ผิวแตกลายงา หน้าหนาวทำไงดี ?
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 18, 2024, 04:40:45 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ผิวแตกลายงา หน้าหนาวทำไงดี ?  (อ่าน 1262 ครั้ง)
แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« เมื่อ: ธันวาคม 21, 2008, 04:19:30 PM »




ย่างเข้าหน้าหนาวทีไร เห็นหลายคน โดยเฉพาะสาว ๆ บ่นเรื่องผิวแตกลายงา บริเวณแขนและขาซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน แถมบางคนใบหน้าเป็นขุย   ปากแห้งแตกจนเลือดไหลซิบ จนถูกล้อด้วย “สักวาหน้าหนาว สาวขาแตก...”
 
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตสิน สาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ฤดูหนาวความชื้นในอากาศลดลง อากาศแห้ง ลมแรง แดดจัด คนที่มีผิวพรรณแห้งอยู่แล้ว หรือ เป็นโรคผิวแห้งโดยพันธุกรรม ผิวจะยิ่งแห้งแตกมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
 
ในคนที่เป็นโรคผิวแห้งโดยพันธุกรรม ผิว หนังจะไม่สามารถเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ ทำให้น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวระเหยออกมา ผิวหนังกลายเป็นเหมือนแผ่นดินที่แห้งแล้ง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ พอฤดูหนาวมาเยือน ผิวพรรณจะแห้งแตกเหมือนลายงา มองเห็นชัดเจนกว่าฤดู อื่น ๆ โดยเฉพาะตรงบริเวณหน้าแข้ง
 
ส่วนลักษณะเด่นอื่น ๆ ของคนที่เป็นโรคผิวแห้งโดยพันธุกรรม คือ มีเส้นลายมือที่ชัดเจน มีส้นเท้าแตก มีตุ่มเหมือนขนคุดขึ้นบริเวณต้นแขน ขณะที่บางคนอาจเป็นโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย
 
ฤดูหนาวนี้ คนที่มีผิวแห้ง หรือ เป็นโรคผิวแห้งโดยพันธุกรรม ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด อาบน้ำพอประมาณ ไม่อาบนานจนเกินไป อย่าอาบน้ำอุ่นจัด ใช้สบู่ถูตัวให้น้อยลง ถ้าผิวแห้งมาก ๆ  ไม่ไหวจริง ๆ ก็ต้องทาครีม โลชั่น น้ำมันมะกอก  ขี้ผึ้ง วาสลีน แต่หลายคนอาจไม่ชอบเพราะเหนอะหนะโดยเฉพาะในตอนกลางวัน ก็แนะนำให้ทาก่อนนอนแทน
 
ที่บอกว่าไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือ ใช้สบู่ ฟอกตัวจนเป็นฟองมาก ๆ เพราะจะไปชะล้างน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกไปหมด ยิ่งทำให้ผิวแห้งมากขึ้น พอผิวแห้งมาก ก็จะรู้สึกคัน พอคันก็จะอาบน้ำบ่อย ตอนที่อาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ อาจจะรู้สึกหายคัน เนื่องจากตอนอาบน้ำจะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง แต่ผิวหนังไม่สามารถจะเก็บน้ำได้ สักพักจะระเหยไป
 
หลายคนเชื่อว่า การดื่มน้ำมาก ๆ จะยิ่งทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก ? รศ.พญ.พรทิพย์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ดื่มน้ำมากก็ยิ่งปัสสาวะออกมาก ขอเรียนว่า ผิวหนังที่แห้ง ไม่ได้แห้งเพราะขาดน้ำ แต่เป็นเพราะหนังชั้นขี้ไคลเสื่อม ไม่สามารถเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ ทำให้แผ่นผิวหนังขี้ไคลที่ควรจะเรียบ แห้งแตก ดังนั้นไม่ว่าจะดื่มน้ำในปริมาณมากเพียงใด ก็ไม่ได้ช่วยในเรื่องนี้
 
ส่วนปัญหาริมฝีปากแตกนั้น รศ.พญ. พรทิพย์ อธิบายว่า อาจมีสาเหตุมาจากผิวแห้ง เป็นโรคผิวแห้งโดยพันธุกรรมอยู่แล้ว ซึ่งการเลียริมฝีปาก บ่อย ๆ จะทำให้ปากแห้งแตกได้ สาเหตุของปากแตกอีกอย่างหนึ่ง คือ เกิดจากการระคายเคืองสารเคมี ที่มีอยู่ในยาสีฟัน หรือ น้ำยาบ้วนปาก ถ้าใช้ยาสีฟันมากไปก็ทำให้ริมฝีปากแห้งได้
 
กรณีที่ปากแตกจากผิวแห้งก็อาจใช้ขี้ผึ้ง หรือวาสลีนทา แต่ถ้ามีสาเหตุจากสารเคมีก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยง เช่น ใช้ยาสีฟันในปริมาณที่ เหมาะสม ไม่แปรงฟันนานจนเกินไป.


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!