ธรรมะจากพระสงฆ์ผู้เจริญธรรม ตอนที่ 9-13
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะจากพระสงฆ์ผู้เจริญธรรม ตอนที่ 9-13  (อ่าน 1189 ครั้ง)
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 06:29:26 AM »

ขอขอบพระคุณ ผู้ที่รวบรวบเอาไว้ คือ พันตรี เกรียงศักดิ์ ชัยชนะกิจพงษ์

 cpongwuth@yahoo.com หรือ MSN - pong_wuth@hotmail.com

จาก เว็บมาสเตอร์ เว็บธรรมะพุทธองค์  เพื่อนบ้านเราจากเว็บ http://kasin.saiyaithai.org เป็นอย่างสูงครับ

หากมีข้อสงสัย อะไรก็สามารถ แอด MSN : golfreeze@packetlove.com  ได้นะครับ

ในส่วนนี้ อยากให้ทุกท่านได้ อ่านเพื่อเป็นเรื่องแง่คิดในการทำความดี ทำบุญ เพื่อดำรงชีวิืตของท่านด้วยความสุข สบาย

ถ้าหาก มีข้อผิดพลาด ณ จุดใด ทางผู้จัดก็ขอ อภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ


Kittanan kathaisong


ครั้งที่ 9   วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2548
?อธิษฐานกรรม?
(คำสอนจาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร)

      การ ?อธิษฐานกรรม? คือ การสร้างอธิษฐานวาจาต่อบุญกุศลที่ตนได้สร้างขึ้น เพื่อต้องการให้บุญนี้บรรลุผลอย่างไร  ให้ชัดแจ้งต่อไป  พญายมราช      องค์อัมรินทร์ราธิราชผู้เป็นใหญ่แห่งสามภพ จะรู้ในการอธิษฐานที่ผู้อธิษฐานกำหนดจิตปรารถนาบุญที่กระทำ และเป็นสักขีพยานให้รับรู้
      ผู้ที่ได้เคยสร้างบุญในอดีต  ได้เคยอธิษฐานวาจาต่อมหาราชของสวรรค์ ผู้ดูแลบัญชีบุญบาปของสัตว์โลก  ได้มีอธิษฐานสัจจะอย่างไร  มีบันทึกไว้เสมอ
      ดังนั้น การอธิษฐานกรรมของผู้สร้างกรรม  จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อบุญที่กระทำไว้   
      การที่จะได้บรรุลผลของบุญอย่างไร  ผู้ฟัง (โยม) จะต้องรู้จักการอธิษฐานอย่างมีวิธี  มิใช่ไม่อธิษฐาน แล้วพญายมจะดำเนินการให้ผู้ฟัง (โยม) ได้เสมอทั้งหมด  เจตนาของผู้ฟัง (โยม) คือสิ่งจำเป็นที่สุด  บุญนั้น จึงจะสนองได้ตรงและถูกต้อง
      การอธิษฐานกรรม ทุก ๆ ครั้ง จึงจำเป็นอย่างมาก  อาตมาได้เคยแนะนำการอธิษฐานบุญกุศลไว้ ที่ (ผู้รวบรวบ) ได้พิมพ์เป็นหนังสือไว้เล่มหนึ่ง * ให้ศึกษาตามก็จะเข้าใจได้ ตามตัวอย่างที่อาตมาสอนไว้ได้
      เจริญพร...


(* หนังสือ ?อธิษฐานวจนะ? ? ผู้รวบรวม)
ครั้งที่ 10    วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2548
?ผลแห่งบุญ?
(คำสอนจาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร)

      ?ผลแห่งบุญ? คือ สิ่งที่สนองให้ความสุขแก่ทุกคน  ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง  ทุกข์ยากลำบาก ประสบปัญหาชีวิต ก็ด้วยหนี้กรรมแต่อดีตที่ทำไว้  จึงบันดาลชีวิตจนต้องทุกข์ลำเค็ญ  ไม่มีสุขในเวลาปัจจุบัน
      จงสร้างกุศลไว้เถิด  อนาคตเมื่อบุญกุศลสนองแล้ว  จะมีสุขได้ตามควรแก่กำลังบุญ
      ทุกคนจงเชื่อว่า บุญนี้แหละ จะนำสุขมาให้  ไม่มีใครที่สร้างบาปแล้วจะได้รับความสุข   มีแต่การสร้างบุญ จึงจะพบสุข   บาปจะนำทางให้ตนต้องทุกข์ลำเค็ญ
      เจริญพร...

ครั้งที่ 11    วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2548
?กำลังใจ?
(คำสอนจาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร)

      ?กำลังใจ?   อาตมาเป็นพระภิกษุ ที่เมตตาสงสารผู้อื่นอย่างมาก  สงสารผู้ที่ทำดีเสมอ  มีจิตเมตตา  ไม่ชอบบุคคลที่ทำตัวไม่ดี  สร้างความทุกข์แก่ผู้อื่น
      การสอนของอาตมานี้   เป็นคำสอนที่มาจากใจอาตมา  อาตมามีธรรมะมาให้ผู้ฟัง (โยม) ได้รับรู้ว่า การทำดีของตนเอง จะนำทางสุขมาให้  ไม่ใช่การสร้างบาป หรือหนทางที่มิชอบหรอกนะ
      อาตมา ไม่ชอบคนทำผิดแล้วแก้ตัว   ไม่ชอบคนทำดีเอาหน้า  อยากมีชื่อเสียง  มั่งมี โดยโกงกินชาติ  คดโกงเงินทองจนร่ำรวย  เหยียบย่ำผู้อื่นให้จม แล้วตนเองสบาย  คนแบบนี้ อาตมาไม่ชอบหรอก
      หากใครนับถืออาตมา ก็จงรักษาความดีต่อไป  อย่าทำชั่ว เชื่อเรื่องบุญ ที่อาตมาสอน  จะนำสุขให้ ผู้ฟัง (โยม) แน่นอน
      เจริญพร...



ครั้งที่ 12    วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2548
?บุญ และ บาปของคน?
(หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท )

      ทุกคนมีที่มา คือ มาเกิดอยู่ในโลก เป็นมนุษย์ มีสังขาร มีทุกข์ ก็ด้วยกิเลสของตนเองแท้ ๆ เทียว  ด้วยจิตตนเองนั้นเกิดกิเลส เกิดตัณหา เกิดความอยากที่จะมี คิดที่จะเป็นสิ่งต่าง ๆ จึงได้มามีสังขารเป็นมนุษย์  มีความแตกต่างกันไปตามกุศล และกรรมของทุกคน
      ในอดีตของทุกคน ก่อนจะได้มาเกิดนั้น  อาจจะมีผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องของอธิษฐานกรรม     หรือคิดไปว่า สิ่งที่ตนเองดำริไว้นั้น จะทำให้ตนเองต้องมาเกิดเป็นสิ่งต่าง ๆ ในโลกแห่งนี้
      อาตมา อยากจะเทศน์สอนให้ทุกคนได้เข้าใจอีก  การเกิดของมนุษย์ นั้น มีทางไม่เกิดก็มี ด้วยการทำความดีให้มาก  หมดสิ้นกรรม และหนี้แห่งกรรมที่ตนเองก่อขึ้น  เมื่อนั้น ตนเองก็จะบริสุทธิ์ ไม่มีกิเลส ราคีมัวหมองให้หมองเศร้า  ไม่มีกิเลสนี้อาตมาอธิบายว่า ผู้ที่ดับกิเลสอย่างหมดสิ้นแล้ว นั่นหล่ะ จึงได้ได้ชื่อว่า ?พระอรหันต์?
      ทุก ๆ คน อยากจะพ้นทุกข์  หวังให้ตนเองไม่เกิด  แต่ด้วยอำนาจจิตที่ตนเองยังไม่หลุดพ้นจากขันธ์ กิเลส ความอยากที่ตนเองปรุงไว้  อธิษฐานไว้ก็มี  จึงได้บันดาลให้ตนเองต้องวนเวียนอยู่ในโลกทั้งสาม นรก สวรรค์ และมนุษย์   สามโลกนี้ไม่สิ้นสุด  จนกว่าจะพ้นไปได้ ด้วยการหมดกิเลส
      อาตมา ขอเจริญพร อยากให้ทุกคน ละวางสิ่งที่เป็นความอยากเสียเถิด  ละวางสิ่งที่ยั่วยุทุกคนให้ โลภ ให้ทุกข์  เพื่อตนเองจะได้หมดสิ้นความต้องการชั่วคราว เพื่อความสุขที่ไม่ใช่ทางอันหลุดพ้นโดยแท้
      การปฏิบัติธรรม อย่างหลุดพ้น ก็ต้องมีปัญญา ดับจิตที่ตนเองมีกิเลสครองอยู่  มีดวงตาอันเกิดจากปัญญารู้ด้วยตนเอง  ด้วยการเจริญธรรม  รู้ด้วยบุญและอธิษฐานบุญของตนเองเพื่อทางหลุดพ้นว่า ?ตนเอง จะขอปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น?
      อธิษฐานธรรมนี้ จะเป็นสิ่งนำพาทุกคน ให้ได้พบกับพระธรรมอันเลิศยิ่ง ที่พระพุทธเจ้าได้สอนไว้
      พระไตรปิฎก มีอยู่ในโลก  มีให้ศึกษาได้อย่างกระจ่าง  ขอให้ทุกคน จงเปิดอ่าน และศึกษาตามสิ่งที่พระพุทธเจ้าเทศน์โปรดไว้เถิด
      อาตมา อยากจะขอให้ทุกคน เชื่อในเรื่องพระธรรม อันบริสุทธิ์นี้  จากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า   ด้วยว่าสิ่งนี้เป็นพระธรรมอันบริสุทธิ์อันเลิศยิ่ง
      การจะพ้นทุกข์ไปได้ ก็ต้องมี การเจริญกรรมฐานเสียก่อน ตามลำดับ ให้ปฏิบัติตามพุทธวิธีที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติไว้แต่ในอดีต  และอธิษฐานขอให้ตนได้รู้พระธรรมอันเลิศตามพระพุทธเจ้า  หลุดพ้นทุกข์ตามไป  ดับกิเลสแห่งตนให้หมดสิ้น  ปัญญาสิ่งรู้แจ้งก็จะปรากฏแก่ทุกคนผู้มีธรรม ในบัดนั้น
      ขอให้ทุกคน เชื่อ และยึดถือปฏิบัติตามพระไตรปิฎกเถิด
      ขอเจริญพร...


     
ครั้งที่ 13    วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2548
?การปฏิบัติกรรมฐาน แนว กสิณ?
(หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ต.วังตะโก อ.โพทะเล จ.พิจิตร)

      อาตมา หลวงพ่อเงิน แห่งวัดบางคลาน  จ.พิจิตร ขอเทศนาทุกคนให้ได้รู้เรื่องการปฏิบัติกรรมฐาน แนว กสิณ     ที่พระพุทธเจ้าได้แสดงไว้ในพระไตรปิฎกอันเป็นพระธรรมอันเลิศที่สุดของพระ พุทธเจ้า
      การปฏิบัติกรรมฐาน แนว กสิณ นี้ จะต้องมีจิตที่นิ่ง และสงบ เสียก่อน และปฏิบัติอย่างพากเพียร ก็จะมีฤทธิ์อภิญญาเกิดขึ้นตามวิถีแห่งจิตของตนเอง  หากใครปรารถนาจะมีฤทธิ์ ด้วยเพื่อจะได้รู้ว่า อภิญญาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงต่าง ๆ นั้น สามารถกระทำได้จริงหรือ  ก็ให้ปฏิบัติแนววิธี การเพ่งกสิณ ก็จะได้ฤทธิ์  สามารถมีอภิญญายิ่งได้ ไม่ยาก
      ขอให้ทุกคน มีความตั้งใจ ที่จะปฏิบัติ  ไม่ท้อถอย  ไม่หยุด  เร่งทำต่อไป  อาตมา เจริญอำนาจจิตจนแข็งแกร่ง จึงได้มีอภิญญาทางจิต มีวิชาความรู้   แม้หนทางการปฏิบัติกรรมฐาน เพื่อมีฤทธิ์นี้  ผู้ปฏิบัติมีฤทธิ์มากมายแค่ไหน  ก็ยังต้องครองตนอย่างผู้เจริญธรรมไว้เสมอ  เพื่อรักษาอำนาจจิตอันมีฤทธิ์นี้ให้คงอยู่   หากปฏิบัติไม่ครองตนอย่างถูกต้อง  ละวางอารมณ์สงบ  ปล่อยจิตตนเองให้ลุ่มหลงกับสิ่งหมองทุกข์ต่าง ๆ ฌานก็จะขาด และอภิญญาก็จะไม่เกิดได้
      แนวทางวิธีการปฏิบัติกรรมฐานนี้ ขอให้ทุกคนเร่งปฏิบัติ  ก็จะสำเร็จกสิณอภิญญาได้
      ในอดีตพระเถรานุเถระผู้มีชื่อเสียง อันมี พระสารีบุตร หรือพระอานนท์ ก็ยังมีฤทธิ์  ด้วยพระเถระผู้ปฏิบัติธรรม มีความตั้งใจปฏิบัติอย่างจริงจัง และอดทนต่ออำนาจของมารจิต กิเลสจิตที่คอยมากระทบจิตใจให้หมองทุกข์ มัวหมอง  พระเถระผู้ปฏิบัติธรรม  จึงได้เจริญกรรมฐาน ให้จิตตนเองเกิดอภิญญา เพื่อป้องกันมิให้จิตตนเองพ่ายแพ้ต่อกิเลสมาร และรูปขันธ์มาร เทพบุตรมาร ผู้มาก่อกวนจนมิอาจครองตนได้   การมีฤทธิ์นี้ ก็ด้วยรักษาขันธ์ และจิตตนเองให้ดำรงธรรมได้อยู่อย่างสงบ  เพื่อความพ้นทุกข์ในปลายทาง   มิใช่เพื่ออวดผู้ใดหรือแสดงฤทธิ์แข่งกับผู้ใดเลย
      แม้พระพุทธเจ้า ก็ทรงมีฤทธิ์  มีอภิญญา ก็ด้วยมีพระปัญญาในการใช้ฤทธิ์อย่างมีสติ  มีพระปัญญาในการใช้     การใช้ฤทธิ์ของพระพุทธเจ้าได้ใช้เพื่อโปรดทุกคนให้พ้นทุกข์  มิใช่โอ้อวดว่าพระองค์ตรัสรู้แล้ว ประเสริฐเลิศที่สุด   แต่พระองค์ทรงใช้ฤทธิ์อภิญญาไปด้วยปัญญาสติ มีความรู้ มีหนทางที่จะเทศน์สอนในภายหลังเมื่อผู้นั้นเห็นอัศจรรย์ของการแสดงที่ พระองค์กระทำ       เหมือนดั่งเช่นที่พระพุทธเจ้าทรงได้โปรดต่อองคุลิมาลครานั้น   องคุลิมาลก็ได้บรรลุธรรมขั้นสูง เป็นพระพุทธสาวก อย่างสงบนิ่ง ด้วยอิทธิฤทธิ์ที่พระพุทธเจ้าได้ใช้เพื่อโปรดองคุลิมาลให้มาเป็นศิษย์  ด้วยหวังจะเทศน์สอนให้ปฏิบัติธรรม  มิให้ฆ่าผู้คนจนมากมายไปกว่านี้
      ตัวอย่างนี้  อาตมานำมาเทศน์ เพื่อบอกทุกคนที่เคยพูด หรือเข้าใจการปฏิบัติกรรมฐาน แนวกสิณ อย่างไม่ถูกต้อง ให้มีความรู้ที่เข้าใจดีขึ้น และชัดแจ้งขึ้น  ทุก ๆ คน มีโอกาสที่จะพ้นทุกข์ไปได้  แต่ก็ต้องมีความศรัทธาในพระธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า  เมื่อนั้นบารมีที่เคยสร้างไว้ ก็จะช่วยเหลือให้ผู้นั้นมีปัญญาเกิดขึ้นได้ด้วยการเจริญกรรมฐาน
      อาตมา มิได้ละวางกรรมฐานเลย  แม้เป็นพรหม เป็นสงฆ์บนชั้นพรหมโลกแห่งนี้ ก็ยังได้ใช้กรรมฐานนี้ช่วยเหลือศิษย์ของอาตมาในโลกเสมอ  ด้วยเป็นห่วงศิษย์ของอาตมา  หากอาตมาไม่ช่วยแล้วเขาก็จะมีภัยได้
      อาตมาเป็นพระที่มีเมตตา  มิใช่ผู้วางเฉยต่อทุกข์ของศิษย์  อาตมายังมีความห่วงใยอย่างมากในโลก ห่วงวัดที่อาตมาเคยเป็นเจ้าอาวาส  ห่วงภารกิจต่าง ๆ ที่อาตมาเคยสร้างไว้ในอดีต   แต่ภาระนี้มีเจ้าอาวาสรูปใหม่ดูแลแล้ว  สิ่งที่อาตมากระทำเวลานี้ก็คือ คอยสอดส่องดูแลศิษย์ของอาตมาให้ปลอดภัย  มิให้ถูกมาร เทพบุตรที่มีใจหยาบกระด้าง คอยแกล้งมิให้มนุษย์ปฏิบัติ ด้วยมิอยากให้มาได้ดีกว่าตน
      ในโลกเวลานี้ มารได้มาสู่โลกมากมาย ด้วยพยายามหลอกมนุษย์ว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ก็มี เป็นเทพ หรือพรหมผู้มีชื่อเสียงมาคอยช่วยเหลือ   เหล่ามารพวกนี้มีจิตต่ำ ที่จะคอยกันมนุษย์ไม่ให้ดีกว่าตนเอง  จึงได้สร้างบริวารไว้มากมายนับมิถ้วนทีเดียว  บนสวรรค์เวลานี้
      อาตมาเป็นสงฆ์ มีเมตตา  เคยได้พยายามเทศน์สอนเหล่ามารพวกนี้ ก็ถูกพวกมาร พญามารกลั่นแกล้งจนมิอาจทนได้  ต้องใช้ฤทธิ์ที่มีขัดขวาง กำราบจนแพ้พ่าย  แต่เหล่ามารก็ยังดำเนินการเพื่อที่จะหลอกลวงมนุษย์ให้หลงเชื่อไปต่าง ๆ
      บริวารของมาร จะคอยดลใจผู้ที่มารสถิตย์ หรือดูแลไว้ มิให้ทำความดีอย่างถูกต้อง  ให้ปฏิบัติในวิธีที่ไม่ถูกต้อง  เพื่อมิให้มนุษย์มีอำนาจใหญ่ขึ้น ดีขึ้นไปกว่านี้   เวลานี้เหล่ามารพยายามขัดความผู้ทำดี  ต้องการยิ่งใหญ่กว่าองค์อินทราธิราชเจ้า ผู้ครองสวรรค์   ได้ให้เหล่ามารทั้งหลายรุกรานแดนสวรรค์ จนเทพบุตรนักรบล้มหาย ดับไปจากสวรรค์เยอะแยะ
      อาตมา อยากจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้มนุษย์ได้เข้าใจ ถึงความจริงบ้าง  ไม่อยากให้หลงเชื่อสิ่งที่มารคอยหลอน คอยสร้างภาพหลอนไว้
      มนุษย์ มีโอกาสที่จะสำเร็จธรรมได้ทุกคน   มีโอกาสที่จะได้ปัญญารู้ตามพระพุทธเจ้า  มีโอกาสที่จะชนะกิเลสของตนเอง  หมดทุกข์ ไม่เกิด ไม่มีขันธ์  ไม่มีกิเลสได้เช่นกัน
      หนทางวิธีปฏิบัตินี้ ก็ต้องเจริญกรรมฐานจนได้ความรู้แจ้งตามพระพุทธเจ้า  ก็จะชนะกิเลสมาร มารเทพไปได้อย่างบริสุทธิ์
      เจริญพร...


***************************************************************************


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: