ฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่น200บาท/กก. ..อีกหนึ่งธุรกิจติดชายทะเล ที่น่าลงทุน
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
มีนาคม 29, 2024, 06:05:04 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่น200บาท/กก. ..อีกหนึ่งธุรกิจติดชายทะเล ที่น่าลงทุน  (อ่าน 1154 ครั้ง)
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2017, 01:49:12 PM »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง>www.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> https://www.pohchae.com     




เจ้าของฟาร์มเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นเผย ธุรกิจสาหร่ายเติบโตมากขึ้น คนรักสุขภาพส่วนใหญ่ให้ความสนใจ เนื่องจากรับประทานง่ายและมีประโยชน์ แจงผลประกอบการในปีก่อนถือว่าใช้ได้ ผลกำไรคุ้มต้นทุน

   ชี้สภาพอากาศแปรปรวนเป็นปัญหาในการส่งออกสินค้า

  ด้านผู้ขายระบุ กลยุทธ์ในการทำธุรกิจสาหร่ายพวงองุ่น ต้องขายสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานจึงจะมีลูกค้าประจำ

นางสุจิตตา ธรรมโครต เจ้าของฟาร์มต้นแบบเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น จังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยถึงธุรกิจสาหร่ายพวงองุ่นว่า ปีนี้ธุรกิจสาหร่ายพวงองุ่นมีการเติบโตมากยิ่งขึ้นเทียบจากปีที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนใหญ่หันมาบริโภคกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่รักสุขภาพ เพราะสาหร่ายพวงองุ่นมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ มีสารต้านอนุมูลอิสระและเซลล์มะเร็ง เหมาะกับผู้ต้องการลดความอ้วน แถมราคาไม่แพง และรับประทานง่าย คนจึงนิยมรับประทานกันมากขึ้นเรื่อยๆ..

ธุรกิจสาหร่ายพวงองุ่นเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากปีผ่านมา ฟาร์มของตนส่งสาหร่ายพวงองุ่นไปภาคใต้เพียงที่เดียว แต่ปีนี้ เนื่องจากมีผู้บริโภคสนใจเพิ่มขึ้น จึงมีการขยายตลาด กระจายสินค้าออกไปทั่วประเทศ ราคากิโลกรัมละ 200, 300, 350 และ 400 บาทขึ้นไป ซึ่งราคาที่แตกต่างกันจะขึ้นอยู่กับความยาวของสาหร่ายพวงองุ่น ถ้าสาหร่ายมีความยาวมาก ราคาก็จะสูงตามไปด้วย แม้ว่าราคาจะผันแปรตามขนาดความยาวของสาหร่ายพวงองุ่น แต่ในเรื่องของคุณภาพนั้นจะเท่ากันทุกราคา

สำหรับการเริ่มต้นทำฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่น นางสุจิตตา เปิดเผยว่า ได้พันธุ์มาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งเพชรบุรี กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทางผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฯ ให้สาหร่ายพวงองุ่นมาเป็นแม่พันธุ์ในการเพาะเลี้ยง และยกฟาร์มนี้เป็นต้นแบบการทำแปลงเพาะเลี้ยงสาธิตให้กับเกษตรกร ตนจึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อพันธุ์สาหร่ายมาเพาะเลี้ยง แต่จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการเริ่มต้นทำฟาร์ม ที่ถือว่ามากพอสมควร



เจ้าของฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่น กล่าวต่อไปว่า ต้องทำบ่อเพาะเลี้ยงขึ้นมาใหม่ โดยสูบน้ำทะเลขึ้นมาในบ่อทุกวัน เพราะทางฟาร์มไม่ได้ใช้สารเคมีในการเพาะเลี้ยง เป็นการเพาะเลี้ยงเป็นธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องใช้น้ำทะเล เพื่อหมุนเวียนระบบน้ำ และให้อาหารแก่สาหร่ายในการเจริญเติบโต

“ผลประกอบการปีที่ผ่านมาถือว่าใช้ได้ ค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ตกประมาณ 1,500 บาท ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสูบน้ำ ค่าน้ำมัน ค่าจ้างเกษตรกรในการเด็ดสาหร่าย ซึ่งกำไรที่ได้มาจากการส่งออก ถือว่าคุ้มต้นทุน เพราะราคาส่งออกสาหร่ายพวงองุ่นอยู่ในระดับที่ดี แต่อาจจะมีช่วงขาดทุนบ้าง เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น อากาศหนาวในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้สาหร่ายพวงองุ่นมีปัญหา หากส่งไปให้ลูกค้า สาหร่ายพวงองุ่นก็จะไม่มีคุณภาพ สีไม่สดเท่าที่ควร ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทางฟาร์มจะติดต่อไปยังลูกค้าเพื่อแจ้งถึงปัญหา จะไม่มีการส่งสินค้าที่ไม่ดีให้ลูกค้าเด็ดขาด” เจ้าของฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่น กล่าว

เจ้าของฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่น กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันมีคู่แข่งในการทำฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่นจำนวนมาก แต่จะไม่มีการแข่งขันกันในเรื่องของการตัดราคา จะมุ่งแข่งกันในเรื่องของคุณภาพมากกว่า เพราะลูกค้าทุกคนต่างก็ต้องการสาหร่ายพวงองุ่นที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีสภาพสดใหม่

ด้านนายตฤณ สืบจากอินทร์ ผู้ขายสาหร่ายพวงองุ่นรายย่อย ระบุว่า ในต่างประเทศมีการบริโภคสาหร่ายพวงองุ่นกันมายาวนานแล้ว แต่ในประเทศไทยเพิ่งมีการนำเข้ามาเพาะเลี้ยงและจัดจำหน่าย โดยตนหันมาขายสาหร่ายพวงองุ่น เพราะเป็นคนชอบรับประทานอยู่แล้ว เมื่อพื้นที่ที่ตนอาศัยยังไม่มีผู้ขาย จึงเป็นโอกาสที่ดีในการทำธุรกิจจำหน่ายสาหร่ายพวงองุ่น

นายตฤณ กล่าวต่อไปว่า ต้นทุนในการทำธุรกิจจำหน่ายสาหร่ายพวงองุ่นเริ่มแรกประมาณ 800 บาท โดยซื้อมาแค่ 1 กิโลกรัม แต่กลับได้กำไรมาก หลังจากนั้น ตนจึงรับซื้อสาหร่ายพวงองุ่นมากขึ้น ในแต่ละรอบจะซื้อมาจำนวน 5 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาจะตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 600 บาท สาหร่ายพวงองุ่นที่รับซื้อมาเป็นสาหร่ายที่พร้อมรับประทาน ซึ่งกำไรและยอดขายในแต่ละรอบนั้นถือว่าคุ้มค่า เพราะขายในจำนวนที่มาก เน้นการลงทุนในพื้นที่ที่ผู้คนส่วนใหญ่เดินผ่านไปมา โดยตนขายอยู่ที่ตลาดนัดเจเจกรีน ย่านตลาดนัดจตุจักร เป็นแหล่งที่มีลูกค้าหลายกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้สาหร่ายพวงองุ่นเป็นอาหารที่รับประทานได้ทุกเพศ ทุกวัยและมีประโยชน์ ลูกค้าจึงให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งตั้งแต่ทำการขายสาหร่ายพวงองุ่นมา ยังไม่มีการขาดทุน



นายตฤณ กล่าวถึงกลยุทธ์ในการขายว่า ตนจะเลือกสรรสาหร่ายที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานเท่านั้น ลูกค้าสามารถเก็บรักษาได้นาน จึงสนใจและมาซื้อต่อเนื่อง จนกลายเป็นลูกค้าประจำ และตนมีการชั่งน้ำหนักสาหร่ายพวงองุ่นต่อหน้าลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าทางร้านไม่มีการเอาเปรียบ

“การขายสาหร่ายพวงองุ่น นอกจากจะต้องขายสาหร่ายที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานแล้ว น้ำจิ้มและผลิตภัณฑ์ก็เป็นส่วนสำคัญในการขาย หากน้ำจิ้มไม่อร่อยก็จะทำให้สาหร่ายพวงองุ่นรสชาติไม่ดี จนไม่สามารถรับประทานต่อไปได้” นายตฤณ กล่าว






บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!