กระทู้ธรรม
kittanan_2589:
แม่เล่าว่า
แม่เป็นผู้หญิงชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่ได้ปฏิสนธิขึ้นมาในโลกนี้ มีรูปร่างพร้อมจิตวิญญาณสามัญทั่วไปอย่างคนทั้งหลาย แม่ได้ปฏิสนธิในครรภ์ของผู้เป็นยาย และยายได้ใช้ผนังหน้าท้องรองรับทารกน้อยเพศหญิงอยู่ ๙ – ๑๐ เดือน จึงลืมตาดูโลก เห็นแสงสี มีการปรุงแต่งด้วยอายตนะทั้งภายในและภายนอก เจริญวัยตามปกติ
แม่เกิดในสกุลของคนจีนแต้จิ๋ว ที่เราเรียกท่านว่า “ก๋ง” และหญิงไทย (ยาย) ที่เราเรียกว่า “แม่เฒ่า” เกิดในตำบลเฉียงพร้า อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฏร์ธานี แม่เป็นลูกคนแรกในจำนวนพี่น้อง ๓ คน มีน้องเป็นเพศชายทั้งคู่ ก๋งเป็นเจ้าของเหมืองดีบุก แม่บอกว่า(เนื่องจากข้าพเจ้าเกิดไม่ทัน)....
ก๋งและแม่เฒ่าเป็นคนใจบุญ มีกงสีในเหมือง เลี้ยงชาวบ้านในละแวกนั้นทุกวัน หุงข้าวเป็นกระทะให้คนงานเหมือง ชาวบ้านคนใดที่ต้องการกินก็ไปกินได้โดยไม่ห้าม ในกงสีจะมีการทำบุญเลี้ยงพระทุกอาทิตย์ไม่ขาด ทั้งสองท่านจึงเป็นที่รักและเคารพของชาวบ้านโดยทั่วหน้า
ท่านเป็นคนใจบุญ มีน้ำใจโอบอ้อมอารีกับทุก ๆ คน กิจการเหมืองมีความเจริญด้วยดีมาตลอด ท่านได้เลี้ยงดูเด็กชายกำพร้าคนหนึ่ง ตั้งแต่เล็กจนโตด้วยความรักเหมือนลูกหลาน จะเห็นว่าข้าพเจ้าไม่เอ่ยนามในที่นี้ เพื่อจะได้ไม่เป็นวิบากต่อกันต่อท่านผู้อ่านทุกท่าน (เด็กคนนี้จะมีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงในครอบครัวของข้าพเจ้าต่อไป)
kittanan_2589:
แม่ในวัยสาวเป็นคนสวยสง่างามกว่าหญิงชาว บ้านทั่วไป จึงเป็นที่หมายปองของบุรุษเพศทั้งหลาย แต่ก๋งกับแม่เฒ่าได้ตกลงให้แม่ได้แต่งงานกับชายจีนไหหลำเป็นช่างทอง ในที่สุดแม่ก็อยู่กับพ่อจนมีลูกทั้งสิ้น ๗ คน รวมทั้งข้าพเจ้าเป็นคนสุดท้อง แม่เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า ในการปฏิสนธิของลูกทั้ง ๗ คน บางคนบังเกิดเหตุอัศจรรย์มาบอกกล่าวล่วงหน้า บางคนก็ไม่มี
พี่คนแรก ขณะที่แม่หลับไปได้มีเสียงผู้หญิงมาเรียกแม่ว่า “คุณหญิง ๆ ขอฝากเด็กผู้หญิงไว้ในครรภ์สักคนได้ไหม ?” แม่บอกว่าได้ “แต่มีข้อแม้ว่า เด็กคนนี้มีของคู่บารมีติดมาด้วย ให้เก็บรักษาไว้ให้ดี ไม่เช่นนั้น เด็กคนนี้จะอยู่ไม่ได้” แม่ก็รับปากรับคำ
จากนั้นแม่ก็ตั้งท้องอยู่เก้าเดือนเศษ วันหนึ่งขณะที่แม่ไปอาบน้ำที่บ่อน้ำแบบชาวบ้านอันเป็นกิจประจำวัน แม่เกิดปวดท้องขึ้นมา คลอดทารกเพศชายตัวเล็กมีอาการครบ ๓๒ ประการ ที่แปลกคือ ทารกน้อยมีท่อนบนเป็นสีเหลือง ท่อนล่างเป็นสีเขียวตัวเล็กมาก แม่ตกใจเลยเอากิ่งไม้ไปแตะตัวทารก ปรากฏว่าทารกน้อยใช้มือเกาะกิ่งไม้นั้น แม่เลยเอากิ่งไม้ปักไว้ที่ปากบ่อ (เป็นบ่อดินแบบโบราณ)
เมื่อแม่อาบน้ำเสร็จก็กลับบ้าน โดยลืมหยิบเอากิ่งไม้ที่มีเด็กทารกเกาะอยู่กลับไปด้วย เมื่อถึงบ้านพัก ก็เล่าให้แม่เฒ่า(ยายของข้าพเจ้า)ฟัง แม่เฒ่าบอกให้แม่รีบกลับไปเอามา แต่เมื่อแม่กลับไปที่บ่อน้ำก็ไม่พบทารกเพศชายเสียแล้ว คงเหลือแต่กิ่งไม้เท่านั้น
อีกสามวันต่อมา แม่ปวดท้องคลอดทารกหญิงที่มีผิวพรรณงดงาม เป็นที่ปลื้มปีติของทุกคน เป็นลูกคนแรก เป็นหลานคนแรกของครอบครัว จึงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อยู่มาเจ็ดวัน แม่ได้ยินเสียงเรียกจากผู้หญิงคนเดิมว่า “คุณหญิง ๆ ! จะเอาลูกที่เกิดมากลับไปแล้ว ให้ของดีคู่บุญ(ทารกเพศชาย)มาแล้วเอาไว้ไม่ได้ ขอเอากลับไปก่อน” แม้ว่าแม่จะขอร้องประการใด ตลอดจนรับผิดก็แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความยินยอม พี่ของข้าพเจ้าเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น จึงเป็นที่เศร้าโศกเสียใจกับทุกคน ทารกเพศชายที่หายไปนั้น เรียกกันว่า “ลูกกรอกคู่บารมี"
kittanan_2589:
พี่คนที่สองก็ เช่นกัน ขณะที่แม่นอนอยู่ก็มีเสียงผู้หญิงมาเรียกเช่นเดิม “คุณหญิง ๆ ! จะขอฝากทารกชายไว้ในครรภ์ จะเอาไหม ?" แม่ตอบว่า "เอา" "แต่มีเงื่อนไขว่า จะมีของดีติดตัวมา เก็บไว้ให้ดี ไม่เช่นนั้นจะขอกลับเหมือนเดิม.." ตอนสิบเดือน แม่ปวดท้อง ได้คลอดทารกเพศชายหน้าตาดี ผิวพรรณงาม ใน ขณะที่ทารกเพศชายคลอดออกมาหรือที่เรียกว่าตกฟากนั้น ไก่ที่เลี้ยงไว้เกิดขันขึ้นพร้อม และได้ออกไข่มาฟองหนึ่ง ที่น่าประหลาดคือเป็นไข่ฟองใหญ่กว่าปกติ ไข่ไก่ฟองนั้นมีขนาดเท่าไข่ห่าน
*แต่ด้วยบุญหรือบาปอย่างไรก็สุดที่จะคาดคิด* ครบเจ็ดวัน ตามประเพณีจะต้องโกนผมไฟของเด็กชายผู้เป็นพี่ของข้าพเจ้า พ่อไม่ทราบเพราะแม่ไม่ได้บอกพ่อไว้ พ่อจึงเอาไข่ใบนั้นมาต้มทำการรับขวัญบุตรชาย เสร็จพิธีตกกลางคืนก็มีเหตุการณ์เช่นเดิม แม่ขอร้องด้วยความรักลูก จนได้รับความยินยอม หญิงผู้นั้นบอกว่า "เด็กจะลำบากทุกข์ยากจะเอาหรือไม่ ?" แม่ตอบว่า "เอา" พี่ชายคนโตจึงมีชีวิตอยู่ เป็นเด็กฉลาด แต่ตกทุกข์ยากแสนสาหัส จนกระทั่งจบชีวิตเมื่อไม่นานมานี้
พี่คนที่สาม คนที่สี่เป็นผู้หญิง พี่คนที่ห้าเป็นผู้ชาย ไม่มีอะไร เป็นไปตามปกติ มีชีวิตอยู่ทุกคน
พี่สาวคนที่หก เป็นพี่ที่ต่อจากข้าพเจ้า ก่อนจะปฏิสนธิลงครรภ์ คืนหนึ่งได้มีผู้หญิงมาเรียกแม่เช่นเดิม “คุณหญิง ! ขอฝากเด็กไว้ในครรภ์สักคนได้ไหม ?" แม่บอกว่า "ได้" ผู้หญิงท่านนั้นยื่นแหวนทองคำหัวเป็นพลอยประดับเพชรให้ แม่รับแหวนวงนั้นมาแต่กลับทำหลุดมือ หัวพลอยหลุดออกจากวงแหวน ผู้หญิงท่านนั้นจึงบอกว่า "เด็กอายุจะสั้นนะ อายุ ๓๕ ปีก็จะเสียชีวิต.."” แม่บอกว่าไม่เป็นไร พี่สาวมีอายุ ครบ ๓๕ ปีก็เสียชีวิตจริงตามที่บอกไว้ พี่คนนี้สวยน่ารัก มีจิตใจงดงาม เสียสละ เป็นที่พึ่งให้กับพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนจนกระทั่งเสียชีวิต
kittanan_2589:
คนที่เจ็ดคือตัวข้าพเจ้า คืนหนึ่งมีผู้หญิงมาเรียกแม่เช่นเดิม "คุณหญิง ! จะฝากเด็กชายให้จุติลงครรภ์สักคนได้ไหม ?" แม่ตอบด้วยความดีใจว่า "ได้" ผู้หญิงท่านนั้นก็หยิบลูกแก้วใส ส่องประกายสว่าง ยื่นมาให้แม่ แม่ยื่นมือไปรับ แต่ผู้หญิงท่านนั้น ยังไม่มอบให้ บอกให้ "ไปเอาพานทองพร้อมด้วยผ้าขาวมาปูพานเสียก่อน" แม่ได้ยินเช่นนั้นก็ไปหาพานทองมา แต่กลับหาผ้าขาวมาปูรองพานไม่ได้ ได้แต่ผ้าขนหนูสีเหลืองผืนเล็กที่ยังไม่ได้ใช้ แม่ถามว่า "ผ้าขาวไม่มีจะใช้ได้ไหม ?" มีคำตอบว่า "ใช้ได้ แต่เกิดมาจะลำบากนะ จะเอาไหม ?" "เขามาบำเพ็ญบารมี"
แม่ตอบว่า "เอา" พร้อมยื่นพานไปรับลูกแก้วลูกนั้น แต่ผู้หญิงท่านนั้นก็ยังไม่วางลูกแก้ว ได้บอกแม่ต่อไปว่า "มีเงื่อนไขอีกข้อหนึ่งคือ ขอเพียงฝากไว้ในครรภ์ เมื่อจุติแล้วจะมาเลี้ยงเอง คุณหญิงไม่ต้องให้ดื่มนมจากเต้าของคุณหญิงนะ" เมื่อแม่รับปากแล้ว ผู้หญิงท่านนั้นก็วางลูกแก้วลงในพาน แม่เลยถามว่า "แล้วจะเอาลูกแก้วไปวางไว้ที่ไหน ?" ได้รับคำตอบว่า "หน้าพระ" พร้อมชี้มือไปยังโต๊ะหมู่ที่วางพระพุทธรูป แม่ก็เอาไปวาง ก็มีแสงสว่างเจิดจ้าอยู่ที่หน้าพระ
จากนั้นแม่ก็ตั้งครรภ์ ๙ – ๑๐ เดือน ก็ได้จุติเด็กชายขาวสวย ผิวพรรณมีน้ำมีนวล มีราศี เป็นที่ยินดีแก่แม่ พ่อและพี่ ๆ เป็นอย่างยิ่ง ด้วยความรักที่มีต่อลูก ถึงเวลาแม่ก็ให้น้ำนมเพราะกลัวลูกหิว แม่ได้ลืมคำบอกกล่าวว่าอย่าให้นม ผู้หญิงท่านนั้นจะมาให้นมเอง เลี้ยงเอง
kittanan_2589:
แม่สองภพ
ข้าพเจ้ามีแม่สองภพ จะจริงหรือไม่ เป็นอย่างไรก็ตาม ได้บังเกิดกับข้าพเจ้าแล้ว โดยเหตุผลกลใดก็ตาม ปรากฏว่าน้ำนมจากเต้านมของแม่แห้งสนิท ต่างกับแม่ลูกอ่อนทั่วไปที่คลอดลูกใหม่ เต้านมจะเต่งตึงมีน้ำนมเต็มเต้า เพื่อให้ลูกได้ดื่มกินประทังความหิวโหย
แม่ไม่มีน้ำนมให้ข้าพเจ้าได้ดื่มกินแม้แต่หยดเดียว แม่บอกว่ามีอยู่สองสามหยดก็มีกลิ่นเหม็นบูด แต่ข้าพเจ้ามีชีวิตสมบูรณ์ตลอดหกเดือนก่อนให้อาหารหยาบได้ แม้แม่จะพยายามทุกวิถีทางจะให้อาหาร กลัวลูกตายเพราะไม่ได้กินนม จึงไปซื้อนมกระป๋อง (สมัยก่อน) นำมาชงใส่ขวดให้ดื่ม ข้าพเจ้าก็ไม่ยอมดื่ม
แต่ได้มีผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง ผิวขาว มีกลิ่นหอมกรุ่น สวยสง่างามมาก มาให้นมข้าพเจ้ากินจนครบหกเดือน เป็นนมที่หอมหวาน เด็กแรกเกิดจะรู้สึกรับรู้กลิ่นรสได้อย่างไร นี่แหละเป็นสิ่งที่น่าแปลก เหนือเหตุเหนือผล
ข้าพเจ้าเหมือนจำความได้ตั้งแต่เกิดและก่อนเกิด ตามปกติย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่นี่คงเป็นเรื่องไม่ปกติธรรมดา จึงบังเกิดเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้กับตัวข้าพเจ้า ดวงวิญญาณที่มาฟูมฟักเลี้ยงดูข้าพเจ้า ตั้งแต่แรกเกิดจนเจริญวัย ไม่ได้ห่างกายข้าพเจ้าเลย คือ แม่ในภพก่อน ติดตามมาดูแลด้วยความรักความห่วงใย เฝ้าอบรม ให้กำลังใจยามท้อแท้ต่อชีวิต พร่ำสอนสั่ง บังคับให้อยู่ในเส้นทางปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ไม่ให้ออกนอกเส้นทาง แม้จะลำบากแค่ไหนก็ตาม มาตอนหลังข้าพเจ้าจึงทราบว่า ผู้หญิงท่านนั้นที่เลี้ยงดูข้าพเจ้าคือ สมเด็จพระเทพมารดรนามว่า “พระแม่อทิติ” หรือ “อทิติพระเทพมารดร” พระมารดาแห่งองค์เทพทั้งมวล
ข้าพเจ้าจึงมีแม่สองภพ คือ แม่ในภพปัจจุบันและแม่ในภพอดีตที่ตามมาเลี้ยงดู ข้าพเจ้านับเป็นผู้พอจะมีบุญวาสนาอยู่บ้าง ที่เกิดมาแล้วมีเทวดาชุบเลี้ยง ซึ่งจะเป็นคำตอบส่วนหนึ่ง และต้องค้นหาต่อไปอีก จากคำรำพึงของข้าพเจ้าที่ว่า ข้าพเจ้าเป็นใคร ? มาจากไหน ? มาทำไม ? แล้วจะไปไหนหนอ ?
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว