อยากทราบครับเกี่ยวกับ Dual Operational Amplifier
(1/1)
คุณ Hahaha:
ทำไมในเครื่องเสียง ที่ใช้ Dual J-Fet Operational Amplifier ทำไมมันต้องมีหลายเบอร์ด้วยครับทั้งที่วงจรภายเหมือนกันทั้งหมด มันแตกต่างกันที่ตรงไหนเหรอครับ ทั้งที่ทางเทคนิคสามารถแทนกันได้ อย่างเช่น NJM4558L กับ NJM2082L วงจรข้างในหมือนกันเลยครับ ตำแหน่งขาก็เหมือนกัน (แตกต่างแต่ตรงคุณสมบัติต่างๆ) มันมีผลต่อวงจรอย่างไรเหรอครับ :D
noi3535-LSV team♥:
แตกต่างกันบางวงจรครับ ความละเอียดในตัวICแต่ละเบอร์มันจะมีความแตกต่างกันทั้งที่แทนกันได้ แต่ถ้าเราฟังกันแบบพื้นๆฟังแทบไม่รู้หรอกครับ เพียงแต่คนทำเครื่องเสียงต้องการให้ความต่างตรงนั้นเป็นข้อเปรียบเทียบครับ ถึงแม้ว่ามีผลต่อเสียงก็จริงแต่ก็สร้างความสับสนให้ช่างพอสมควรครับ
ลองเอาสัญญานของคีย์บอร์ดหรือออแกนก็ได้มาป้อนดูแล้วเปลี่ยนICหลายๆเบอร์ที่ไฟเข้าเหมือนกัน จะรู้ได้ถึงความแตกต่างครับ :)
คุณ Hahaha:
อ้างจาก: noi3535 ที่ มกราคม 24, 2007, 09:02:38 PM
แตกต่างกันบางวงจรครับ ความละเอียดในตัวICแต่ละเบอร์มันจะมีความแตกต่างกันทั้งที่แทนกันได้ แต่ถ้าเราฟังกันแบบพื้นๆฟังแทบไม่รู้หรอกครับ เพียงแต่คนทำเครื่องเสียงต้องการให้ความต่างตรงนั้นเป็นข้อเปรียบเทียบครับ ถึงแม้ว่ามีผลต่อเสียงก็จริงแต่ก็สร้างความสับสนให้ช่างพอสมควรครับ
ลองเอาสัญญานของคีย์บอร์ดหรือออแกนก็ได้มาป้อนดูแล้วเปลี่ยนICหลายๆเบอร์ที่ไฟเข้าเหมือนกัน จะรู้ได้ถึงความแตกต่างครับ :)
งั้นก็มีผลน้อยมากสิครับ ถ้าใช้ฟังแบบชาวบ้านๆ อย่างที่อาจารย์น้อยกล่าวมา จะมีผลก็ต่อเมื่อเราต้องการความละเอียดของเสียง (ถูกหรือเปล่าครับ) :( :D
ถาวร-LSVteam:
เริ่มเข้าใกล้ความแตกต่างระหว่างเครื่องบ้านหม้อ เครื่องระดับกลางและไฮท์เอน กันแล้วครับ ความแตกต่างที่ไม่เห็นด้วยตา แต่ได้ยินด้วยหู ที่ต้องฝึกฝนและหังฟัง :P
WatHF100♥:
สวัสดีครับ
ขออนุญาตแชร์ ตามที่ได้เรียนรู้จากผู้รู้และลองมาเองบ้างครับ
เรื่องการฟังออกถึงความแตกต่างของเบอร์อุปกรณ์อ็อปแอ็มป์นั้นรับรู้ได้ไม่ยากแน่นอนครับ ...จากการทดลอง(แม้ไม่มากมายนัก)ครับ
แต่ยังดีนะครับที่ต่างเบอร์แล้วฟังออก บางทีเบอร์เดียวกันต่างรหัสต่อท้าย หรือต่างรูปร่างตัวถัง(แพ็คเกจต่างกัน) หรือเบอร์เดียวกันแต่ต่างยี่ห้อ เสียงก็ต่างกันด้วยครับ..........แต่ไม่ต้องสนใจถึงจุดนี้ก็ได้ครับ มันเป็นแค่ส่วนปลีกย่อย
สนใจที่ ของปลอม กับของแท้ดีกว่าครับ
เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า ตลาดอะไหล่บ้านเรามีทั้งของแท้ และของเทียบ(แท้เหมือนกันแต่ไม่เหมือนกันเป๊ะเช่นต่างยี่ห้อ หรือมาแบบตกเกรด อันนี้ก็น่ากลัว) กับของปลอม(อันนี้ไม่น่าใช้เลย) แล้วก็แบบทั่วไป และแบบ "อย่างดี" อู๊ว งงไปเลยครับ
พอเข้าไปศึกษาถึงข้อมูลของผู้ผลิต+ดาต้าชีท จะพบว่า อาจจะมีการแบ่งเกรดของอุปกรณ์บ้าง ตามรหัสต่อท้าย อาจเพราะต้องการใช้ในย่านอุณหภูมิที่ต่างกัน หรืออื่นๆ
ดังนั้นการซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือตัวแทนนำเข้า ก็จะชัวร์ป๊าดกว่า
ส่วนเบิกห้าง ตามยี่ห้อ นี่คุณภาพมาตรฐานแน่แต่ราคาก็มาตรฐาน(สูงมาก)ด้วย
อ็อปแอ็มป์ มีหลายประเภทการใช้งาน เช่น
๑)โวลท์เตจฟีดแบ็ค (ที่พวกเราต่างใช้ ต่างก็คุ้นเคยกันมาตั้งนานก็แบบนี้แหละครับ)
....ที่เป็นสมัยใหม่ สเป็คสูง ราคาสูง ถึงสูงมากๆ ก็จะ สเป็คสูงในเรื่องของ น้อยซ์ต่ำกว่า สลูว์เรทสูงกว่า จ่ายกระแสสูงกว่า เอ้าท์พุทอิมพีแด้นซ์ต่ำกว่า ย่านความถี่กว้างกว่า
เบอร์ค่อนข้างเก่าที่คุณภาพเสียงยังค่อนข้างดีก็พวก5534 5532 (กรุณาศึกษาดูที่เบอร์นะครับ ว่าอันไหนเป็นแบบคู่หรือเดี่ยว)
สเป็คสูงมากๆ จะใช้กันในวีดีโอแอ็มป์ครับ(หลายท่านคงทราบกันดี)
๒)เคอเรนท์ฟีดแบ็ค อันนี้จะต่างจากที่เราคุ้นเคยกัน ไม่สามารถใช้กันแบบตรงๆ กับข้อ ๑ (ถ้าจะใช้แทนต้องออกแบบวงจรกันใหม่...ขออนุญาตข้ามไปนะครับ) แน่นอนว่าในวีดีโอแอ็มป์ใช้กันมากเช่นกันครับ เครื่องเสียงใช้กันมานานในเครื่องพวกไฮเอ็นด์(แอ็คคิวเฟส เครล เป็นต้นครับ)
ส่วนกลางๆเริ่มมีกล่าวถึงแล้ว เช่นมาร้านทช์รุ่นใหม่)
๓) พวกที่ใช้เป็นคอมพาเรเตอร์ (ในวงจรกำเนินคลื่นสแควร์เวฟ เช่นวงจรมาสเตอร์คล็อก ของเครื่องเล่นระดับสูง)
๔)พวกที่ออกแบบมาเป็นบัฟเฟอร์สัญญาณ ขยายกระแสอย่างเดียว (ไม่มีเกนขยายทางโวลท์)
อินพุทอิมพีแด้นซ์สูง เอ้าท์พุทอิมพีแด้นซ์ต่ำ
ส่วนประเภทอื่นๆ ขอเชิญทุกท่านร่วมแชร์ครับผม
J fet input ที่ผมเองเคยได้ยินก็คงเป็นLF35X
ตอนนี้ที่ฮิตกันก็พวก Burrbrown OPAXXXX อะไรพวกนี้
เรื่องเสียง นอกจากเบอร์อุปกรณ์แล้ว ภาคจ่ายไฟหลัก(หม้อแปลง ไดโอด คาปาซิเตอร์) การดีคัปปลิ้ง(คาปาซิเตอร์) ก็มีผลมากน้อยขึ้นอยู่กับของเดิมว่าให้มาอย่างไร แล้วก็ซีคัปปลิ้งสัญญาณเสียงทั้งขาเข้าขาออก ยิ่งมีผลมากเช่นกัน อ้อ ตัวต้านทานซีรี่ส์ขาออกทางเดินสัญญาณ(ค่าไม่กี่สิบ ถึงหลักร้อยโอห์ม) ก็มีผลต่อบุคลิคเสียงเช่นกันครับ
เล่าสู่กันฟังเผื่อบางท่านอาจจะชอบแบบซ่อม+โมฯ ด้วย
ของแพง ไม่ได้หมายความว่า"เสียงจะออกมาดีเสมอไป "(เช่นในทางเดินสัญญาณ อาร์คาร์บอน อาจให้เสียงที่น่าฟังกว่าแบบเมทัลฟิล์มทั่วๆไป)
ของที่คุณสมบัติดี เพียงพอและเหมาะสมกับจุดที่ใช้ มักให้เสียงที่ "ไม่เลว"
ของเก่า(บางอย่าง) ไม่ได้หมายความว่าจะด้อยกว่าของใหม่
ของใหม่หลายอย่าง(ที่พัฒนาจริงๆ)ให้ผลดีกว่าแบบคุ้มค่า ก็มีแยะ
ถ้าแบบสบายใจที่สุดก็ "ของแท้ เดิมๆ " แทน "ของเสีย"
สิ้นเปลืองมาหน่อย ก็ + เปลี่ยนอุปกรณ์ยุคใหม่ แทนของเดิม ที่เสื่อมตามกาลเวลา(เช่นซีอิเล็คโตรไลติคแบบกระป๋องทั้งหลาย)
ขอให้มีความสุขกับเสียงดนตรีหลังการซ่อมครับ(สำหรับผมไม่ถนัดซ่อม บางทีผมก็ได้กลิ่นไหม้ๆบ้าง ฮ่าๆๆ)
ขอบคุณครับ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ