สรุปสัมมนาปฏิรูปประเทศ ที่มาของประเทศไทย 4.0
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
มีนาคม 29, 2024, 10:33:00 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปสัมมนาปฏิรูปประเทศ ที่มาของประเทศไทย 4.0  (อ่าน 2068 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1882
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13199


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: มิถุนายน 28, 2017, 08:10:22 PM »

MD.พวกกัน ส่งมาให้

-GDP และ Export ลดลงมาตลอด ในช่วงที่ผ่านมา นั่นเป็นเพราะ ประเทศไทย
ขายของล้าสมัย ถ้าเทียบกับบริษัท ก็เหมือน ไทย
เราเป็น Nokia เป็น Blackberry ขายของไม่ค่อยออก
ทำให้ Export ลดลงมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา

-ถ้าเปรียบกับ การประกวดนางงาม ประเทศไทย
เปรียบเสมือน ผู้หญิงวัยกลางคนแล้ว
เดี๋ยวนี้ Investors เค้าสนใจไปลงทุนใน จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ลาว, พม่า ฯลฯ
กันมากกว่า

ต้องทำอะไรเพิ่มบ้าง??

-ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
    *ช่วงที่ผ่านมา ดีเลย์ มาตลอด เพราะ เกิด กีฬาสี / การเมือง

-Advance and Innovative industries

-เรากินบุญเก่ามาตลอด มีแต่อุตฯ เดิมๆ เช่น ปิโตรเคมี , ยานยนต์ , อิเล็กทรอนิกส์

-ดังนั้นเราต้องสร้างอุตฯ ดาวรุ่งใหม่ๆ ขึ้นมา โดยเฉพาะบน พื้นที่ EEC

-Better Livelihood of Our People Local Economy and HRD

-New Set of Laws and Institutions
กฏหมายยังโบราณ ฉุดการเติบโต เศรษฐกิจของบ้านเรา

จุดแข็ง/โอกาส ของประเทศไทยคืออะไร??

-เราเป็นประตูสู่อาเซียน 230 ล้านคน (CLMV + Thailand) เราเป็นจุดศูนย์กลางของอาเซียน

note ไว้ว่า เราส่งออกไป CLMV แทบจะเยอะที่สุดแล้ว
(ถ้ารวมรายการนอกบัญชีอีก เราคิดว่า เยอะที่สุด แน่ๆ)

-บังคลาเทศ 160 ล้านคน ก็ไม่ถูกกับ เมียนม่า และ อินเดีย >>
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาส ที่เค้าจะมาร่วม และเชื่อมกับ CLMV + Thailand >>
รวมเป็น 400 ล้านคน

-รัฐบาลนำเรื่องนี้ไปขาย story กับ Foreign Investors
จะชอบเรื่องนี้กันมาก เพราะ ตลาดมันใหญ่มากจริงๆ

-เราเป็นส่วนที่สำคัญ ของนโยบาย One Belt One Road ของ จีน
รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน เป็นส่วนสำคัญ ของนโยบายนี้ของจีน
เพราะ เชื่อมไปกับ จีน (ลาว เริ่มก่อสร้างแล้ว )
>> และจะเชื่อม มาบกะเบา มา แหลมฉบัง ด้วย  >>>
ถ้าสำเร็จเสร็จสิ้น มันจะเชื่อมจาก
London มา China มา Laos มา Thailand >> Malaysia

-ถนน Indochina มีการเชื่อมกันเป็นใยแมงมุม
กันมากขึ้นเยอะมาก เช่น เส้น R3A , R12
(นครพนม ไป เวียดนาม ชายฝั่ง ห่างเพียง 270km ) ฯลฯ

-นครพนม สามารถส่งออกได้ 100bn/ปี !!!
ภายหลัง สะพาน ไทย - ลาว สร้างเสร็จ และ R12 สร้างเสร็จ 

เราทำอะไรไปแล้วบ้าง?? และกำลังจะทำอะไร อีกบ้าง??

-ประมูล 4G ไปแล้ว

-รถไฟทางคู่ 2 เส้น ก่อสร้างแล้ว (เป็น project แรกที่ bid ได้แล้ว construct ได้ทันทีใน 1 mth)

-หลังจาก ร.5 สิ้นไป 150 ปี สร้างรถไฟได้แค่ 75 km เท่านั้นเอง
แต่รัฐบาลนี้ approve ไปแล้ว 1,000km >>
เอาเส้นทางเดิมมาทำเป็นทางคู่ เพื่อให้มันขนส่งสินค้าได้

-ในปี 2017F-18F รัฐบาลจะ approve เพิ่มเติมอีก 7 เส้นทาง 1,000km
ซึ่งจะเป็นรถไฟทางคู่ เส้นทางใหม่ !! (ครั้งแรกในรอบ 150 ปี !!!)

-motorway 3 เส้น ก่อสร้างไปแล้ว
East-west corridor เริ่มแล้ว (วิ่งผ่าน ขอนแก่น, พิษณุโลก, แม่สอด) >>
จะพลิกโฉม ศก. จังหวัดเหล่านี้ ถ้าสร้างเสร็จ

-กรุงเทพ-หนองคาย และ กรุงเทพ-ระยอง เตรียม เริ่ม bidding ในปี 2017-18F นี้

-เตรียมขยายสนามบินอีก 400bn กว่า เพราะปัจจุบันใช้เกิน capacity ไปปีละ 23 ล้านคน !!
(อาจจะขยายเพิ่มในส่วน BKK phase 2 ,  กระบี่, อุดรธานี ฯลฯ)

-รถไฟฟ้า 10 เส้นทาง  + รถไฟที่ตัดผ่านพื้นที่ชั้นใน กทม จะยกระดับทั้งหมด >>
เพื่อลด ต้นทุนการเดินทาง ใน กรุงเทพฯ ลง

-โดยสรุป ก็คือ หลังจากที่พูดกันมาเป็นสิบปี มันเกิดขึ้นจริงแล้ว และจะยังทำมากขึ้นเรื่อยๆ !!

ทำไปเพื่ออะไร??

*เพื่อการเชื่อมโยง เพราะตอนนี้เราอยู่ระหว่าง
การพัฒนาครั้งมโหฬารใน CLMV

    -เกิดเมืองใหม่ๆ มากขึ้น เช่น

เชียงราย จะเป็นเมืองหน้าด่านกับ เมืองจีน

แม่ฮ่องสอน จะเชื่อม มัณฑะเล เป็นเมืองใหญ่ของ พม่า

แม่สอด เป็นประตู สู่ย่างกุ้ง

กาญจนบุรี  กลายเป็นเมืองหน้าด่าน กับ พม่า เช่นกัน


พัทยา เป็นเมืองแห่ง Mice


ขอนแก่น เป็นเมืองแห่ง Bioeconomy ฯลฯ



    -เพื่อเป็นศูนย์กลางของ CLMV + thailand ประชากร

รวมกันกว่า 230 ล้านคน (ถ้ารวมบังคลาเทศ ก็ 400 ล้านคน)

ตัวอย่าง เช่น บริษัท Minibea เดิมมีฐานผลิตอยู่ที่ไทย เพิ่งจะขยายไป พนมเปญ ที่ เขมร 
เพราะ ถนนหนทาง มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อผลิตสินค้า high value
ที่ Thailand แล้วส่งไปประกอบ ที่ เขมร แทน
อีกตัวอย่างคือ กล้อง Nikon ก็นอกใจไทย ไปเปิดโรงงานที่ ลาว แล้วเช่นกัน

หรือ อย่าง บริษัทยานยนต์ , สิ่งทอ เค้าก็ไปเหมือนกัน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่มันต้องเกิดสำหรับประเทศที่จะก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลางอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่า ประเทศไทย ต้องยกระดับตัวเอง
ขึ้นเป็น Thailand 4.0 ให้ได้ ผลิตสินค้า High value added

EEC คืออะไร??

*EEC คือประตูสู่อาเซียน และคนที่เข้ามาลงทุน จะได้ตลาด CLMV + บังคลาเทศ ด้วย
ซึ่งเราต้องลง infrastructure เพื่อเชื่อมโยง ประเทศเหล่านี้ เป็น network เดียวกัน

*มันคือ Eastern Seaboard Season 2

*ข้อได้เปรียบ คือ เรามี อุตฯ ปิโตรเลียม + ชิ้นส่วนยานยนต์ 

ซึ่งเป็นอุตฯ ต้นน้ำ ไปพัฒนาสินค้าอื่นๆ ต่อได้อีกเยอะ

*จะ focus บนพื้นที่ แหลมฉบัง ท่าเรือสัตหีบ  มาบตะพุด  (ขนาดจะประมาณ 2x ของ SG)

ไม่ถึงขนาด พื้นที่ทั้งหมด สามจังหวัด ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา

*หัวใจของ EEC คือสนามบินอู่ตะเภา (ที่ผ่านมา ทัพเรือ ไม่เคยอนุญาตซักที) >>
       - One airport Two mission >> มีพื้นที่ 15k ไร่ จะแบ่งครึ่งๆ เพื่อ ความมั่นคง
          และ เพื่อ commercial  (รถไฟความเร็วสูง จะวิ่งผ่านมาทางนี้ด้วย) >>
       
       - Airbus มาขอจีบตลอดในช่วงที่ผ่านมา (เค้าบอกจะเอาศูนย์ซ่อมที่ทันสมัยที่สุด + โรงเรียนการบิน) >>
         บริษัทชิ้นส่วนอากาศยาน กว่า 10 แห่ง สนใจเข้ามาใน อู่ตะเภา
       - สายการบิน จำนวนมหาศาล จะเข้ามาบนพื้นที่ อู่ตะเภา ข้อได้เปรียบคือ
         ประหยัดเวลาเยอะมาก ถ้ามาศูนย์ซ่อมบำรุงที่ อู่ตะเภา (แทนที่จะเป็น ชางฮี SG)
       - เราไม่ได้สร้างสนามบิน แต่สร้าง เมืองแห่งการบิน ต่างห่าง (Sky city / Airport city / Aerotropolis) 
         คือพัฒนาพื้นที่ commercial/ medical hub/  real estate นู่นนี่ เพิ่มเติมไปเลย
         เพื่อให้ Head office อยู่ใกล้ Airport ที่สุด ประหยัดเวลาได้เยอะมาก  ฯลฯ
        -อีกหน่อย นักท่องเที่ยว ที่จะไปหัวหิน สามารถมาลง อู่ตะเภา
         แล้วนั่งท่าเรือ สัตหีบ ไปหัวหิน ได้เลย ภายใน 1.5 ชม.

*อีกหัวใจนึง คือ "โครงการแหลมฉบัง Phase 3 " เพราะ ถ้าไม่ทำ ในอีก 5 ปี นี้ capacity จะเต็มแล้ว
แต่ครั้งนี้เปลี่ยนแนวคิดด้วย จากเดิม เป็น container ให้เป็นท่าเรือ transhipment
เพื่อเชื่อมโยงสินค้าจาก ท่าเรือแหลมฉบัง ไปยัง ชายแดน CLMV กระจายสินค้าได้ดี
เหมือน ท่าเรือ rotterdam กระจายสินค้าให้ทางยุโรป


ความคืบหน้าอื่นๆ ของ EEC

*ล่าสุด Lazada จะสร้าง E-commerce park ซึ่งเป็นเรื่อง Logistics ที่ใหญ่ที่สุดใน EEC
เพราะ ตรงนี้เป็นพื้นที่ ที่ดีที่สุดในการกระจายสินค้า (ส่วน digital park ค่อยเอาไปไว้ที่ มาเลเซีย)

*BMW จะเอา battery ไฟฟ้า มาผลิตที่ Thailand เป็นครั้งแรก

ที่เค้าเอาtechnology นี้ออกจาก germany มานอกประเทศ

*กำลังคุยญี่ปุ่น ให้มาลงทุน ในอุตฯ Robot

*กระทรวงวิทฯ เตรียมตั้ง ศูนย์วิจัย ใน EEC ที่ Wang chan Valley 3,000 ไร่
ซึ่งรัฐบาลอนุมัติให้ นักวิจัย + ผู้บริหาร จาก ตปท. จะเสียภาษีแค่ 15%
ถ้าเข้ามาทำงานในไทย (vs คนไทย 35%)

โดยสรุป คือ

1.ในอดีต ไทย ตัดสินใจถูกสองเรื่องคือ
    *ไทยตัดสินใจไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ทำให้เรากลายเป็น hub ของยานยนต์
    *ไทยตัดสินใจ ลงทุนปิโตรเคมี (ยุคโชติช่วงชัชวาลย์)

2.ไทย ต้องหารายได้ใหม่เข้าประเทศ
    *แผนระยะสั้น >> focus 5 อุตฯ
    *แผนระยะกลาง >> เป็น logistics hub ของ ASEAN
    *แผนระยะยาว >> Advances in innovation & human resources

# HOME THIEN

 ju_ju!!


บันทึกการเข้า

ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18613


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2017, 06:49:01 AM »

AEC.. หายไปไหนเเล้วล่ะ

 lv! THANK!!
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!