จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน แต่พวกเขาชอบอยู่ในบ้านซึ่งจะได้ใกล้ชิดกับเรามากกว่า ถ้าเลี้ยงเขาในแฟล็ตหรือคอนโด ก็ควรจะจูง เขาไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง มอลทีส เป็นสุนัขประกวดที่สวยงาม หากไม่เล้ียงไว้ประกวดก็สามารถเล็มแต่งขนเขาสั้นลงเพื่อดูแลรักษาง่ายๆ แต่เราต้องแปรงขนเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ขนพันกัน อาบน้ำให้น้องมอลทีสซักสัปดาห์ละครั้ง พร้อมทั้งเป่าขนให้แห้งเสมอ

     อุปกรณ์สำคัญสำหรับสุนัขพันธุ์มอลทีสนี้ได้แก่ แปรงสำหรับแปรงขนดีๆ หวีซี่เล็ก กรรไกรสำหรับ แต่งขนบริเวณใต้ฝ่าเท้า รวมทั้งกรรไกร ตัดเล็บสุนัข และกรดบอริคเพื่อเช็ดรอยคราบน้ำตา เป็นต้น

 smiley4 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม   

     เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อน มีเวลาพาน้องหมาไปตัดแต่งทรงขน ดูแลสุขภาพผิวเป็นอย่างดี และที่สำคัญมีเวลาแปรงขนน้องหมาเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ขนน้องหมาไม่พันกันเป็นสังกะตัง และเงางาม

 smiley4 ข้อควรจำ
     แม้จะจัดสุนัขพันธุ์นี้อยู่ในกลุ่มทอย มอลทีส ก็ยังต้องการการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และดูแลเรื่องการให้อาหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่อ้วนเกินไป

DmFK4Uz4aYY