พิมพ์หน้านี้ - แจ่วฮ้อน จุ่มจิ้ม เนื้อย่าง หรือ เสือร้องไห้

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

นานาสาระ => บ้าน,ครอบครัว,อาหาร => ข้อความที่เริ่มโดย: แวมไพร์-LSVteam♥ ที่ มีนาคม 20, 2008, 10:20:40 PM



หัวข้อ: แจ่วฮ้อน จุ่มจิ้ม เนื้อย่าง หรือ เสือร้องไห้
เริ่มหัวข้อโดย: แวมไพร์-LSVteam♥ ที่ มีนาคม 20, 2008, 10:20:40 PM
แจ่วฮ้อน จุ่มจิ้ม

อาหารอีสานขึ้นชื่อมานานแล้วในเรื่องรสชาดอันน่าลิ้มลอง เป็นที่เลื่องลือไปทั่วไม่ว่าในภาคไหนๆ ของประเทศจนข้ามแดนไปโด่งดังในต่างแดน ครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่ออาหารที่คนกรุงเทพฯ เรียกว่า จิ้มจุ่ม หรือ จุ่มจิ้ม ก็งงๆ ว่ามันคืออาหารชนิดใดหนอ จนได้ไปชิมนั่นแหละถึงได้รู้ว่า จิ้มจุ่ม หรือ จุ่มจิ้ม ก็อันเดียวกันกับ แจ่วฮ้อน บ้านผมนั่นเอง (อาหารบรรพชนก็ว่าได้)
            คราวนี้มาถึงชื่อสักนิด ถ้าพูดถึงชื่อที่คนภาคกลางเรียกแล้วจะบอกถึงลักษณะของการรับประทานอาหารชนิดนี้ แต่ชื่อทำไมถึงเรียกกลับกันไปมาไม่รู้ได้ จิ้มจุ่ม หรือ จุ่มจิ้ม ดูกันที่ชื่อ จุ่มจิ้ม แสดงลักษณะการคีบอาหาร (เนื้อ หมู) ลงจุ่มในน้ำแกงร้อนๆ แล้วจึงจิ้มที่น้ำจิ้มก่อนส่งเข้าปาก จึงจะถูกต้องและอร่อย ถ้าเป็น จิ้มจุ่ม จะเป็นตรงกันข้ามและไม่ได้รสชาดเพราะน้ำจิ้มจะถูกละลายลงในน้ำแกงไปหมดแล้ว

แจ่วฮ้อน จุ่มจิ้ม

ในที่นี้ผมจะพูดถึงเฉพาะจุ่มจิ้มหรือแจ่วฮ้อน ของชาวอีสานเท่านั้นนะครับ (บางท่านเรียกซะโก้ว่า สุกี้อีสาน) ซึ่งจะใช้เนื้อวัวเป็นหลัก ส่วนกรรมวิธีการทำท่านอาจจะดัดแปลงไปใช้กับเนื้อชนิดอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา หรืออาหารทะเล ก็ได้ตามใจท่านครับ เริ่มกันที่ส่วนประกอบของเครื่องปรุงก่อนดังต่อไปนี้
(http://www.isangate.com/images2/jaew_hont_01.png)

(http://www.isangate.com/images2/jaew_hont_02.png)

    *  น้ำแกงหรือน้ำซุป ประกอบด้วย น้ำสะอาดต้มเดือดๆ ใส่ข่าหั่นเป็นแว่น ตะไคร้สับเป็นท่อนสั้นๆ ใบมะกรูดฉีก หอมสดหั่นเป็นท่อนสั้นๆ รากผักชีบุบละเอียด ผักชีฝรั่งหั่นฝอย (อีสานเรียกผักหอมเป) ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี
    * ผักรวมมิตร เป็นพระเอกด้วย ใบโหระพา ผักกาดขาว ผักบุ้ง กะหล่ำปลี ใบชะพลู ถั่วฝักยาว ผักชีฝรั่ง และวุ้นเส้น (ถ้าชอบ)
    * เนื้อและเครื่องในวัว เนื้อสันใน เนื้อลาย หั่นตามขวางเป็นแผ่นบางพอดีคำ เครื่องในวัวที่ชอบเช่น ตับ หัวใจ ผ้าขี้ริ้ว คูนา ขอบกระด้ง
    * น้ำจิ้มรสเด็ด แบ่งเป็นสองชนิดคือน้ำจิ้มขมและน้ำจิ้มเปรี้ยว ประกอบด้วยข้าวคั่วป่น พริกแห้งป่น น้ำปลาดี ชิมให้ได้รสเค็มนำ ท่านที่ชอบน้ำจิ้มเปรี้ยวให้เติมน้ำมะนาว ท่านที่ชอบขมให้ผสมน้ำขี้เพลี้ยต้ม/กรอง และน้ำดีให้มีรสขมเล็กน้อย

กรรมวิธีการรับประทานถ้าแบบดั้งเดิมก็ต้องใช้เตาถ่านใบเล็กๆ ไฟแดงจัดตั้งด้วยหม้อดินขนาดเล็ก เติมน้ำแกงต้มให้เดือด (สมัยใหม่นี้ใช้กระทะไฟฟ้าสะดวกสุด เพราะถ่านไม้เดี๋ยวนี้หายากจัง) จัดจานผัก จานเนื้อ และถ้วยน้ำจิ้มวางข้างๆ เตา จัดจาน ช้อนและตะเกียบเป็นอาวุธคู่กาย
        คีบผักลงลวกให้สุกก่อนวางลงในจาน (ถ้าชอบวุ้นเส้นก็ลวกพอสุก วางเคียงข้าง) คีบเนื้อที่ชอบลงลวกให้สุกพอดี (อย่าสุกมากเนื้อจะเหนียว เคี้ยวแล้วฟันฟางหลุดผมไม่รับประกันนา) จุ่มลงในน้ำจิ้ม รับประทานกับผักเป็นเครื่องเคียง รสชาติแซบอย่าบอกใครเชียว

        ที่บางท่านเรียกว่า สุกี้อีสาน น่าจะมาจากการนำเอาวุ้นเส้นมาร่วมแจมด้วยนี่เอง เพราะถ้าแบบอีสานดั้งเดิมจะไม่มีวุ้นเส้นครับ
(http://www.isangate.com/images3/tao_mordin_jaewhont.jpg)

เนื้อย่าง หรือ เสือร้องไห้
(http://www.isangate.com/images3/tiger_crying.png)
เสือร้องไห้ เป็นอาหารที่ใช้จิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ดของแจ่วฮ้อนได้โดยตรงเลยทีเดียว เนื้อส่วนที่จะนำมาย่างนั้นจะเป็นเนื้อส่วนอกของวัวที่อ่อนนุ่มมีมันปนเล็กน้อย
            นำเนื้อส่วนอกมาแล่ชิ้นหนาตามยาว หมักด้วยซอสปรุงรส ทิ้งไว้สัก 15 นาที ย่างด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำเนื้อหยดลงบนไฟดังฉ่าๆ (นี่แหละน้ำตก) อย่าให้สุกมากนักเดี๋ยวจะเหนียว นำมาหั่นตามขวางขนาดพอดีคำ จิ้มด้วยน้ำจิ้มรสเด็ดดังกล่าว แซบอีกแล้วครับท่าน สุดจะบรรยาย (น้ำลายไหลจริงๆ)

ทำไมจึงเรียกว่า เสือร้องไห้ ตามตำนานเล่าขานกันมาว่า ในอดีตกาลครั้งเสือเป็นเจ้าป่าเมื่อล่าวัวได้ เนื้อส่วนที่เสือจะกัดกินเป็นอันดับแรกคือเนื้อส่วนอกของวัวที่หวานนุ่ม เมื่อคราวมนุษย์ล่าเนื้อบ้างก็กระทำเช่นเดียวกับเสือ ทำให้เสือเมื่อมาเห็นซากวัวที่โดนมนุษย์แล่เอาเนื้อส่วนอกไปกินแล้ว จึงร้องไห้โฮด้วยความเสียดาย การย่างเนื้อส่วนนี้จึงเรียกว่า เนื้อย่างเสือร้องไห้ ด้วยประการฉะนี้แล


หัวข้อ: สูตรเด็ด แจ่วฮ้อน วังชวา อุบลราชธานี
เริ่มหัวข้อโดย: แวมไพร์-LSVteam♥ ที่ เมษายน 19, 2008, 07:49:50 AM
สูตรเด็ด แจ่วฮ้อน วังชวา อุบลราชธานี

(http://www.dailynews.co.th/web/images/logo.gif)

(http://ads.dailynews.co.th/column/images/2008/food/4/19/55965_52479.jpg)

อาหารอีสานจานที่ผมคุ้นเคยดีตั้งแต่ครั้งที่ขึ้นไปตระเวนทำข่าวอีสานเขียว คือแจ่วฮ้อน สิบกว่าปีก่อนไปถึงหน่วยงานไหนจะเลี้ยงต้อนรับด้วยแจ่วฮ้อนกันทุกมื้อ กินแจ่วฮ้อนที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าแจ่วฮ้อนในดินแดนอีสาน
 
ผมจึงขอสูตรการทำแจ่วฮ้อนจาก คุณสุรีย์ลักษณ์ การะจักร์ เจ้าของร้าน วังชวา สุดยอดอาหารอีสานในเมืองอุบลราชธานี ที่นักการเมืองรัฐมนตรีเลือดอีสานต้องแวะกินเป็นประจำ แจ่วฮ้อนทำไม่ยาก ทำกินเองที่บ้านล้อมวงกินกันอร่อยมากครับ

เครื่องปรุง น้ำซุปแจ่วฮ้อน
 
กระดูกขาวัว 1 ขา ทุบกระดูกให้แตกใส่หม้อต้มกับน้ำสะอาด ใส่ข่าทุบให้แตก 1 แง่ง ตะไคร้ 2 ต้นทุบหั่นเป็นข้อ ๆ ใบมะกรูด 5 ใบ เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ ต้มเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ 1 ชั่วโมง จนได้น้ำต้มกระดูกเข้มข้น
 
เวลากินให้ตักน้ำซุปใส่หม้อไฟหรือกระทะไฟฟ้า ปรุงรสเพิ่มด้วย ข้าวคั่ว พริกป่น หั่นตะไคร้-ใบมะกรูดให้เป็นเส้นบาง ๆ ใส่ลงไป เมื่อน้ำซุปเดือดจัดจึงนำเนื้อและผักลงไปจุ่มให้สุกเหมือนกินสุกี้ยากี้

เครื่องประกอบแจ่วฮ้อน
 
เนื้อน่องวัว (เนื้อลาย) หั่นตามขวางให้เป็นแผ่นบาง ๆ ตับ ผ้าขี้ริ้ว ไส้ ผักกะหล่ำปลี ผักบุ้ง ใบโหระพา และวุ้นเส้น
 
เครื่องปรุง น้ำจิ้มแจ่วฮ้อน
 
1.สูตรเปรี้ยว ผสมน้ำมะนาว 2 ลูก พริกป่น 1 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา คนให้เครื่องปรุงทุกอย่างเข้ากัน
 
2.สูตรขม น้ำดีวัว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 1 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย 3 หัว ตะไคร้-ใบมะกรูด หั่นซอย ตามใจชอบ

ได้เครื่องปรุงต่าง ๆ ครบแล้ว ให้บอกคนในครอบครัวล้อมวงกันเข้ามา นั่งกินแจ่วฮ้อนกันอย่างมีความสุข ใช้ตะเกียบคีบเนื้อ เครื่องใน ผักและวุ้นเส้น ลงไปจุ่มในน้ำซุป ลวกจนสุกแล้วจิ้มกับน้ำจิ้มกินอร่อยมาก
 
ร้านวังชวามีอาหารอีสานหลายอย่าง ลาบ ก้อย ตับหวาน ย่างเสือร้องไห้ ย่างพวงนม ต้มหม้อไฟยกล้อ แกงอ่อม ส้มตำ พอเดินเข้าร้านวังชวาจะได้กลิ่นเนื้อวัวหอมฟุ้งไปทั่วร้าน โทร. 0-4531-2618, 08-5857-3978
 
คุณวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ผู้เชี่ยวชาญเครื่องเทศ ไปกินหมูย่างเมืองตรังแล้วติดใจ แต่อยากให้ลดความหวานลง เพิ่มเครื่องเทศให้หอมมากขึ้น ผมจึงนัดชมรมหมูย่างตรัง ไปให้ความรู้การใช้เครื่องเทศ ทำให้หมูย่างอร่อย คนย่างหมูสนใจ โทร. 08-1251-9122.