LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

เก็บมาฝาก...
COM TO COM   หรือ ต่อ แบบ Cross   หมายถึงการใช้งาน ระหว่าง เครื่อง คอมพิวเตอร์ สองตัว  ตัวต่อตัวLan กัน  ต้องต่อใช้แบบ Cross  ไขว้สาย  (ดูตามภาพ)
COM TO HUB    หรือ ต่อ แบบ ตรง     หมายถึงการใช้งาน ระหว่างเครื่อง คอมพิวเตอรร์ หลายตัว ต่อเข้า HUB    ต้องต่อ แบบ ตรง  ไม่ต้องสลับสาย (ดูตามภาพ)

เครื่องมือย้ำหัว.ครีมเข้าหัว RJ45..เดี๋ยวนี้ถูกมาก  เมื่อก่อน เป็นพัน  เดี๋ยวนี้ 2xx บาท..สายก็ใช้สาน Dlink เมตรละ 8 บาท

 :Dหนัาจะมาเร็วกว่านีนะครับ  :-[

การเข้าหัวแลน...นั้นอยากให้ให้ความสำคัญกับ  หัว RJ  ซักหน่อยน่ะครับ..เพราะเท่าที่สังเกตตอนนี้มีหลายเกรด...เคยซื้อมาผิดครั้งนึงครับเจอของเกรดต่ำหัวละ 5 บาทซื้อมา 20 ตัว เข้าไปได้...4 ตัว..มาทดสอบ ping ดู..ใช้เลยพยามเข้าใหม่อีก..ประมาณ 5-6 ตัว...สรุปได้เลยว่า...ไม่ต้องพยามอีกแล้ว....ขว้างทิ้งได้เลย....แต่เคยเอามาเปรียบเทียบกับของจริงดูปรากฏว่าคล้ายกันมากครับผม...บางรุ่นใสเท่ากันจนแยกไม่ออก...แต่ให้สังเกตตรงทองแดงจะแตกต่างกันบ้างครับ...เล็กน้อยครับและตัวเลขที่เป็นของเกรดต่ำตัวเลขจะไม่ชัด..สีจะขุนเล็กน้อย...ขนาดไม่ค่อยมาตรฐาน....เสียบเข้าการ์ดแลนดึงออกการ์ดแลนเกือบพัง...

ผมแนะนำยี่ห้อ AMP ครับ  :P ทั้งสายและ แจ๊ค RJ45

และการต่อแบบไหนที่ดีกว่าครับคือทำให้เร็วกว่าอ่ะในการส่งสัญญาน

ต่อใช้งานแบบไหน ก็เลือกแบบนั้น ความเร็ว ไม่ต่าง 10/100 :P

ยังงง นิดๆ คือถ้าเรามีคอม3 ตัว มีswitch ตัวนึง แล้วเราจะต่อแบบไหนครับ และจะต่อไขว้ตอนไหน

เขาก็บอกไว้แล้วว่า ต่อCrossคือใช้กับ2เครื่องไม่ผ่านสวิทหรือฮับ
 ถ้าผ่านสวิทหรือฮับ ให้ต่อแบบตรง

ถ้ามีคอม 3 ตัว เราเข้าหัวแบบธรรมดา แล้วต่อจากคอมแต่ละตัวเข้าswitch   ส่วนการต่อแบบ cross จะใช้ต่อระหว่าเครื่องสองเครื่องเข้าหากันโดยไม่ผ่าน switchครับ

ไม่เข้าใจตรงที่ว่าต่อ2เครื่องใช้สายไขว้ แลวจะเอาเน็ตต่อตรงไหนอ่ะครับ

การต่อเน็ทมีตั้งหลายวิที บางเครื่องใช้โมเด็มแบบ56K ก็แชร์ผ่านแลนการ์ด หรือที่ใช้USBโมเด็ม ก็ต้องใช้วิทีนี้ไม่น่าจะเข้าใจอะไรยากเลยนี่น่า

ต้องแยกคนละประเด็นกันนะครับ
แสดงว่าท่านยังสับสนกับเครื่อง สายตรง-สายไขว้

คำว่าสายตรงสายไขว้นั้น เป็นการเรียงสายเส้นเล็ก ๆ ของสายแลนเข้ากับหัวแจ๊ค RJ45 นะครับ
สายแลนนั้น ถ้าเราปลอกฉนวน PVC ด้านนอกมันออกมา จะพบว่า ในนั้นมันจะมีสายเล็ก ๆ ตีเกลียวกันอยู่ 4 คู่ ถ้าคลายเกลียวมันออกมา มันก็จะมี 8 เส้น และมีสัญลักษณ์สีแต่ละเส้นไม่ซ้ำกันครับ

ตอนเราเอาสายพวกนี้เข้ากับหัวแจ๊ค RJ45 ต้องคลายเกลียวสายแต่ละคู่ออกมาก่อนแล้วดึงสายให้ตรง ๆ แล้วก็จัดการเรียงเส้นทั้ง 8 เส้น ตามสีที่กำหนดครับ ไว้ครับแล้วสอดสายนั้นเข้าไปในแจ๊ค RJ45 ครับ จากนั้นก็ใช้แจ๊คย้ำบีบสายลงไปครับ สายแลน1เส้น จะมีปลาย2ด้านครับ เพราะฉนั้น คำว่าสายไขวหรือตรง นั้น หมายถึงลักษณะของการเรียงสายตามสีของปลายสายแลนทั้ง 2 ปลายครับ ถ้าทั้งสองปลายเรียงสายเหมือนกันก็จะเรียกว่าสายตรง
ถ้าทั้งสองปลายเรียงสายไม่เหมือนกัน ก็จะเรียกว่าสายไว้ครับ ลองย้อนขึ้นไปดูใหม่ครับ

ส่วนเรื่องของการแชร์อินเตอร์เน็ตนั้นมันไม่ยากครับ แต่ท่านต้องทำเครื่องในวงแลนให้มองเห็นกันก่อน

ถ้าเป็นเน็ตท่านเป็น ADSL แล้วเขาให้อุปกรณ์เป็นเร้าเตอร์มา แต่ท่านมีเครื่องคอมอยู่ 2 หรือมากกว่า ท่านต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Switch ครับ ที่สวิทช์จะมีรูเสียบเหมือนกับรูของการ์ดแลนในเครื่องคอมของเรา ตัว Switch นี้ จะทำหน้าที่เป็นจุดรวมสายแลนแต่ละเครื่องเข้าด้วยกัน และจะมีหน้าที่คอยสวิทช์ ปล่อย-รับ สัญญาณที่จะสื่อสารกันของคอมแต่ละเครื่องครับ

โดยปกติถ้าเป็นเร้าเตอร์ ถ้าเราเล่นคนเดียวเครื่องเดียวก็เอาสายโทรศัพท์เสียบเข้าที่ตัวเร้าเตอร์ตรง Port RJ11 แล้วเอาสายแลน ปลายข้างหนึ่งของสายเสียบเข้าที่ Port RJ45 ของเร้าเตอร์ และปลายอีกข้างหนึ่งไปเสียบเข้ากับการ์ดแลนของเครื่องคอมครับ

แต่ถ้าต้องการแชร์ ก็เอาปลายสายแลนที่มาจากเร้าเตอร์ สายปลายแลนที่มาจากการ์ดแลนของคอม ทั้งหมดนี้เสียบรวมกันเข้าที่สวิทช์ครับ...

งงไหม.. :(

รู้เลยว่าใช้ Modem เป็นแบบ ใช้เสียบการ์ดแลนด์ ของTRUE ที่ผมกำลังใช้อยู่ ปัญหาท่านคือ อีกเครื่องจะใช้อย่างไรใช่ไหม
คำตอบ  ท่านน้อง WINAI4U ตอบครับ  เป๊ะๆ   ต้อง หา Hub มาต่อแล้ว   อิอิ

นี่แหละคุยคนละเรื่องเดียวกัน ;D

 ;D  lan แบบนี้ต้องต่อแบบตรง ไม่ต้องไขว่ ครับ
(http://www.infoclick.fr/ccm/pratique/images/modemhub.gif)

ขอแนะนำ Link ครับ มีวิธีต่อสายและหัวต่างๆ รวมถึง Adapter ชนิดต่างๆ
http://www.hardwarebook.info/

คือว่าผมมี PC กับโน๊ตบุ๊คครับ แต่มีสายแลนที่เขาพ่วงมาให้เล่นเน็ตหนะครับ หนึ่งเส้น อยากจะแยกแค่สองเครื่อง แล้วไปไส่ การ์ดแลนที่ PC 2 ใบได้ไหมครับ แล้วก็แยกจาก PC มาเข้าโน๊ตบุ๊คอีกทีหนะครับ พี่ ไม่อยากซื้อฮับหนะครับ

ขอบคุณพี่ สุพจน์ พี่วินัย พี่ถาวรมากครับ กำลังหาอยู่พอดีเลยครับ

เก็บตก  เก็บจากไหนมา ผมก็จำไม่ได้ละ แต่น่าจะดูง่ายกว่า

ต่อแบบตรง      ต่อเข้าระหว่าง HUB กับคอมพ์
ต่อแบบไหว้     ต่อ ระหว่าง คอมพ์กับคอมพ์  หรือ  HUB กับคอมพ์ 

เหตุที่ต้องไขว้ ก็เพราะ ต้องเอา RX ไขว้กับ TX จึงจะส่งข้อมูลกันได้  คล้ายกับการต่อสายอัพโหลด Firmware DB-9 ที่ต่อ 2-3  3-2 5-5   นั่นแหละ
และหากสังเกต การไขว้ให้ดี จะไขว้คู่สี ส้ม กับ เขียว 

ถ้าไม่อยากยุ่งยาก ซื้อ HUB มือสองมาต่อ จะสะดวกสุด ราคาก็ไม่แพง  ผมเคยซื้อแบบ 8 Port ตัวละ 100 บาทเอง ยี่ห้อ PCi อีกตะหาก 
ของใหม่ ก็ไม่แพงนะครับ 4 Port แค่ 4-5 ร้อยบาท
ต่อผ่าน HUB จะสบายมาก ไม่ต้องตั้งค่าอะไรทั้งนัน HUB บริการจัดการให้อัตโนมัติ

อ๋อ การต่อแบบตรง  แบบที่ผมโพสต์ไว้ เป็นแบบที่นิยมมากที่สุด  ผมจำไม่ได้ว่าเป็นมาตรฐาน TT&T หรือไงนี่แหละครับ
การต่อตรง จะมี่ 2 มาตรฐาน  ต่างกันที่คู่สี

สำหรับ 10/100  จะใช้งานเพียง 4 เส้นเท่านั้น  คือ สีเขียว กับ สีส้ม

ส่วน 1000 จะใช้ครบทั้ง 8 เส้นครับ

เทคนิคการจำแบบต่อตรง  ที่ผมใช้อยู่

1. ขึ้นด้นด้วย สีขาว  
2. ต้องสลับสี  ระหว่าง สีขาวคาด กับ สีล้วน   (สังเกตดูจะไม่มี "ขาวคาด"อยู่ติดกัน หรือ "สีล้วน"อยู่ติดกัน  ยังไงก็ต้องมีขาวมาคั่นระหว่างสี)
3. เริ่มต้น สีส้ม  ลงท้าย สีน้ำตาล  (โดยไม่ต้องสนใจ ว่า ขาวคาดขึ้นก่อนหรือหลัง)
4. น้ำเงินอยู่กลาง                     (อันนี้ก็ไม่ต้องจำอีก ว่า ขาวคาดขึ้นก่อนหรือหลัง)
5. เขียวขนาบน้ำเงินทั้งสองด้าน      (อันนี้ก็เช่นกันไม่ต้องจำว่า ขาวคาดอยู่ตรงไหน เพราะข้อกำหนดข้อ 2)



ถ้าจำได้ตามนี้ก็ย้ำได้ง่าย ไม่ต้องไปจำว่า ขาวส้ม   ส้ม  ขาวเขียว น้ำเงิน  ขาวน้ำเงิน เขียว ขาวน้ำตาล น้ำตาล    ซึ่งผมว่าน่าจะจำยากกว่า

ขอแสดงความคิดเห็นแบบบ้านๆ เอาเข้าใจง่ายนะครับ
ระบบ Network แยกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ระยะใกล้ (LAN) , ระยะไกล (WAN)
ระบบแลนมีการเชื่อมต่อใช้งานที่นิยมใช้อยู่ 2 แบบ คือ แบบสายตรง กับแบบสายไขว้ โดยใช้สาย UTP กับหัว RJ-45 (ระบบภายในอาคาร) การต่อแบบสายไขว้ จะเป็นการต่อระหว่างอุปกรณ์กับอุปกรณ์ หรือคอมฯ ต่อคอมฯ เช่น มีคอมฯ 2 ชุด ที่ต้องการแชร์ข้อมูลกัน หรือ Router กับ Router หรือ Router กับ HUB/Switch ส่วนการต่อแบบสายตรงเป็นการต่อแยกสัญญาณการใช้งานจาก Switch กับ คอมฯ หลายเครื่อง หรือ Router กับ คอมฯ หลายเครื่อง (เอาความเข้าใจง่ายๆ วางระบบใช้งานในบ้านนะครับเพราะรายละเอียดมันเยอะมาก)
เอาไว้โอกาศหน้าผมจะมาต่อตอน 2 นะครับ