พิมพ์หน้านี้ - N-P-K ที่มาของปุ๋ย

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

สารพัดช่าง-แนวทางอาชีพ => ●การเกษตร => ข้อความที่เริ่มโดย: b.chaiyasith ที่ สิงหาคม 12, 2009, 05:48:09 PM



หัวข้อ: N-P-K ที่มาของปุ๋ย
เริ่มหัวข้อโดย: b.chaiyasith ที่ สิงหาคม 12, 2009, 05:48:09 PM
์N ไนโตรเจน
P  ฟอสฟอรัส
K  โพแทสเซี่ยม
สูตรปุ๋ย หมายถึงปริมาณธาตุอาหารแต่ละชนิดที่มีอยู่ในปุ๋ยน้ำหนัก 100 กิโลกรัม เช่นปุ๋ยสูตร
16-16-16 คือตัวแทนของธาตุอาหารหลัก ตรงกับตำแหน่ง N-P-K (ไนโตรเจน-ฟอสฟอรัส-โพแทสเซียม)
หมายความว่าปุ๋ยน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ให้ธาตุไนโตรเจนหนัก 16 กิโลกรัม
ธาตุฟอสฟอรัสในรูปที่ใช้ประโยชน์ได้ (P2O5) หนัก 16 กิโลกรัม และธาตุโพแทสเซียมในรูปที่ใช้ประโยชน์ได้
(K2O) หนัก 16 กิโลกรัม

เมื่อสังเกตจะพบว่าปริมาณปุ๋ยดังกล่าวสามารถบอกเป็นอัตราส่วนของธาตุอาหารได้ เช่น ปุ๋ยสูตร
16-16-16 เป็นแบบอัตราส่วน 1:1:1
ซึ่งเป็นอัตราส่วนสำหรับต้นไม้ที่กำลังเจริญเติบโตทางใบและกิ่งหรือที่เรานิยมเรียกกันว่า
"สูตรเร่งใบ" ในขณะเดียวกันปุ๋ยสูตร 16-32-16 เป็นแบบอัตราส่วน 1:2:1
ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการออกดอกจึงเรียกกันว่า "สูตรเร่งดอก" และสูตร 16-32-32
เป็นแบบอัตราส่วน 1:2:2
ทำหน้าที่ทำให้ดอกที่เกิดขึ้นมาแล้วกลายเป็นดอกที่สุขภาพดีและทำให้ผลที่ได้มีความสมบูรณ์จึงมักเรียกกันว
่า "สูตรเร่งผล"

โดยกลไกทางสรีระวิทยาแล้วอธิบายได้ว่า
- ไนโตรเจนเป็นธาตุที่เป็นองค์ประกอบหลักของเซลล์พืชทำหน้าที่หลายอย่างทั้งการสร้าง ซ่อมแซม
และการสังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสำหรับการเจริญเติบโตทางกิ่งและใบของต้นพืช
- ฟอสฟอรัสเป็นธาตุสำคัญในการผลิตหน่วยให้พลังงานที่เรียกว่า ATP
ซึ่งจำเป็นสำหรับระยะที่พืชจะกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อเจริญพื้นฐานให้พัฒนาเป็นตาดอก
ทำให้เกิดดอกจำนวนมากได้
-
ส่วนโพแทสเซียมเป็นธาตุที่สำคัญในกระบวนการลำเลียงสารระหว่างเซลล์ดังนั้นเมื่อเร่งจนได้ดอกปริมาณมากแล้ว
การที่จะทำให้สารอาหารที่พืชสร้างไว้มาหล่อเลี้ยงดอกและผลได้เต็มที่ทำให้ดอกสวยงาม
หรือกลายเป็นผลไม้คุณภาพดีนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเสริมธาตุโพแทสเซียมเพื่อสนับสนุนกระบวนการดังกล่าวนั่น
เอง 
ขอบคุณท่านที่ให้ความรู้
เพิ่มเติมครับ 16+16+16=48/100 ดังนั้นปุ๋ยสูตร 16-16-16 จึงมีเนื้อปุ๋ยแค่ 48/100 ที่เหลือ
52/100 คือแอสเบสทอส์ท ขึ้นรูปปั้นเป็นก้อนเม็ดเล็กๆทีมองเห็นนั่นและครับ และมันเป็นตัวสร้างปัญหา
ในภายหลัง เมื่อมันละลายบนหน้าดิน มันจะสานเป็นตาข่ายทำให้ดินแข็ง ปลดปล่อยสารอาหารได้ยาก