เลี้ยงแพะ..ในสวนยาง อีกทางรอด..ราคายางร่วง
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 17, 2024, 12:02:34 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เลี้ยงแพะ..ในสวนยาง อีกทางรอด..ราคายางร่วง  (อ่าน 3172 ครั้ง)
ปื้น ปากพนัง
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน173
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 531


« เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2014, 01:07:56 PM »



“ได้ประหยัดทั้งค่าอาหารเลี้ยงแพะ ยังลดค่าปุ๋ยใส่ต้นยางพารา และไม่ต้องจ่ายค่าจ้างคนงานมาถางวัชพืชในสวนยางพารา เลี้ยงจนชำนาญก็สร้างรายได้เพิ่ม แค่ครึ่งปีมีกำไรเห็นๆ จนเป็นรายได้หลักมากกว่ากรีดยางที่ราคาร่วงซะอีก”


บันทึกการเข้า

ปื้น ปากพนัง
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน173
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 531


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2014, 01:10:05 PM »



นายบุญลาภ เพ่งเมือง เกษตรกรชาวสวนยางพารา หมู่ 7 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เล่าว่า เลี้ยงแพะมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยใช้ แพะสายพันธุ์แองโกลนูเบียน ซึ่งเป็นแพะเนื้อ เพราะตลาดต้องการมาก วิธีการเลี้ยงจะแยกออกเป็นคอก คอกละ 30-40 ตัว โดยมีตัวผู้เพียงตัวเดียวไว้คอยควบคุมฝูง

ช่วงลูกแพะเกิดใหม่ๆจะเลี้ยงด้วยอาหารเสริมประมาณ 1-2 เดือนเพื่อขุนให้แพะเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ออกหากินเองในสวนยางพารา ทั้งที่มักเป็นวัชพืช และแพะเป็นสัตว์ที่สามารถกินได้ทุกอย่าง พืชได้ทุกชนิด แต่สิ่งที่ต้องคอยระวังก็พวกพลาสติก หรือสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะมีการปลิวมากับลมหรือมีคนเอามาทิ้งไว้ เพราะมันกินหมด
บันทึกการเข้า
ปื้น ปากพนัง
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน173
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 531


« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2014, 01:13:19 PM »



“การเลี้ยงแพะไม่ยากเท่าไหร่ เพียงแต่เราต้องรู้ว่า ระยะเวลาของแพะที่เจริญเติบโต หากยังเล็กๆอยู่ก็ควรให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค เมื่อโตขึ้นแพะจะกินมากขึ้น อาจจะเกิดอาการท้องผูกถ่ายไม่คล่อง ส่งผลให้ติดเชื้อตายได้ เราก็ต้องให้สมุนไพรหรือจำพวกว่าน ผสมกับน้ำมันพืชให้กิน จากนั้นแพะจะถ่ายอุจจาระออกมา และต้องคอยควบคุมในเรื่องความสะอาด ถือว่า เป็นหัวใจการเลี้ยงแพะให้อยู่รอด”

บุญลาภ บอกว่า เลี้ยงแค่ 6 เดือน ก็สามารถขายแพะได้แล้ว ในราคาประมาณกิโลกรัมละ 200-300 บาท คิดคำนวณแล้วจากการขายไปได้ 1,000 บาท มีกำไรถึง 700 บาทเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ได้ประโยชน์เพิ่มนั่นคือ การลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานมาถากถางวัชพืชสวนยางที่ต้องเสียเงินถึงไร่ละ 200-300 บาท หากมี 10 ไร่ก็ปาเข้าไป 3,000 บาท ปีละ 2 ครั้ง ในช่วงหลังหน้าฝนกับช่วงใส่ปุ๋ยบำรุงต้นยาง



ตรงนี้เลยมองว่า เป็นผลพลอยได้ที่ชัดเจนมาก อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการผลิต โดยใช้มูลแพะมาทำเป็นปุ๋ยหมักใส่พืชเกษตร เช่น สวนปาล์ม ยางพารา ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ทางปศุสัตว์จังหวัดพัทลุงยังสนับสนุนพันธุ์แพะ รวมทั้งยังช่วยพัฒนาสายพันธุ์ให้แข็งแรง โดยมีสัตวแพทย์มาคอยตรวจเยี่ยมตามฟาร์มเสมอ จึงไม่ต้องห่วงในเรื่องโรคระบาด ทำให้อาชีพเลี้ยงแพะในสวนยางพารา หรือจะเลี้ยงในสวนปาล์มก็จะยั่งยืน นับเป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มรายได้แก่พวกเราชาวสวนยางพาราอย่างยั่งยืนมั่นคง...สนใจมาศึกษาวิธีการเลี้ยง หรือต้องการสายพันธุ์แพะ ปรึกษาบุญลาภได้ที่ 08-1095-0786.

http://www.108kaset.com/board/index.php?topic=1936.0
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!